ReadyPlanet.com


เชิญถวายพระพรในหลวง


เชิญถวายพระพรในหลวงที่ เว็บ ๘๐ ปี
10 กรกฎาคม 2550

พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวในงานแถลงข่าวเฉลิมพระเกียรติเนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๐ ที่ทำเนียบรัฐบาล ว่า รัฐบาลกำหนดวาระแห่งชาติ ร่วมจัดงานเฉลิมพระเกียรติขึ้นใน ๔ ลักษณะ ได้แก่ งานพระราชพิธี งานรัฐพิธี      งานศาสนพิธี และงานโครงการและกิจกรรม พร้อมเปิดนิทรรศการและเว็บไซต์เฉลิมพระเกียรติฯ www.80thbirthdayanniversary.go.th[/b]

และเปิดศูนย์ประชาสัมพันธ์การจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ ด้วยการลงนามที่แท่นพิธี

www.waddeeja.com

สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

พันตรีศิริชัย  ทรัพย์ศิริ



ผู้ตั้งกระทู้ พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ :: วันที่ลงประกาศ 2007-07-11 14:22:54 IP : 124.121.138.194


<< ก่อนหน้า 1 2 3 4 5 [6] 7 8 ถัดไป >>

ความคิดเห็นที่ 251 (3233423)

 

ประดุจดั่งร่มโพธิ์ที่ปกเกล้า น้ำพระทัยดั่งสายน้ำไม่เหือดหาย ทรงแบบอย่างพระประมุขเลื่องลือไกล ปวงชาวไทยขอน้อมรับด้วยภักดี ขอทรงพระเจริญมีพลานามัยแข็งแรง
ผู้แสดงความคิดเห็น aaa วันที่ตอบ 2011-01-14 09:21:16 IP : 125.24.174.242


ความคิดเห็นที่ 252 (3233424)

 

ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนานพลานามัยแข็งแรง
ขอให้พระองค์ทรงเป็นมิ่งขวัญของชาวไทยตราบชั่วกาลนิรันดร์
ขอพระองค์ทรงพระเจริญพร้อมด้วยพระวรกายที่สมบูรณ์และทรงพระเกษมสำราญเทอญ
ผู้แสดงความคิดเห็น aaa วันที่ตอบ 2011-01-14 09:21:42 IP : 125.24.174.242


ความคิดเห็นที่ 253 (3233425)

 

เราคนไทย เรารัก เราเทิดทูน ในหลวงของเรา
ผู้แสดงความคิดเห็น aaa วันที่ตอบ 2011-01-14 09:22:06 IP : 125.24.174.242


ความคิดเห็นที่ 254 (3233426)

 

ขอพระสิริสวัสดิ์พิพัฒนมงคล จงมีแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ขอจงปราศจากพระโรคาพาธขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนานเทอญ ขอถวายพระพรและขอพระองค์จงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
ผู้แสดงความคิดเห็น aaa วันที่ตอบ 2011-01-14 09:22:36 IP : 125.24.174.242


ความคิดเห็นที่ 255 (3233427)

 

ขอพระองค์ทรงพระเจริญ ทรงพระเกษมสำราญ มีพระชนมายุยิ่งยืนนาน ทรงสถิตเป็นพระมิ่งขวัญ แห่งปวงข้าพระพุทธเจ้าตราบชั่วนิจนิรันดร์ เทอญ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะฯ
ผู้แสดงความคิดเห็น aaa วันที่ตอบ 2011-01-14 09:23:04 IP : 125.24.174.242


ความคิดเห็นที่ 256 (3233428)

 

แผ่นดินไทยนี้ โชคดีหนักหนา
เพราะพระบุญยาพระบารมี
ข้าพระพุทธเจ้า น้อมเกล้าขออัญชลี
ขอจงมี พระชนม์มายุยืนนาน
ผู้แสดงความคิดเห็น aaa วันที่ตอบ 2011-01-14 09:23:44 IP : 125.24.174.242


ความคิดเห็นที่ 257 (3233429)

 

พระองค์ทรงเป็นพระมหาบพิตรที่สถิตในดวงใจของปวงประชา
ผู้แสดงความคิดเห็น aaa วันที่ตอบ 2011-01-14 09:24:07 IP : 125.24.174.242


ความคิดเห็นที่ 258 (3233430)

 

องค์ในหลวง ของไทย เรารักยิ่ง ช่วยทุกสิ่ง ให้ประชา ที่อาศัย อยู่บนผืน แผ่นดินถิ่นเมืองไทย
ให้ปลอดภัย ได้คลายทุกข์ เป็นสุขกัน มาพวกเรา มาพร้อมกันร่วมส่งจิต ช่วยกันคิด สร้างความดี เพื่อองค์ท่าน
เหนืออีสาน กลางใต้ รวมใจกันเทิดทูนท่าน ให้พระองค์ ทรงพระเจริญ
ผู้แสดงความคิดเห็น aaa วันที่ตอบ 2011-01-14 09:24:33 IP : 125.24.174.242


ความคิดเห็นที่ 259 (3233855)

ขอพระองค์ทรงพระเจริญ

ผู้แสดงความคิดเห็น a วันที่ตอบ 2011-01-17 12:07:37 IP : 125.24.170.23


ความคิดเห็นที่ 260 (3233856)

 

-ข้าพเจ้าทั้งหลาย จักรักษาและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ด้วยชีวิต
-พระองค์ทรงห่วงใยในความเป็นอยู่ของราษฎรทุกพื้นที่ของประเทศไทย
-สัญลักษณ์ที่ยิ่งใหญ่ของชาติไทยคือสถาบันพระมหากษัตริย์
-ไม่มีแผ่นดินไหนที่อบอุ่นเท่าประเทศไทยเพราะเรามีพระมหากษัตริย์ที่ทรงพระเมตาต่อราษฎรทุกหมู่เหล่ามาตั้งแต่อดีตจนตราบถึงวันนี้
-ทรงเป็นแสงเทียนส่องทางให้ชาวไทยในทุกสถานการณ์
ผู้แสดงความคิดเห็น a วันที่ตอบ 2011-01-17 12:08:05 IP : 125.24.170.23


ความคิดเห็นที่ 261 (3233857)

 

พระองค์ทรงเป็นพระมหาบพิตรที่สถิตในดวงใจของปวงประชา
ผู้แสดงความคิดเห็น a วันที่ตอบ 2011-01-17 12:09:24 IP : 125.24.170.23


ความคิดเห็นที่ 262 (3234145)

 

ด้วยความภาคภูมิใจ จะจงรักภักดีไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์
ผู้แสดงความคิดเห็น AU วันที่ตอบ 2011-01-19 09:27:03 IP : 125.24.175.37


ความคิดเห็นที่ 263 (3234146)

 

ขอพระองค์ทรงพระเจริญ อยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของประชาชนตราบนานเท่านานเทอญ
ผู้แสดงความคิดเห็น AU วันที่ตอบ 2011-01-19 09:27:31 IP : 125.24.175.37


ความคิดเห็นที่ 264 (3234147)

 

พระบารมี มากล้น เหลือคณา
ปกเกศเกล้าชาวประชา สุขสันต์
ขอพระองค์ ทรงพระเจริญ นิรันดร์
เป็นมิ่งขวัญ อันยิ่งใหญ่ไทยทั้งมวล
ผู้แสดงความคิดเห็น AU วันที่ตอบ 2011-01-19 09:28:07 IP : 125.24.175.37


ความคิดเห็นที่ 265 (3234148)

 

ขอให้พระองค์มีพระพลานามัยแข็งแรง เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้พสกนิการชาวไทยตลอดไป
ผู้แสดงความคิดเห็น AU วันที่ตอบ 2011-01-19 09:28:34 IP : 125.24.175.37


ความคิดเห็นที่ 266 (3234149)

พระบิดาผู้มีบุญลงมาเกิด
เป็นบุญเจิดจรัสทั่วนภา
ทรงช่วยคิดทรงช่วยค้นและศึกษา
พระบิดาของชาติไทยใจสามัคคี
ขอพระองค์ทรงพระเจริญ

ผู้แสดงความคิดเห็น AU วันที่ตอบ 2011-01-19 09:29:17 IP : 125.24.175.37


ความคิดเห็นที่ 267 (3234151)

 

เป็นหยาดฝนโชยลมใจไทยทั่วถิ่น
เป็นเหมือนน้ำที่หลั่งรินให้กินใช้
พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ปัดเป่าภัย
ขอเกิดในใต้พระบาททุกชาติกาล
ผู้แสดงความคิดเห็น AU วันที่ตอบ 2011-01-19 09:32:55 IP : 125.24.175.65


ความคิดเห็นที่ 268 (3234255)

 

ไม่มีพื้นที่แห่งใดในประเทศไทย ที่พ่อไม่เคยเสด็จไปถึง
เพราะพ่อรู้ดีว่าพ่อคือพลังของแผ่นดิน
พวกเราจะตั้งมั่นทำความดี รู้รักสามัคคี
ปกป้องประเทศชาติ เพื่อถวายแด่พ่อหลวงของเรา
ผู้แสดงความคิดเห็น UU วันที่ตอบ 2011-01-20 08:34:57 IP : 125.24.167.255


ความคิดเห็นที่ 269 (3234256)

 

ในหลวงทรงเป็นประมุขที่ทรงงานเพื่อราษฏรของท่านตลอดพระชนชีพ
เราเป็นคนไทยดำเนินรอยตามพระบุคคลบาท
ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
ผู้แสดงความคิดเห็น UU วันที่ตอบ 2011-01-20 08:35:23 IP : 125.24.167.255


ความคิดเห็นที่ 270 (3234257)

 

ประเทศไทยของเรายังคงเป็นไทยได้จวบจนทุกวันนี้เพราะบารมีปกเกล้าของพระมหากษัตริย์ของไทยเราที่เสียสละทั้งใจและกายตรากตรำทำงาน
เพื่อชาติไทยเราดังนั้นเราพสกนิกรชาวไทยขอเทิดทูนไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์........ขอจงทรงพระเจริญ
ผู้แสดงความคิดเห็น UU วันที่ตอบ 2011-01-20 08:35:51 IP : 125.24.167.255


ความคิดเห็นที่ 271 (3234258)

 

ขอให้ประเทศไทยร่มเย็นเป็นสุข ด้วยพระบารมีในหลวงผู้สถิตในดวงใจไทยทั้งปวง
ขอจงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
ผู้แสดงความคิดเห็น UU วันที่ตอบ 2011-01-20 08:36:15 IP : 125.24.167.255


ความคิดเห็นที่ 272 (3234259)

 

 
ขอให้คนไทยรักกัน
สมัครสมานสามัคคีกันเพื่อในหลวงของเรา
ผู้แสดงความคิดเห็น UU วันที่ตอบ 2011-01-20 08:37:24 IP : 125.24.167.255


ความคิดเห็นที่ 273 (3234260)

 

จะเดินตามทางที่พ่อชี้แนะนำ
มุ่งกระทำผลประโยชน์ด้วยศักดิ์ศรี
พัฒนาคนเยาวชนเป็นคนดี
ไม่คิดหนีเบื่อหน่ายกับการงาน
ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
ผู้แสดงความคิดเห็น UU วันที่ตอบ 2011-01-20 08:37:46 IP : 125.24.167.255


