หน้าหลัก | สมาคมคนพิการ ฯ (ส.พ.ค.) | โครงการ ปี2567 | รวมภาพกิจกรรม | คุณถาม-เราตอบ | ติดต่อเรา |
คณะรัฐศาสตร์ - มหาวิทยาลัยปทุมธานี | |
จีนแซงเยอรมนี ชาติส่งออกอันดับหนึ่งของโลก 12 มกราคม 2553 วอชิงตันโพสต์,รอยเตอร์ – จีนผงาดเป็นชาติผู้ส่งออกอันดับหนึ่งของโลก ขณะที่ยอดส่งออกและนำเข้าของจีนเดือนธ.ค.พุ่งสูงเกินคาด นักวิเคราะห์ฟันธง ภาคการส่งออกที่แข็งแกร่งจะเพิ่มแรงกดดันให้รัฐบาลปักกิ่งปล่อยเงินหยวนแข็งค่าในเร็ว ๆ นี้ - - - - - - - - - - - - - - - - - - พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ นักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ รุ่น 8 มหาวิทยาลัยปทุมธานี (มปท.) 1201531910 *********************
| |
ผู้ตั้งกระทู้ พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com) :: วันที่ลงประกาศ 2010-01-12 19:09:55 IP : 124.121.139.87 |
<< ก่อนหน้า 1 [2] |
ความคิดเห็นที่ 51 (3240605) | |
การจัดการภาครัฐและเอกชน 1.การสอนงาน การสอนงาน (Coaching) คือ การทำงานโดยมีพนักงานที่ชำนาญหรือผู้บังคับบัญชาเป็น พี่เลี้ยงสอนงานให้อย่างมีขั้นตอน แล้วให้พนักงานลงมือทำ มีการติดตามและประเมินผล เพื่อให้พนักงานมีการนำไปใช้ คิดเป็น ทำเป็น และแก้ปัญหาได้ วัตถุประสงค์
วิธีการสอนงาน มี 2 วิธีขั้นพื้นฐาน คือ 1. วิธีการสอนงานโดยตรง (สอนเอง) -ใข้สำหรับพัฒนาทักษะ ความชำนาญหรือเทคโนโลยี -ใช้สำหรับการให้คำตอบ อาทิ การอธิบาย กลยุทธเชิงธุรกิจ -ใช้สำหรับการสอนงาน 2. วิธีการสอนงานแบบให้การสนับสนุน (ให้คำปรึกษา) -ใช้สำหรับการสนับสนุนการแก้ปัญหาได้ด้วยกันเอง -ใช้สำหรับการสร้างความมั่นใจให้กับสมาชิกในทีม -ใช้สำหรับการสนับสนุน ให้เรียนรู้ด้วยตนเอง แม้ว่าจะหมายถึงความเสี่ยงที่ เกิดขึ้นจากความผิดพลาด ความสำคัญของการสอนงาน 1. ไม่เกิดการลองผิดลองถูก การสอนงานเป็นไปอย่างถูกต้อง และมีประสิทธิภาพ ลดความผิดพลาดเสียหายและเวลาการทำงาน 2. การเรียนรู้เป็นไปอย่างถูกต้องสมบูรณ์ เกิดการถ่ายทอดงานและเทคนิคการปฏิบัติงาน จากหัวหน้าไปสู่ผู้ร่วมทีมงานช่วยให้เกิดความรู้ในการทำงานที่ถูกต้อง เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน 3. การปฏิบัติงานสะดวก รวดเร็วและปลอดภัย สามารถปรับปรุงงานให้ดีขึ้น 4. ไม่เสียเวลาแก้ไขงานที่ผิดพลาดและบกพร่อง 5. ผู้บังคับบัญชากับผู้ใต้บังคับบัญชาไว้วางใจกันและเป็นโอกาสที่จะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน 