รักษาลิ้นหัวใจตีบผู้สูงอายุ ไม่ต้องผ่าตัดใหญ่
โดย ASTVผู้จัดการ***
บทความโดย: ผศ.นพ.ปรัญญา สากิยลักษณ์ ศัลยแพทย์ด้านทรวงอกและหัวใจ
จากความก้าวหน้าทางการแพทย์และสาธารณสุข ทำให้ประชากรผู้สูงอายุมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกันอุบัติการณ์ของโรคที่เกิดจากความเสื่อมของอวัยวะต่างๆ ก็เพิ่มขึ้น รวมถึงโรคลิ้นหัวใจตีบที่เกิดจากการเสื่อมสภาพของลิ้นหัวใจ ฉะนั้นการดูแลผู้สูงอายุให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีและคงไว้ซึ่งภาวะสุขภาพที่ดีนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญ
ในอดีตมักพบว่าโรคลิ้นหัวใจตีบ เกิดจากโรครูห์มาติค ผู้ป่วยส่วนใหญ่ะมีอายุไม่มาก แต่ในปัจจุบันโรคนี้มักเกิดจากการเสื่อมสภาพของลิ้นหัวใจ ยิ่งผู้ป่วยมีอายุมากขึ้นเท่าไร อุบัติการณ์ของโรคลิ้นหัวใจตีบก็จะสูงขึ้นเท่านั้น
ลิ้นหัวใจเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของหัวใจ ในขณะที่หัวใจกำลังบีบตัว เมื่อเลือดไหลผ่านออกไป ลิ้นหัวใจจะปิดไม่ให้เลือดไหลย้อนกลับมา จึงทำหน้าที่เสมือนประตูปิด – เปิด ควบคุมให้เลือดในหัวใจไหลไปทิศทางเดียวสู่ปอดเพื่อฟอกออกซิเจนแล้วไหลกลับสู่ระบบโลหิตอีกครั้ง เมื่อมีปัญหาของลิ้นหัวใจรั่ว เลือดจะไหลย้อนกลับมา แต่ถ้าลิ้นหัวใจตีบ เลือดจะไหลผ่านลิ้นหัวใจได้ลำบากในผู้สูงอายุ สาเหตุเกิดจากความเสื่อมของร่างกาย เนื่องจากลิ้นหัวใจเป็นอวัยวะที่เคลื่อนไหวและรับแรงดันจากเลือดตลอดเวลา
ดังนั้นจึงเกิดการเสื่อมขึ้น อาจมีหินปูนเกาะที่ลิ้นหัวใจ ทำให้ลิ้นหัวใจหนาขึ้น และเปิดได้น้อยลง ผู้ป่วยจะเกิดอาการเหนื่อยง่าย เจ็บหน้าอก ใจสั่น ขาบวม ตามมาด้วยหัวใจเต้นผิดจังหวะ เสียงฟู่บริเวณลิ้นหัวใจ จนถึงขั้นเป็นลมหมดสติบ่อยๆ ยิ่งลิ้นหัวใจตีบมาก หัวใจก็ยิ่งไม่สามารถจะบีบเลือดออกสู่ร่างกายได้ ทำให้เกิดภาวะเลือดคั่งและหัวใจล้มเหลวในที่สุดหรือภาวะน้ำท่วมปอดนั่นเอง โดยสถิติแล้ว เมื่อผู้ป่วยโรคลิ้นหัวใจตีบมีสภาวะหัวใจล้มเหลว จะมีโอกาสเสียชีวิตภายใน 2 ปี สูงถึง 50 %
สำหรับวิธีการรักษานั้น วิธีรักษาโรคลิ้นหัวตีบที่เป็นมาตรฐานทั่วโลก คือ การผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจ เป็นการรักษาที่ได้ผลดีเยี่ยม ผู้ป่วยมีโอกาสเสียชีวิตเพียง 1–2 %เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ยังมีผู้ป่วยโรคลิ้นหัวใจตีบรุนแรงจำนวนหนึ่งที่ไม่เหมาะกับการผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจ เช่น ผู้ป่วยที่มีอายุมากๆ หรือผู้ที่เคยได้รับการผ่าตัด ในช่องอกมาก่อน รวมทั้งผู้ที่มีโรคประจำตัวหลายโรค ผู้ป่วยเหล่านี้จะมีโอกาสเสียชีวิตจากการผ่าตัดเปลี่ยน ลิ้นหัวใจได้สูงถึง 20% หรือมากกว่า เป็นเหตุให้ผู้ป่วยหลายรายมักจะไม่ได้รับการส่งต่อไปยังศัลยแพทย์หรือ หมอผ่าตัด หรือไม่ก็ถูกปฏิเสธการผ่าตัดไปเสียก่อน เนื่องจากมีความเสี่ยงสูง เพราะหัวใจที่ต้องบีบเลือดผ่านลิ้นหัวใจที่ตีบจะค่อยๆ ล้มเหลว และผู้ป่วยจะเสียชีวิตในที่สุด
