ขอทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
ขอทรงมีพระพลานามัยแข็งแรง
ขอทรงพระเกษมสำราญ

บุญแล้วที่เกิดมาจนป่าน์นี้ ในถิ่นที่มีพ่อพระผู้ให้
บนแผ่นดินแห่งธรรมนามว่าไทย เป็นสุขใจใต้เบื้องพระบาทา
วางกรอบภาพกราบเงารอยเท้าพ่อ วิงวอนขอเทพเจ้าเฝ้ารักษา
พระวรกายหายขาดปราศโรคา เป็นฉัตรฟ้าปรกไทยไปนิรันด์
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ

บังคมบรมราชเจ้า จอมนรินทร์
เอกอัครบดินทร์ ดิลกหล้า
สมเด็จนวมินทร์ มหาราช
อวยสุขทุกทั่วหน้า มนัสปลื้มเปรมกมล

พระเอยพระโอบเอื้อ อารี
พระกอปรพระกรณี หนักอึ้ง
พระบุญพระบารมี แผ่ทั่ว ไทยนา
พระห่วงปวงชนซึ้ง สุดพ้นรำพัน

เหงื่อพ่อไหล อาบพักตร์ ประจักษ์แจ้ง
แผ่นดินแล้ง น้ำท่วมนอง พ่อมองเห็น
ลูกขัดแย้ง แย่งอำนาจ ชาติลำเค็ญ
พ่อยังเป็น ผู้ชี้แนว ให้แคล้วภัย
อยากให้พ่อ แย้มสรวล ทบทวนคิด
เศรษฐกิจ พอเพียง เอาเยี่ยงได้
ทั้งประหยัด ได้ประโยชน์ จดใส่ใจ
ธรรมชาติ รักษาไว้ ไทยอยู่ยืน
 

ขยายจัดงานความสุขคนไทยฯ ถึง 13 ธ.ค. งด 10 ธค

เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานจัดงานเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 82 พรรษา 5 ธันวาคม 2552 ตามแนวคิด "ความสุขของคนไทยใต้แสงพระบารมี" แถลงว่า รัฐบาลขยายเวลาจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ บริเวณถ.ราชดำเนิน อีกจนถึงวันที่ 13 ธ.ค.นี้ เดิมสิ้นสุดวันนี้ ยกเว้นพรุ่งนี้เนื่องจากมีการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ทั้งนี้เป็นไปตามความเรียกร้องของประชาชน 

 ที่ศาลาศิริราช 100 ปี โรงพยาบาลศิริราช ซึ่งเป็นสถานที่ลงนามถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินมาประทับรักษาพระวรกาย ที่ชั้น 16 อาคารเฉลิมพระเกียรติ ตั้งแต่วันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา ตลอดทั้งวัน มีคณะบุคคล และประชาชนทุกสาขาอาชีพจากทั่วประเทศ ส่วนใหญ่ต่างสวมเสื้อสีชมพู เดินทางมาลงนามถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้ทรงมีพระพลานามัยแข็งแรง กันอย่างต่อเนื่อง  อาทิ นายบรรพต กำไลแก้ว นายกอบต.ถ้ำรงค์ อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี พร้อมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และสมาชิก อบต. จำนวน 90 คน ได้นำผลิตภัณฑ์จากต้นตาลที่ขึ้นชื่อในจ.เพชรบุรี โดยมีการแปรรูปเป็น ขนมตาล ,ตาลตโนดทอด และต้นตาลประดิษฐ์ที่กลุ่มแม่บ้านในชุมชนร่วมกันทำขึ้น  เพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯถวาย พร้อมร่วมลงนามถวายพระพร

     นายบรรพต  กล่าวว่า เหตุที่นำขนมตาล ขนมตะโนดทอด และต้นตาลจำลอง เพราะว่า เป็นสัญญาลักษณ์ของจังหวัดเพชรบุรี และตนเคยรับเสด็จฯ พระองค์ท่านและทราบว่า พระองค์โปรดต้นยางนา โดยเคยให้ข้าราชบริพารมาเก็บเมล็ดต้นยางนา เพื่อนำไปเพาะเมื่อปี 2503 และนำไปปลูกในพื้นที่สวนจิตรลดาเพื่ออนุรักษ์ไว้เมื่อปี 2504 เนื่องจากเป็นต้นไม้ที่กำลังจะสูญพันธุ์และหายาก และปัจจุบันนี้ชาวบ้านได้เริ่มอนุรักษ์ไว้ โดยเฉพาะริมถนนเพชรเกษมช่วงอ.บ้านลาด อ.ท่ายาง ระหว่างสองข้างทางมีต้นยางนาอยู่กว่า 400 ต้นแล้ว

  
     ส่วนบรรยากาศช่วงบ่าย ชาวไทยเชื้อสายกะเหรี่ยง จำนวน 125 คนจาก อบต.ไล่โว้ อ.สังขละ จ.กาญจนบุรี ลงนามถวายพระพร นายธนาพร เจ็งสุขสวัสดิ์ หรือน้องอั้ม อายุ 23 ปี ป่วยเป็นโรคดักแด้ (ผิวหนังชนิดร้ายแรง) ไม่สามารถเดินได้ต้องนั่งอยู่บนรถเข็น โดยมีแม่คือนางสุภาพร เจ็งสุขสวัสดิ์ อายุ 53 ปี อาชีพครู กศน.ในจ.บุรีรัมย์ ร่วมลงนามถวายพระพร กล่าวว่า วันนี้เดินทางมาพบแพทย์เพื่อรักษาโรคดักแด้ที่เป็นมาตั้งแต่เกิด ก่อนหน้านี้ทราบข่าวว่าเปิดให้ลงนามถวายพระพรที่โรงพยาบาลศิริราช จนเมื่อแพทย์นัดลูกชายได้ขอร้องให้ตนพามา ถวายพระพรให้กับในหลวง เพราะรู้สึกรักในหลวงมาก ดูข่าวพระราชสำนักแล้วเห็นว่า ในหลวงทรงเหน็ดเหนื่อยเพื่อพวกเราชาวไทย  ขอถวายพระพรให้พระองค์ทรงพระเจริญมีพระชนมายุยิ่งยืนนาน

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

พันตรีศิริชัย  ทรัพย์ศิริ

สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล (ส.พ.ค.)

www.waddeeja.com

Tel.02-990-0331

0912522116

บุญแล้วที่เกิดมาจนป่าน์นี้ ในถิ่นที่มีพ่อพระผู้ให้
บนแผ่นดินแห่งธรรมนามว่าไทย เป็นสุขใจใต้เบื้องพระบาทา
วางกรอบภาพกราบเงารอยเท้าพ่อ วิงวอนขอเทพเจ้าเฝ้ารักษา
พระวรกายหายขาดปราศโรคา เป็นฉัตรฟ้าปรกไทยไปนิรันด์
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ

เหงื่อพ่อไหล อาบพักตร์ ประจักษ์แจ้ง
แผ่นดินแล้ง น้ำท่วมนอง พ่อมองเห็น
ลูกขัดแย้ง แย่งอำนาจ ชาติลำเค็ญ
พ่อยังเป็น ผู้ชี้แนว ให้แคล้วภัย
อยากให้พ่อ แย้มสรวล ทบทวนคิด
เศรษฐกิจ พอเพียง เอาเยี่ยงได้
ทั้งประหยัด ได้ประโยชน์ จดใส่ใจ
ธรรมชาติ รักษาไว้ ไทยอยู่ยืน
 

บังคมบรมราชเจ้า จอมนรินทร์
เอกอัครบดินทร์ ดิลกหล้า
สมเด็จนวมินทร์ มหาราช
อวยสุขทุกทั่วหน้า มนัสปลื้มเปรมกมล

ขอทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
ขอทรงมีพระพลานามัยแข็งแรง
ขอทรงพระเกษมสำราญ

พลุเทิดพระเกียรติยิ่งใหญ่

นาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงานแสดงและประกวดพลุนานาชาติเฉลิมพระ เกียรติ "ดวงประทีปพราวนภา เทิดราชาราชินี บารมีศรีแผ่นดิน"