ความคิดเห็นที่ 274 (3234261)

 

พระบารมีเหนือกษัตริย์ใดในหล้า
ทรงดำริสิ่งมีค่ามหาศาล
ยอมสละทุกสิ่งเพื่อกิจการ
ให้ทวยราษฎร์ทั่วทุกย่านได้ร่มเย็น
ผู้แสดงความคิดเห็น UU วันที่ตอบ 2011-01-20 08:38:13 IP : 125.24.167.255


ความคิดเห็นที่ 275 (3234436)

 

ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนานพลานามัยแข็งแรง
ขอให้พระองค์ทรงเป็นมิ่งขวัญของชาวไทยตราบชั่วกาลนิรันดร์
ขอพระองค์ทรงพระเจริญพร้อมด้วยพระวรกายที่สมบูรณ์และทรงพระเกษมสำราญเทอญ
ผู้แสดงความคิดเห็น oo วันที่ตอบ 2011-01-21 13:17:53 IP : 125.24.165.79


ความคิดเห็นที่ 276 (3234437)

 

เราคนไทย เรารัก เราเทิดทูน ในหลวงของเรา
ผู้แสดงความคิดเห็น oo วันที่ตอบ 2011-01-21 13:18:20 IP : 125.24.165.79


ความคิดเห็นที่ 277 (3234438)

 

พระองค์เปรียบเสมือนดวงใจของชาวไทย
และชาวไทยก็เปรียบเสมือนดั่งดวงพระหฤทัยของพระองค์
พระองค์ไม่เคยบ่นแม้เหน็ดเหนื่อยพระวรกาย
ลูกคนนี้ขอน้อมถวายความจงรักพักดี
ลูกคนนี้ขอใช้ชีวิตพอเพียงตามแนวทางของพระองค์
ลูกคนนี้จะเป็นคนดีที่รู้รักสามัคคี ตามแนวทางของ "พ่อ"
เพื่อให้พ่อชื่นใจ
ผู้แสดงความคิดเห็น oo วันที่ตอบ 2011-01-21 13:18:45 IP : 125.24.165.79


ความคิดเห็นที่ 278 (3234439)

 

ขอพระสิริสวัสดิ์พิพัฒนมงคล จงมีแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ขอจงปราศจากพระโรคาพาธขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนานเทอญ ขอถวายพระพรและขอพระองค์จงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
ผู้แสดงความคิดเห็น oo วันที่ตอบ 2011-01-21 13:19:14 IP : 125.24.165.79


ความคิดเห็นที่ 279 (3235852)

บ่อหมักสิ่งปฏิกูล วัดสวนแก้ว จังหวัดนนทบุรี

ความเป็นมา

                จากกระแสพระราชดำรัส เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2544 เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2544 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงตรัสเกี่ยวกับการจัดการสิ่งปฏิกูลว่า

                สิ่งโสโครกจากบ้านเรือนที่ให้เทศบาลสูบไป มักนำไปปล่อยลงคลอง ลงแม่น้ำ ถ้าหาที่แห่งหนึ่งนอกเมือง ทำถังหมักสิ่งโสโครกไว้ 10 วัน สิ่งที่เป็นสิ่งโสโครกก็หายโสโครกเชื้อโรคอะไรก็หมดไป ถ้าให้ดีเอาไว้ 28 วัน ให้มันจริงๆจังๆ พวกเชื้อที่ร้ายแรงที่ยังมีอยู่ก็หมด แม้แต่กลิ่นก็หายหมด เสร็จแล้วเอามาตากใช้ประโยชน์ได้ ทั้งส่วนที่เป็นของแข็งและส่วนที่เป็นน้ำเป็นปุ๋ยที่ไม่เหม็น เทศบาลต่างๆ ที่มีปัญหานี้ก็ต้องพยายามพิจารณาว่าจะทำอะไรต่อไป

จากกระแสพระราชดำรัสดังกล่าวข้างต้น จังหวัดนนทบุรี โดยผู้ว่าราชการจังหวัดในขณะนั้น นายสาโรจน์ คัชมาตย์ จึงได้มีการประชุมร่วมกันระหว่างส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อนำแนวทางตามโครงการ พระราชดำริฯ มาดำเนินการต่อไปด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและแก้ปัญหาการกำจัดสิ่งปฏิกูลที่ยังไม่ถูก สุขลักษณะอันเป็นสาเหตุ ของปัญหาสิ่งแวดล้อมอื่นๆ ด้วย

                สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 6 นนทบุรี ได้รับมอบหมายจากผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรีให้ออกแบบ และควบคุมการก่อสร้างบ่อหมักสิ่งปฏิกูลตามแนวพระราชดำริ ขนาดความจุ 15 ลูกบาศก์เมตร จำนวน 32 บ่อ ณ วัดสวนแก้ว จ. นนทบุรี ซึ่งพระอาจารย์พยอม กัลยาโณ ได้ให้ความอนุเคราะห์พื้นที่ก่อสร้างประมาณ 5 ไร่ ขณะนี้การก่อสร้างได้ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว

 วัตถุประสงค์

                เพื่อกำจัดสิ่งปฏิกูล โดยการหมักด้วยขบวนการไม่ใช้ออกซิเจน ป้องกันการแพร่กระจายเชื้อใน ระบบทางเดินอาหารและพยาธิ แล้วนำผลผลิตที่ได้ไปใช้ทำปุ๋ยสำหรับการเกษตร

 บ่อหมักสิ่งปฏิกูล

                บ่อหมักสิ่งปฏิกูล คือ บ่อที่สร้างขึ้นสำหรับกักเก็บสิ่งปฏิกูลจากรถดูดส้วมนำมาใส่ไว้ เพื่อให้เกิด การย่อยสลาย โดยแบคทีเรียตามธรรมชาติ การกำจัดสิ่งปฏิกูลโดยอาศัยขบวนการหมักย่อย สลายในถังปิดโดยไม่ใช้ออกซิเจน (Anaerobic Digestion) ซึ่งเติมครั้งเดียว (Batch Type Culture) ซึ่งเป็นผลการศึกษาวิจัยตามพระราชดำริ เมื่อ พ.ศ. 2523 ที่จังหวัดนนทบุรี โดยมี หน่วยงานสนองพระราชดำริ คือ กรมอนามัย มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และโรงพยาบาลบำราศนราดูร ผลการวิจัยทำให้ได้ระบบบำบัดที่นำไปใช้ปฏิบัติได้อย่างเหมาะสม ถูกลักการสุขาภิบาลและมีผลได้คือ น้ำและกากนำไปใช้เป็นปุ๋ยได้

 การก่อสร้างบ่อสิ่งปฏิกูล

                การก่อสร้างเริ่มดำเนินการในเดือนเมษายน 2545 โดยการปรับพื้นที่สร้างถนน และตอกเสาเข็ม ทำฐานรากบ่อหมักและส่วนประกอบของระบบบำบัดที่สำคัญดังนี้

1.        ถังหมักย่อยสลาย เป็นถังคอนกรีตเสริมเหล็กจำนวน 32 ถัง แต่ละถังมีความจุประมาณ 15 ลูกบาศก์เมตร เป็นรูปถังสี่เหลี่ยมมีความกว้าง 2.5 เมตร ยาว 4.50 เมตร สูง 1.5 เมตร หนา 0.1 เมตร มีท่อพี.วี.ซี.(PVC) ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 4 นิ้ว อยู่ที่ก้นถังด้านข้างเพื่อใช้เป็นท่อระบายน้ำและตะกอนซึ่งมีประตูน้ำเปิด - ปิด บนถังหมักย่อยสลายมีช่องคนลงขนาด0.5 x 0.5 ตารางเมตร พร้อมฝาปิด และมีท่อระบายอากาศ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 นิ้ว สูง 0.30 - 0.50 เมตร

2.        ลานตากตะกอน เป็นลานสี่เหลี่ยมผืนผ้า ก่ออิฐฉาบปูน ขนาดกว้างประมาณ 5.00 เมตร ยาว 6.70 เมตร สูง1.00 เมตร
แบ่งเป็นช่องๆ ขนาด 16 ช่อง ใช้สำหรับตากสิ่งปฏิกูลที่ผ่านการหมักจากถังหมักย่อยสลายแล้ว ภายในลานตากชั้นล่างจะบรรจุหินย่อยให้มีความหนาของชั้นหิน

3.        บ่อเก็บน้ำ หลังจากปล่อยสิ่งปฏิกูลลงสู่ลานทรายกรอง ส่วนที่เป็นน้ำจะไหลผ่านชั้นทราย และ ไปเก็บรวบรวมไว้ที่บ่อเก็บน้ำ น้ำที่ออกมาจะเป็นปุ๋ยน้ำและสามารถนำไปใช้ ประโยชน์รดน้ำต้นไม้หรือสวนสาธารณะ

4.        โรงเก็บปุ๋ย หลังจากที่ตากตะกอนที่ลานตากตะกอนจนแห้งแล้ว รวบรวมนำมาเก็บไว้ที่โรงเก็บปุ๋ย เพื่อจะได้นำมาใช้ประโยชน์ต่อไป

5.        ที่พักคนงาน ไว้สำหรับเป็นที่พักคนงาน ทำความสะอาด และดูแลรักษาระบบบำบัดสิ่งปฏิกูล ให้มีอายุใช้งานได้นาน และมีประสิทธิภาพ

 ผลที่คาดว่าจะได้รับ

การกำจัดสิ่งปฏิกูลตามโครงการพระราชดำริฯ มีประโยชน์เป็นอย่างยิ่งเพราะเป็นการกำจัด สิ่งปฏิกูลที่ถูกหลักสุขาภิบาล เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินงานสาธารณสุขของประเทศ ในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้น ซึ่งจะทำให้อัตราการป่วยและพยาธิลำไส้ลดน้อยลง ลดการสูญเสียของประเทศจากการที่รัฐจะต้องใช้จ่ายงบประมาณในการสร้างโรงพยาบาล ดูแลรักษาพยาบาลผู้ป่วยด้วยโรคทางเดินอาหารและโรคพยาธิลำไส้ ผู้ป่วยต้องจ่ายค่ารักษา พยาบาล ต้องหยุดงาน ขาดรายได้ ในทางกลับกันหากประชาชนมีสุขภาพดี จะสามารถประกอบอาชีพมีรายได้ ทำให้เศรษฐกิจของประเทศดีด้วย นอกจากนี้ยังสามารถนำสิ่งปฏิกูลมาใช้เป็นปุ๋ยอินทรีย์ที่ปลอดภัย ทำให้ประเทศสามารถ ประหยัดเงินในการสั่งซื้อปุ๋ยเคมีจากต่างประเทศมาใช้ในประเทศได้จำนวนมาก ส่วนปุ๋ยจากกากสิ่งปฏิกูลที่ผ่านการหมักย่อยสลาย ช่วยทำให้คุณภาพของดินดีขึ้น

 

ผู้แสดงความคิดเห็น กธก.กร.ทบ. วันที่ตอบ 2011-02-03 06:53:51 IP : 203.113.97.9


ความคิดเห็นที่ 280 (3235853)

