วันรักต้นไม้ประจำปีของชาติ ถวายพระราชกุศลแด่สมเด็จย่า
พระราชปณิธานอันแน่วแน่และแรงกล้าของ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี สมเด็จย่าของปวงชนชาวไทย ที่จะฟื้นฟูป่าของประเทศไทยซึ่งกำลังเสื่อมโทรมให้มีความสมบูรณ์ขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ให้เป็นป่าที่สวยสดงดงามอุดมไปด้วยพฤกษชาตินานาพรรณ และทรงมุ่งหวังที่จะให้เกิดความสมดุลของธรรมชาติ ให้เป็นมรดกของลูกหลานไทยตลอดไป
"วันรักต้นไม้แห่งชาติ" หรือ "วันรักต้นไม้ประจำปีของชาติ" (National Annual Tree Care Day) จึงเกิดขึ้นจากแรงปณิธานของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือสมเด็จย่า ที่ทรงให้ความสำคัญการบำรุงรักษาต้นไม้และต้องการฟื้นฟูความสมดุลของ ธรรมชาติ โดยพระองค์ทรงปลูกและบำรุงรักษาต้นไม้ด้วยพระองค์เองมาตลอดพระชนม์ชีพ
โดยคณะรัฐมนตรี มีมติเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ.2533 กำหนดให้ วันที่ 21 ตุลาคมของทุกปี ซึ่งเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เป็น "วันบำรุงรักษาต้นไม้ประจำปีของชาติ"
ต่อมากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ดำเนินการระดมความเห็นจากบุคคลทั่วไป เพื่อกำหนดชื่อที่เหมาะสมสำหรับวันดังกล่าว ปรากฏว่าชื่อ "วันรักต้นไม้ประจำปีของชาติ" ได้รับการพิจารณา ทำให้ "วันบำรุงรักษาต้นไม้ประจำปีของชาติ" ถูกเปลี่ยนชื่อมาเป็น "วันรักต้นไม้ประจำปีของชาติ" หรือ "วันรักต้นไม้แห่งชาติ" ในวันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ.2533เป็นต้นมา
วัตถุประสงค์ของวันรักต้นไม้แห่งชาติ คือ 1.เพื่อบำรุงรักษาต้นไม้ที่ปลูกไว้ตามโครงการและสถานที่ต่างๆ รวมทั้งการปลูกซ่อมต้นที่ตาย ให้สามารถเจริญเติบโตขึ้นปกคลุมพื้นที่โดยเร็ว 2.เพื่อชี้นำให้ประชาชนร่วมมือร่วมใจกันบำรุงรักษาต้นไม้ ที่ปลูกไว้ตามสถานที่ต่าง ๆ โดยพร้อมเพรียง 3.เพื่อให้ประชาชนเห็นความสำคัญของการบำรุงต้นไม้ที่ปลูกไว้ อันจะบรรลุวัตถุประสงค์ของการอนุรักษ์พื้นที่สีเขียว และ 4.เพื่อแสดงความกตัญญูกตเวทิตาถวายเป็นราชสักการะ แด่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
นายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า สำหรับวัตถุประสงค์หลักของการกำหนด วันรักต้นไม้แห่งชาติ ขึ้นมานั้นก็เพื่อบำรุงรักษาต้นไม้ที่ปลูกไว้ตามโครงการและสถานที่ต่างๆ ให้เติบโตแข็งแรง ดังที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีทรงให้ความสำคัญกับการบำรุงรักษา ต้นไม้ที่ปลูกแล้วมากกว่าการปลูกต้นไม้ใหม่ ซึ่งในปัจจุบันเราจะเห็นตัวอย่างได้ชัดเจนว่ามีโครงการปลูกป่าต่างๆ เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่การติดตามดูแลรักษาโครงการที่เกิดขึ้นไปแล้วนั้นมีน้อยมาก
ทั้งนี้หากปล่อยให้ต้นกล้าที่เราตั้งใจหย่อนรากลงดินเจริญเติบโตเองตามยถากรรม ต้นกล้าน้อยๆ ที่หวังว่าจะเติบโตช่วยให้ร่มเงา ช่วยลดภาวะโลกร้อน ดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ สร้างพื้นที่สีเขียว ฯลฯ อาจต้องมีอันเป็นไปเสียก่อนที่จะได้ทำหน้าที่ของมัน หรืออาจไม่สัมฤทธิ์ผลเท่าที่ควรจะเป็น ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น โครงการปลูกต้นไม้ที่ทำกันมา ก็จะเป็นการเสียทั้งงบประมาณ เสียทั้งเวลา แรงกายแรงใจที่ทุ่มเทลงไปก็สูญเปล่าเพียงเพราะเราไม่ได้ติดตามบำรุงรักษา ต้นไม้อย่างต่อเนื่องนั่นเอง
นายสุนันต์ อรุณนพรัตน์ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า วันรักต้นไม้ประจำปีของชาติ ประจำปี 2553 กำหนดจัดในวันพฤหัสบดีที่ 21 ต.ค.นี้ ที่พุทธอุทยานโลก บริเวณป่าสงวนแห่งชาติ ป่าน้ำตกเขาอี้โต้ อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี โดยกิจกรรมภายในงานประกอบด้วย พิธีเจริญพระพุทธมนต์ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี กิจกรรมการบำรุงรักษาต้นไม้ ด้วยการใส่ปุ๋ย พรวนดิน กำจัดวัชพืชที่โคนต้นไม้ ที่ได้ปลูกไว้ในวันต้นไม้ประจำปีของชาติ เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2553
นอกจากนี้เพื่อให้ประชาชนเห็นความสำคัญของการบำรุงรักษาต้นไม้ที่ปลูกไว้ใน บ้าน สถานที่สาธารณะ และในเรือกสวนไร่นา นอกจากนี้ ยังได้ประสานหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนทุกจังหวัดทั่วประเทศร่วมจัดกิจกรรม บำรุงรักษาต้นไม้ในวันรักต้นไม้ประจำปีของชาติด้วย
พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ
นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล (ส.พ.ค.)
โทร. 02-990-0331
http://www.apdi2002.com
http://www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ
สมาคมคนพิการ
18010531021
*********************
|