เมื่อ เวลา 19.00 น. วันที่ 13 ธ.ค. ที่ริมทะเลสาบเมืองทองธานี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงานแสดงและประกวดพลุนานาชาติเฉลิมพระ เกียรติ "ดวงประทีปพราวนภา เทิดราชาราชินี บารมีศรีแผ่นดิน" จัดโดยกระทรวงกลาโหม ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยเป็นงานแสดงประกวดพลุครั้งยิ่งใหญ่ครั้งหนึ่งของโลก ซึ่งมีประเทศต่างๆ เข้าร่วม อาทิ ออสเตรเลีย จีน เดนมาร์ก เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และประเทศไทย เข้าร่วมเพื่อ เฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระ ชนมพรรษา 84 พรรษา ในวันที่ 5 ธ.ค. 2554 อย่างไรก็ตามมีบรรดาคณะรัฐมนตรีหลายคน อาทิ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รอง นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม นายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว. ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เข้าร่วมรับชมในครั้งนี้ด้วย โดยเฉพาะมีประชาชนทั่วไปให้ความสนใจมาร่วมชมการแสดงพลุอย่างคับคั่ง มีการจอดรถบนทางด่วนทําให้ การจราจรบนถ.แจ้งวัฒนะและบนทางด่วน แจ้งวัฒนะ ติดขัดหนาแน่นนานนับชั่วโมง

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

พันตรีศิริชัย  ทรัพย์ศิริ

สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล (ส.พ.ค.)

www.waddeeja.com

Tel.02-990-0331

1412521255

“มาร์ค”เชิญปชช.ร่วมงานเฉลิมพระเกียรติ”ในหลวง”คืนสุดท้าย

ที่สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 13 ธ.ค.52 นายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ“เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์” เป็นครั้งที่ 48  ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย  และสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยว่า  สวัสดีครับพี่น้องประชาชนที่เคารพรักทุกท่านครับ กลับมาพบกันอีกครั้งนะครับเช้าวันอาทิตย์  วันนี้วันที่ 13 ธันวาคม วันนี้เป็นวันสุดท้ายนะครับที่การจัดงานเฉลิมพระเกียรติในบริเวณถนนราชดำเนินกลางก็ดีหรือว่าที่ลานพระราชวังดุสิตก็ดี  ซึ่งจัดกันมาตั้งแต่วันที่ 3 และวันที่ 5 ธันวาคม ซึ่งมีพี่น้องประชาชนพสกนิกรจำนวนมาก คาดว่าประมาณวันหนึ่งหรือคืนหนึ่งเป็นแสนนะครับที่ได้ไปร่วมงาน  ผมเองก็ได้มีโอกาสไปชมการแสดงที่ลานพระราชวังดุสิตหรือลานพระบรมรูปทรงม้า  เมื่อคืนวันที่ 10 ธันวาคม  ก็สวยสดงดงาม และที่ประทับใจที่สุดก็คือการที่พี่น้องประชาชนจำนวนมากเลยได้เดินทางไปร่วมเพื่อที่จะถวายความจงรักภักดี  และเป็นภาพที่สวยงาม 

     “ซึ่งผมเชื่อว่าสร้างความประทับใจให้กับทุกคนที่ได้ไปร่วมงาน  และได้หล่อหลอมจิตใจของพี่น้องประชาชนคนไทยให้เป็นหนึ่งเดียวอีกครั้งหนึ่ง  คืนนี้เป็นคืนสุดท้ายครับ  เพราะฉะนั้น พี่น้องประชาชนที่ยังไม่ได้มีโอกาสไปชม  ไม่ว่าจะเป็นการแสดงที่ลานพระราชวังดุสิตก็ดี  หรือตลอดถนนราชดำเนินกลางที่หน่วยงานกระทรวง ทบวง กรมต่าง ๆ ได้จัดขึ้น  มีทั้งนิทรรศการ และกิจกรรมมากมายนั้น  ก็ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนทุกคนได้ไปร่วมงานในค่ำคืนวันนี้  ซึ่งจะเป็นวันสุดท้ายที่จะมีการแสดง และคืนหรือค่ำวันนี้เช่นเดียวกัน   ก็จะมีงานพิเศษอีกงานหนึ่งครับ คืองานแสดงและประกวดพลุเฉลิมพระเกียรติ  ซึ่งจะจัดขึ้นที่เมืองทองธานี งานนี้จะมีการแสดงพลุทั้งของไทยเอง ทั้งของจีน ทั้งของญี่ปุ่น ทั้งของเยอรมัน  คาดว่าเทคนิคที่จะนำมาใช้และความสวยสดงดงามนั้น คงจะสร้างความประทับใจและความสุขให้กับพี่น้องประชาชนเช่นเดียวกันนะครับ “

พบปะหารือประจำปีกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย

     นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา ผมอยากจะขอเล่าถึงงานสำคัญทางด้านการต่างประเทศ  โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานที่เกี่ยวข้องกับประเทศเพื่อนบ้าน  เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ท่านนายกรัฐมนตรีของมาเลเซียได้เดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ  พร้อม ๆ กับได้มีการประชุมปรึกษาหารือที่เราเรียกว่าการปรึกษาหารือประจำปี  ซึ่งโดยเจตนารมณ์คือว่าต้องการที่จะให้นายกรัฐมนตรีของไทยและนายกรัฐมนตรีของมาเลเซียนั้นได้พบปะกันทุกปี  เพื่อหารือข้อราชการในฐานะที่เป็นประเทศเพื่อนบ้านซึ่งความใกล้ชิด  และก็มีประเด็นในเรื่องของความร่วมมือทางด้านต่าง ๆ ค่อนข้างมาก  การปรึกษาหารือครั้งนี้ความจริงแล้วถึงแม้จะเรียกประจำปี แต่ว่าในปีก่อนก็ไม่ได้มีขึ้น  เพราะฉะนั้น ปีนี้ก็เป็นการพบปะครั้งสำคัญ รวมทั้งท่านนายกรัฐมนตรีมาเลเซียและผมนั้นก็เพิ่งเข้ามารับหน้าที่ในช่วงปีนี้ด้วย   

     นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า การพบปะกันนั้นหัวข้อที่ได้มีการหารือนั้นจะครอบคลุมทั้งในเรื่องของความมั่นคง และในเรื่องของเศรษฐกิจและความเชื่อมโยงทางด้านต่าง ๆ ที่น่ายินดีคือว่าในการพบปะกันครั้งนี้ได้มีการเอาข้อตกลงหรือการเจรจาต่าง ๆ ซึ่งคั่งค้างอยู่มาเป็นเวลาพอสมควรในหลาย ๆ เรื่อง  และผมกับท่านนายกรัฐมนตรีมาเลเซียเห็นพ้องต้องกันครับว่า  สิ่งที่มีการเจรจาในเรื่องความร่วมมือ  ในเรื่องบันทึกข้อตกลง ความข้าใจ MOU หรือข้อตกลงที่เรียกชื่ออื่น ๆ ที่ค้างอยู่นั้นจะดำเนินการให้แล้วเสร็จ  คือจะทำให้ทันก่อนการประชุมในปีหน้าที่มาเลเซีย  ซึ่งผมก็จะเดินทางไป 

ไทย-มาเลเซียเร่งแก้ไขปัญหาสองสัญชาติร่วมกัน

     “อยากจะเรียนอย่างนี้ครับว่า ข้อตกลงนั้นครอบคลุมมาก ในเรื่องของความมั่นคงนั้นก็จะมีความร่วมมือที่เกี่ยวข้องกับปัญหาที่เป็นเรื่องของปัญหาอาชญากรข้ามชาติ หรือปัญหาที่เป็นปัญหาที่มีลักษณะการข้ามพรมแดนมา เช่น ข้อตกลงที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์  ซึ่งจะครอบคลุมในหลาย ๆ เรื่องด้วยกัน ไปจนถึงเรื่องของการร่วมมือกันในเรื่องของการข่าว  เพื่อป้องกันในเรื่องของปัญหาอาชญากรรม ยาเสพติด และที่สำคัญคือว่าจะมีการนำเอาระบบฐานข้อมูลในเรื่องของบัตรประชาชนของทั้งสองประเทศมาแลกเปลี่ยนกัน  เพราะว่าในปัจจุบันนั้นยังมีปัญหาในเรื่องของคนสองสัญชาติที่ข้ามกลับไปกลับมา  แล้วก็ใช้สัญชาติไทยเวลาอยู่ฝั่งนี้  สัญชาติมาเลเซียเวลาข้ามพรมแดนไป  ก็ทำให้การติดตามผู้ที่กระทำความผิดในหลาย ๆ เรื่องมีความยากลำบาก  แต่ว่าการตกลงที่จะใช้ฐานข้อมูลร่วมกัน  ก็จะทำให้การติดตามบุคคลเหล่านี้และการแก้ไขปัญหาเรื่องของบุคคลสองสัญชาติเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น”

