คตส.เตรียมเชือดกราวรูดหวย

หวยบนดิน 45 คนเงินกู้กรุงไทยอีก 60 คน ตั้งอนุกก.ไต่สวนอังคารนี้  "อ๋อย"เย้ย คตส.เชือด ครม.เซ่นหวยยาก

นายนาม ยิ้มแย้ม ประธานคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) กล่าวว่า ในวันที่ 6 มีนาคมนี้ ที่ประชุมใหญ่จะประชุมเพื่อพิจารณาตั้งอนุกรรมการไต่สวนในเรื่องโครงการออกสลากเลขท้าย 2 ตัว และ 3 ตัว (หวยบนดิน) พิจารณา ซึ่งหากที่ประชุมพิจารณาแล้วมีมูลความผิดจริง ก็สามารถตั้งอนุกรรมการไต่สวนได้เลย

แหล่งข่าวจาก คตส.เปิดเผยว่า คดีหวยบนดินนั้น ที่ประชุม คตส.จะมีการชี้มูลความผิดบุคคลที่เกี่ยวข้อง ซึ่งคดีนี้จะมีผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่ถูกชี้มูลผิดประมาณ 30 คน โดยทั้งหมดได้เข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2546 และมีมติเห็นชอบอนุมัติโครงสลากพิเศษ 2 ตัว 3 ตัว และมีระดับเจ้าพนักงานอีกประมาณ 15-16 คนที่จะถูกชี้มูลผิดเช่นกัน ส่วนใหญ่จะเป็นคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล และหากที่ประชุมใหญ่ คตส.เห็นชอบตามที่อนุกรรมการเสนอ ขั้นตอนต่อไปก็จะประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้มายื่นหนังสือร้องทุกข์กล่าวโทษต่อบุคคลต่างๆ ที่ คตส.ชี้มูลความผิด ก่อนที่จะแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนขึ้นมาดำเนินการตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ในระเบียบการปฏิบัติงานของ คตส.ต่อไป

"อ๋อย"เย้ยคตส.เชือดครม.เซ่นหวยยาก

นายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กล่าวถึงกรณีที่ คตส.เตรียมชี้มูลความผิดคณะรัฐมนตรีทั้งคณะ กรณีออกมติคณะรัฐมนตรีให้มีหวยบนดินว่า ไม่น่าหนักใจ เพราะการเอาผิดคณะรัฐมนตรีทั้งคณะเป็นเรื่องยาก เพราะ ครม.ไม่มีเจตนาที่จะทุจริตและการใช้เงินก็เป็นไปตามหลักเกณฑ์ โดยมีคณะกรรมการที่มีปลัดกระทรวงการคลัง เป็นผู้อนุมัติ และไม่พบว่ามีการทุจริตเกิดขึ้น การที่ คตส.จะกล่าวหาเรื่องการออกหวยบนดินให้เป็นสลากกินรวบนั้น ครม.ไม่มีเจตนาทำผิดกฎหมาย เพราะเป็นเรื่องที่สำนักงานสลากกินแบ่ง และกระทรวงการคลังมีความเห็นเสนอขึ้นมา

ในขณะที่สำนักงานกฤษฎีกา ก็ไม่มีข้อโต้แย้งในระหว่างพิจารณา ส่วนการใช้เงินที่ไม่ส่งเข้ากระทรวงการคลัง หรือไม่เสียภาษีนั้น เรื่องนี้สำนักงานสลากกินแบ่งที่สังกัดในกระทรวงการคลัง และกระทรวงการคลัง เองก็เป็นผู้เสนอมาเช่นนั้น จะให้รัฐมนตรีอื่นโต้แย้งกระทรวงการคลังก็ยังผิดวิสัย เพราะรัฐมนตรีอื่นจะรู้เท่ากระทรวงการคลังย่อมเป็นไปไม่ได้ เมื่อกระทรวงการคลังเห็นอย่างไรก็ต้องเป็นไปตามนั้น

นายจาตุรนต์ กล่าวด้วยว่า ส่วนการยกเว้นภาษีหรือไม่ ถ้าต่อมาเห็นว่าต้องเสียภาษีสำนักงานสลากก็สามารถนำเงินไปชำระได้ สำหรับการนำเงินไปใช้นอกจากให้ตำรวจ 2,000 ล้านบาทแล้ว ที่เหลือก็เป็นทุนการศึกษา โดยมีคณะกรรมการที่มีปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธาน ซึ่ง คตส.ก็ทราบดีว่าไม่มีการทุจริต และยังพูดว่าที่ตรวจสอบ เพราะเข้าใจผิดว่านำเงินไปใช้ทัวร์นกขมิ้น แต่กลับพบว่าเป็นงบประมาณสำหรับทุนการศึกษา