6. ทำให้องค์ความรู้ไม่ติดกับตัวบุคคลเมื่อมีการเข้าออกจากงานก็มีผู้สืบต่องานได้ วิธีการสอนงานแบบ 4 Ps 1.PREPARE เตรียมการสอน - ให้ความรู้สึกเป็นกันเอง ผู้ที่จะเรียนรู้งานนั้นมีคามใหม่ มีความกังวล หากได้รับการต้อนรับและให้ ความเป็นกันเองได้ จะลดการเกิดการตื่นเต้นได้ - แจ้งขอบเขตงาน ที่จำทำการสอบงาน และไต่ถามว่าได้รู้งานมาแล้วเพียงใด เพื่อลดการสอนงานที่ไม่จำเป็น หรือเพื่อให้แน่ใจว่ามีความรู้ในงานนั้นจริงๆ เพื่อสามารถวางแผนการสอนได้ถูกต้องว่าต้องเน้นย้ำตรงส่้วนไหน - ทำให้เกิคความสนใจในการเรียนรู้ในสิ่งที่กำลังสอน เพราะเราไม่สามารถสอนในสิ่งที่คนไม่ต้องการเรียนรู้ได้ -ให้ผู้เรียนอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง ไม่ว่าการนั่งหรือยืน ด้านหน้า ด้านหลังผู้สอน ซึ่งรวมทั้งสถานที่ที่จะสอนงาน 2.PRESENT สาธิต แสดงวิธีการ - การบอก การทำให้เห็นเป็นตัวอย่าง การอธิบายเหตุผล เป็นขั้นตอนที่สำคัญอย่างมากต่อความสำเร็จในการสอนงาน - ในการสอนต้องมีการเน้นย้ำในจุดที่สำคัญ(key point)อยู่เสมอ ซึ่ง จุดที่สำคัญ(key point)หมายถึงสิ่งที่หากทำไม่ถูกต้องจะทำให้งานนั้นเสียหาย หรือใช้เวลานานกว่า -การสอนงานในแต่ละจุด ต้องทำให้ชัดเจนสมบูรณ์ โดยต้องทำการอธิบายช้าๆ ในประเด็นที่สำคัญ -การแสดงให้เห็นนี้ ต้องมีการวางแผนเป็นอย่างดี เพราะว่าพนักงานมีความสามารถในการเรียนรู้จำกัด ต้องมีการพักและตอกย้ำเป็นระยะๆ - อย่าสอนเกินกว่าความสามารถในการเรียนรู้ได้ในช่วงเวลานั้นๆ 3.PERFORM ลองปฏิบัติ -ก่อนให้เขาทำการทดลองปฏิบัติ ทำการทบทวนจุดสำคัญ สรุปว่าต้องทำอะไรบ้างและอย่างไร -ให้พนักงานทดลองทำ เมื่อผู้เรียนทำไม่ถูกต้องให้ทำการแก้ไขข้อข้อผิดพลาดโดยทันที การสอนที่ดีต้องปล่อยให้ผู้เรียนทำถูกและทำผิด -ให้พนักงานอธิบายในแต่ละจุดสำคัญ(key point) -ทำให้แน่ใจว่าพนักงานมีความเข้าใจในจุดที่สำคัญ(key point) -ให้พนักงานฝึกอย่างต่้อเนื่องจนมั่นใจว่าพนักงานสามารถปฏิบัติได้ 4.PUT TO WORK ให้ทำงาน -ทำการระบุพี่เลี้ยงหรือผู้ที่สามารถให้ความช่วยเหลือ -ทำการตรวจสอบความเข้าใจบ่อยๆ และเปิดโอกาศให้พนักงานสอบถามในสิ่งที่ไม่เข้าใจ -กำหนดการเรียนรู้งานต่อไป เมื่อใดที่ต้องมีการสอนงาน -เมื่อพนักงานมีการโยกย้าย / เปลี่ยนงาน / ได้รับการมอบหมายงานใหม่ -เมื่อผลงานด้านคุณภาพหรือปริมาณงานของพนักงานต่ำกว่าระดับมาตรฐาน -เมื่อต้องการจะพัฒนาความสามารถในการทำงานของพนักงาน ให้เต็มศักยภาพ 2.