โครงการก่อสร้างสะพานมัฆวานรังสรรค์

       พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำริให้กรุงเทพมหานครแก้ไขปัญหาจราจรบริเวณ สะพานมัฆวานรังสรรค์ ถนนราชดำเนินนอก เพื่อให้การจราจรเป็นไปอย่างต่อเนื่องและสัมพันธ์กับบริเวณ เชิงสะพานผ่านฟ้าลีลาศ สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ในการก่อสร้างกรุงเทพมหานครได้คำนึงถึงความกลมกลืนเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมของสะพานมัฆวานรังสรรค์ และความสวยงาม โดยก่อสร้างสะพานคู่ขนานกับสะพานเดิมจำนวน 2 สะพาน ไม่ต้องย้ายน้ำพุ และให้มีระดับความสูงน้อยกว่าสะพานมัฆวานรังสรรค์ สะพานคู่ขนานทั้ง 2 สะพาน นี้มีความกว้างสะพานละ 15.00 เมตร มีผิวจราจร 10.00 เมตร ขนาด 3 ช่องทางจราจร มีความยาวสะพานละ 22.00 เมตร และมีการปรับปรุงเชิงลาดสะพานและส่วนต่อเนื่องด้วย 
      เริ่มดำเนินการก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 2 สิงหาคม 2537 แล้วเสร็จเปิดการจราจรในวันที่ 2 ธันวาคม 2537 รวมงบประมาณที่ใช้ในการก่อสร้างทั้งสิ้น 40 ล้านบาทและใช้งบประมาณตกแต่งศิลปกรรมจำนวน 3.6 ล้านบาท

 

ผู้แสดงความคิดเห็น กธก.กร.ทบ. วันที่ตอบ 2011-02-03 06:54:27 IP : 203.113.97.9


ความคิดเห็นที่ 281 (3235854)

โครงการพระราชดำริถนนคู่ขนานลอยฟ้า ถนนบรมราชชนนี

   เนื่องจากปริมาณการจราจรที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะจากเชิงสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าจนถึงทางแยกสิรินธรทำให้ช่องทางการจราจรที่มีอยู่ 8 ช่องทาง ไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้พื้นที่ถนนที่เพิ่มขึ้น วิธีการแก้ไขปัญหาดังกล่าว จะต้องเพิ่มพื้นผิวการจราจรให้มากขึ้น แต่การเพิ่มพื้นที่ในระดับราบนั้นกระทำได้ยาก เนื่องจากริมถนนทั้งสองด้านเต็มไปด้วย ตึก, อาคาร และสำนักงานต่างๆ มากมาย ดังนั้น วิธีแก้ปัญหาที่เหมาะสมที่สุดคือ การเพิ่มพื้นที่จราจรด้วยการสร้างทางยกระดับขึ้นช่วงหนึ่ง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับการจราจรได้มากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
                โครงการฯ นี้เป็นโครงการหนึ่งซึ่งสนองพระบรมราโชบาย ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระมหากรุณาคุณให้พสกนิกร เพื่อแก้ไขปัญหาจราจรที่ติดขัด จากเชิงสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าจนถึงทางแยกสิรินธร ซึ่ง กทม. ได้ดำเนินการตามพระราโชบายโดยรอบคอบและเร่งด่วน เพื่อประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาจราจรในจุดสำคัญอีกจุดหนึ่งตามพระราชประสงค์
                ลักษณะโครงการเป็นสะพานยกระดับ สร้างขึ้นเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับการจราจร จากบริเวณสะพานปิ่นเกล้าจนถึงทางแยกตลิ่งชันถนนบรมราชชนนีทั้งขาเข้าและขาออก และเพื่อแยกการจราจรของยวดยานที่ต้องการเดินทางระยะไกลออกจากยวดยานที่เดินทางในระยะใกล้ ตั้งแต่สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ จนถึงทางแยกตลิ่งชันบนถนนบรมราชชนนี เริ่มที่เกาะกลางจากแยกอรุณอมรินทร์ถึงพุทธมณฑลสาย 2 โดยขาออกจะขึ้นที่แยกอรุณอมรินทร์ ลงได้ 3 จุดที่ตลิ่งชันหน้าหมู่บ้านกฤษดานคร และใกล้วงแหวนฉิมพลี ไม่มีทางขึ้นระหว่างทาง ส่วนขาเข้าขึ้นที่ต้นทางก่อนถึงพุทธมณฑลสาย 2 ขึ้นได้ที่หน้าหมู่บ้านกฤษดานครและตลิ่งชัน และจะไม่มีทางลงระหว่างทาง โดยแบ่งความรับผิดชอบการก่อสร้างโครงการฯ เป็น 2 ส่วน คือ

1. โครงการทางคู่ขนานลอยฟ้า ถนนบรมราชชนนี ตอนปิ่นเกล้าทางแยกต่างระดับสิรินธร เริ่มดำเนินการตั้งแต่บริเวณทางแยกอรุณอมรินทร์ ถึงทางแยกต่างระดับสิรินธร ความยาวทั้งสิ้นประมาณ 4,515 กิโลเมตรมอบให้กรุงเทพมหานครรับผิดชอบดำเนินงาน

2. โครงการต่อเนื่องจากทางคู่ขนานลอยฟ้า ถนนบรมราชชนนี ตอนทางแยกต่างระดับสิรินธร ทางแยกต่างระดับฉิมพลี เริ่มดำเนินการต่อเชื่อมกับโครงการทางคู่ขนานลอยฟ้า ถนนบรมราชชนนีของกรุงเทพมหานคร บริเวณทางแยกต่างระดับสิรินธร และสิ้นสุดโครงการบริเวณเลยจุดข้ามทางแยกพุทธมณฑลสาย 2 ไปประมาณ 500 เมตร ความยาวทั้งสิ้นประมาณ 9,363 กิโลเมตรมอบให้กรมทางหลวงรับผิดชอบดำเนินการ
ลักษณะโครงการฯ

            ในช่วงที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรุงเทพมหานคร เป็นทางยกระดับโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก และคอนกรีตอัดแรง บนถนนบรมราชชนนี สูงเหนือผิวจราจรเดิมประมาณ 12.00 เมตร กว้าง 19.45 เมตร มีช่องทางจราจร 4 ช่องทาง ช่องทางละ 3.50 เมตร ไหล่ทางข้างละ 1.25 เมตร แบ่งเป็นช่องทางขาออก 2 ช่องทาง และช่องทางขาเข้า 2 ช่องทาง พื้นผิวจราจรคอนกรีตเสริมเหล็กและปูทับหน้าด้วยแอสฟัลท์ผสมร้อนหนา 5 เซนติเมตร พร้อมเกาะกลางเพื่อแยกทิศทางการจราจรรวมทั้งงานติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่างบนทางยกระดับ และระบบระบายน้ำ งานปรับปรุงพื้นผิวจราจรเดิม งานภูมิสถาปัตย์ และติดตั้งเครื่องหมายจราจรระยะทางรวม 4,515 กิโลเมตร

 

ผู้แสดงความคิดเห็น กธก.กร.ทบ. วันที่ตอบ 2011-02-03 06:54:55 IP : 203.113.97.9


ความคิดเห็นที่ 282 (3235855)

โครงการก่อสร้างถนนเลียบรถไฟสายใต้ (สายบางกอกน้อย)

                พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงใช้ช่วงเวลาเสด็จฯ ไปโรงพยาบาลศิริราชเพียงไม่นานได้ทรงงานและทรงศึกษาสภาพพื้นที่บริเวณโดยรอบอย่างละเอียดจึงมีพระราชดำริว่า สามารถขยายแนวถนนเลียบทางรถไฟสายธนบุรี จากช่วงปลายถนนอิสรภาพ ถึงถนนจรัญสนิทวงศ์ ซึ่งสภาพเดิมจากปลายถนนอิสรภาพเข้าไปประมาณ 230 เมตร เป็นถนนคอนกรีต ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 380 เมตรเป็นที่ลุ่ม มีบ้านเรือน เพิงพักอาศัย และมีทางเดินตามแนวทางรถไฟ จนถึงถนนจรัญสนิทวงศ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำรัสถึงแนวพระราชดำริในการตัดถนนสายนี้ตอนหนึ่งว่าต่อไป โครงการที่ 3 คือ สร้างทางในที่ที่ยังไม่มีทาง. อันนี้เกิดขึ้นที่ใกล้สถานีบางกอกน้อยระหว่างสถานีบางกอกน้อย คือ ปลายถนนอิสรภาพเชื่อมกับถนนจรัญสนิทวงศ์. ตรงนั้นเป็นที่ของการรถไฟ เป็นที่ลุ่มมีทางเดินเข้าไป ไม่ทะลุแล้วก็ขลุกขลัก. ทางกรงเทพมหานครได้ไปจัดการ. มีบ้านคนที่บุกรุกที่ของรถไฟบ้าง. แต่ก็ได้ย้ายบ้านเหล่านั้น เข้าใจว่าเป็นที่พอใจของผู้บุกรุก ให้ที่เขาอยู่ ไม่เดือดร้อน. ทางกำลังสร้างยังไม่เสร็จ. ต้องถมทรายเดี๋ยวนี้ได้กรุยมาเรียบร้อย เป็นระยะ 600 เมตร ยังไม่ได้มีการถม ยังไม่ครบ. แต่เมื่อครบแล้วก็จะเป็นทางที่จะทะลุ จากถนนอิสรภาพซึ่งต้น. ถนนอิสรภาพนี่ต้องเลี้ยวขวามาเข้าที่ถนนอรุณอมรินทร์. จากตรงนั้นก็สามารถเชื่อมจรัญสนิทวงศ์. เข้าใจว่าจะช่วยการสัญจรขึ้นเล็กน้อย. โครงการนี้ได้ให้เงินส่วนหนึ่ง แต่ว่าไม่พอ ต้องใช้เงินงบของกรุงเทพมหานคร และเงินบริจาคเพิ่มเติม. ราคาก็ไม่ใช่น้อยแต่ก็จะช่วยแก้ปัญหาจราจร.เมื่อกรุงเทพมหานครรับสนองแนวพระราชดำริแล้ว ได้ขออนุญาตใช้ที่ดดินริมทางรถไฟสายธนบุรีในพื้นที่เขตบางกอกน้อย ช่วงปลายถนนอิสรภาพถึงถนนจรัญสนิทวงศ์จากการทางรถไปแห่งประเทศไทย เพื่อก่อสร้างเป็นถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก 2 ช่องจราจร มีระยะทาง 610 เมตร มีเขตทางกว้าง 10 เมตร เริ่มดำเนินการก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 19 ตุลาคม 2536 งบประมาณดำเนินการ 16.5 ล้านบาท และได้เปิดการจราจรอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2537 โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานนามถนนสายนี้ว่าถนนสุทธาวาสตามชื่อวัดที่ตั้งอยู่ในบริเวณดังกล่าว

        ถนนสุทธาวาส ได้ช่วยบรรเทาปริมาณรถยนต์ที่ผ่านถนนจรัญสนิทวงศ์ บรรจบกับถนนพรานนก(สามแยกไฟฉาย) ให้น้อยลง ซึ่งทำให้การจราจรที่ถนนจรัญสนิทวงศ์คล่องตัวขึ้น นอกจากนี้ ถนนสายนี้ยังเป็นเส้นทางอีกเส้นทางหนึ่งที่จะไปสู่จุดชุมชนในย่านสำคัญๆ เช่น สถานีรถไฟสายธนบุรี โรงพยาบาลศิริราช ตลาดพรานนกได้อีกด้วย

