ReadyPlanet.com


คนพิการจีน ร้องขอตาย


หญิงพิการร้องรัฐ ขอสิทธิ์ตายโดยชอบธรรม

 

 

โดย ผู้จัดการออนไลน์

29 เมษายน 2550 16:00 น.

 

หลี่เยี่ยน หญิงสาวอายุ 28 ปีผู้ซึ่งพิการมาตั้งแต่อายุได้เพียง 1 ขวบ ได้ยื่นคำร้องขอรับการการุณยฆาต ต่อสมัชชาผู้แทนประชาชนแห่งชาติ โดยเธอกล่าวว่าเธอรักชีวิต แต่ไม่อยากจะอยู่ต่อไปแล้ว
       
       
หลี่เยี่ยน อายุ 28 ปี ตั้งแต่อายุได้ 1 ขวบก็ถูกพบว่าป่วยเป็นโรคที่ทางการแพทย์เรียกว่าเป็นมะเร็งขั้นรุนแรง ซึ่งล่วงเลยมาจนถึง 6 ขวบจึงได้รับการรักษา ทำให้ปัจจุบันนี้กล้ามเนื้อทั่วร่างกายของเธอเล็กลีบ โครงกระดูกกว่าครึ่งในร่างกายเปลี่ยนรูปร่าง ทุกวันนี้เธอไม่สามารถที่จะรับประทานอาหาร แต่งตัว หรือลงนอนได้ด้วยตัวเอง มีเพียงศีรษะ และนิ้วมือเท่านั้นที่สามารถขยับได้เพียงเล็กน้อย "เมื่อฉันกินข้าว แม่ต้องป้อนให้ เมื่อฉันจะเข้าห้องน้ำแม่ก็ต้องมาอุ้มพาไป เมื่อฉันเข้านอนท่านยังต้องคอยมาพลิกตัวให้ในตอนกลางคืน" ดังนั้นเธอจึงต้องการที่จะยื่นคำร้อง ขอรับการการุณยฆาต(การช่วยให้ผู้ป่วยที่สิ้นหวังตายอย่างสงบ โดยการที่แพทย์ฉีดยา ให้ยา หรือกระทำโดยวิธีอื่น ๆ ให้ผู้ป่วยตายโดยตรง) ต่อสมัชชาผู้แทนประชาชนแห่งชาติ โดยเธอได้แจ้งเจตน์จำนงไปยังสถานีโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน视《新闻调查》主持人柴静的博客里 ซึ่งเรื่องราวของเธอนั้นดึงดูดความสนใจของผู้คนไปทั่วประเทศ
       
       
ทนทุกข์กว่า 28 ปี
       
เธอนั่งอยู่บนรถเข็น เรือนผมดำขลับ และยิ้มน้อยๆ ให้กับคนแปลกหน้า เธอสามารถวาดภาพได้ แต่ต้องใช้เวลาราว 5 ชั่วโมงในการวาดดอกไม้เพียงดอกเดียว
       
       
หลี่เยี่ยนกล่าวว่า เธอเชื่อว่าตัวเองต้องมีอายุเกิน 40 ปีแน่ๆ แต่เธอกลัว "ฉันจำเป็นที่จะต้องตายก่อนพ่อ-แม่ เพราะถ้าไม่เช่นนั้นหากไม่มีพวกท่านฉันคงจะน่าสมเพช ถูกทิ้งตัวเหม็น สกปรก และคงทุกข์ทรมานมาก ข้อจำกัดในชีวิตของฉันก็คงจะเพิ่มมากกว่าตอนนี้เป็นร้อยเป็นพันเท่า ซึ่งฉันรับไม่ได้หากจะต้องตายไปท่ามกลางสภาพแบบนั้น ฉันกลัวที่จะต้องตายไปทั้งอย่างนั้น..."
       
       "
ความหวังเพียงหนึ่งเดียวของฉันคือการหานักกฎหมายที่สนับสนุนความคิดของฉันและช่วยส่งคำขอร้องของฉันไปให้ทางการ"
       
       
เชื่อว่าคนเราเลือกตายได้
       
       
ใน***บล็อกของหลี่เยี่ยน ตั้งชื่อไว้ว่า "ไร้ที่หลบหนี" ซึ่งมีอยู่ตอนหนึ่งเขียนถึงผู้สื่อข่าวชายรายหนึ่งของหนังสือพิมพ์รายวันหนิงเซี่ยซึ่งเคยมาสัมภาษณ์เธอ ซึ่งประโยคแรกที่เขาถามเธอคือ "คุณทำอย่างนี้ ไม่คิดว่าเป็นการกระทำที่ไร้ความรับผิดชอบต่อพ่อ-แม่บ้างหรือ?"
       