เทคนิคการควบคุมงานมีอะไรบ้าง การควบคุมงานเป็นการตรวจสอบการปฏิบัติงานว่าเป็นไปตามแผนและเป้าหมายหรือข้อตกลงตามที่กำหนดไว้หรือไม่ เป็นงานขั้นตอนหนึ่งของการบริหาร ซึ่งเป็นหน้าที่ของผู้บริหารทุกคน โดยผู้บริหารแต่ละระดับชั้นจะมีขอบเขตของการควบคุมงานที่แตกต่างกันการควบคุมงาน คือการใช้ศิลปะการบริหารเพื่อตรวจดูว่าการดำเนินงานเป็นไปโดยถูกต้องตามวิธีการหรือไม่และการปฏิบัติงานมีผลเพียงใด การควบคุมงานเป็นเครื่องช่วยกำกับกิจกรรมทั้งหลายให้ดำเนินไปโดยไม่ติดขัดและผิดพลาดโดยการควบคุมงานขึ้นอยู่กับความเป็นผู้นำของหัวหน้าหน่วยงาน ประสบการณ์และความสามารถของผู้ร่วมงาน รวมทั้งนิสัยและวินัยในการทำงานของผู้ปฏิบัติงานและหัวหน้างาน การคาดคะเนความต้องการกำลังคนและการใช้เทคนิคและวิธีการต่าง ๆ -การใช้วิจารณญาณผู้บริหาร -การใช้อัตราส่วน 2.การใช้อัตราส่วนระหว่างกำลังคนในงานที่เกี่ยวข้อง วัตถุประสงค์ของ PERT เป็นแผนงานที่สามารถแสดงภาพรวมของโครงการด้วยข่ายงาน (Network) โดยแสดงกิจกรรมต่างๆในโครงการ ลำดับการทำงาน และความสัมพันธ์ระหว่างกิจกรรมต่างๆ ทั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. วางแผนโครงการ โดยจะทำการคำนวณระยะเวลาการทำงาน และแสดงถึงกิจกรรมแต่ละกิจกรรมว่าควรเริ่มเมื่อใด แล้วเสร็จเมื่อใด และสามารถกำหนดได้ว่ากิจกรรมใดเป็นกิจกรรมสำคัญ ทำงานล่าช้าไม่ได้ หรือล่าช้าได้ไม่เกินเท่าใด 2. ควบคุมโครงการ สามารถควบคุมการทำงานตามแผนที่ได้วางไว้ และควบคุมการทำงานไม่ให้ล่าช้ากว่ากำหนด 3. บริหารทรัพยากร กล่าวคือ สามารถใช้ทรัพยากรต่างๆ เช่น เงินลงทุน บุคลกร เครื่องมือ อุปกรณ์ และอื่นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและประโยชน์เต็มที่ 4. บริหารโครงการ งานที่ดำเนินการอยู่อาจจำเป็นต้องเร่งการดำเนินการเพื่อแล้วเสร็จกว่ากำหนด ก็สามารถทำได้ด้วยการเร่งทำกิจกรรมใดบ้าง เพื่อให้งานเสร็จในระยะเวลาที่เร็วขึ้น วิธีการของ PERT การเขียนโครงการการปฏิบัติตามเทคนิคของ PERT Gantt Chart 3.การบริหารการเปลี่ยนแปลง หมายถึง การเปลี่ยนแปลงองค์กรทั้งหมดหรือบางส่วนขององค์การ การเปลี่ยนแปลงองค์การนี้รวมถึงการออกแบบโครงสร้างองค์การใหม่ การติดตั้งระบบสารสนเทศใหม่ และการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรม เป็นเทคนิคการจัดการ เป็นส่วนหนึ่งของความสามารถหลักของผู้บริหาร ในยุคปัจจุบันที่เผชิญกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสารโทรคมนาคมที่ทันสมัย ที่ช่วยทำให้ผู้บริหารสามารถปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วทันต่อสถานการณ์ธรรมชาติและสิ่งมีชีวิต