 

ผู้แสดงความคิดเห็น กธก.กร.ทบ. วันที่ตอบ 2011-02-03 06:55:25 IP : 203.113.97.9


ความคิดเห็นที่ 283 (3238182)

โครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดาเป็นโครงการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงริเริ่มดำเนินการทดลองการแปรรูปผลิตผลการเกษตรขึ้นในพระราชวังตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๐๔

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชได้พระราชทานทรัพย์ส่วน พระองค์สร้างโครงการอันหลากหลายในโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา เพื่อเป็นโรงงานตัวอย่างและพระราชทานโอกาสให้บุคคลกลุ่มต่าง ๆ ที่สนใจ " ดูกิจการได้ทุกเมื่อ " ในแต่ละปีจึงมีผู้เข้ามาศึกษาดูงานโครงการต่าง ๆ เกือบ ๒๐,๐๐๐ คนต่อปี ลักษณะของโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา แบ่งออกเป็น ๒ ประเภทคือ

โครงการแบบไม่ใช่ธุรกิจ เป็นโครงการสนองแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เกี่ยวกับการพัฒนาประสิทธิภาพการผลิตทางการเกษตร ทรงให้ความสำคัญกับการเพิ่มพูนคุณภาพชีวิตของเกษตรกร โดยมีแนวทางที่สำคัญคือ ทำให้เกษตรกรสามารถพึ่งตนเองได้ทางด้านอาหาร และสนับสนุนให้มีรายได้เพิ่มขึ้นนอกเหนือ ไปจากภาคเกษตร อีกทั้งเน้นการพัฒนาและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ โครงการเหล่านี้ได้แก่ โครงการเกี่ยวกับปลานิล ป่าไม้สาธิต นาข้าวทดลองข้าวไร่ การผลิตแก๊สชีวภาพ ปุ๋ยอินทรีย์ เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืช สวนพืชสมุนไพร สาหร่ายเกลียวทองโครงการทดลองปลูกพืชโดยปราศจากดิน

ทั้งในด้านอยู่ดีกินดีและเสริมสร้างรายได้ โครงการต่าง ๆ เหล่านี้ได้แก่ โรงโคนมสวนจิตรลดา เริ่มจากในปี พ.ศ. ๒๕๐๕ ได้มีบริษัทและหน่วยราชการน้อมเกล้าฯ ถวายโค ๖ ตัว ซึ่งเป็นโคตั้งท้องแล้ว ๔ ตัว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์สำหรับสร้างโรงงานโคนม ราคา ๓๒,๘๘๖. ๗๓ บาท ขึ้นในบริเวณสวนจิตรลดา ต่อมาเมื่อแม่โคตกลูกและเริ่มทำการรีดนม น้ำนมที่เหลือจากการแบ่งให้ลูกโคกินแล้ว ได้นำไปจำหน่าย เมื่อมีจำนวนโคนมเพิ่มขึ้น ทั้งจากแม่โคที่ให้ลูกทุกปี และมีผู้น้อมเกล้าฯ ถวายสมทบ ทำให้สามารถผลิตน้ำนมออกจำหน่ายแก่บุคคลภายนอกและโรงเรียนต่าง ๆ ในละแวกใกล้เคียง เมื่อมีกำไรสะสมมากยิ่งขึ้น ก็ได้ขยายงานออกไปตามลำดับทั้งในด้านการผลิตน้ำนม คุณภาพนมดิบ และการส่งเสริมอาชีพแก่เกษตรกร ผลพลอยได้จากโรงโคนมคือ มูลโคซึ่งเมื่อนำมาหมักจะได้ " ไบโอแก๊ส " หรือ " แก๊สชีวภาพ " สำหรับเป็นเชื้อเพลิง กากจากบ่อหมักแก๊สชีวภาพยังสามารถใช้ทำเป็นปุ๋ย มูลโคที่เป็นสารละลายที่อยู่ในถังหมัก ส่วนหนึ่งนำไปใช้สำหรับเพาะเลี้ยงสาหร่ายเกลียวทอง ซึ่งสามารถนำไปทำอาหารสำเร็จรูปสำหรับเลี้ยงปลาอีกส่วนหนึ่งทำเป็นปุ๋ยใส่ แปลงพืชอาหารสัตว์ และบางส่วนนำไปใช้สำหรับบำรุงบ่อเพาะพันธุ์ปลานิล

โรงนมผงสวนดุสิต โรงนมผงสวนดุสิตตั้งขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๑๒ เนื่องจากเกิดภาวะนมสดล้นตลาด สมาชิกผู้เลี้ยงโคนมจึงได้ทูลเกล้าถวายฎีกาให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงช่วยเหลือ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างโรงนมผงขนาดย่อมขึ้น เพื่อผลิตนมผงเป็นการแก้ปัญหานมสดล้นตลาด น้ำกลั่น น้ำกลั่นเป็นผลผลิตพลอยได้จากเครื่องระเหยนมซึ่งมีความบริสุทธิ์ค่อนข้าง สูงและมีมากพอที่จะนำไปผลิตเป็นน้ำกลั่นเพื่อใช้เติมแบตเตอรี่รถยนต์และใช้ ดื่มได้

โรงเนยแข็ง โครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดาได้สร้างโรงเนยแข็งน้อมเกล้าถวายในวโรกาส เฉลิมพระชนมพรรษา ๕ รอบ พุทธศักราช ๒๕๓๐ และคณะกรรมการบริหารของบริษัท ซี . ซี . ฟรีสแลนด์ ประเทศเนเธอร์แลนด์ได้ร่วมน้อมเกล้าถวายอุปกรณ์สำหรับการผลิตเนยแข็ง ปัจจุบันโรงเนยแข็งสามารถผลิตผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ออกสู่ตลาด เช่น นมข้นหวานบรรจุหลอด นมเปรี้ยวพร้อมดื่มรสต่าง ๆ ไอศครีม นมสดพาสเจอร์ไรซ์ปราศจากไขมัน เนยแข็งเกาด้า เนยแข็งเช็ดด้า และเนยสด โรงนมเม็ด โครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา เคยผลิตนมเม็ดเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๒ แต่ประสบปัญหาทางเทคนิคทำให้ไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ ต่อมาเมื่อ พ.ศ.๒๕๒๗ โครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดาได้จัดทำโรงนมเม็ดขึ้นใหม่เพื่อเป็นการส่ง เสริมโภชนาการแก่ผู้บริโภค และเพื่อเป็นการแนะนำการผลิตนมเม็ดขึ้นในประเทศ ปัจจุบันสามารถผลิตนมเม็ดได้วันละ ๗,๐๐๐ - ๑๒,๐๐๐ ซองต่อวัน มีทั้งสิ้น ๓ รส คือรสหวาน รสกาแฟ และรสช็อกโกแลต ซึ่งได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง

เดือนตุลาคม พ.ศ. ๒๕๓๗ โครงการส่วนพระองค์สวนจิตร ร่วมกับบริษัทสุราทิพย์ได้ขยายกำลังผลิตแอลกอฮอล์เพื่อให้มีพอใช้ผลสมกับ น้ำมันเบนซินเป็นแก๊สโซฮอล์สำหรับรถยนต์ทุกคันของโครงการที่ใช้เบนซิน และในวันที่ ๑๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๓๙ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จพระราชดำเนินเปิดสถานีบริการแก๊สโซฮอล์ในโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา งานทดลองผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิงแบ่งเป็นหน่วยย่อย คือ ๑ . โรงแอลกอฮอล์ทำหน้าที่ ผลิตเอทธิลแอลกอฮอล์ความเข้มข้นร้อยละ ๙๕ และผลิตน้ำส้มสายชูจากสับปะรดและเศษผลไม้อื่น ๆ ๒ . โรงอัดแกลบ ทำหน้าที่ผลิตแกลบอัดแท่งและเผาถ่านจากแกลบอัดเพื่อจำหน่ายและใช้เป็นเชื้อ เพลิงสำหรับเครื่องกำเนิดไอน้ำของโรงกลั่นแอลกอฮอล์ ๓ . งานพิเศษตามที่ได้รับมอบหมายให้ดูแล ได้แก่ บ้านพลังแสงอาทิตย์ เพื่อใช้ในการศึกษาทอลองเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากพลังแสงอาทิตย์ และระบบนำน้ำเสียกลับมาใช้รดน้ำต้นไม้ และเป็นน้ำหล่อเย็นในการผลิตเทียนของโรงหล่อเทียนหลวงของสวนจิตรลดา น้ำผลไม้พาสเจอร์ไรซ์ การผลิตน้ำผลไม้พาสเจอร์ไรซ์ได้เริ่มผลิตตั้ง แต่ปี พ.ศ. ๒๕๒๗ โดยผลิตน้ำส้ม น้ำอ้อย น้ำกระเจี๊ยบ และน้ำขิงออกจำหน่าย และส่งเสริมให้เกษตรจัดตั้งกลุ่มดำเนินงานในรูปของสหกรณ์เกษตร โรงน้ำผลไม้บรรจุกระป๋อง เริ่มโครงการเมื่อปลายเดือนมกราคม พ.ศ. ๒๕๓๕ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการตั้งโรงงานขนาดเล็ก ต้นทุนการผลิต การตลาดที่จะผลิตผลไม้บรรจุกระป๋องเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนดื่มน้ำผลไม้มาก ขึ้น น้ำผลไม้บรรจุกระป๋องของโครงการมีหลายชนิด เช่น น้ำมะม่วง น้ำตะไคร้ น้ำเห็ดหลินจือผสมน้ำผึ้ง น้ำสับปะรด น้ำกาแฟ น้ำมะนาวผสมน้ำผึ้ง เป็นต้น สาหร่ายเกลียวทอง ในปี พ.ศ. ๒๕๒๙ งานวิจัยและพัฒนาโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา ได้นำน้ำกากมูลหมักซึ่งเป็นผลพลอยได้จากการผลิตแก๊สชีวภาพมาใช้เลี้ยง สาหร่ายเกลียวทอง และนำไปใช้เป็นส่วนผสมในการผลิตอาหารปลา

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น กธก.กร.ทบ. วันที่ตอบ 2011-02-24 10:57:37 IP : 203.113.97.167


ความคิดเห็นที่ 284 (3238184)

โครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดาเป็นโครงการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงริเริ่มดำเนินการทดลองการแปรรูปผลิตผลการเกษตรขึ้นในพระราชวังตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๐๔

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชได้พระราชทานทรัพย์ส่วน พระองค์สร้างโครงการอันหลากหลายในโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา เพื่อเป็นโรงงานตัวอย่างและพระราชทานโอกาสให้บุคคลกลุ่มต่าง ๆ ที่สนใจ " ดูกิจการได้ทุกเมื่อ " ในแต่ละปีจึงมีผู้เข้ามาศึกษาดูงานโครงการต่าง ๆ เกือบ ๒๐,๐๐๐ คนต่อปี ลักษณะของโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา แบ่งออกเป็น ๒ ประเภทคือ