       
หลี่เยี่ยน เขียนเล่าว่า "ฉันโดนถามจนอึ้งไป ไม่รู้จะตอบว่าอะไรดี ฉันยอมรับว่าทำอย่างนี้มันผิด แต่ถ้าไม่ทำ วันข้างหน้าฉันจะทำอย่างไร ใครจะตอบฉันได้ เมื่อถึงเวลาที่พ่อ-แม่ อายุ 80 หรือว่าจากไปแล้วฉันจะอยู่ต่อไปอย่างไร?"
       
       
นอกจากนี้ หลี่เยี่ยนยังเขียนไว้ในบล็อค โดยแนะนำในนักข่าวคนดังกล่าวลองกลับบ้านไปเล่นเกมส์ โดยเกมส์ดังกล่าวคือการนอนนิ่งๆ อยู่บนเตียงหรือนั่งนิ่งๆอยู่บนเก้าอี้โดยไม่ขยับ เป็นเวลาสัก 24 ชั่วโมง รับรู้รสชาติของมันแล้วค่อยกลับมาสัมภาษณ์เธอใหม่
       
       
อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารท่านหนึ่งในจังหวัดได้มาเยี่ยมเธอ และบอกกับเธอว่าไม่ต้องคิดอะไรมาก นอกจากนั้นยังมอบเงินจำนวน 1 พันหยวนให้กับเธอด้วย ทำให้เธอตื้นตันใจมาก พ่อของเธอกล่าวว่า "ตอนนี้ยังมีพ่อ-แม่ หลี่เยี่ยนก็มีชีวิตต่อไปได้อย่างดี แต่ถ้าวันไหนพวกเราไม่อยู่แล้ว ก็ไม่รู้ว่าแกจะทำอย่างไร?"
       
ซึ่งผู้บริหารท่านนั้นได้กล่าวว่า “เมื่อถึงเวลานั้น ก็ยังมีทางการ มีประเทศ ซึ่งสามารถที่จะดูแลหลี่เยี่ยนต่อไป"
       
       
หลี่เยี่ยนไม่กล่าวอะไร แต่เธอเขียนตัวหนังสือออกมาว่า "อีกไม่ช้าไม่นานฉันก็คงจะเหมือนกับพวกขอทานพิการที่มีอยู่แต็มไปหมดตามท้องถนนสินะ บางทีอาจจะน่าสมเพชมากกว่าคนเหล่านั้นด้วยซ้ำ และถึงแม้จะมีสถานรับดูแลคนพิการ แต่ใครจะดูแลฉันได้เหมือนพ่อ-แม่ ไม่ต้องเอาไกล ลำพังแค่เรื่องจุกๆจิกๆ ที่เป็นอาการของร่างกายผู้หญิงก็อาจจะทำให้คนดูแลขยะแขยงหรือรำคาญใจได้แล้ว "
       
       
ในบทความ เธอได้กล่าวถึงพี่ชายบุญธรรมของเธอคนหนึ่ง ซึ่งเป็นคนพิการเช่นกัน หลังจากที่แม่ของเขาตายไป เขาก็ต้องจ่อมจมอยู่บนเตียงในบ้าน กินคุ๊กกี้แข็งๆ กับน้ำเปล่าประทังชีวิต ขณะที่พ่อออกไปทำงาน ซึ่งในบทความของเธอได้เขียนบรรยายอย่างละเอียดถึงเหตุการณ์ที่พี่ชายคนนี้เสียชีวิต
       
       
ในความหวาดกลัว ทำให้เธอเคยไม่ยอมกินอาหารติดต่อกันเป็นเวลา 5 วัน แม่ของเธอกล่าวว่า "หลี่เยี่ยนเอาแต่ไล่ฉัน แต่ฉันนั่งร้องไห้อยู่ข้างเตียงลูก 3 วัน 3 คืน จนกระทั่งลูกใจอ่อนยอมทานข้าว"
       
       
หลังจากนั้น หลี่เยี่ยนจึงเกิดความคิดที่จะร้องขอการุณยฆาต "ฉันกะว่า ในตอนที่ฉันยังคงสื่อสารได้นี้จะต้องยื่นคำร้องขอการุณยฆาต และนำอวัยวะของตัวเองที่ยังพอใช้การได้ไปบริจาคให้กับหน่วยงานการแพทย์ของบ้านเมืองต่อไป"
       