จะต้องปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมเช่นเดียวกับองค์การที่จะต้องมีการปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและมีการเตรียมความพร้อมที่จะรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นอย่างไม่คาดหวัง ฃึ่งเกิดจากปัจจัยดังนี้ ปัจจัยภายในองค์การ ทฤษฎีกลุ่มนี้เชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงเกิดจากปัจจัยภายในเป็นสำคัญ เช่น ผลผลิตต่ำ ความขัดแย้งภายใน การขาดงานบ่อย การหมุนเวียนของผู้ปฏิบัติงาน ปัจจัยภายในนี้เป็นสาเหตุให้เกิดการเปลี่ยนแปลงองค์การได้ ปัจจัยภายนอกองค์การ เป็นกลุ่มที่เชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงเกิดจากปัจจัยภายนอกกดดันให้องค์การต้องมีการเปลี่ยนแปลง เช่น การแข่งขันที่รุนแรง การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี หรือการเปลี่ยนแปลงของนโยบายรัฐบาล วัตถุประสงค์ -เพื่อไม่ให้เป็นผู้พ่ายแพ้ –เพื่อรองรับสถานการณ์ -เพื่อชนะผู้แข่งขัน KPI ย่อมาจาก Key Performance Indicators 1. Key หมายถึง สำคัญที่สุดในกลุ่ม 2. Performance หมายถึง ทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้ดีแค่ไหน บรรลุ สำเร็จแค่ไหน 3. Indicator หมายถึง ตัววัดหรือคุณค่าที่ให้แก่สิ่งใดสิ่งหนึ่ง ดังนั้น KPI หมายถึง “เครื่องมือที่ใช้วัด และประเมินผลการดำเนินงานในด้านต่าง ๆ ที่สำคัญขององค์กร ซึ่งสามารถแสดงผลเป็นข้อมูลในรูปของตัวเลขเพื่อสะท้อนประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการทำงานขององค์กรหรือหน่วยงานต่าง ๆ ภายในองค์กร” อาจแปลง่าย ๆ ว่า “ตัววัดความสำเร็จที่สำคัญ” กระบวนการประเมินองค์การ -กำหนดวัตถุประสงค์ของการประเมิน -กำหนดตัวชี้วัดและเครื่องชี้วัด -การกำหนดเกณฑ์มาตราฐาน หรือตัวเปรียบเทียบ -วิเคราะห์เปรียบเทียบกับมาตราฐานที่ตั้งไว้ กระบวนการ KPI ขั้นที่ 1 การวางแผน 1)การกำหนดนโนยบายคุณภาพ (1) ความต้องการของลูกค้า -ความต้องการของลูกค้า -ความต้องการของลูกค้ามิได้ระบุโดยตรง -ความต้องการของลูกค้าที่ระบุไว้ในกฏหมาย -ความต้องการของลูกค้าที่องค์กรกำหนดขึ้นเอง (2) จุดมุ่งหมายขององค์การ (3) ความพึงพอใจของลูกค้า 2)การกำหนดกระบวนการของธุรกิจ ขั้นที่ 2 การปฏิบัติ (Do) 3.การส่งมอบ ขั้นที่ 3 การตรวจสอบ ขั้นที่ 4 การแก้ไขปรับปรุง วงจร PDCA การจัดทำตัวชี้วัด 1.การกำหนดวัตถุประสงค์ ในแต่ละมุมมอง -ด้านการเงิน -ด้านลูกค้า -ด้านกระบวนการภายใน