อย่างไรก็ตาม ที่ คตส.ชี้มูลความผิด ครม.ทั้งคณะ เพราะแก้เก้อ เนื่องจากหาคนผิดไม่ได้จึงเหมายกเข่ง แต่ที่น่าเป็นห่วง คือ รัฐบาลชะลอเรื่องและเปลี่ยนแปลงทำให้ทุนการศึกษาแก่เด็กกว่า 1 ล้านคน ต้องเสียโอกาส ถือว่ารัฐบาลตั้งใจจะเล่นงานรัฐบาลที่แล้ว แต่ผลเสียกลับตกแก่เด็กที่ไม่รู้เรื่อง นอกจากไม่ทำประโยชน์ให้แก่ประชาชนแล้ว ยังทำให้เกิดโทษ

“ยังลูกผีลูกคน” กับปัญหาหวยบนดิน ที่ไม่รู้ว่า “ฉลองภพ สุสังกร์กาญจน์” ขุนคลังคนใหม่ในมาดนักวิชาการ จะใช้จังหวะไหนผลักดันให้กฎหมายการขายหวยบนดิน ถูกต้องตามกฎหมายได้เสียที ลำพังเพียงแค่การกู้เศรษฐกิจยังเป็นไปด้วยความยากลำบาก แต่ต้องมาเจอแรงกดดันด้านการเมืองควบคู่ไปด้วย ยิ่งทำให้ความมั่นใจในฝีมือของ “ขิงแก่” กลับหดหายลดน้อยถอยลงทุกวัน เห็นได้จากผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน ที่สารพัดสำนักวิจัยได้ทำการสำรวจเพื่อให้คะแนนผลการทำงานของรัฐบาล
  
ล่าสุด “กรุงเทพโพลล์” ได้เก็บข้อมูลจากประชาชนในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 1,171 คน ระหว่างวันที่ 30 มี.ค.-2 เม.ย.50 พบว่า ประชาชนพึงพอใจผลงานของรัฐบาลลดลง โดยได้คะแนนเพียง 4.53 คะแนน จากคะแนนเต็ม 10 คะแนน และเมื่อเปรียบเทียบผลงานของรัฐบาลกับความคาดหวัง พบว่า 36.4% เห็นว่า แย่กว่าที่คาดหวังไว้
  
นอกจากไม่มั่นใจในผลงานที่ทำให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นแล้ว ยังไม่มั่นใจว่ารัฐบาล “ขิงแก่” จะพับโครงการหวยบนดินไปด้วยหรือไม่? หลังจากที่กระทรวงการคลังได้สั่งให้ยุติการขายหวยบนดินไว้เป็นการชั่วคราวตั้งแต่งวดวันที่ 1 ธ.ค. 49 จนถึงขณะนี้ที่เปลี่ยนตัวขุนคลังไปแล้ว ก็ยังไม่มีข้อสรุปว่าโครงการนี้จะมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกหรือไม่
  
แม้หลายคนรู้สึกชอบอกชอบใจกับปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะเชื่อว่า “การเล่นหวย” เป็นการมอมเมาประชาชน โดยเฉพาะคนจน ที่ควรไปทำมาหาเลี้ยงชีพแบบสุจริตแทนการนั่งฝันลม ๆ แล้ง ๆ ว่าสามารถรวยได้จากการถูกหวย แต่หากบุคคลเหล่านั้นหันกลับไปมองสังคมไทยวัฒนธรรมไทยให้ถ่องแท้ จะเห็นข้อเท็จจริงว่า คนไทยเกิดขึ้นมาพร้อมกับความเชื่อ ความหวัง การพนันทุกรูปแบบ ตั้งแต่ปลากัดกัน หมากัดกัน ไก่ชนกัน วัวชนกัน
  
การเล่น “หวย” ก็ไม่ต่างกัน เพราะอยู่คู่กับสังคมไทยมาตั้งแต่ออกมาจากท้องพ่อท้องแม่ เพราะทุกวันที่ 1 ทุกวันที่ 16 ของทุกเดือน ชาวบ้านชาวช่องได้แต่เฝ้ารอผลการออกหวยของรัฐบาล ว่าจะเนรมิตให้กลายเป็นเศรษฐีในฉับพลันได้หรือไม่ หรือแม้แต่ก่อนหน้าวันหวยออกข่าวคราว “เลขเด็ด” ที่มาจากการตีเลขจากความฝัน ความเชื่อ วันสำคัญ เหตุการณ์สำคัญ หรือปรากฏการณ์ที่ทำให้ธรรมชาติเปลี่ยนไป หรือแม้กระทั่งบรรดาความเชื่อทางศาสนา พระเกจิอาจารย์ ต่างถูกนำมาวิเคราะห์มาตีเป็นเลขเด็ดให้เห็นกันอยู่ประจำ
  
ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลก ที่บรรดาเซียนหวยจะตระเวนออกหาเลขเด็ดเลขดังตามสถานที่ต่าง ๆ หลังจากที่ได้ยินได้ฟังข่าวมา และไม่ใช่เรื่องแปลกที่ตลาดขายหวยทั่วประเทศ จะคลาคล่ำไปด้วยผู้คน ทั้งตลาดขายลอตเตอรี่หรือตลาดหวยใต้ดินที่มีการสั่งซื้อเลขเด็ดกันอย่างโจ๋งครึ่ม ในทุกวงการ เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นความหวังของ “คนจน” ที่อยากมีโอกาส “รวย” กับเขาบ้าง ความหวังในชีวิตที่มั่งคั่งซึ่งไม่อาจจะบรรลุจากการทำงานปกติได้ ทำให้คนต้องฝากความหวังไว้กับหวย แม้กระทั่งหลักศาสนาก็ไม่สามารถยับยั้งเรื่องการเล่นการพนันหวยของคนไทยได้
  
แม้จะรู้ทั้งรู้ว่าการซื้อหวยบนดินนั้นโอกาสถูกรางวัลนั้นมีเพียง 0.01% เพราะโอกาสในการออกเลข ตั้งแต่ 00-99 ต่างมีความเป็นไปได้ทั้งนั้น แต่ “หวยบนดิน” ก็คือความหวังที่พอจะเอื้อมถึง ด้วยเงินเพียง 20 บาท ก็สามารถใช้เป็นแนวทางเพื่อหลีกหนีความทุกข์ยากเป็นแนวทางในการหาความสุข ความตื่นเต้นให้ชีวิตมีความหวังที่จะรวยได้ทุก 15 วัน
  
เมื่อรัฐบาลไม่มีหวยที่ถูกกฎหมายให้เล่นให้ซื้อ ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่หวยใต้ดินจะเนื้อหอมกว่าปกติ ขณะเดียวกันราคาลอตเตอรี่ก็ยิ่งแพง เพราะจำนวนสินค้ามีอยู่อย่างจำกัด ขณะที่ความต้องการสินค้ามีจำนวนมาก ก็เป็นเรื่องของหลักเศรษฐศาสตร์ที่อธิบายได้ชัดเจน ข้อสำคัญปัญหาของ หวย กลับลงรากลึกไปมากขึ้นหลังบอร์ดหวยสั่งให้งดการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ เพราะเป็นการส่งเสริมให้เกิดการมอมเมา ทั้งที่ทำมานานหลายสิบปี แต่มาถึงวันนี้ ! กลับกลายเป็นเรื่องมอมเมา !
 
ข่าวลือสารพัดเกี่ยวกับ ล็อกเลข จึงกลับคืนมาอีกครั้ง เพราะคนไม่สามารถรับข่าวสารที่ดูให้เห็นกับตาว่าการออกรางวัลในแต่ละงวดนั้นโปร่งใส บริสุทธิ์ยุติธรรมหรือไม่ การได้ยินแต่เสียงถ่ายทอดจากวิทยุ คงมีอารมณ์ที่ต่างจากการเห็นด้วยตาอย่างสิ้นเชิง แม้ผู้บริหารที่เกี่ยวข้องจะนั่งยันนอนยันว่าการออกรางวัลในแต่ละครั้งสุดยอดโปร่งใสก็ตาม
 
ยิ่งเข้าทางข่าวลือกันไปใหญ่เมื่อรางวัลที่ออกมาในแต่ละงวด มีเลข 5 ติดอยู่ในรางวัลใหญ่ติดต่อกันนับ 10 งวด สอดรับกับกระแสข่าวลือที่ว่าสำนักงานสลากฯ ล็อกเลข 5 ไว้ 10 งวด เพราะต้องการดัดหลังเจ้ามือหวยใต้ดิน เหตุการณ์นี้กลายเป็นข่าวใหญ่โตในบรรดาเซียนหวยจนทำให้เจ้ามือหวยใต้ดินต้องเปลี่ยนการอิงรางวัลใหม่หมดหลังจากหมดเนื้อหมดตัวไปหลายงวด
   