โครงการแบบไม่ใช่ธุรกิจ เป็นโครงการสนองแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เกี่ยวกับการพัฒนาประสิทธิภาพการผลิตทางการเกษตร ทรงให้ความสำคัญกับการเพิ่มพูนคุณภาพชีวิตของเกษตรกร โดยมีแนวทางที่สำคัญคือ ทำให้เกษตรกรสามารถพึ่งตนเองได้ทางด้านอาหาร และสนับสนุนให้มีรายได้เพิ่มขึ้นนอกเหนือ ไปจากภาคเกษตร อีกทั้งเน้นการพัฒนาและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ โครงการเหล่านี้ได้แก่ โครงการเกี่ยวกับปลานิล ป่าไม้สาธิต นาข้าวทดลองข้าวไร่ การผลิตแก๊สชีวภาพ ปุ๋ยอินทรีย์ เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืช สวนพืชสมุนไพร สาหร่ายเกลียวทองโครงการทดลองปลูกพืชโดยปราศจากดิน

ทั้งในด้านอยู่ดีกินดีและเสริมสร้างรายได้ โครงการต่าง ๆ เหล่านี้ได้แก่ โรงโคนมสวนจิตรลดา เริ่มจากในปี พ.ศ. ๒๕๐๕ ได้มีบริษัทและหน่วยราชการน้อมเกล้าฯ ถวายโค ๖ ตัว ซึ่งเป็นโคตั้งท้องแล้ว ๔ ตัว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์สำหรับสร้างโรงงานโคนม ราคา ๓๒,๘๘๖. ๗๓ บาท ขึ้นในบริเวณสวนจิตรลดา ต่อมาเมื่อแม่โคตกลูกและเริ่มทำการรีดนม น้ำนมที่เหลือจากการแบ่งให้ลูกโคกินแล้ว ได้นำไปจำหน่าย เมื่อมีจำนวนโคนมเพิ่มขึ้น ทั้งจากแม่โคที่ให้ลูกทุกปี และมีผู้น้อมเกล้าฯ ถวายสมทบ ทำให้สามารถผลิตน้ำนมออกจำหน่ายแก่บุคคลภายนอกและโรงเรียนต่าง ๆ ในละแวกใกล้เคียง เมื่อมีกำไรสะสมมากยิ่งขึ้น ก็ได้ขยายงานออกไปตามลำดับทั้งในด้านการผลิตน้ำนม คุณภาพนมดิบ และการส่งเสริมอาชีพแก่เกษตรกร ผลพลอยได้จากโรงโคนมคือ มูลโคซึ่งเมื่อนำมาหมักจะได้ " ไบโอแก๊ส " หรือ " แก๊สชีวภาพ " สำหรับเป็นเชื้อเพลิง กากจากบ่อหมักแก๊สชีวภาพยังสามารถใช้ทำเป็นปุ๋ย มูลโคที่เป็นสารละลายที่อยู่ในถังหมัก ส่วนหนึ่งนำไปใช้สำหรับเพาะเลี้ยงสาหร่ายเกลียวทอง ซึ่งสามารถนำไปทำอาหารสำเร็จรูปสำหรับเลี้ยงปลาอีกส่วนหนึ่งทำเป็นปุ๋ยใส่ แปลงพืชอาหารสัตว์ และบางส่วนนำไปใช้สำหรับบำรุงบ่อเพาะพันธุ์ปลานิล

โรงนมผงสวนดุสิต โรงนมผงสวนดุสิตตั้งขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๑๒ เนื่องจากเกิดภาวะนมสดล้นตลาด สมาชิกผู้เลี้ยงโคนมจึงได้ทูลเกล้าถวายฎีกาให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงช่วยเหลือ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างโรงนมผงขนาดย่อมขึ้น เพื่อผลิตนมผงเป็นการแก้ปัญหานมสดล้นตลาด น้ำกลั่น น้ำกลั่นเป็นผลผลิตพลอยได้จากเครื่องระเหยนมซึ่งมีความบริสุทธิ์ค่อนข้าง สูงและมีมากพอที่จะนำไปผลิตเป็นน้ำกลั่นเพื่อใช้เติมแบตเตอรี่รถยนต์และใช้ ดื่มได้

โรงเนยแข็ง โครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดาได้สร้างโรงเนยแข็งน้อมเกล้าถวายในวโรกาส เฉลิมพระชนมพรรษา ๕ รอบ พุทธศักราช ๒๕๓๐ และคณะกรรมการบริหารของบริษัท ซี . ซี . ฟรีสแลนด์ ประเทศเนเธอร์แลนด์ได้ร่วมน้อมเกล้าถวายอุปกรณ์สำหรับการผลิตเนยแข็ง ปัจจุบันโรงเนยแข็งสามารถผลิตผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ออกสู่ตลาด เช่น นมข้นหวานบรรจุหลอด นมเปรี้ยวพร้อมดื่มรสต่าง ๆ ไอศครีม นมสดพาสเจอร์ไรซ์ปราศจากไขมัน เนยแข็งเกาด้า เนยแข็งเช็ดด้า และเนยสด โรงนมเม็ด โครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา เคยผลิตนมเม็ดเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๒ แต่ประสบปัญหาทางเทคนิคทำให้ไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ ต่อมาเมื่อ พ.ศ.๒๕๒๗ โครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดาได้จัดทำโรงนมเม็ดขึ้นใหม่เพื่อเป็นการส่ง เสริมโภชนาการแก่ผู้บริโภค และเพื่อเป็นการแนะนำการผลิตนมเม็ดขึ้นในประเทศ ปัจจุบันสามารถผลิตนมเม็ดได้วันละ ๗,๐๐๐ - ๑๒,๐๐๐ ซองต่อวัน มีทั้งสิ้น ๓ รส คือรสหวาน รสกาแฟ และรสช็อกโกแลต ซึ่งได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง

เดือนตุลาคม พ.ศ. ๒๕๓๗ โครงการส่วนพระองค์สวนจิตร ร่วมกับบริษัทสุราทิพย์ได้ขยายกำลังผลิตแอลกอฮอล์เพื่อให้มีพอใช้ผลสมกับ น้ำมันเบนซินเป็นแก๊สโซฮอล์สำหรับรถยนต์ทุกคันของโครงการที่ใช้เบนซิน และในวันที่ ๑๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๓๙ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จพระราชดำเนินเปิดสถานีบริการแก๊สโซฮอล์ในโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา งานทดลองผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิงแบ่งเป็นหน่วยย่อย คือ ๑ . โรงแอลกอฮอล์ทำหน้าที่ ผลิตเอทธิลแอลกอฮอล์ความเข้มข้นร้อยละ ๙๕ และผลิตน้ำส้มสายชูจากสับปะรดและเศษผลไม้อื่น ๆ ๒ . โรงอัดแกลบ ทำหน้าที่ผลิตแกลบอัดแท่งและเผาถ่านจากแกลบอัดเพื่อจำหน่ายและใช้เป็นเชื้อ เพลิงสำหรับเครื่องกำเนิดไอน้ำของโรงกลั่นแอลกอฮอล์ ๓ . งานพิเศษตามที่ได้รับมอบหมายให้ดูแล ได้แก่ บ้านพลังแสงอาทิตย์ เพื่อใช้ในการศึกษาทอลองเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากพลังแสงอาทิตย์ และระบบนำน้ำเสียกลับมาใช้รดน้ำต้นไม้ และเป็นน้ำหล่อเย็นในการผลิตเทียนของโรงหล่อเทียนหลวงของสวนจิตรลดา น้ำผลไม้พาสเจอร์ไรซ์ การผลิตน้ำผลไม้พาสเจอร์ไรซ์ได้เริ่มผลิตตั้ง แต่ปี พ.ศ. ๒๕๒๗ โดยผลิตน้ำส้ม น้ำอ้อย น้ำกระเจี๊ยบ และน้ำขิงออกจำหน่าย และส่งเสริมให้เกษตรจัดตั้งกลุ่มดำเนินงานในรูปของสหกรณ์เกษตร โรงน้ำผลไม้บรรจุกระป๋อง เริ่มโครงการเมื่อปลายเดือนมกราคม พ.ศ. ๒๕๓๕ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการตั้งโรงงานขนาดเล็ก ต้นทุนการผลิต การตลาดที่จะผลิตผลไม้บรรจุกระป๋องเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนดื่มน้ำผลไม้มาก ขึ้น น้ำผลไม้บรรจุกระป๋องของโครงการมีหลายชนิด เช่น น้ำมะม่วง น้ำตะไคร้ น้ำเห็ดหลินจือผสมน้ำผึ้ง น้ำสับปะรด น้ำกาแฟ น้ำมะนาวผสมน้ำผึ้ง เป็นต้น สาหร่ายเกลียวทอง ในปี พ.ศ. ๒๕๒๙ งานวิจัยและพัฒนาโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา ได้นำน้ำกากมูลหมักซึ่งเป็นผลพลอยได้จากการผลิตแก๊สชีวภาพมาใช้เลี้ยง สาหร่ายเกลียวทอง และนำไปใช้เป็นส่วนผสมในการผลิตอาหารปลา

ผู้แสดงความคิดเห็น กธก.กร.ทบ. วันที่ตอบ 2011-02-24 11:27:32 IP : 203.113.97.167


ความคิดเห็นที่ 285 (3238510)

ท่านผู้อ่านได้ความรู้ซึ่งท่านยังไม่รู้มาก่อน....นับว่าเป้นเรื่องที่ดี ที่ท่านได้รับความรู้เพิ่มมากขึ้น...

ผมขอขอบคุณ.. กธก.กร.ทบ.

ท่านกรุณาบอกตัวเต็มหน่วยงานของท่านก็ดีมาก ๆ ครับ เพราะคนทั่วจะไม่ทราบว่าว่า ตัวเต็มคืออะไร...