       
หากคำร้องไม่เป็นผลขอยอมอดข้าวตาย
       
       "
การทำเช่นนี้ไม่เพียงช่วยลดความทุกข์ทรมานของฉันเพียงคนเดียว แต่ช่วยให้คนที่อยู่ในสภาพเดียวกับฉัน หรือแย่กว่าฉัน ลำบากกว่าฉันได้มีทางออกด้วย"
       
       
มีคนถามเธอว่าหากการยื่นคำร้องขอรับการการุณยฆาตครั้งนี้ไม่เป็นผลสำเร็จจำทำอย่างไร ซึ่งเธอตอบว่า"ขอเพียงคอมพิวเตอร์ยังใช้การได้ อินเตอร์เนทยังเล่นได้ นิ้วมือฉันยังขยับได้ ฉันก็จะไม่ท้อถอยเด็ดขาด แต่ถ้ายังไม่สำเร็จก็คงจะอดข้าวตายเอง เพราะฉันไม่มีแรงที่จะหยิบจับอุปกรณ์ฆ่าตัวตายใดๆ มาใช้ได้แม้แต่น้อย"
       
       
ข้อความส่วนหนึ่งในบันทึกของหลี่เยี่ยน
       
       
วันพุธที่ 15 มีนาคม 2549
        “
จากนี้ชีวิตของฉันได้พลิกผันไปอีกขั้นหนึ่งแล้ว ฉันเตรียมข้อมูลพื้นฐานในการยื่นคำร้องขอรับการการุณยฆาตไว้เรียบร้อยแล้ว คำสั่งเสียก็เรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงเสาะหาคนที่เหมาะสมและยินยอมช่วยเหลือให้ฉันตายสมใจเท่านั้น”
       
       
วันอังคารที่ 13 มิถุนายน 2549
        “
บ่ายสามวันนี้ นักข่าวจากหนังสือพิมพ์หนิงเซี่ยสัมภาษณ์ฉัน ซึ่งคำถามของเขาที่ว่า การทำอย่างนี้ไม่คิดว่าจะเป็นการทอดทิ้งพ่อ-แม่เหรอ ทำเอาฉันนึกคำตอบไม่ออกเลยทีเดียว”
       
       
วันอาทิตย์ที่ 18 มิถุนายน 2549
        “
ฉันจำเป็นที่จะต้องตายก่อนพ่อ-แม่ เพราะถ้าไม่เช่นนั้นหากไม่มีพวกท่านฉันคงจะน่าสมเพช ถูกทิ้งตัวเหม็น สกปรก และคงทุกข์ทรมานมาก ข้อจำกัดในชีวิตของฉันก็คงจะเพิ่มมากกว่าตอนนี้เป็นร้อยเป็นพันเท่า ซึ่งฉันรับไม่ได้หากจะต้องตายไปท่ามกลางสภาพแบบนั้น ฉันกลัวที่จะต้องตายไปทั้งอย่างนั้น...”
       
       
วันศุกร์ที่ 21 กรกฎาคม 2549
        “
ราวกับว่าฉันเห็นภาพที่น่าสมเพชของเขา และความหวาดกลัวบนใบหน้าของเขากับตาของฉันเอง ในห้องที่มืดมิดและเหม็นอับ น้ำตาที่เลอะอยู่บนใบหน้า ลมหายใจที่แผ่วเบาพยายามจะเปล่งเสียงออกจากปากของพี่ชายไม่มีใครได้ยิน ไม่มีใครช่วยเขาได้ ฉันเสียใจมากที่ทำไมตัวเองไม่ส่งจดหมายคำร้องขอการุณยฆาตให้เร็วกว่านี้ พี่ชายจะได้ไม่ต้องตายไปอย่างน่าสมเพชแบบนั้น อย่างน้อย...”
       
       
วันอาทิตย์ที่ 26 พฤศจิกายน 2549
        “
มื่อคืนวาน ฉันดูหนังสเปนเรื่อง The Sea Inside ซึ่งความคิดของพระเอกในเรื่องและฉันเหมือนกันนั่นคือ การุณยฆาต อยากหาใครสักคนที่เมตตาจบชีวิตของฉันลงไป”

 

พันตรีศิริชัย  ทรัพย์ศิริ

สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

www.waddeeja.com



ผู้ตั้งกระทู้ พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ :: วันที่ลงประกาศ 2007-04-29 21:30:40 IP : 124.121.136.229


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล 802/410 หมู่12 หมู่บ้านวังทองริเวอร์ปาร์ค ซอย10/4 ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี 12130 โทร : 02-990-0331 Copyright © 2010 All Rights Reserved.