ดูได้จากผลสำรวจของ ศูนย์วิจัยเอแบค นวัตกรรมทางสังคม การจัดการและธุรกิจ มหา วิทยาลัยอัสสัมชัญ, ศูนย์วิจัยธรรมาภิบาล มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม และฝ่ายวิจัย มหา วิทยาลัยหอการค้าไทย ที่ออกสำรวจความคิด เห็นของคนไทย ที่มีอายุ 10 ปีขึ้นไปใน 18 จังหวัดทั่วประเทศ จำนวน 6,703 ตัวอย่าง มีถึง 62.7% ที่ไม่เห็นด้วย ที่รัฐบาลชุดปัจจุบันยกเลิกการขายหวยบนดิน และมีถึง 42.7% ที่บอกว่าการไม่มีหวยบนดินทำให้หวยใต้ดินเพิ่มมากขึ้น และอีก 19.9% บอกว่าหวยบนดิน เป็นความหวังของคนจน และเป็นรายได้เสริม
  
ผลสำรวจที่ออกมาได้ให้เหตุผลไว้ชัดเจนว่า หวยบนดิน เป็นนโยบายที่รัฐบาลทำให้ปริมาณหวยใต้ดินลดลงไปได้ ที่สำคัญไม่ต้องห่วงหรือกังวลให้มากเกินไปว่า เด็กนักเรียน นักศึกษา จะแห่แหนกันมาเล่นหวยบนดินกันมากขึ้น เพราะความจริงแล้วเด็กนักเรียน นักศึกษา ที่สนใจเล่นหวยบนดิน มีจำนวนน้อย แต่ที่สำคัญยิ่งกว่าอื่นใด การที่ไม่มีหวยบนดินอย่างถูกกฎหมาย จะทำให้รัฐขาดรายได้ที่นำมาพัฒนาประเทศ และยังเปิดช่องทางเปิดโอกาสให้บรรดาข้าราชการ  และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง มีช่องทางทุจริตกัน ต่อไป
 
นอกจากนี้คณะทำงานของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สป.) ยังเห็นด้วยกับการมีหวยบนดินและเตรียมส่งความเห็นและข้อเสนอแนะให้รัฐบาลเร่งตัดสินใจในเรื่องนี้โดยเร็ว พร้อมเสนอให้ยกเลิกรางวัลแจ๊กพอต รวมไปถึงลดจำนวนการออกลอตเตอรี่, สลากออมสิน, สลาก ธ.ก.ส. และการออกรางวัลอื่น ที่หน่วยงานภาครัฐจัดทำขึ้น เพราะการออกสลากดังกล่าวจะมีผลต่อการเกิดหวยใต้ดินต่อไปโดยไม่สิ้นสุด
 
การเห็นด้วยครั้งนี้ก็เพราะว่าจากการทำงานของคณะทำงานในช่วงที่ไม่มีหวยบนดินขาย ทำให้หวยใต้ดินกลับมาอีกครั้ง รวมทั้งเกิดการขายลอตเตอรี่เกินราคาอย่างเห็นได้ชัด และหวยก็ยังเป็นความหวังและความฝันของประชาชนคนไทยทั่วไป เนื่องจากคนไทยเกือบทุกสาขามีนิสัยชอบการเสี่ยงโชค
 
กระทั่งล่าสุดบรรดา สมาชิกสภานิติ บัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กลุ่มหนึ่งนำโดย นายสังศิต พิริยะรังสรรค์ นายอัมมาร สยามวาลา นายภัทระ คำพิทักษ์ และนายพูนสวัสดิ์ อยู่ประเสริฐ ได้เดินทางเข้าพบขุนคลังเพื่อชี้แจงรายละเอียดและสนับสนุนให้รัฐบาลกล้าตัดสินใจที่จะนำเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาของ สนช. อีกครั้ง หากรัฐบาลยังไม่กล้าตัดสินใจหรือกลัวเกิดประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเหมือนกรณีที่ “ม.ร.ว.ปรีดิยาธร  เทวกุล” นำเข้าไปชี้แจงใน สนช. แล้วถูกไล่ขย่มจนถอนร่างกฎหมายคืนแทบไม่ทัน อาจทำให้เกิดปัญหาวงจรอุบาทว์ตามมาอีก
 
เพราะในช่วงเกือบ 5 เดือนที่ผ่านมา ที่ไม่มีหวยบนดินขายอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ทำให้เกิดเงินสะพัดไปสู่หวยใต้ดินเป็นจำนวนมหาศาล ที่สำคัญเงินเหล่านี้ตกไปอยู่ในกลุ่มของนักการเมือง ผู้มีอิทธิพลนำมาใช้ในการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ทำให้สมาชิก สนช. ที่ก่อนหน้านี้ออกโรงคัดค้านไม่เห็นด้วยกับการมีหวยบนดินอย่างหนัก ก็ตระ หนักถึงความจริงที่เกิดขึ้นและเห็นด้วยที่จะให้มีหวยบนดินต่อไป แต่เรื่องนี้รัฐบาลต้องทำให้ถูกต้องตามกฎหมายและต้องไม่นิรโทษกรรมให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องในอดีต
 