ขอขอบคุณอีกครั้ง

พันตรีศิริชัย  ทรัพย์ศิริ

นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

27-02-11

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2011-02-27 17:11:12 IP : 124.121.18.72


ความคิดเห็นที่ 286 (3238689)

โครงการสาธิตการเลี้ยงปลานิลในบ่อดิน

ที่ตั้งโครงการ

บ้านทุ่งกระเทียม ต.ภูซาง อ.ภูซาง จ.พะเยา

พระราชดำริของ

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

สรุปพระราชดำริ

ทรงทราบว่าชาวบ้านทุ่งกระเทียมประสบปัญหาราคากระเทียมตกต่ำ จึงทรงพระราชทานพระราชกระแสให้สำนักงานมูลนิธิชัยพัฒนาดำเนินการช่วยเหลือให้มีการจัดตั้งกลุ่มปลูกพืชหลังนา โดยคัดเลือกเกษตรกรที่เป็นสมาชิกกลุ่มผู้ใช้น้ำห้วยไฟ พร้อมแต่งตั้งคณะกรรมการ ต่อมาจังหวัดพะเยาและมูลนิธิชัยพัฒนาได้เสนอให้ตั้งเป็น "ศูนย์การเรียนรู้พัฒนาการเกษตรอ่างเก็บน้ำห้วยไฟ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ"

วัตถุประสงค์ของโครงการ

1. เพื่อสร้างจุดสาธิตการเลี้ยงปลานิล เป็นแนวทางในการส่งเสริมให้เกษตรกรได้เรียนรู้และเกิดทักษะ สามารถเลี้ยงเป็นอาชีพเสริม หรืออาชีพหลักต่อไป
2. เพื่อให้เกษตรกรมีอาหารประเภทโปรตีนจากปลาที่ปลอดภัยไว้บริโภคในครัวเรือน
3. เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้เสริม ทำให้เกิดความมั่นคง และยั่งยืนในการประกอบอาชีพ

หน่วยงานผู้รับผิดชอบ

สำนักงานประมงจังหวัดพะเยา

ประเภทของโครงการ

ส่งเสริมอาชีพ

สรุปลักษณะโครงการ

1. คัดเลือกบ่อเลี้ยงปลาของเกษตรที่อยู่ใกล้เคียงอ่างเก็บน้ำห้วยไฟ
2. ดำเนินการฝึกอบรมให้ความรู้ด้านการเลี้ยงปลานิลแก่เจ้าของบ่อสาธิต และเกษตรกรที่สนใจ
3. การเลี้ยงปลาในปีแรก กรมประมงเป็นผู้สนับสนุนปัจจัยการผลิตทั้งหมด และผลผลิตปลาที่ได้มอบให้แก่เจ้าของบ่อสาธิตทั้งหมด ส่วนการเลี้ยงปลาใหม่ในบ่อต่อไป เจ้าของบ่อสาธิตต้องลงทุนเอง เนื่องจากกรมประมงได้ลงทุนให้ในปีแรกแล้ว

ปีงบประมาณดำเนินการ

ตุลาคม 2551 - กันยายน 2552

งบประมาณที่ได้รับในปีเริ่มต้น และแหล่งที่มาของงบประมาณในปีที่เริ่มต้น

เริ่มดำเนินโครงการปีงบประมาณ 2552 ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกรมประมงเป็นจำนวนเงิน 12,235.00 บาท

งบประมาณที่ได้รับแต่ละปีแยกเป็นรายปีตั้งแต่ปีเริ่มต้นจนถึงปีปัจจุบันและแหล่งที่มาของงบประมาณ

ปีงบประมาณ 2552 จำนวนเงิน 12,235.00 บาท จากกรมประมง

ผลการดำเนินงานตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงปัจจุบันโดยสรุป

ผลการประชุมคณะกรรมการดำเนินงาน โครงการศูนย์เรียนรู้พัฒนาการเกษตรอ่างเก็บน้ำห้วยไฟ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2551 ณ ห้องประชุมจอมทอง ศาลากลางจังหวัดพะเยา ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในจังหวัดพะเยา ดำเนินการสร้างศูนย์เรียนรู้พัฒนาการเกษตรอ่างเก็บน้ำห้วยไฟ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยเริ่มดำเนินงานโครงการฯ ในปีงบประมาณ 2552 สำหรับกิจกรรมด้านการประมงได้อบรมให้ความรู้ เพื่อเตรียมความพร้อมแก่เกษตรกรเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการเตรียมบ่อเลี้ยงปลา

 

ผู้แสดงความคิดเห็น กธก.กร.ทบ. วันที่ตอบ 2011-03-01 12:50:51 IP : 203.113.97.167


ความคิดเห็นที่ 287 (3238690)

โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ตามพระราชดำริ

ความเป็นมา

เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2545 สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พร้อมด้วยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรพื้นที่แนวชายแดนประเทศไทย ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว บริเวณดอยยอดห้วยน้ำลาว บ้านเย้าหนองห้า ตำบลร่มเย็น อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา พิกัด PB 606524 ทรงทราบว่า พื้นที่บริเวณดังกล่าวได้ถูกบุกรุกแผ้วถางป่าเป็นพื้นที่กว้างขวาง บางส่วนของพื้นที่มีการปลูกพืชเสพติด ประกอบกับมีปัญหาด้านความมั่นคงตามแนวชายแดน

สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้มีพระราชดำริให้แม่ทัพภาคที่ 3 ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ผู้อำนวยการสำนักงานทหารพัฒนาภาค 3 เจ้าหน้าที่ป่าไม้ และเจ้าหน้าที่กรมชลประทาน ร่วมประชุมปรึกษาหารือในการแก้ไขปัญหา ประกอบกับมีราษฎรไทยภูเขาเผ่าต่าง ๆ ได้เคยถวายฎีการ้องทุกข์ ขอพระราชทานความช่วยเหลือเรื่องที่ทำกินเป็นจำนวนมาก จึงทรงมีพระราชดำริที่จะให้ราษฎรเหล่านั้นเข้ามาช่วยฟื้นฟูสภาพป่าบริเวณบ้านหนองห้า เพื่ออนุรักษ์แหล่งต้นน้ำลำธาร โดยจะดำเนินการขอใช้พื้นที่ของกรมป่าไม้ จัดทำเป็น โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ และมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จะให้การสนับสนุนฝึกอบรมศิลปาชีพ และปลูกฝังความรู้เรื่องการเกษตร การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติให้แก่ราษฎรที่จะเข้ามาอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว ให้คนอยู่ร่วมกับป่าได้อย่างผสมกลมกลืน โดยคนเป็นผู้พิทักษ์รักษาป่า ป่าให้ความร่มเย็น และเป็นแหล่งผลิตอาหารของคน

พระราชกรณียกิจของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ

เสด็จพระราชดำเนินครั้งแรก วันที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2545

สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พร้อมด้วยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรพื้นที่บ้านเย้าหนองห้า ตำบลร่มเย็น อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา และมีพระราชดำริให้จัดตั้งพื้นที่แห่งนี้เป็นโครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่

เสด็จพระราชดำเนินครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2546

สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พร้อมด้วยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ได้ทรงมีพระราชเสาวนีย์ ดังนี้

1.       ทรงรับสั่งให้ธนาคารข้าวในโครงการฯ มีข้าวอยู่ในธนาคารข้าวตลอดเวลาเนื่องจากราษฎรในโครงการฯ ทำนาไม่ได้ผลเต็มที่มากนัก

2.       ทรงรับสั่งให้ราษฎรในโครงการฯ ทดลองทำเครื่องเป็นรูปสัตว์ต่าง ๆ เช่น แมลงกว่างกบภูเขา และปู เป็นต้น และให้นำมาทอดพระเนตรในการเสด็จฯ ครั้งต่อไปด้วย

3.       ทรงรับสั่งและแนะนำราษฎรในโครงการฯ ดำเนินการปักผ้าให้มีผืนขนาดใหญ่ขึ้น

เสด็จพระราชดำเนินครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2547

สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระราชเสาวนีย์ ดังนี้

1.       เป็นห่วงพื้นที่ป่าไม้ถูกทำลาย

2.       ให้ผู้หญิงฝึกหัด การทำเครื่องเงิน

3.       ให้ชาวบ้านทำเครื่องเงินกันมาก ๆ เพื่อจะเป็นการเพิ่มรายได้อีกทางหนึ่ง

4.       ทดลองหาพันธุ์ปลา ที่เหมาะสม สามารถเจริญเติบโตได้ดี ในพื้นที่ที่มีสภาพอากาศหนาวเย็นได้ เช่น พันธุ์ปลาจีน

5.       ธนาคารข้าวพระราชทาน จะต้องมีข้าวให้ราษฎรยืมได้ตลอดทั้งปี

6.       เป็นห่วงเรื่องบัตรประจำตัวของราษฎร เพราะเขาก็เป็นคนไทยเหมือนกัน เขาจะลำบากมากเวลาเดินทางหรือสมัครเข้าเรียนในโรงเรียนซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก็ทรงเป็นห่วงเรื่องนี้ด้วยเหมือนกัน

7.       ให้ปลูกพืชผักสวนครัวตลอดทั้งปี เพื่อเพิ่มรายได้

8.       ใช้ชาวบ้านไปดูสัตว์ต่าง ๆ ที่สวนสัตว์ เพื่อที่จะได้นำมา ทำเครื่องเงินรูปสัตว์ ได้สวยงาม

เสด็จพระราชดำเนินครั้งที่ 4 เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2548

สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระราชเสาวนีย์ ดังนี้

1.       ทรงสนพระทัยเรื่อง สัตว์ป่าและนก

2.       อยากให้นำเอาปลาเฉาฮื้อมาเลี้ยงเพื่อส่งเสริมเป็นอาหารและช่วยปล่อยปลาในลำห้วยด้วย

เสด็จพระราชดำเนินครั้งที่ 5 เมื่อวันที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2549

สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระราชเสาวนีย์ ดังนี้

1.       ทรงพอพระทัยในผลสัมฤทธิ์ ของการดำเนินงานในบ้านเล็กในป่าใหญ่ตามพระราชดำริ ทั้ง 3 ข้อ คือ ป่าใหญ่ที่ฟื้นฟูขึ้น ผลผลิตการเกษตรพอเพียง และ คุณภาพชีวิตที่ยั่งยืน

2.       ให้ราษฎรรักษาวัฒนธรรมชาวเขาไว้ให้ดี

3.       ให้ราษฎรพัฒนางานศิลปาชีพการทำเครื่องเงิน ที่มีขนาดเล็กให้ใหญ่ขึ้น เพื่อใช้ประโยชน์ได้ดียิ่งขึ้น

ที่ตั้งโครงการ

โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ ตามพระราชดำริ บ้านหนองห้า ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อ ปี พ.ศ. 2545 ตามพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ พื้นที่ทั้งหมดประมาณ 40 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 25,000 ไร่ อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าน้ำเปื่อย ป่าน้ำหย่วน และป่าน้ำลาว อยู่ในลุ่มน้ำหลักคือ ลุ่มน้ำโขง ลุ่มน้ำสาขาคือ ลุ่มน้ำลาว ลุ่มน้ำย่อยได้แก่ ลุ่มน้ำญวน น้ำลาว อยู่ในเขตพื้นที่ลุ่มน้ำชั้น 1A ในพื้นที่รับผิดชอบของหน่วยจัดการต้นน้ำดอยผาหม่น สังกัดศูนย์จัดการต้นน้ำอิง-โขง ส่วนจัดการต้นน้ำ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ในท้องที่ตำบลร่มเย็น อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา ตามแผนที่ทหารมาตราส่วน 1:50,000 ระวาง 5047IV บ้านสองแคว และระวาง 5148III บ้านสันกลาง อยู่ระหว่างเส้นรุ้ง (Latitude) ที่ 19◦ 27’ 13” ถึง 19◦ 30’ 34” และเส้นแวง (Longitude) ที่ 100◦ 30’ 56” ถึง 100◦ 36’ 8” ตะวันออก เป็นพื้นที่ดำเนินการโครงการฯ ประมาณ 200 ไร่

คณะทำงาน

1.       งานด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ

o        สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 จังหวัดเชียงราย กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

2.       งานด้านการดำรงชีวิตของราษฎร

o        สถานีพัฒนาที่ดินพะเยา กรมพัฒนาที่ดิน

o        โครงการชลประทานพะเยา กรมชลประทาน

o        ศูนย์วิจัยข้าวเชียงราย กรมการข้าว

o        ศูนย์ส่งเสริมการเกษตรที่สูงจังหวัดพะเยา กรมส่งเสริมการเกษตร

o        ศูนย์บริการวิชาการด้านพืชและปัจจัยการผลิตเชียงราย (วาวี) กรมวิชาการเกษตร

o        ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดพะเยา กรมประมง

o        ปศุสัตว์อำเภอเชียงคำ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดพะเยา กรมปศุสัตว์