     นอกจากนั้น ยังมีความตกลงที่จะเกี่ยวข้องกับเรื่องของการขนสินค้าหรือการเดินทางผ่านแดน  ไม่ว่าจะเป็นระหว่างสองประเทศด้วยกันเอง หรือข้ามไปสู่ประเทศที่สาม  ก็จะได้มีการเร่งรัดในเรื่องของข้อตกลงความร่วมมือเหล่านี้ เพื่อที่จะสามารถลงนามได้ในปีหน้า  ในทางด้านของการศึกษาก็เช่นเดียวกันจะมีในเรื่องของความตกลงที่เกี่ยวข้องกับการอุดมศึกษา  จะมีข้อตกลงที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของการกีฬา  ข้อตกลงที่เกี่ยวข้องกับเยาวชน  ซึ่งจะนำไปสู่การแลกเปลี่ยนความร่วมมือ  ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในแง่ของการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องประชาชนของสองประเทศเข้าหากันให้มีความแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น  แต่ว่าแน่นอนที่สุดครับปัญหาหนึ่งซึ่งได้รับความสนใจเป็นพิเศษจากการเดินทางมาเยือนของนายกรัฐมนตรีมาเลเซียในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ก็คือการจับตาดูเกี่ยวกับเรื่องของการแก้ไขปัญหาพื้นที่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้  เพราะว่าเป็นเรื่องซึ่งไม่เพียงแต่ประเทศไทย ประเทศมาเลเซีย  แต่ว่านานาชาติก็ให้ความสนใจในเรื่องของท่าทีในเรื่องนี้   โดยเฉพาะก่อนหน้านี้มีการแสดงความคิดเห็นของทั้งนายกรัฐมนตรีมาเลเซียและของผมเอง ที่เกี่ยวข้องกับแนวทางการแก้ไขปัญหา อยากจะเรียนอย่างนี้ครับว่าทั้งในการที่มีการประชุมร่วมกัน

เปิดโอกาสให้ปชช.ภาคใต้ร่วมแก้ปัญหา

     นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ก่อนที่จะมีการประชุมในคณะใหญ่ระหว่างรัฐมนตรีของสองฝ่าย ได้มีการพูดคุยกันในกลุ่มเล็ก  ผมได้อธิบายถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่รัฐบาลไทยกำลังดำเนินการอยู่  โดยเฉพาะการมุ่งเน้นในเรื่องของกระบวนการการพัฒนา  การมุ่งเน้นในเรื่องของการสร้างความยุติธรรม  ซึ่งเป็นแนวทางซึ่งเปลี่ยนแปลงมาจากการดำเนินการในอดีตอย่างไร  รวมไปถึงการที่เราได้เปิดโอกาสให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่นั้นสามารถมีส่วนร่วม สามารถที่จะรักษาอัตลักษณ์ วิถีชีวิต ความเป็นอยู่ ความเชื่อ วัฒนธรรมของเขาได้  ซึ่งท่านนายกรัฐมนตรีมาเลเซียนั้นได้ยืนยันครับว่า ปัญหาที่พูดถึงกันอยู่ทั้งหมดนั้น  มาเลเซียถือว่าเป็นปัญหาภายในประเทศของเรา  แล้วก็แนวทางการแก้ไขปัญหาทั้งหลายต้องขึ้นอยู่กับเราในการที่จะตัดสินใจ  แต่การรับฟังแนวทางที่รัฐบาลไทยกำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้  ท่านได้แสดงออกว่าท่านเห็นด้วยว่าแนวทางที่ทำนี้น่าจะเป็นแนวทางที่ถูกต้อง และพร้อมที่จะให้ความร่วมมือตามที่เราจะร้องขอ  แน่นอนในแง่ของเรื่องของการข่าว  ในเรื่องของความมั่นคง  ในเรื่องของการไม่อนุญาตให้คนกระทำความผิดไปดำเนินการ  ก็ไปดำเนินการอะไรในพื้นที่มาเลเซียนั้น  ท่านได้ยืนยันอย่างชัดเจน  เพราะฉะนั้น ผมเรียนว่าตรงนี้เป็นนิมิตหมายที่ดี 

     นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขณะเดียวกัน ก็มีการทำความกระจ่างครับว่าก่อนหน้านี้มีการพูดถึงว่าท่านนายกรัฐมนตรีมาเลเซียไปแสดงความคิดเห็นว่า อยากจะให้มีเรื่องของการปกครองลักษณะที่เป็นพิเศษ  จริง ๆแล้วสิ่งที่ท่านหมายถึงก็คือการกระจายอำนาจหรือการเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วม  ส่วนรูปแบบจะเป็นอย่างไรตราบเท่าที่อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญของประเทศไทย  กฎหมายไทย  ก็เป็นสิ่งที่ถือว่าสอดคล้องต้องกันในเชิงความคิดที่จะยอมรับกันได้ทุกฝ่าย  นอกจากนั้นนายกรัฐมนตรีมาเลเซียเองยังได้แสดงออกชัดเจนว่า ต้องการให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ประฌามความรุนแรง แล้วก็มีส่วนร่วมในการที่จะช่วยกันพัฒนานำความสงบ นำความสันติสุข มาสู่พื้นที่ดังกล่าว  

ร่วมพิธีเปลี่ยนชื่อสะพานข้าม”แม่น้ำโก-ลก”

     “ที่พิเศษในการเดินทางมาครั้งนี้คือว่าท่านนายกรัฐมนตรีมาเลเซียได้เดินทางลงไปที่จังหวัดนราธิวาสพร้อมกับผม และได้ไปทำพิธีในการเปลี่ยนชื่อสะพานที่ข้ามแม่น้ำโก-ลก เป็นสะพานมิตรภาพ นอกจากนั้นแล้วยังได้มีการไปเยี่ยมโรงเรียน เพื่อดูโรงเรียนการสอน 2 หลักสูตร ซึ่งเป็นการแสดงออกให้เห็นถึงความพยายามของเรา และความจริงก็เป็นโรงเรียนของทางเอกชนที่จะพยายามพัฒนาการศึกษาให้กับเยาวชน  โดยเปิดโอกาสให้มีหลักสูตรที่มีความหลากหลาย มีการสอนภาษา ไม่ว่าจะเป็นภาษาอังกฤษ ภาษามลายู  ภาษาอารบิค อยู่ในพื้นที่ดังกล่าว “

       นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า  นอกจากนั้นยังได้มีโอกาสได้ชมโครงการที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์พื้นเมือง  ไม่ว่าจะเป็นอยู่ในส่วนโครงการตามพระราชดำริ  หรือในส่วนของหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์  โดยสรุปแล้วการเดินทางมาครั้งนี้ได้มีส่วนสำคัญในการกระชับความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศมาเลเซีย  แล้วก็มีส่วนสำคัญด้วยในการที่จะมีกรอบความร่วมมือกันในการช่วยกันแก้ไขปัญหาต่าง ๆ รวมไปถึงมุมมองที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ของเราด้วย 

สปป.ลาวจัดพิธีเปิดกีฬาซีเกมส์ได้อย่างประทับใจ

        นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า  อีกประเทศหนึ่งนะครับ ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านในสัปดาห์ที่ผ่านมา  ผมได้เดินทางไปร่วมในพิธีเปิดซีเกมส์ที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว  ซึ่งการเดินทางไปนั้นส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่ารัฐบาลไทยเองได้ให้การสนับสนุนการเป็นเจ้าภาพของรัฐบาลลาว และได้มีส่วนสำคัญในการที่ช่วยเตรียมความพร้อม  ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการก่อสร้างสนามแข่งขันบางแห่ง  ก็ต้องขอชมเชยนะครับว่าทาง สปป.ลาวนั้นได้จัดกีฬาซีเกมส์ โดยเฉพาะพิธีเปิดครั้งนี้ได้อย่างน่าประทับใจมาก  และมีความพร้อมอย่างเต็มที่  ผมแอบสอบถามท่านรองนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นประธานจัดงานนั้นก็บอกว่าซักซ้อมกันมาเรียกว่าครึ่งปี และในพิธีเปิดนั้นใช้คนแสดงมากถึง 8,000 คน เพราะฉะนั้น การเป็นเจ้าภาพของ สปป.ลาว ในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งแรกครั้งนี้ก็ต้องถือว่าประสบความสำเร็จ ประเทศไทยในฐานะมิตรประเทศ และเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดนั้นก็ได้ไปร่วมแสดงความยินดี  และก็เลยเป็นกรณีพิเศษไปครับ  เพราะกลายเป็นว่าครั้งนี้การเปิดซีเกมส์นั้นมีผู้นำในกลุ่มประเทศที่เข้าร่วมแข่งขันเข้าไปร่วมในพิธีนั้นมากที่สุด  สำหรับการแข่งขันนั้นก็ธรรมดานะครับ มีแพ้มีชนะ  ผมก็ทราบว่าพี่น้องคนไทยก็ผิดหวังกับเรื่องของฟุตบอล  แต่ว่าการแข่งขันในกีฬาอื่น ๆ ในขณะนี้ประเทศไทย  ณ ขณะที่ผมพูดอยู่นี้เข้าใจว่ายังเป็นอันดับ 1 อยู่ในเรื่องของเหรียญทอง  เพราะฉะนั้น ก็อย่าลืมส่งกำลังใจไป หรือแม้กระทั่งเดินทางไปเพื่อช่วยเชียร์และสนับสนุนนักกีฬาไทยให้ประสบความสำเร็จเป็นเจ้าเหรียญทองในการแข่งขันซีเกมส์ในครั้งนี้ด้วย นั่นคืองานที่เกี่ยวข้องกับประเทศเพื่อนบ้าน งานต่างประเทศที่เกิดขึ้นในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา

งานต่างประเทศที่เกิดขึ้นในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา

รณรงค์ขับขี่ปลอดภัยทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่

     นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า สำหรับงานในประเทศของเราเองนะครับ มีมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) อยู่ และงานอีกหลายเรื่องซึ่งอยากจะเรียนให้ทราบ  เรื่องแรกคือการเตรียมการที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของเทศกาลปีใหม่  โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เราจะต้องติดตามและระมัดระวังเป็นพิเศษ คือปัญหาในเรื่องของอุบัติเหตุ  เพราะฉะนั้น  ก็มีการเริ่มต้นรณรงค์ในเรื่องของการขับขี่ปลอดภัยในช่วงของเทศกาลปีใหม่  ผมขอย้ำครับว่าจริง ๆ แล้วสาเหตุหลัก สาเหตุสำคัญของการสูญเสียที่เกิดขึ้นในช่วงเทศกาลปีใหม่หรือว่าเทศกาลอื่น ๆ นั้น  มี 3 สาเหตุครับ  สาเหตุแรกก็คือแน่นอนครับเรื่องของสุรา  เพราะฉะนั้น การดื่มสุราและก็ไปขับรถ ก็เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญซึ่งทุกฝ่ายต้องช่วยกันลด ประเด็นที่ 2 ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญคือเรื่องของการหลับใน  เพราะฉะนั้น ผู้ที่เดินทางและคณะที่ร่วมกันเดินทางต้องคอยตรวจสอบตัวเอง ตรวจสอบคนขับอยู่ตลอดเวลาว่าไม่เผลอหลับใน  ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของอุบัติเหตุตามท้องถนน  และประการที่ 3 ที่เป็นเรื่องของความสูญเสียอยู่เป็นประจำนั้น  คือการใช้จักรยานยนตร์และไม่สวมหมวกนิรภัย  เพราะฉะนั้น เราพบตลอดเวลาว่าตัวเลขความสูญเสียในช่วงเทศกาลนั้น  ผู้ที่เสียชีวิตโดยเฉพาะจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากจักรยานยนตร์  ซึ่งเป็นอุบัติเหตุส่วนใหญ่ในท้องถนนที่เกิดขึ้นในเทศกาลนั้น  ที่เสียชีวิตนั้นคือว่าไม่สวมหมวกนิรภัย 

     “การรณรงค์ในเรื่องนี้ความจริงเราทำไม่ใช่เฉพาะในเรื่องของเทศกาลเท่านั้น  แต่ว่าขณะนี้เราถือเป็นวาระแห่งชาติที่ต้องการที่จะลดจำนวนอุบัติเหตุและการสูญเสียจากการใช้ท้องถนน และการสัญจรไปมา โดยตั้งเป้าเอาไว้ว่าจำนวนอุบัติเหตุ และการสูญเสียนั้นต้องลดลงไปเหลือครึ่งหนึ่งในอีก 10 ปีข้างหน้า  เพราะฉะนั้น แต่ละปีก็จะลดไปคงจะมากกว่าประมาณร้อยละ 5 เพียงเล็กน้อย  ซึ่งก็กำลังมีการดำเนินการรณรงค์อย่างเต็มที่”

ยกเว้นค่าธรรมเนียมผ่านทางสายมอเตอร์เวย์

     นายอภิสิทธิ์ กล่าวเสริมว่า ขณะเดียวกันนะครับ เช่นเดียวกับทุก ๆ ปีเมื่อมีพี่น้องประชาชนเดินทางกันค่อนข้างมาก  โดยเฉพาะออกจากกรุงเทพมหานครไปเที่ยวบ้าง หรือว่ากลับไปยังภูมิลำเนาบ้าง  ก็มีการออกมติคณะรัฐมนตรีเป็นที่เรียบร้อยนะครับว่าจะมีการยกเว้นการเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทาง โดยเฉพาะใน 2 เส้นทางสำคัญที่เราเรียกว่า มอเตอร์เวย์ กรุงเทพฯ-พัทยา และวงแหวนทางซีกของบางพลีไปถึงบางไทร  อันนี้ก็จะเป็นการลดหรือยกเว้นการเก็บค่าธรรมเนียม  ซึ่งจะเริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม ไปจนถึงวันที่ 4 มกราคม อันนี้ก็คือในส่วนของงานที่เกี่ยวข้องกับการรณรงค์ในการลดอุบัติเหตุ  และก็เตรียมรับมือกับการเดินทางที่จะเกิดขึ้นในช่วงของการฉลองเทศกาลปีใหม่   

แก้กฎหมาย”ส.ป.ก. “ในเรื่องสิทธิที่ดินทำกิน

     สำหรับงานทางด้านอื่น ๆ ที่ได้มีการดำเนินการไปคงจะขอสั้น ๆ 2 เรื่อง ที่รัฐบาลได้แก้ปัญหา โดยเฉพาะก็คือในเรื่องของสิทธิของพี่น้องประชาชน  เรื่องแรกก็คือในกรณีปัญหาของ ส.ป.ก. ซึ่งในอดีตมีปัญหามาโดยตลอดว่า ส.ป.ก.นั้นเป็นเอกสารสิทธิ์ซึ่งเราไม่อนุญาตให้มีการโอนกันได้  ยกเว้นตกทอดไปยังสู่ทายาท  แต่ว่าในอดีตนั้นมีปัญหาอยู่ 2 ปัญหาคือว่ากรณีที่มีทายาทหลายคนก็จะมีปัญหาในเรื่องของการที่จะแบ่งที่ดิน และอีกปัญหาหนึ่งคือว่าตามกฎหมาย ส.ป.ก.นั้น  การได้ที่ ส.ป.ก.ไปต้องไปทำการเกษตรเท่านั้น  แต่ว่าปัญหาเกิดขึ้นว่าถ้าตกทอดไปยังทายาท  ทายาทไม่ประสงค์จะทำการเกษตรนั้นจะทำอย่างไร  ครม.ก็ได้อนุมัติกฎที่จะแก้ไขปัญหา 2 ปัญหานี้นะครับ  ปัญหาแรกนั้นก็ให้เป็นไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์  และในส่วนที่ 2 คือถ้าหากว่าทายาทนั้นไม่ไปทำการเกษตร  ก็จะมีการดำเนินการในการที่จะ พูดง่าย ๆ ก็คือว่าโอนหรือซื้อที่คืนมา  มิฉะนั้นก็จะต้องดำเนินการตามกฏหมาย ส.ป.ก.ต่อไป   

เพิ่มสิทธิประโยชน์ให้แรงงานนอกระบบ

     นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องที่ 2 ก็เป็นกรณีของผู้ใช้แรงงานครับ  ซึ่งมีความพยายามมาตลอดในการที่จะให้พี่น้องผู้ใช้แรงงาน ซึ่งเราเรียกกันว่าเป็นแรงงานนอกระบบ ที่จะเข้ามาสู่ระบบประกันสังคม  สิ่งที่ได้เป็นมติของคณะรัฐมนตรีไปเพื่อที่จะจูงใจให้พี่น้องประชาชนที่ทำงานอิสระหรือเป็นแรงงานนอกระบบเข้ามาสู่ระบบประกันสังคม คือ ได้มีการเพิ่มสิทธิประโยชน์ที่เดิมได้อยู่เพียงในเรื่องของการคลอดบุตร เรื่องของการตาย ทุพพลภาพ และการรักษาพยาบาล  ตอนนี้จะเป็นในเรื่องของการเพิ่มเติมในเรื่องของบำเหน็จชราภาพ แล้วก็จะมีเงินทดแทนรายได้กรณีอยู่โรงพยาบาลเกิน 3 วันด้วย  นอกจากนั้นการสมทบเงินเข้าสู่กองทุนตามสิ่งที่เราเรียกว่ามาตรา 40 หรือของแรงงานกลุ่มนี้ก่อนหน้านี้จะต้องจ่ายเป็นรายปี  ต่อไปนี้จะดำเนินการให้สามารถจ่ายเป็นรายเดือนได้  ก็เพื่อเป็นการจูงใจให้พี่น้องผู้ใช้แรงงานนั้นสามารถที่จะเข้ามาอยู่ในระบบประกันสังคมได้มากขึ้น คือมีแรงจูงใจที่จะเข้ามามากขึ้น  ซึ่งเป็นเป้าหมายของรัฐบาลมาหลายยุคหลายสมัยครับ  แต่พบว่ามีพี่น้องประชาชนที่เข้ามาใช้สิทธิ์หรือเข้ามาร่วมในเรื่องของโครงการประกันสังคมตรงนี้ค่อนข้างน้อยอยู่  เพราะฉะนั้น  ก็จะมีความพยายามที่จะขยายตรงนี้อย่างต่อเนื่องต่อไป