เวลานี้ทุกฝ่ายต่างเข้าใจปัญหาที่แท้จริงของหวยบนดิน ว่า “ความผิด” ที่ผ่านมาไม่ได้อยู่ที่ “หลักการ” แต่อยู่ที่วิธีการปฏิบัติโดยเฉพาะ “เงินรายได้” ที่ต้องนำส่งเป็นรายได้ของรัฐให้ถูกต้อง ดังนั้นรัฐบาลจะตัดสินใจเรื่องหวยบนดินอย่างไร สมาชิกสนช., นักวิชาการ, นักกฎหมาย, นักเศรษฐศาสตร์, ประชาคม และกลุ่มต่าง ๆ ในสังคม ต้องใช้วิจารณญาณที่จะสนับสนุนหรือคัดค้าน โดยอยู่บนพื้นฐานของความจริง ยอมรับในเหตุผลของความจริงและยอมรับสภาพความเป็นจริงที่เป็นอยู่
 
แม้จะมีการอ้างหรือนำเรื่องของ ศีล ธรรม มาหยิบยกกล่าวถึงกันบ่อยครั้ง แต่การตัดสินใจเชิงนโยบายเกี่ยวกับการพนัน โดยอาศัยเพียงแค่เรื่องของศีลธรรม และคุณธรรมอย่างเดียวไม่ได้ แต่ต้องพิจารณาถึง เรื่องผลกระทบของการพนันในเชิงบวก สภาพเศรษฐกิจ และพฤติกรรมการบริโภคของคนไทยเข้าไปด้วย

มาริสา ช่อกระถิน

พันตรีศิริชัย  ทรัพย์ศิริ

สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

www.waddeeja.com
 

ม๊อบล๊อตเตอรี่ชาวเลยโวยยี่ปั๊ว จี้ผวจ.แก้ปัญหาการจัดสรรโควตา

เลย: จากกรณีที่ผู้จำหน่ายล๊อตเตอรี่รายย่อยจากอำเภอวังสะพุง จ.เลย กว่า 500 คน นำโดยนายอดุลย์เดช ติยะบุตร ที่ปรึกษาสหกรณ์ผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลจังหวัดเลย จำกัด ได้เข้าเพื่อยื่นหนังสือหนังสือและขอให้นายสำเริง เชื้อชวลิต ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ทวงถามความเป็นธรรมในการจัดสรรโควตาลอตเตอรี่ให้กับคนเดินขายลอตเตอรี่

โดยนายอดุลยเดช กล่าวว่า เป็นเวลากว่า 3 ปีแล้วที่ผู้เดินขายลอตเตอรี่จังหวัดเลยได้รวมตัวกันเรียกร้องความเป็นธรรมในการแก้ไขปัญหาลอตเตอรี่และการจัดสรรโควตาให้กับคนจนผู้เดินขายจริงจังอย่างเป็นธรรมจากรัฐบาลเก่าๆ แต่ไม่ได้รับการเหลียวแลแต่อย่างใด เนื่องจากโควตาลอตเตอรี่ไปตกอยู่ในมือของนักการเมืองและนายทุนผู้มีอิทธิพลพอมาถึงมือคนขายจริง ราคาแพง เมื่อนำไปขายให้กับประชาชนก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมและปรับ เนื่องจากขายเกินราคากำหนด

"ที่ผ่านมาสหกรณ์ฯ ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาร่วมกันของคนเดินขายลอตเตอรี่จังหวัดเลยให้ได้รับความเป็นธรรมจึงขอเรียกร้องให้ผู้ว่าฯและ พล.ต.วีระพงษ์ คงเกษม ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกเลย และ พล.ต.ต.อุดมเดช กปิตถา ณ อยุธยา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเลย ให้ความเป็นธรรมให้กับประชาชน ไม่เลือกปฏิบัติ ถ้าปัญหานี้ไม่จบคงไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากเดินทางไปยังกรุงเทพฯ เพื่อเข้าไปรวมตัวกับกลุ่มพลังมวลชนเรียกร้องต่อไป" นายอดุลย์เดช กล่าว

พันตรีศิริชัย  ทรัพย์ศิริ

สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

www.waddeeja.com Tel. 0-2990-0331

วันที่ 26/4/2007