3.       งานด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตของราษฎร

o        อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา

o        ศูนย์การศึกษานอกระบบและศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา

o        ศูนย์ฝึกและพัฒนาอาชีพราษฎรไทยบริเวณชายแดน จังหวัดเชียงราย

o        สำนักงานสาธารณสุขอำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา

o        กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน

o        ศูนย์ทรัพยากรน้ำบาดาล 6 จังหวัดลำปาง

o        องค์การบริหารส่วนตำบลร่มเย็น อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา

o        องค์การบริหารส่วนตำบลแม่ลาว อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา

o        ชุดประสานงานการคุ้มครองและป้องกันชุมชน กองพันทหารราบที่ 4 กรมทหารราบที่ 17 กองทัพภาคที่ 3

 

ผู้แสดงความคิดเห็น กธก.กร.ทบ. วันที่ตอบ 2011-03-01 12:51:32 IP : 203.113.97.167


ความคิดเห็นที่ 288 (3238691)

โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ตามพระราชดำริ

ความเป็นมา

เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2545 สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พร้อมด้วยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรพื้นที่แนวชายแดนประเทศไทย ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว บริเวณดอยยอดห้วยน้ำลาว บ้านเย้าหนองห้า ตำบลร่มเย็น อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา พิกัด PB 606524 ทรงทราบว่า พื้นที่บริเวณดังกล่าวได้ถูกบุกรุกแผ้วถางป่าเป็นพื้นที่กว้างขวาง บางส่วนของพื้นที่มีการปลูกพืชเสพติด ประกอบกับมีปัญหาด้านความมั่นคงตามแนวชายแดน

สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้มีพระราชดำริให้แม่ทัพภาคที่ 3 ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ผู้อำนวยการสำนักงานทหารพัฒนาภาค 3 เจ้าหน้าที่ป่าไม้ และเจ้าหน้าที่กรมชลประทาน ร่วมประชุมปรึกษาหารือในการแก้ไขปัญหา ประกอบกับมีราษฎรไทยภูเขาเผ่าต่าง ๆ ได้เคยถวายฎีการ้องทุกข์ ขอพระราชทานความช่วยเหลือเรื่องที่ทำกินเป็นจำนวนมาก จึงทรงมีพระราชดำริที่จะให้ราษฎรเหล่านั้นเข้ามาช่วยฟื้นฟูสภาพป่าบริเวณบ้านหนองห้า เพื่ออนุรักษ์แหล่งต้นน้ำลำธาร โดยจะดำเนินการขอใช้พื้นที่ของกรมป่าไม้ จัดทำเป็น โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ และมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จะให้การสนับสนุนฝึกอบรมศิลปาชีพ และปลูกฝังความรู้เรื่องการเกษตร การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติให้แก่ราษฎรที่จะเข้ามาอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว ให้คนอยู่ร่วมกับป่าได้อย่างผสมกลมกลืน โดยคนเป็นผู้พิทักษ์รักษาป่า ป่าให้ความร่มเย็น และเป็นแหล่งผลิตอาหารของคน

พระราชกรณียกิจของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ

เสด็จพระราชดำเนินครั้งแรก วันที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2545

สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พร้อมด้วยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรพื้นที่บ้านเย้าหนองห้า ตำบลร่มเย็น อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา และมีพระราชดำริให้จัดตั้งพื้นที่แห่งนี้เป็นโครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่

เสด็จพระราชดำเนินครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2546

สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พร้อมด้วยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ได้ทรงมีพระราชเสาวนีย์ ดังนี้

1.       ทรงรับสั่งให้ธนาคารข้าวในโครงการฯ มีข้าวอยู่ในธนาคารข้าวตลอดเวลาเนื่องจากราษฎรในโครงการฯ ทำนาไม่ได้ผลเต็มที่มากนัก

2.       ทรงรับสั่งให้ราษฎรในโครงการฯ ทดลองทำเครื่องเป็นรูปสัตว์ต่าง ๆ เช่น แมลงกว่างกบภูเขา และปู เป็นต้น และให้นำมาทอดพระเนตรในการเสด็จฯ ครั้งต่อไปด้วย

3.       ทรงรับสั่งและแนะนำราษฎรในโครงการฯ ดำเนินการปักผ้าให้มีผืนขนาดใหญ่ขึ้น

เสด็จพระราชดำเนินครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2547

สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระราชเสาวนีย์ ดังนี้

1.       เป็นห่วงพื้นที่ป่าไม้ถูกทำลาย

2.       ให้ผู้หญิงฝึกหัด การทำเครื่องเงิน

3.       ให้ชาวบ้านทำเครื่องเงินกันมาก ๆ เพื่อจะเป็นการเพิ่มรายได้อีกทางหนึ่ง

4.       ทดลองหาพันธุ์ปลา ที่เหมาะสม สามารถเจริญเติบโตได้ดี ในพื้นที่ที่มีสภาพอากาศหนาวเย็นได้ เช่น พันธุ์ปลาจีน

5.       ธนาคารข้าวพระราชทาน จะต้องมีข้าวให้ราษฎรยืมได้ตลอดทั้งปี

6.       เป็นห่วงเรื่องบัตรประจำตัวของราษฎร เพราะเขาก็เป็นคนไทยเหมือนกัน เขาจะลำบากมากเวลาเดินทางหรือสมัครเข้าเรียนในโรงเรียนซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก็ทรงเป็นห่วงเรื่องนี้ด้วยเหมือนกัน

7.       ให้ปลูกพืชผักสวนครัวตลอดทั้งปี เพื่อเพิ่มรายได้

8.       ใช้ชาวบ้านไปดูสัตว์ต่าง ๆ ที่สวนสัตว์ เพื่อที่จะได้นำมา ทำเครื่องเงินรูปสัตว์ ได้สวยงาม

เสด็จพระราชดำเนินครั้งที่ 4 เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2548

สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระราชเสาวนีย์ ดังนี้

1.       ทรงสนพระทัยเรื่อง สัตว์ป่าและนก

2.       อยากให้นำเอาปลาเฉาฮื้อมาเลี้ยงเพื่อส่งเสริมเป็นอาหารและช่วยปล่อยปลาในลำห้วยด้วย

เสด็จพระราชดำเนินครั้งที่ 5 เมื่อวันที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2549

สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระราชเสาวนีย์ ดังนี้

1.       ทรงพอพระทัยในผลสัมฤทธิ์ ของการดำเนินงานในบ้านเล็กในป่าใหญ่ตามพระราชดำริ ทั้ง 3 ข้อ คือ ป่าใหญ่ที่ฟื้นฟูขึ้น ผลผลิตการเกษตรพอเพียง และ คุณภาพชีวิตที่ยั่งยืน

2.       ให้ราษฎรรักษาวัฒนธรรมชาวเขาไว้ให้ดี

3.       ให้ราษฎรพัฒนางานศิลปาชีพการทำเครื่องเงิน ที่มีขนาดเล็กให้ใหญ่ขึ้น เพื่อใช้ประโยชน์ได้ดียิ่งขึ้น

ที่ตั้งโครงการ

โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ ตามพระราชดำริ บ้านหนองห้า ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อ ปี พ.ศ. 2545 ตามพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ พื้นที่ทั้งหมดประมาณ 40 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 25,000 ไร่ อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าน้ำเปื่อย ป่าน้ำหย่วน และป่าน้ำลาว อยู่ในลุ่มน้ำหลักคือ ลุ่มน้ำโขง ลุ่มน้ำสาขาคือ ลุ่มน้ำลาว ลุ่มน้ำย่อยได้แก่ ลุ่มน้ำญวน น้ำลาว อยู่ในเขตพื้นที่ลุ่มน้ำชั้น 1A ในพื้นที่รับผิดชอบของหน่วยจัดการต้นน้ำดอยผาหม่น สังกัดศูนย์จัดการต้นน้ำอิง-โขง ส่วนจัดการต้นน้ำ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ในท้องที่ตำบลร่มเย็น อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา ตามแผนที่ทหารมาตราส่วน 1:50,000 ระวาง 5047IV บ้านสองแคว และระวาง 5148III บ้านสันกลาง อยู่ระหว่างเส้นรุ้ง (Latitude) ที่ 19◦ 27’ 13” ถึง 19◦ 30’ 34” และเส้นแวง (Longitude) ที่ 100◦ 30’ 56” ถึง 100◦ 36’ 8” ตะวันออก เป็นพื้นที่ดำเนินการโครงการฯ ประมาณ 200 ไร่

คณะทำงาน

1.       งานด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ

o        สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 จังหวัดเชียงราย กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

2.       งานด้านการดำรงชีวิตของราษฎร

o        สถานีพัฒนาที่ดินพะเยา กรมพัฒนาที่ดิน

o        โครงการชลประทานพะเยา กรมชลประทาน

o        ศูนย์วิจัยข้าวเชียงราย กรมการข้าว

o        ศูนย์ส่งเสริมการเกษตรที่สูงจังหวัดพะเยา กรมส่งเสริมการเกษตร

o        ศูนย์บริการวิชาการด้านพืชและปัจจัยการผลิตเชียงราย (วาวี) กรมวิชาการเกษตร

o        ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดพะเยา กรมประมง

o        ปศุสัตว์อำเภอเชียงคำ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดพะเยา กรมปศุสัตว์

3.       งานด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตของราษฎร

o        อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา

o        ศูนย์การศึกษานอกระบบและศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา

o        ศูนย์ฝึกและพัฒนาอาชีพราษฎรไทยบริเวณชายแดน จังหวัดเชียงราย

o        สำนักงานสาธารณสุขอำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา

o        กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน

o        ศูนย์ทรัพยากรน้ำบาดาล 6 จังหวัดลำปาง

o        องค์การบริหารส่วนตำบลร่มเย็น อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา

o        องค์การบริหารส่วนตำบลแม่ลาว อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา

o        ชุดประสานงานการคุ้มครองและป้องกันชุมชน กองพันทหารราบที่ 4 กรมทหารราบที่ 17 กองทัพภาคที่ 3

 

ผู้แสดงความคิดเห็น กธก.กร.ทบ. วันที่ตอบ 2011-03-01 12:51:34 IP : 203.113.97.167


ความคิดเห็นที่ 289 (3238692)

โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ตามพระราชดำริ บ้านหนองห้า ตำบลร่มเย็น อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา

ที่ตั้งโครงการ

บ้านเย้าหนองห้า ต.ร่มเย็น อ.เชียงคำ จ.พะเยา

พระราชดำริของ

สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ

สรุปพระราชดำริ

ให้แม่ทัพภาค 3 ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมปรึกษาในการแก้ไขปัญหาการบุกรุกแผ้วถางป่า บางส่วนมีการปลูกพืชเสพติดในพื้นที่บ้านเย้าหนองห้า ต.ร่มเย็น อ.เชียงคำ จ.พะเยา โดยจัดทำเป็นโครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ ให้ราษฎรมีส่วนเข้ามาช่วยฟื้นฟูสภาพป่า เพื่ออนุรักษ์แหล่งต้นน้ำลำธาร

