ไขปริศนา "ปฏิทินไทย-จีน" : ปฏิทินยอดพิมพ์ปีละล้านเล่ม!
โดย ASTVผู้จัดการรายวัน 23 มกราคม 2552
ในห้วงเวลาของเทศกาลตรุษจีน ... "เยาวราช" ชุมชนชาวจีนที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ดูจะคลาคล่ำไปด้วยผู้คนจากทั่วทุกสารทิศที่ต่างมาเลือกซื้อหาของขวัญ ขนม ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ สำหรับเทศกาลสำคัญที่กำลังจะมาถึง แต่สิ่งที่ขาดไม่ได้ที่ชาวไทยเชื้อสายจีนแทบทุกคนจะต้องซื้อหา ติดไม้ติดมือกลับบ้านไปฝากญาติพี่น้องก็คือ "ปฏิทินไทย-จีน" ซึ่งเป็นสิ่งที่คนไทยไม่ว่าจะเชื้อสายใดต่างต้องเคยเห็นและคุ้นตากันมากว่าครึ่งศตวรรษ
แต่จะมีสักกี่คนที่ทราบประวัติและกระบวนการทำ "ปฏิทินไทย-จีน" มีความเป็นมาอย่างไร? ข้อความภาษาจีนแต่ละจุดแต่ละส่วนหมายความว่าอย่างไร? ข้อความเหล่านั้นมีประโยชน์อะไรในชีวิตประจำวัน?
ASTVผู้จัดการ*** ขออาสาพาท่านผู้อ่านไปทำความรู้จักและทำความเข้าใจให้ละเอียดลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น
ไขปริศนาบนปฏิทิน
ก่อนอื่นขอเริ่มทำความเข้าใจกับรายละเอียดในแต่ละส่วนที่ปรากฏบนปฏิทินไทย-จีน เสียก่อน โดยจะพิจารณาแต่ละส่วนออกออกตามภาพประกอบของปฏิทินที่ได้แบ่งเป็นช่องๆ
ช่องที่ 1 : เดือนและปี พ.ศ. ตามแบบปฏิทินไทย และ ค.ศ.ตามแบบสากล
ช่องที่ 2 :วัน เดือน ปี ข้างขึ้น ข้างแรม ตามจันทรคติของไทย
ช่องที่ 3 :วันที่ตามแบบสากล แต่จะมีรูปภาพปรากฏขึ้นในวันพิเศษ วันสำคัญทางศาสนา วันหยุดราชการ อาทิ วันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว วันตรุษจีน วันวิสาขบูชา วันพืชมงคล และวันประสูติพระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิม เป็นต้น
ช่องที่ 4 :เดือนและวันที่เขียนเป็นภาษาจีน นับตามแบบสากล
ช่องที่ 5 :วันที่ตามปฏิทินสากลแต่เขียนเป็นทั้งภาษาไทย จีนและอังกฤษ
ช่องที่ 6 :วัน เวลา ของการครบรอบการเปลี่ยนแปลงวันสารทของคนจีน ซึ่งใน 1 ปี จะมี 24 สารท โดยใน 1 เดือนจะมี 2 สารท คือ สารทเล็กและสารทใหญ่
ช่องที่ 7 :วันที่ตามจันทรคติของจีน
ช่องที่ 8 :ปีและเดือน ตามจันทรคติของประเทศจีน ซึ่งจะดูตามโหราศาสตร์จีนโบราณ โดยใช้สัญลักษณ์ของราศีบนกับราศีล่างทั้ง 24 ราศี แทนการเขียนเดือนลงบนปฏิทิน
ช่องที่ 9 :การดูฮวงจุ้ยและทิศที่เหมาะในการสร้างบ้าน
ช่องที่ 10 :ทิศที่ดีประจำวันและกิจกรรมที่ไม่เหมาะที่จะทำในวันนั้น เช่น วันที่ 26 ม.ค. ไม่ควรไปจับปลาหรือไปล่าสัตว์ ไม่ควรหมักเหล้า เป็นต้น
ช่องที่ 11 :ครึ่งข้างบนจะเป็นการบอกดวงดาวประจำวันนั้นๆ เพื่อนำไปพิจารณาร่วมกับการหาฤกษ์มงคล ส่วนครึ่งข้างล่างจะเป็นการแนะนำว่าวันนี้เหมาะที่จะทำกิจกรรมใดบ้าง
ช่องที่ 12 :ในปฏิทินจะบอกถึงปีนักษัตรที่ชงกันในวันนั้น เช่น ในวันที่ 26 ม.ค. คนที่เกิดในปีมะแม ไม่ควรทำกิจกรรมหรือการค้าใดๆ กับ คนที่เกิดปีฉลู เพราะจะทำให้กิจกรรมที่ทำร่วมกันนั้นมีอุปสรรคและไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร
ช่องที่ 13 :กำหนดวันที่ดีกับวันที่ไม่ดี เพื่อนำไปหาฤกษ์ในวันที่จะทำพิธีมงคล
ช่องที่ 14 :ลักษณะวัน ที่มีคำทำนายภาษาไทยอธิบายรายละเอียดอยู่ ซึ่งสามารถสังเกตได้ง่ายๆ ว่าหากวันไหนเป็นวันธงไชย วันกาลกินี และวันอุบาทว์ ในปฏิทินจะมีการเขียนคำทำนายเป็นตัวอักษรเป็นสีแดงทั้งหมด ซึ่งลักษณะวันที่ปรากฏในส่วนนี้จะเปลี่ยนไปทุกวัน ทุกปี และจะวนกลับมาตรงกันอีกครั้งในทุก 180 ปี ซึ่งนับตามจันทรคติของจีน
อย่างไรก็ดี สำหรับการนับวันตามแบบปฏิทินไทย จีนนั้น จะมี 2 เดือน คือเดือนเล็กมี 29 วัน เดือนใหญ่มี 30 วัน ซึ่งทุกต้นเดือนของทั้งเดือนเล็กและเดือนใหญ่จะถือเป็นวันพระจีนหรือที่เรียกว่า "ชิวอิก (??)"
- - - - - - - - - - - - - - - - - -
พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ
นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล
โทร. 02-990-0331
http://www.apdi2002.com
http://www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ สมาคมคนพิการ
2401520826
|