เดินทางไปร่วมประชุมภาวะโลกร้อนที่กรุงโคเปนเฮเกน  

     “ในสำหรับสัปดาห์หน้าผมจะต้องเดินทางไปที่โคเปนเฮเกน  เพื่อไปประชุมในเรื่องของปัญหาโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ  ซึ่งจะเดินทางไปช่วงวันที่ 16 จริง ๆ แล้วเป็นคืนวันที่ 16 แล้วก็จะเดินทางกลับมาถึงเช้าวันอาทิตย์ที่ 20 คิดว่าคงมาถึงแล้วก็คงสามารถมาพบปะกับพี่น้องประชาชนในรายการนี้ได้ตามปกตินะครับ  การประชุมครั้งนี้ก็มีความสำคัญได้รับความสนใจ  คาดว่าจะมีผู้นำประเทศต่าง ๆ ไปร่วมประชุมมากกว่า 60 ประเทศ เพื่อที่จะหาทางบรรลุข้อตกลงที่จะช่วยกันแก้ไขปัญหาโลกร้อน  และปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศได้  เช่นเดียวกันนะครับในสัปดาห์หน้า  ผมจะเป็นประธานในการเปิดการประชุมสมัชชาสุขภาพ  ซึ่งเป็นการประชุมสำคัญที่เชิญชวนพี่น้องประชาชนที่เป็นสมาชิกสมัชชาทั้งหลายเข้ามาพูดคุยกันถึงในเรื่องของปัญหาของสุขภาพของคนไทย  และจะมีข้อเสนอแนะที่ผ่านการระดมความคิดเห็นจากภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน ที่จะนำสู่การเสนอต่อรัฐบาลในการทำนโยบายสาธารณะที่เป็นประโยชน์หรือว่าเป็นนโยบายที่เป็นมิตรกับการดูแลสุขภาพที่ดีของพี่น้องประชาชนคนไทย”

     นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า สัปดาห์นี้ในช่วงนี้เวลาหมดแล้วนะครับ  จากนี้ไปจะเป็นภาพบรรยากาศที่ผมได้เดินทางไปที่สามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี  ที่ไปนั้นเพราะว่าที่สามชุกนั้นได้รับรางวัลจากยูเนสโกเป็นรางวัลที่ยกย่องในเรื่องของการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมก็ไปดูกันครับว่าที่สามชุกนั้นซึ่งมีประวัติยาวนานมากว่าร้อยปี พี่น้องประชาชนในพื้นที่ในชุมชนในท้องถิ่นได้แสดงออกถึงความเข้มแข็ง ความสามัคคี และก็พลิกวิกฤตที่เขาจะรื้อตลาดร้อยปี  เมื่อประมาณ 8-9 ปีที่แล้ว พลิกวิกฤตมาเป็นโอกาสที่เป็นแบบอย่างของเศรษฐกิจสร้างสรรค์ก็ว่าได้  ไปดูบรรยากาศที่สามชุกกันครับ  สำหรับสัปดาห์นี้ผมลาท่านผู้ชมไปก่อนครับ  สวัสดีครับ

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

พันตรีศิริชัย  ทรัพย์ศิริ

สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล (ส.พ.ค.)

www.waddeeja.com

Tel.02-990-0331

1512522223

รมต.บัลแกเรีย นำแจกันดอกไม้ทูลเกล้าฯ ถวายในหลวง ขณะที่พสกนิกรยังคงสวมเสื้อชมพูร่วมถวายพระพร

วันเสาร์ที่ 19 ธันวาคม  สำหรับบรรยากาศการลงนามถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ศาลาศิริราช 100ปี รพ.ศิริราช ซึ่งเป็นวันที่ 92ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ มาประทับรักษาพระวรกาย ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ ร.พ.ศิริราช ตั้งแต่วันที่ 19กันยายน โดยตลอดทั้งวันถึงแม่จะเป็นวันหยุดราชการ พสกนิกรทุกหมู่เหล่าจากทั่วทุกสารทิศยังคงทยอยเดินมาร่วมลงนามถวายพระพรกันอย่างต่อเนือง ซึ่งทางสำนักพระราชวังยังคงนำเอกสารตีพิมพ์พระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการออกมหาสมาคมในพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย เมื่อวันที่ 5ธันวาคม 2552ที่สำนักนายกรัฐมนตรี นำมามอบให้ 100,000ใบ แจกให้ผู้ที่มาลงนามถวายพระพร

       โดยในช่วงเช้าประชาชนจำนวนมากพร้อมใจกันสวมเสื้อสีชมพู มาลงนามถวายพระพร อาทิ  วิทยาลัยศิลปหัตถกรรม จ.นครศรีธรรมราช โรงเรียนกีฬาจังหวัดสุพรรณบุรี โรงเรียนกีฬาจังหวัดตรัง คณะทันตแพทย์และเจ้าหน้าที่จากฝ่ายทันตกรรม โรงพยาบาลพบพระ จ.ตาก นักเรียนโรงเรียนสำราญราฎร์บำรุง (แช่ม ประชาอุทิศ) อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร  กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรป่าพฤกษ์จ.สุพรรณบุรี  กลุ่มจิตรอาสาโรงพยาบาลเสนา จ.พระนครศรีอยุธยา  นายเรโน ท้าวมฤทธิ์ ตัวแทนพ่อค้าแม่ค้า อ.เมือง จ.กำแพงเพชร นำเงินรายได้จากการจัดงาน 5ธันวา จำนวน 31,000บาท มาทูลเกล้าฯ ถวาย

        ขณะที่นางมิ่ง มณฑา อายุ 81ปี พร้อมด้วยนางผาณิต อรุณนพรัตน์ อายุ 56ปี ครูโรงเรียนดัดรุณี อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ลูกสาว และครอบครัว มาร่วมลงนามถวายพระพร ทั้งนี้ นางมิ่ง ได้ว่าถวายพระพรขอให้ในหลวงทรงมีพระพลานามัยแข็งแรงสมบูรณ์  แม้ว่าตลอดชีวิตจะไม่เคยเห็นพระองค์และไม่เคยเฝ้ารับเสด็จฯ แต่ทราบจากข่าวว่าพระองค์ทรงเป็นพระมหากษัติย์ที่ทำประโยชน์ให้กับปวงชนและคอยช่วยเหลือพสกนิกรของพระองค์ให้มีความอยู่ดีกินดี ไม่ว่าจะเป็นถิ่นทุรกันดารพระองค์ก็เสด็จฯไปเยี่ยมเยียน

        ด้านนางผาณิต กล่าวว่า ตั้งแต่จำความได้ครอบครัวจะปลูกฝังให้รักและเคารพในหลวง เพราะพระองค์ท่านทรงงานเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณอย่างล้นเหลือกับประชาชนทุกคน พระราชดำรัสต่างๆ ที่ทรงพระราชทานไว้นั้น สร้างขวัญและกำลังใจให้กับตนและชาวไทยอย่างมาก และได้นำไปปฎิบัติในการทำงาน ซึ่งตนมีอาชีพเป็นครูจึงได้ตั้งปณิธานไว้ว่า จะสอนเด็กๆ ให้เป็นคนดีของสังคมและประเทศชาติต่อมาได้มีคณะจากองค์การบริหารส่วนตำบลพิหารแดง อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี 

        พ.อ.เสนีย์ วงเพชร ประธานชมรมจักรยานพรหมบุรี-ไชโย อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี พร้อมสมชิกชมรมฯ พ.อ.เสนีย์ กล่าวว่า ชมรมจักรยานมีทั้งประเภทเสือหมอบ เสือภูเขา และจักรยานธรรมดา เข้าร่วมในชมรม โดยจะเน้นความสามัคคีในหมู่คณะ ส่งเสริมด้านสุขภาพเพื่อให้ประชาชนมีสุขภาพแข็งแรงส่งเสริมการท่องเที่ยว ที่สำคัญส่งเสริมให้ประชาชนอยู่อย่างประหยัดพอเพียงนื่องจากการใช้รถจักรยานเป็นการลดใช้พลังงานจากน้ำมันไปด้วย 