วัตถุประสงค์ของโครงการ

เพื่อลดการขยายพื้นที่การแผ้วถางป่า และให้คนอยู่ร่วมกับป่าได้อย่างผสมผสานกลมกลืน โดยคนเป็นผู้พิทักษ์รักษาป่าไม้ และป่าให้ความร่มเย็น และเป็นแหล่งผลิตอาหารของคน

หน่วยงานผู้รับผิดชอบ

ศูนย์วิจัยข้าวเชียงราย สำนักวิจัยและพัฒนาข้าว กรมการข้าว

ประเภทของโครงการ

1. การพัฒนาแหล่งน้ำ
2. การเกษตร
3. สิ่งแวดล้อม
4. ส่งเสริมอาชีพ

สรุปลักษณะโครงการ

เป็นโครงการต้นแบบการใช้พื้นที่สำหรับการปลูกพืชบนที่สูงแบบอนุรักษ์ และรักษาสิ่งแวดล้อม รวมทั้งสนับสนุนส่งเสริมฝึกอบรมศิลปาชีพ ถ่ายทอดความรู้เรื่องการเกษตรให้ราษฎรบ้านหนองห้า ต.ร่มเย็น อ.เชียงคำ จ.พะเยา ได้รับประโยชน์จากพื้นที่อย่างยั่งยืน

ปีงบประมาณดำเนินการ

พ.ศ. 2545

งบประมาณที่ได้รับแต่ละปีแยกเป็นรายปีตั้งแต่ปีเริ่มต้นจนถึงปีปัจจุบันและแหล่งที่มาของงบประมาณ

ปี 2550
- งบปกติของศูนย์วิจัยข้าวเชียงราย 40,000 บาท
- งบสำนักงานผู้ช่วยเลขาธิการพระราชวัง 19,680 บาท
ปี 2551
- งบปกติของศูนย์วัจัยข้าวเชียงราย 140,000 บาท

ผลการดำเนินงานตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงปัจจุบันโดยสรุป

- ปี 2550 : มีการเกษตรเข้าร่วมโครงการ 14 ครอบครัว แยกเป็นผู้ใหญ่ 31 คน เด็ก 18 คน พื้นที่ปลูกข้าว 45 ไร่ ใช้ข้าวพันธุ์น้ำรู ผลผลิตข้าวที่ได้รวม 6,993 กิโลกรัม จะบริโภคทั้งข้าวทั้งปีประมาณ 10,450 กิโลกรัม (ข้าวเปลือก) ผลผลิตข้าวที่เก็บเกี่ยวได้ในฤดูนาปี 2550 ไม่สามารถผลิตข้าวเพียงพอต่อการบริโภคทั้งปีได้ สาเหตุเนื่องจาก ฝนทิ้งช่วง ปริมาณน้ำมีน้อย ทำให้ปักดำล่า วัชพืชขึ้นมากในแปลงที่ขาดน้ำและเกษตรกรที่เข้ามาอยู่ใหม่ยังไม่มีประสบการณ์ในการทำนา
- ปี 2551 : มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงดาร 16 ครอบครัว แยกเป็นผู้ใหญ่ 35 คน เด็ก 32 คน พื้นที่ปลูกข้าว 45 ไร่ ใช้ข้าวพันธุ์น้ำรู ผลผลิตข้าวที่ได้รวม 16,860 กิโลกรัม จะบริโภคข้าวทั้งปีประมาณ 13,550 กิโลกรัม(ข้าวเปลือก) ผลผลิตข้าวคาดว่าจะเพียงพอต่อการบริโภคตลอดทั้งปี

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น กธก.กร.ทบ. วันที่ตอบ 2011-03-01 12:52:28 IP : 203.113.97.167


ความคิดเห็นที่ 290 (3239916)

 

๑. จ.ส.อ.เจริญ    แก้วไทยขอให้พระองค์ทรงมีพลานามัยที่แข็งแรง
ทรงพระเจริญ ยิ่งยืนนาน
ทรงพระเกษมสำราญ ตลอดกาล ตลอดไป
ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
ที่ทรงอุทิศพระวรกายเพื่อแผ่นดิน และพสกนิกรชาวไทย
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม
ข้าพระพุทธเจ้า
๒. ส.อ.วิชัย    รามช่วย
ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
๓.ส.ท.ปฐมพงศ์    ประดิษฐ์สรรค์  
ขอพระองค์ทรงพระเกษมสำราญ พระวรกายสมบูรณ์แข็งแรงเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรพสกนิกรชาวไทยตราบนานเท่านาน
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
ผู้แสดงความคิดเห็น จ.ส.อ.เจริญ แก้วไทย วันที่ตอบ 2011-03-14 08:31:01 IP : 110.49.240.100


ความคิดเห็นที่ 291 (3239917)

 

๖.อส.ทพจิรวัฒน์   พรหมบริรักษ์
ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
" ขอพระองค์ทรงพระเกษมสำราญ พระวรกายสมบูรณ์แข็งแรงเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรพสกนิกรชาวไทยตราบนานเท่านาน "
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
ผู้แสดงความคิดเห็น อส.ทพ.จิรวัฒน์ พรหมบริรักษ์ (pns_4521-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2011-03-14 08:46:31 IP : 110.49.240.100


ความคิดเห็นที่ 292 (3239934)

 

๖.อส.ทพจิรวัฒน์   พรหมบริรักษ์
ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
" ขอพระองค์ทรงพระเกษมสำราญ พระวรกายสมบูรณ์แข็งแรงเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรพสกนิกรชาวไทยตราบนานเท่านาน "
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
ผู้แสดงความคิดเห็น อส.ทพ.จิรวัฒน์ พรหมบริรักษ์ (pns_4521-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2011-03-14 10:44:53 IP : 110.49.240.100


ความคิดเห็นที่ 293 (3240073)

 

 นพส.๔๕ – ๒๑
                                            
พระองค์ทรงมีพลานามัยที่แข็งแรง
ทรงพระเจริญ ยิ่งยืนนาน
ทรงพระเกษมสำราญ ตลอดกาล ตลอดไป
ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
ที่ทรงอุทิศพระวรกายเพื่อแผ่นดิน และพสกนิกรชาวไทย
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม
ข้าพระพุทธเจ้า
 
ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
 
ขอพระองค์ทรงพระเกษมสำราญ พระวรกายสมบูรณ์แข็งแรงเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรพสกนิกรชาวไทยตราบนานเท่านาน
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
 
 
ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
" ขอพระองค์ทรงพระเกษมสำราญ พระวรกายสมบูรณ์แข็งแรงเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรพสกนิกรชาวไทยตราบนานเท่านาน "
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
 
 
ขอให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จฯ พระนางเจ้าพระบรมราชินินาถทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
ผู้แสดงความคิดเห็น นพส.54-21 (NPS_4521-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2011-03-15 11:06:11 IP : 110.49.233.178


ความคิดเห็นที่ 294 (3240249)

 

ในหลวงพระองค์ทรงไม่ละทิ้งประชาชนของพระองค์ แม้พระองค์จะทรงงานหนักและเหนื่อยมานาน
 
ผู้แสดงความคิดเห็น นพส.45-21 (NPS_4521-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2011-03-17 07:01:24 IP : 110.49.233.210


ความคิดเห็นที่ 295 (3240250)

 

ขอให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จฯ พระนางเจ้าพระบรมราชินินาถทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

อส.ทพ.ชัด   ยิ่งยุทธ นพส.45-21

ผู้แสดงความคิดเห็น นพส.45-21 (NPS_4521-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2011-03-17 07:09:01 IP : 110.49.233.210


ความคิดเห็นที่ 296 (3240251)

 

อส.ทพ.พยนต์   จรรยา
ขอให้พระองค์ทรงมีพระวรกายที่สมบูรณ์แข็งแรง อยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของปวงชนชาวไทยตลอดไปและสุดท้ายนี้ขอให้พระองค์ทรงหายจากพระอาการประชวรโดยเร็วขอพระองค์ทรงพระเจริญ
นพส.45-21
ผู้แสดงความคิดเห็น นพส.45-21 (NPS_4521-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2011-03-17 07:14:21 IP : 110.49.233.210


ความคิดเห็นที่ 297 (3240340)

เกริกเกียรติก้องเกรียงไกร ธ สถิตย์ในดวงใจไทยทั่วหล้า หกสิบปีครองราชย์มหาราชา นบน้อมมณฑาขอพระองค์ทรงพระเจริญ

นพส.45-21  อส.ทพ.อนันต์   วัฒโน

ผู้แสดงความคิดเห็น นพส.45-21 (PNS_4521-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2011-03-18 06:25:22 IP : 110.49.225.96


ความคิดเห็นที่ 298 (3240341)

ในหลวงพระองค์ทรงมีพระราชดำรัสให้คนในชาติมีความรักใคร่กลมเกลียวสมัครสมาน สามัคคีมีความ เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน อันจะนำพาประเทศชาติไปสู่ความเจริญ รุ่งเรืองคงความเป็นชาติไทยไว้ได้

นพส.45-21 อส.ทพ.อาซือมาน  เจ๊ะอามะ

ผู้แสดงความคิดเห็น นพส.45-21 (PNS_4521-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2011-03-18 06:28:05 IP : 110.49.225.96


ความคิดเห็นที่ 299 (3240343)

ทรงยึดหลักศาสนา ทรงศึกษาสรรพวิทยา ทรงนำมาปฏิบัติ ทรงขจัดปัญหาด้วยการพัฒนาโครงการพระราชดำริ ทรงเตือนสติด้วยการปฏิบัติพระองค์เป็นตัวอย่าง ทรงสร้างค่านิยม ทรงห่วงใยประชาราษฎร์ทุกเมื่อ ทรงสละหยาดพระเสโท เพื่อประชาชนและประเทศไทยอย่างแท้จริง ทรงเป็นบุคคลที่หาได้ยากยิ่งในโลก ( ทรงเป็นพระมหากษัตริย์นักพัฒนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก )

นพส.45-21  อส.ทพ.วันชัย  แสงศิริ

ผู้แสดงความคิดเห็น นพส.45-21 (PNS_4521-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2011-03-18 06:30:40 IP : 110.49.225.96


ความคิดเห็นที่ 300 (3240344)
เราพี่น้อง ผองไทย ภูมิใจยิ่ง
พ่อเป็นมิ่ง ขวัญชาติ ปราชญ์ยิ่งใหญ่
ลูกขอกราบ แทบบาทด้วย อวยพรชัย
เทพทั่วไทย โปรดคุ้มครอง พ่อของเรา
ขอให้พ่อ แข็งแรง แกร่งดังผา
ไร้โรคา ภยันตราย และไกลเศร้า
อายุยืน หมื่นปี ที่นานเนาว์
ทุกค่ำเช้าเกษมสำราญ ชั่วกาลเทอญ
นพส.45-21 อส.ทพ.สุเทพ   เดชหวัง
ผู้แสดงความคิดเห็น นพส.45-21 (PNS_4521-at-homail-dot-com)วันที่ตอบ 2011-03-18 06:33:48 IP : 110.49.225.96



<< ก่อนหน้า 1 2 3 4 5 [6] 7 8 ถัดไป >>


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล 802/410 หมู่12 หมู่บ้านวังทองริเวอร์ปาร์ค ซอย10/4 ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี 12130 โทร : 02-990-0331 Copyright © 2010 All Rights Reserved.