| |
ความคิดเห็นที่ 52 (3240606) | |
การจัดการภาครัฐและเอกชน 1.การสอนงาน การสอนงาน (Coaching) คือ การทำงานโดยมีพนักงานที่ชำนาญหรือผู้บังคับบัญชาเป็น พี่เลี้ยงสอนงานให้อย่างมีขั้นตอน แล้วให้พนักงานลงมือทำ มีการติดตามและประเมินผล เพื่อให้พนักงานมีการนำไปใช้ คิดเป็น ทำเป็น และแก้ปัญหาได้ วัตถุประสงค์
วิธีการสอนงาน มี 2 วิธีขั้นพื้นฐาน คือ 1. วิธีการสอนงานโดยตรง (สอนเอง) -ใข้สำหรับพัฒนาทักษะ ความชำนาญหรือเทคโนโลยี -ใช้สำหรับการให้คำตอบ อาทิ การอธิบาย กลยุทธเชิงธุรกิจ -ใช้สำหรับการสอนงาน 2. วิธีการสอนงานแบบให้การสนับสนุน (ให้คำปรึกษา) -ใช้สำหรับการสนับสนุนการแก้ปัญหาได้ด้วยกันเอง -ใช้สำหรับการสร้างความมั่นใจให้กับสมาชิกในทีม -ใช้สำหรับการสนับสนุน ให้เรียนรู้ด้วยตนเอง แม้ว่าจะหมายถึงความเสี่ยงที่ เกิดขึ้นจากความผิดพลาด ความสำคัญของการสอนงาน 1. ไม่เกิดการลองผิดลองถูก การสอนงานเป็นไปอย่างถูกต้อง และมีประสิทธิภาพ ลดความผิดพลาดเสียหายและเวลาการทำงาน 2. การเรียนรู้เป็นไปอย่างถูกต้องสมบูรณ์ เกิดการถ่ายทอดงานและเทคนิคการปฏิบัติงาน จากหัวหน้าไปสู่ผู้ร่วมทีมงานช่วยให้เกิดความรู้ในการทำงานที่ถูกต้อง เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน 3. การปฏิบัติงานสะดวก รวดเร็วและปลอดภัย สามารถปรับปรุงงานให้ดีขึ้น 4. ไม่เสียเวลาแก้ไขงานที่ผิดพลาดและบกพร่อง 5. ผู้บังคับบัญชากับผู้ใต้บังคับบัญชาไว้วางใจกันและเป็นโอกาสที่จะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน 6. ทำให้องค์ความรู้ไม่ติดกับตัวบุคคลเมื่อมีการเข้าออกจากงานก็มีผู้สืบต่องานได้ วิธีการสอนงานแบบ 4 Ps 1.PREPARE เตรียมการสอน - ให้ความรู้สึกเป็นกันเอง ผู้ที่จะเรียนรู้งานนั้นมีคามใหม่ มีความกังวล หากได้รับการต้อนรับและให้ ความเป็นกันเองได้ จะลดการเกิดการตื่นเต้นได้ - แจ้งขอบเขตงาน ที่จำทำการสอบงาน และไต่ถามว่าได้รู้งานมาแล้วเพียงใด เพื่อลดการสอนงานที่ไม่จำเป็น หรือเพื่อให้แน่ใจว่ามีความรู้ในงานนั้นจริงๆ เพื่อสามารถวางแผนการสอนได้ถูกต้องว่าต้องเน้นย้ำตรงส่้วนไหน - ทำให้เกิคความสนใจในการเรียนรู้ในสิ่งที่กำลังสอน เพราะเราไม่สามารถสอนในสิ่งที่คนไม่ต้องการเรียนรู้ได้ -ให้ผู้เรียนอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง ไม่ว่าการนั่งหรือยืน ด้านหน้า ด้านหลังผู้สอน ซึ่งรวมทั้งสถานที่ที่จะสอนงาน 2.PRESENT สาธิต แสดงวิธีการ - การบอก การทำให้เห็นเป็นตัวอย่าง