        นอกจากนี้นายนิพนธ์ นิกาจิ ผู้อำนวยการโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 40ต.ลูสะมิแล อ.เมือง จ.ปัตตานี พร้อมคณะครู ได้นำเงินในโครงการ 1 เหรียญ 1 คำอฐิษฐานเพื่อในหลวง  ซึ่งครูและนักเรียนได้ร่วมกันสมทบทุน มาทูลเกล้าฯ ถวาย  คณะครูและนักเรียนโรงเรียนบ้านคลองตัน  อ.ตากใบ จ.นราธิวาส นำใบไม้สีทองใส่กรอบ มาทูลเกล้าฯ ถวาย พร้อมด้วยโรงเรียนวัดโคกมะเฟือง  อ.ตากใบ จ.นราธิวาส        

       
        ต่อมานายมิเลน ยูสคานอฟ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ประเทศบัลแกเรีย  นำแจกันดอกไม้มาทูลเกล้าฯ ถวาย พร้อมลงนามถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ห้องประชุมสิรินทร อาคารเฉลิมพระเกียรติ รพ.ศิริราช 

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

พันตรีศิริชัย  ทรัพย์ศิริ

สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล (ส.พ.ค.)

www.waddeeja.com

Tel.02-990-0331

1912521901

นายกฯ ชวน ปปช.ชมคอนเสิร์ต "ขวัญข้าว ขวัญแผ่นดิน" เทิดพระเกียรติ "

ในหลวง" 26 ธ.ค.52

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่งในรายการ "เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกอภิสิทธิ์" ว่า วันเสาร์ ที่ 26 ธันวาคม52 นี้ ขอเชิญพี่น้องประชาชน ร่วมเทิดพระเกียรติลงนามถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และชมคอนเสิร์ต ขวัญข้าว ขวัญแผ่นดิน ซึ่งจะมีศิลปินลูกทุ่งมาร่วมกันในการแสดงคอนเสิร์ต และในงานจะมีการจำหน่ายข้าวสารคุณภาพดีราคายุติธรรม ตั้งแต่ 16.00 น.เป็นต้นไปที่ท้องสนามหลวง

- - - - - - - - - - - - - - - - - -  

พันตรีศิริชัย   ทรัพย์ศิริ

นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล (ส.พ.ค.)                   

โทร. 02-990-0331

http://www.apdi2002.com

http://www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ

สมาคมคนพิการ

2012522120

วันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2553 ปีที่ 19 ฉบับที่ 6991 ข่าวสดรายวัน


ทูลเกล้าฯถวายฉลองพระองค์บรรทม



เมื่อวันที่ 18 ม.ค. ที่ศาลาศิริราช 100 ปี โรงพยาบาลศิริราช สถานที่ลงนามถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ยังคงมีประชาชน พสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่าจากทั่วทุกสารทิศเดินทางมาลงนามถวายพระพรกันอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน โดยมาเป็นหมู่คณะ ส่วนใหญ่สวมเสื้อสีชมพู และตั้งจิตอธิษฐานให้ทรงมีพระพลานามัยแข็งแรง เป็นมิ่งขวัญของชาวไทยตลอดไป พร้อมนำสิ่งของต่างๆ มาทูลเกล้าฯ ถวาย อาทิ คณะอาจารย์ นักศึกษา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี คณะครูกลุ่มบางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก โรงเรียนเทคโนโลยีศรีวิชัยสุวรรณภูมิ จ.สุราษฎร์ธานี โรงเรียนบ้านห้วยขี้เหล็ก อ.เชียงรุ้ง จ.เชียงราย โรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย นางละม่อน พัดมา อายุ 97 ปี พร้อมบุตรชายและบุตรสาว พักอยู่จ.นนทบุรี เดินทางมาลงนามถวายพระพร

นางละม่อน กล่าวว่า วันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดของตน ที่มีอายุครบรอบ 97 ปี โดยตนเกิดตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 ตอนเช้าตนก็ได้ไปทำบุญที่วัดเพลาราย อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี และก็รบเร้าให้บุตรชายและบุตรสาวพามาลงนามถวายพระพร ที่ร.พ.ศิริราช เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนและครอบครัวด้วย

ต่อมา นายสุนทร ชนะศรีโยธิน เจ้าของร้านตัดเสื้อวินสัน เทเลอร์ สี่แยกเกษตร บางเขน กทม. ช่างตัดสูทและฉลองพระองค์ เดินทางมาพร้อมบุตรสาว นำฉลองพระองค์บรรทมสีส้ม และสีม่วง จำนวน 2 องค์ และพระสนับเพลาสั้น (กางเกงขาสั้น) สีเทากับสีเขียวอ่อนลายสกอตอย่างละ 1 องค์ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีกระแสพระราชดำรัสโปรดเกล้าฯให้ตัดนำมาขึ้นทูลเกล้าฯถวายและร่วมลงนามถวายพระพร

นายสุนทร กล่าวว่า พระองค์ท่านเคยมีกระแสพระราชดำรัสให้ตนตัดชุดฉลองพระองค์สีสด และพระสนับเพลาสั้นสำหรับออกกำลังกาย จึงได้ตัดมาทูลเกล้าฯถวาย ที่ต้องตัดฉลองพระองค์เป็นสีสดนั้น เพราะพระองค์ท่านโปรดและเคยมีกระแสพระราชดำรัสว่า ใส่สีสดแล้วดูหนุ่มขึ้นไม่โบราณแล้ว ถ้าวันใดพระองค์เสด็จออกจากโรงพยาบาลศิริราช ตนตั้งใจจะตัดฉลองพระองค์ชุดสีสดใส สีมงคล มาทูลเกล้าฯถวาย เพื่อให้ประชาชนทุกคนมีความสุขที่ได้เห็นพระองค์ท่านมีพระพักตร์และพระวรกายที่สดใส

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าประชาชนที่มาลงนามถวายพระพรต่างตั้งจิตอธิษฐานขอให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระพลานามัยแข็งแรง และรู้สึกปลื้มใจที่ทราบข่าวว่าในเวลา 17.30 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะเสด็จลง ณ ห้องประชุมชั้น 14 อาคารเฉลิมพระเกียรติ และพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้คณะรัฐมนตรีที่ได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งใหม่ เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท เพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้าปฏิบัติหน้าที่ ต่างก็ดีใจและบอกว่าจะเฝ้าติดตามข่าว

- - - - - - - - - - - - - - - - - -  

พันตรีศิริชัย   ทรัพย์ศิริ

นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล (ส.พ.ค.)

โทร. 02-990-0331

http://www.apdi2002.com

http://www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ

สมาคมคนพิการ

1901531530

*********************

กสร.ดึงแรงงานนับแสน ถวายสัตย์ปฏิบัติธรรม แด่พ่อหลวง26มีนาคมนี้

นางอัมพร นิติสิริ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) กระทรวงแรงงาน กล่าวว่า หลังจากที่ กสร.ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จัดทำโครงการแรงงานไทยร่วมใจถวายสัตย์ปฏิบัติธรรมน้อมนำถวายแด่องค์พ่อหลวงของปวงประชา เพื่อเผยแผ่หลักธรรมทางศาสนาพุทธไปสู่นายจ้างและลูกจ้างในสถานประกอบกิจการ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2552 นั้น

ในวันที่ 26 มีนาคม 2553 นี้ กสร.จะจัดพิธี และปฏิบัติธรรมร่วมกัน โดยมีนายจ้างและลูกจ้าง เข้าร่วมโครงการ ที่บริเวณอุโบสถกลางน้ำ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา

สำหรับที่มาของโครงการดังกล่าว นั้น อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกล่าวว่า ด้วยปี 2552 เป็นปีมหามงคลเนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษา 82 พรรษา วันที่ 5 ธันวาคม 2552 กสร. จึงร่วมกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จัดงานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเรื่อง โครงการแรงงานไทยร่วมใจถวายสัตย์ปฏิบัติธรรมน้อมนำถวายแด่องค์พ่อหลวงของปวงประชา

ทั้งนี้เพื่อให้ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ นายจ้าง และลูกจ้าง ร่วมกันแสดงความจงรักภักดีต่อพระองค์ท่าน ด้วยการฟังพระธรรมเทศนา ปฏิบัติธรรม และศึกษาหลักธรรมทางศาสนาพุทธ เพื่อน้อมนำเอาหลักธรรมคำสอนเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจในการดำเนินชีวิต สร้างวิถีชีวิตที่ถูกต้อง นำความสงบสุขสู่ชีวิตครอบครัวและสังคม

โดยโครงการดังกล่าวได้ดำเนินการมาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2552 และต่อเนื่องไปตลอดทั้งปี 2553 ในทุกจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งกสร.ตั้งเป้าหมายว่าจะผู้เข้าร่วมโครงการ 7.6 หมื่นคน โดยล่าสุด ต้นเดือนมีนาคมนี้ มีผู้เข้าร่วมโครงการแล้ว 4.6 หมื่นคน

- - - - - - - - - - - - - - - - - -  

พันตรีศิริชัย   ทรัพย์ศิริ

นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล (ส.พ.ค.)