น่ายินดีที่วิทยาการทางการแพทย์ปัจจุบัน สามารถช่วยเหลือผู้ป่วยลิ้นหัวใจตีบรุนแรงกลุ่มนี้ให้รอดชีวิตได้ ด้วยการใส่ลิ้นหัวใจเทียมผ่านสายสวนเข้าไปแทนที่ลิ้นเดิมที่เสื่อมสภาพโดยไม่ต้องผ่าตัด ใหญ่ ซึ่งแตกต่างจากวิธีผ่าตัดที่ใช้กันในปัจจุบันคือ ต้องดมยาสลบ ผ่าตัดเปิดกระดูกหน้าอก แล้วใช้เครื่อง ปอดหัวใจเทียมทำงานแทนหัวใจกับปอด ซึ่งระหว่างที่ศัลยแพทย์ตัดลิ้นหัวใจเก่าออกและเย็บลิ้นหัวใจเทียมเข้าไปแทนที่จะใช้เวลาประมาณ 3 - 4 ชั่วโมง และอยู่โรงพยาบาลพักฟื้นประมาณ 7 - 10 วัน ถ้าไม่มี โรคแทรกซ้อนเกิดขึ้น
วิธีการใหม่จะใส่ลิ้นหัวใจเทียมผ่านสายสวน โดยจะนำลิ้นหัวใจเทียมแบบใหม่ที่ทำจากเนื้อเยื่อและได้รับการออกแบบให้สามารถหดและขยายตัวได้มาใส่ที่ปลายของสายสวน จากนั้นใช้สายสวนนำลิ้นหัวใจเทียมเข้าไปอยู่ระหว่างลิ้นหัวใจเดิม แล้วจึงทำการขยายลิ้นหัวใจเทียมด้วยบัลลูนให้ขยายใหญ่ขึ้นคล้ายๆ กับการกางร่ม ลิ้นหัวใจเทียมที่กางขยายออกจะเข้าไปแทนที่ลิ้นหัวใจเดิมที่เสื่อมสภาพแล้ว ซึ่งวิธีการใส่สายสวนสามารถใส่ผ่านขาหนีบ หรือในกรณีที่เส้นเลือดบริเวณขาหนีบเล็กเกินไป จะใส่ผ่านแผลเล็กที่ชายโครงเข้าไปทางปลายหัวใจ โดยตรง โดยไม่ต้องผ่าตัดเปิดกระดูกหน้าอก ไม่ต้องใช้เครื่องปอดหัวใจเทียม และไม่ต้องหยุดหัวใจ ทั้งหมดนี้ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้น อีกทั้งผู้ป่วยพักรักษาตัวในโรงพยาบาลประมาณ 4 – 5 วัน
คณะแพทย์ศิริราชได้ใส่ลิ้นหัวใจเทียมวิธีใหม่ผ่านสายสวนในผู้ป่วย2 ราย เมื่อ17ธ.ค.52 นับเป็นผู้ป่วยรายแรกและรายที่สองของประเทศไทย และเป็นรายที่ 14 และ 15 ของเอเชีย ซึ่งขณะนี้มีเพียงประเทศสิงคโปร์และญี่ปุ่นเท่านั้นที่ใช้วิธีนี้ และในเดือนมี.ค. 2553 จะมีผู้ป่วยเข้ารับการใส่ลิ้นหัวใจเทียมผ่านสายสวนเพิ่มอีก 3 ราย
แต่การใส่ลิ้นหัวใจเทียมแบบใหม่ผ่านสายสวนแม้จะเป็นวิธีที่ดีแต่ขณะนี้ยังมีราคาแพง ฉะนั้นผู้ป่วยที่จำเป็นต้องใช้ลิ้นหัวใจแบบใหม่นี้ แต่ไม่สามารถเสียค่าใช้จ่ายได้ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล ได้จัดตั้ง “กองทุนรักษาลิ้นหัวใจด้วยสายสวนเพื่อผู้ป่วยสูงอายุ” ซึ่งผู้มีจิตศรัทธาสามารถบริจาคเงินเข้ากองทุนเพื่อนำมาซื้อลิ้นหัวใจให้แก่ผู้ป่วยสูงอายุยากไร้ได้ทุกวันที่ ศิริราชมูลนิธิ ตึกมหิดลบำเพ็ญ ชั้น 1 โรงพยาบาลศิริราช โทร. 0 2419 7658 - 60
- - - - - - - - - - - - - - - - - -
พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ
นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล (ส.พ.ค.)
โทร. 02-990-0331
http://www.apdi2002.com
http://www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ
สมาคมคนพิการ
1802530942
*********************
|