การอธิบายเหตุผล เป็นขั้นตอนที่สำคัญอย่างมากต่อความสำเร็จในการสอนงาน - ในการสอนต้องมีการเน้นย้ำในจุดที่สำคัญ(key point)อยู่เสมอ ซึ่ง จุดที่สำคัญ(key point)หมายถึงสิ่งที่หากทำไม่ถูกต้องจะทำให้งานนั้นเสียหาย หรือใช้เวลานานกว่า -การสอนงานในแต่ละจุด ต้องทำให้ชัดเจนสมบูรณ์ โดยต้องทำการอธิบายช้าๆ ในประเด็นที่สำคัญ -การแสดงให้เห็นนี้ ต้องมีการวางแผนเป็นอย่างดี เพราะว่าพนักงานมีความสามารถในการเรียนรู้จำกัด ต้องมีการพักและตอกย้ำเป็นระยะๆ - อย่าสอนเกินกว่าความสามารถในการเรียนรู้ได้ในช่วงเวลานั้นๆ 3.PERFORM ลองปฏิบัติ -ก่อนให้เขาทำการทดลองปฏิบัติ ทำการทบทวนจุดสำคัญ สรุปว่าต้องทำอะไรบ้างและอย่างไร -ให้พนักงานทดลองทำ เมื่อผู้เรียนทำไม่ถูกต้องให้ทำการแก้ไขข้อข้อผิดพลาดโดยทันที การสอนที่ดีต้องปล่อยให้ผู้เรียนทำถูกและทำผิด -ให้พนักงานอธิบายในแต่ละจุดสำคัญ(key point) -ทำให้แน่ใจว่าพนักงานมีความเข้าใจในจุดที่สำคัญ(key point) -ให้พนักงานฝึกอย่างต่้อเนื่องจนมั่นใจว่าพนักงานสามารถปฏิบัติได้ 4.PUT TO WORK ให้ทำงาน -ทำการระบุพี่เลี้ยงหรือผู้ที่สามารถให้ความช่วยเหลือ -ทำการตรวจสอบความเข้าใจบ่อยๆ และเปิดโอกาศให้พนักงานสอบถามในสิ่งที่ไม่เข้าใจ -กำหนดการเรียนรู้งานต่อไป เมื่อใดที่ต้องมีการสอนงาน -เมื่อพนักงานมีการโยกย้าย / เปลี่ยนงาน / ได้รับการมอบหมายงานใหม่ -เมื่อผลงานด้านคุณภาพหรือปริมาณงานของพนักงานต่ำกว่าระดับมาตรฐาน -เมื่อต้องการจะพัฒนาความสามารถในการทำงานของพนักงาน ให้เต็มศักยภาพ 2.เทคนิคการควบคุมงานมีอะไรบ้าง การควบคุมงานเป็นการตรวจสอบการปฏิบัติงานว่าเป็นไปตามแผนและเป้าหมายหรือข้อตกลงตามที่กำหนดไว้หรือไม่ เป็นงานขั้นตอนหนึ่งของการบริหาร ซึ่งเป็นหน้าที่ของผู้บริหารทุกคน โดยผู้บริหารแต่ละระดับชั้นจะมีขอบเขตของการควบคุมงานที่แตกต่างกันการควบคุมงาน คือการใช้ศิลปะการบริหารเพื่อตรวจดูว่าการดำเนินงานเป็นไปโดยถูกต้องตามวิธีการหรือไม่และการปฏิบัติงานมีผลเพียงใด การควบคุมงานเป็นเครื่องช่วยกำกับกิจกรรมทั้งหลายให้ดำเนินไปโดยไม่ติดขัดและผิดพลาดโดยการควบคุมงานขึ้นอยู่กับความเป็นผู้นำของหัวหน้าหน่วยงาน ประสบการณ์และความสามารถของผู้ร่วมงาน รวมทั้งนิสัยและวินัยในการทำงานของผู้ปฏิบัติงานและหัวหน้างาน การคาดคะเนความต้องการกำลังคนและการใช้เทคนิคและวิธีการต่าง ๆ -การใช้วิจารณญาณผู้บริหาร -การใช้อัตราส่วน 2.