โทร. 02-990-0331

http://www.apdi2002.com

http://www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ

สมาคมคนพิการ

2003531924

*********************

สธ.ผุด 10 รพ.ชุมชนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา นำร่องรพ.แนวใหม่

สธ.นำร่องระบบบริหารจัดการโรงพยาบาลชุมชนแนวใหม่ ผุดโรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 10 แห่ง เผยเปิดใช้บริการแล้ว 8 แห่ง คาดอีก 2 แห่งให้บริการได้ภายในปี 2554 พร้อมดึงคนในชุมชนร่วมเป็นคณะกรรมการบริหารโรงพยาบาล ผสานความร่วมมือท้องถิ่น ก่อนขยายผลทั่วประเทศ
       
       นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวว่า สธ.มีนโยบายให้ประชาชนทุกพื้นที่ โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกล สามารถเข้าถึงและได้รับบริการด้านสุขภาพที่มีคุณภาพอย่างเท่าเทียม ทั้งนี้ในปี 2550 ได้ก่อสร้างโรงพยาบาลชุมชนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จำนวน 10 แห่ง ซึ่งขณะนี้เปิดให้บริการประชาชนแล้ว 8 แห่ง ได้แก่ รพ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์, รพ.เบญจลักษ์ จ.ศรีสะเกษ, รพ.นาวัง จ.หนองบัวลำภู, รพ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี, รพ.เขาชะเมา จ.ระยอง, รพ.พระทองคำ จ.นครราชสีมา, รพ.วัดจันทร์ จ.เชียงใหม่ และ รพ.เสาไห้ เฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จ.สระบุรี ขณะที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างอีก 2 แห่ง คือ รพ.ยี่งอเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จ.นราธิวาส และ รพ.หาดสำราญเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จ.ตรัง คาดว่าจะแล้วเสร็จสามารถเปิดให้บริการได้ในปี พ.ศ.2554
       
       นพ.ไพจิตร์ กล่าวต่อว่า ในการบริหารจัดการโรงพยาบาลชุมชนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาทั้ง 10 แห่ง สธ.จะให้เป็นโรงพยาบาลนำร่องด้านการบริหารจัดการแนวใหม่ ในรูปของคณะกรรมการโรงพยาบาล มีตัวแทนบุคคลจากไตรภาคี ได้แก่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ชุมชน ภาครัฐ ร่วมเป็นคณะกรรมการโรงพยาบาล เพื่อให้เป็นโรงพยาบาลของชุมชนอย่างแท้จริง คือให้ประชาชนมีส่วนร่วมเป็นเจ้าของ ร่วมบริหารจัดการ ร่วมดูแลรับผิดชอบ และสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ ของโรงพยาบาล เป็นไปอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ โดยประสานการทำงานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) และองค์กรอื่นๆ ในชุมชน จัดระบบบริการที่เน้นการส่งเสริมสุขภาพ การป้องกันควบคุมโรค การรักษา และการฟื้นฟูสภาพแบบองค์รวม เชื่อมโยงกับสถานีอนามัยและสถานบริการสุขภาพอื่น ๆ รวมทั้งส่งเสริมให้ประชาชนร่วมกิจกรรมจิตอาสา ทำงานร่วมกับบุคลากรสาธารณสุขในการจัดบริการแก่ผู้เจ็บป่วยที่ใช้บริการ
       
       นพ.ไพจิตร์ กล่าวอีกว่า สำหรับทิศทางการพัฒนาโรงพยาบาลในสังกัด สธ.ที่มีกว่า 800 แห่งทั่วประเทศในอนาคต หลังจากที่มีการประเมินผลการบริหารของโรงพยาบาลชุมชนเฉลิมพระเกียรติ 10 แห่ง จะขยายให้โรงพยาบาลทุกแห่งบริหารงานโดยการมีส่วนร่วมของประชาชน และประสานความร่วมมือกับทุกองค์กรในชุมชน ระดมทรัพยากรในชุมชน ทั้งกำลังคน งบประมาณ มาใช้สนับสนุนการดำเนินงานแก้ไขปัญหาสุขภาพของคนในชุมชนด้วยชุมชนให้มากที่สุด ซึ่งจะทำให้การพัฒนาสุขภาพของประชาชนทุกพื้นที่ทั่วประเทศ มีประสิทธิภาพและยั่งยืน

- - - - - - - - - - - - - - - - - -  

พันตรีศิริชัย   ทรัพย์ศิริ

นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล (ส.พ.ค.)

โทร. 02-990-0331

http://www.apdi2002.com

http://www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ

สมาคมคนพิการ

2103532224

*********************

พวกเส้อเหลือง ยึดสนามบิน  พวกทำลายชาติ จงพินาศ  อย่าได้ผุดได้เกิด ไปตาย ๆ ซะ

ขออำนาจแห่งพระรัตนตรัยและพระสยามเทวาธิราช โปรดปกป้องอภิบาลในหลวง ทรงหายจากพระประชวรโดยเร็ว มีพลานามัยสมบูรณ์ ทรงมีพระชนมายุยิ่งยืนนาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ

ขออำนาจแห่งพระรัตนตรัยและพระสยามเทวาธิราช โปรดปกป้องอภิบาลในหลวง ทรงหายจากพระประชวรโดยเร็ว มีพลานามัยสมบูรณ์ ทรงมีพระชนมายุยิ่งยืนนาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ

ขออำนาจแห่งพระรัตนตรัยและพระสยามเทวาธิราช โปรดปกป้องอภิบาลในหลวง ทรงหายจากพระประชวรโดยเร็ว มีพลานามัยสมบูรณ์ ทรงมีพระชนมายุยิ่งยืนนาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ

ชีวิตที่เพียงพอพ่อพร่ำสอน
ทั้งหลับนอนกินอยู่รู้ใช้จ่าย
ทรัพย์สมบัติเงินทองของนอกกาย
อย่างมงายยึดมั่นนั่นมายา

มีข้าวปลาอาหารทานเต็มอิ่ม
มีรอยยิ้มรายล้อมอยู่พร้อมหน้า
มีความรักเป็นทุนอุ่นกายา
แม้ไม่มีเงินตราใช่ว่าจน

ด้วยแนวทางเกษตรทฤษฎีใหม่
จึงมีกินมีใช้ไม่ขัดสน
พ่อสอนไว้ให้รู้สู้อดทน
จึงผ่านพ้นทุกข์เข็ญเห็นแนวทาง

ชีวิตที่พอเพียงเลี้ยงตัวได้
พ่อทำให้ได้เห็นเป็นแบบอย่าง
ทุกโครงการพ่อเน้นไม่เว้นวาง
พ่อผู้สร้างชีวิตใหม่ให้แผ่นดิน

….ผืนดินแห้งผาก…ขาดน้ำ…
พ่อเดินย่ำเหยียบข้าม…ร่างสถาน
ก่อร่างสร้างเขื่อน…ไม่นานน้ำมาเยือน…ชลประทาน
ดินแห้งผากวันนั้น…สร้างเมล็ดข้าวนับล้าน…ให้เก็บกิน…

…ผืนน้ำเน่าเสีย…เกินเยียวยา…
พ่อเดินผ่านเห็นเต็มตา…หมดทั้งสิ้น
ร่างแบบกังหันน้ำ…เติมอากาศให้ตาม…ได้ยิน
ชัยพัฒนาหมุนริน…หมดปัญหาน้ำสิ้น…ที่เคยมี

…ผืนฟ้าไร้ฝน…โปรยปราย…
พ่อเดินผ่านผืนทราย…อ่อนล้า…
หยาดน้ำมาจากไหน…พ่อคิดเอาไว้เรื่อยมา…
ไม่นานฝนเทียมหล่นจากฟ้า…สร้างแผ่นดินชุ่มชื้นทั่วหล้า…ปฐพี…

…ผืนดิน..พ่อสร้าง…ความชุ่มชื้น…
ท้องน้ำพ่อหยิบยื่น….สะอาดสี
แผ่นฟ้าที่แห้งผาก…พ่อสร้างฝนให้จาก…สองมือที่มี
แผ่นดินท้องน้าแผ่นฟ้าที่นี่…เกิดจากพระคุณพ่อองค์นี้…องค์เดียว…

ถวายบังคมเทิดไท้…………….ราชันย์
คุณะ ธ อนันต์……………………..เทียบฟ้า
ทวยราษฎร์สุขเกษมสันต์…………ถ้วนทั่ว
ธ ท่านคือขวัญหล้า……………….ปกเกล้าชาวสยาม

พระนามพระเกียรติก้อง………..เกริกไกร
“ภูมิพล” ขจรไป…………………..ทั่วด้าว
คือหลักแห่งธงชัย…………………ปวงเหล่า ชนเฮย
ทูนเทิดพระเหนือเกล้า…………….เกศน้อมถวายพระพร

ธ ทรงเป็นพระมิ่งขวัญอันยิ่งใหญ่
ธ ทรงเป็นหลักชัยอันสูงค่า
ธ ทรงเป็นร่มโพธิ์ไทรในนภา
ธ ทรงเป็นพระราชาของข้าไทย
เป็นหยาดฝนโชลมใจไทยทั่วถิ่น
เป็นเหมือนน้ำที่หลั่งรินให้กินใช้
พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ปัดเป่าภัย
ขอเกิดในใต้พระบาททุกชาติกาล

ธ…รณีใหญ่กว้าง………….แดนไทย
ทรง…เสด็จท่องไป………ทั่วหล้า
เป็น…ปิ่นหฤทัย…………….ทั่วทุก คนนา
ดวง…จิตไทยทั่วฟ้า……..ร่วมน้อม รวมใจ

ใจ…ทั้งหกสิบล้าน………..รวมกัน
ไทย…ทุกผู้เผ่าพันธุ์……..กราบไหว้
ทุก…ถิ่นทวยเทพอัน…….ศักดิ์สิทธิ์
ผู้…คนน้อมขอให้………….ปักป้อง จอมสยามฯ

แผ่นดินทองรองเรืองดั่งเมืองฟ้า
พร้อมน้ำท่าพืชพันธุ์ตระการผล
เศรษฐกิจเพียงพอหล่อบันดล
ชุบชีพชนยากไร้ให้หยัดยืน

ด้วยพระบารมีจักรีวงศ์
จึ่งธำรงแดนทองทั่วแผ่นผืน
ยอกรเหนือเกศาขอบตารื้น
ด้วยเต็มตื้นตันใจ ยามเอ่ยพระนาม

ร้อยรักร้อยดวงใจไทยทั้งชาติ
เทิด ธ มหาราช ชาติสยาม
ทรงเป็นศูนย์รวมใจไทยทุกยาม
ถวายความภักดีเหนือชีวัน.

เป็นพลัง ของแผ่นดิน ทุกถิ่นเทศ
พระปกเกศ คุ้มเกล้า เราทั้งผอง
หกสิบล้าน ดวงใจ ไทยปรองดอง
ธ ทรงครอง ราชย์รวม หกสิบปี

มิ่งมหา มงคล ชนทั้งชาติ
ขอประกาศ เทิดไท้องค์ พระทรงศรี
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทุกแหล่งหล้า ทั่วธานี
ขอบารมี คุ้มองค์ พระทรงธรรม์

พระชนม์ชื่น ยืนนาน วารบรรจบ
แปดสิบ ชันษาครบ เฉลิมขวัญ
เหล่าทวยราษฎร์ แซ่ซ้อง ฉลองพลัน
รวมใจมั่น รักพ่อหลวง ของปวงชน

- สถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เป็นสถาบันหลักในผืนธงชาติที่เราเคารพ
- สถาบันหลักของชาติไทยเป็นมรดกมาจากบรรพบุรุษของเรา 4.
- รักชาติ รักประชาธิปไตย รักพระมหากษัตริย์
- ทุกคนร่วมสร้างประเทศไทยเพื่อพ่อหลวง
- เรารวมใจเป็นหนึ่งเดียว เพื่อประเทศไทยเพื่อพ่อหลวง
- สามัคคีรวมไทย ร่วมใจพัฒนา เพื่อบูชาแด่พ่อหลวงของปวงชน

พระองค์เป็นยิ่งกว่ามหากษัตริย์ พระเป็นอัจฉริยะล้ำนำสมัย
พระใบบุญอุ่นเกล้าเหล่าชาวไทย พระยิ่งใหญ่เหมาะสมเหมือนสมญา
เป็นอัครศิลปินปิ่นนักปราชญ์ จึ่งทวยราษฎร์เริงรื่นชื่นหรรษา
ด้วยดวงจิตโสมนัสเปี่ยมศรัทธา ถวายสมัญญา "มหาราช"
ราษฎร์ชื่นชม

ธ.ทรง   เป็นบิดา   ปวงไพร่ฟ้า   ชาวสยาม
ปกเกล้า   ทั่วเขตคาม   เกริกเกียรติงาม   เลิศโสภิณ
คนไทย   ร่วมใจภักดิ์   โลกประจักษ์   องค์ภูมินทร์
พระนาม   ก้องยลยิน   ทั่วธานินทร์   ซึ้งตรึงตรา

ขอพระองค์ทรงพระเจริญ มีพระชนมายุยิ่งยืนนาน มีพระพลานามัยที่แข็งแรง เป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทยตลอดไป ทรงพระเกษมสำราญ อย่าให้มีเรื่องทุกข์ร้อนพระราชหฤทัย และข้าพระพุทธเจ้าก็จะทำตัวเป็นคนดี เพื่อมิให้ท่านต้องทรงไม่สบายพระราชหฤทัย ขอพระองค์จงทรงพระเจริญ

ขอพระองค์ทรงพระเจริญ มีพระชนมายุยิ่งยืนนาน มีพระพลานามัยที่แข็งแรง เป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทยตลอดไป ทรงพระเกษมสำราญ อย่าให้มีเรื่องทุกข์ร้อนพระราชหฤทัย และข้าพระพุทธเจ้าก็จะทำตัวเป็นคนดี เพื่อมิให้ท่านต้องทรงไม่สบายพระราชหฤทัย ขอพระองค์จงทรงพระเจริญ

สองพระหัตถ์ปัดทุกข์แผ่สุขชาติ สองพระบาทเบิกทางกระจ่างผล น้อมใจภักดิ์จักรีภูมิพล บุญเหลือล้นที่เกิดในร่มใบบุญ ถึงจะอยู่แดนไกลไม่เลือนลาง พระบารมีไท้ยังซาบซ่านติดตรึงใจ

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ

ไทยเรามีสถาบันพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุขปกครองประเทศมาช้านาน ทรงเป็นศูนย์รวมดวงใจของคนทั้งชาติ  ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ

ขอพระองค์หายจากพระประชวร โดยเร็ว ขอให้พระพลานามัยแข็งแรง เป็นมิ่งขวัญปวงชนชาวไทย เป็นร่มฉัตร ปกปักษ์ประเทศไทย และทรงไว้ซึ่งทศพิธราชธรรมเทอญ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ

ขอเดชะพระบารมีพระสยามเทวาธิราชและพระรัตนตรัยปกปักษ์รักษาพระองค์ท่านให้แคล้วคลาดจากภัยอันตรายใด ๆ ทั้งปวงขอพระองค์ทรงมีพระพลานามัยแข็งแรง เป็นมิ่งขวัญล้นเกล้าล้นกระหม่อมตราบนานเท่านานด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ

ขอพระองค์จงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ข้าพระพุทธเจ้าขอถวายสัตย์ปฏิญาณว่าจะจงรักภักดีและ ซื่อสัตย์สุจริตต่อชาติบ้านเมืองจนกว่าชิวิตจะหาไม่ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ

ขอพระองค์ทรงพระเจริญ ทรงพระเกษมสำราญ มีพระชนมายุยิ่งยืนนาน ทรงสถิตเป็นพระมิ่งขวัญ แห่งปวงข้าพระพุทธเจ้าตราบชั่วนิจนิรันดร์ เทอญ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ

ขอพระองค์จงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ข้าพระพุทธเจ้าขอถวายสัตย์ปฏิญาณว่าจะจงรักภักดีและ ซื่อสัตย์สุจริตต่อชาติบ้านเมืองจนกว่าชิวิตจะหาไม่ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ

ในหลวงของเราทรงเป็นมหาราชผู้ทรงธรรม ย่อมนำความเจริญร่มเย็นมาสู่ปวงชนชาวไทยผู้มีความจงรักภักดีอย่างแท้จริง ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ

ขอพระองค์ทรงมีพระพลานามัยแข็งแรง ขอองค์พระสยามเทวาธิราชปกปักษ์รักษาพระองค์ท่านให้แคล้วคลาดจาก ภัยอันตรายใด ๆ ทั้งปวง เป็นมิ่งขวัญล้นเกล้าล้นกระหม่อมตราบนานเท่านาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