การใช้อัตราส่วนระหว่างกำลังคนในงานที่เกี่ยวข้อง วัตถุประสงค์ของ PERT เป็นแผนงานที่สามารถแสดงภาพรวมของโครงการด้วยข่ายงาน (Network) โดยแสดงกิจกรรมต่างๆในโครงการ ลำดับการทำงาน และความสัมพันธ์ระหว่างกิจกรรมต่างๆ ทั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. วางแผนโครงการ โดยจะทำการคำนวณระยะเวลาการทำงาน และแสดงถึงกิจกรรมแต่ละกิจกรรมว่าควรเริ่มเมื่อใด แล้วเสร็จเมื่อใด และสามารถกำหนดได้ว่ากิจกรรมใดเป็นกิจกรรมสำคัญ ทำงานล่าช้าไม่ได้ หรือล่าช้าได้ไม่เกินเท่าใด 2. ควบคุมโครงการ สามารถควบคุมการทำงานตามแผนที่ได้วางไว้ และควบคุมการทำงานไม่ให้ล่าช้ากว่ากำหนด 3. บริหารทรัพยากร กล่าวคือ สามารถใช้ทรัพยากรต่างๆ เช่น เงินลงทุน บุคลกร เครื่องมือ อุปกรณ์ และอื่นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและประโยชน์เต็มที่ 4. บริหารโครงการ งานที่ดำเนินการอยู่อาจจำเป็นต้องเร่งการดำเนินการเพื่อแล้วเสร็จกว่ากำหนด ก็สามารถทำได้ด้วยการเร่งทำกิจกรรมใดบ้าง เพื่อให้งานเสร็จในระยะเวลาที่เร็วขึ้น วิธีการของ PERT การเขียนโครงการการปฏิบัติตามเทคนิคของ PERT Gantt Chart 3.การบริหารการเปลี่ยนแปลง หมายถึง การเปลี่ยนแปลงองค์กรทั้งหมดหรือบางส่วนขององค์การ การเปลี่ยนแปลงองค์การนี้รวมถึงการออกแบบโครงสร้างองค์การใหม่ การติดตั้งระบบสารสนเทศใหม่ และการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรม เป็นเทคนิคการจัดการ เป็นส่วนหนึ่งของความสามารถหลักของผู้บริหาร ในยุคปัจจุบันที่เผชิญกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสารโทรคมนาคมที่ทันสมัย ที่ช่วยทำให้ผู้บริหารสามารถปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วทันต่อสถานการณ์ธรรมชาติและสิ่งมีชีวิต จะต้องปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมเช่นเดียวกับองค์การที่จะต้องมีการปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและมีการเตรียมความพร้อมที่จะรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นอย่างไม่คาดหวัง ฃึ่งเกิดจากปัจจัยดังนี้ ปัจจัยภายในองค์การ ทฤษฎีกลุ่มนี้เชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงเกิดจากปัจจัยภายในเป็นสำคัญ เช่น ผลผลิตต่ำ ความขัดแย้งภายใน การขาดงานบ่อย การหมุนเวียนของผู้ปฏิบัติงาน ปัจจัยภายในนี้เป็นสาเหตุให้เกิดการเปลี่ยนแปลงองค์การได้ ปัจจัยภายนอกองค์การ เป็นกลุ่มที่เชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงเกิดจากปัจจัยภายนอกกดดันให้องค์การต้องมีการเปลี่ยนแปลง เช่น การแข่งขันที่รุนแรง การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี หรือการเปลี่ยนแปลงของนโยบายรัฐบาล วัตถุประสงค์ -เพื่อไม่ให้เป็นผู้พ่ายแพ้ –เพื่อรองรับสถานการณ์ -เพื่อชนะผู้แข่งขัน KPI ย่อมาจาก Key Performance Indicators 1. Key หมายถึง สำคัญที่สุดในกลุ่ม 2. Performance หมายถึง ทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้ดีแค่ไหน บรรลุ สำเร็จแค่ไหน 3. Indicator หมายถึง ตัววัดหรือคุณค่าที่ให้แก่สิ่งใดสิ่งหนึ่ง ดังนั้น KPI หมายถึง “เครื่องมือที่ใช้วัด และประเมินผลการดำเนินงานในด้านต่าง ๆ ที่สำคัญขององค์กร ซึ่งสามารถแสดงผลเป็นข้อมูลในรูปของตัวเลขเพื่อสะท้อนประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการทำงานขององค์กรหรือหน่วยงานต่าง ๆ ภายในองค์กร” อาจแปลง่าย ๆ ว่า “ตัววัดความสำเร็จที่สำคัญ” กระบวนการประเมินองค์การ -กำหนดวัตถุประสงค์ของการประเมิน -กำหนดตัวชี้วัดและเครื่องชี้วัด -การกำหนดเกณฑ์มาตราฐาน หรือตัวเปรียบเทียบ -วิเคราะห์เปรียบเทียบกับมาตราฐานที่ตั้งไว้ กระบวนการ KPI ขั้นที่ 1 การวางแผน 1)การกำหนดนโนยบายคุณภาพ (1) ความต้องการของลูกค้า -ความต้องการของลูกค้า -ความต้องการของลูกค้ามิได้ระบุโดยตรง -ความต้องการของลูกค้าที่ระบุไว้ในกฏหมาย -ความต้องการของลูกค้าที่องค์กรกำหนดขึ้นเอง (2) จุดมุ่งหมายขององค์การ (3) ความพึงพอใจของลูกค้า 2)การกำหนดกระบวนการของธุรกิจ ขั้นที่ 2 การปฏิบัติ (Do) 3.การส่งมอบ ขั้นที่ 3 การตรวจสอบ ขั้นที่ 4 การแก้ไขปรับปรุง วงจร PDCA การจัดทำตัวชี้วัด 1.การกำหนดวัตถุประสงค์ ในแต่ละมุมมอง -ด้านการเงิน -ด้านลูกค้า -ด้านกระบวนการภายใน
| |
ความคิดเห็นที่ 53 (3240607) | |
วงจร PDCA การจัดทำตัวชี้วัด 1.การกำหนดวัตถุประสงค์ ในแต่ละมุมมอง -ด้านการเงิน -ด้านลูกค้า -ด้านกระบวนการภายใน -ด้านการพัฒนา 2.การกำหนดว่าอะไร คือสิ่งสำคัญที่ทำให้องค์การประสบความสำเร็จ 3.ปัจจัยความสำเร็จตามองค์การ 4.การจัดทำตัวชี้วัดโดยอาศัยการถาม-ตอบ 5.การจัดทำตัวชี้วัดจากแผนที่มีอยู่แล้ว สรุป การบริหารการเปลี่ยนแปลง เป็นการบริหารที่มีความสำคัญ ซึ่งผู้บริหารจะต้องคำนึงถึงปัญหาในเชิงเทคนิค เชิงการเมือง และเชิงวัฒนธรรมองค์การ แล้วบริหารการเปลี่ยนแปลงที่มีอยู่ 4 ช่วงให้เหมาะสม คือ ช่วงของการสร้างวิสัยทัศน์ในการเปลี่ยนแปลง ช่วงของการพิจารณาอุปสรรคที่จะขัดขวางการเปลี่ยนแปลง ช่วงการดำเนินการเปลี่ยนแปลง และช่วงการประเมินผลการเปลี่ยนแปลง
+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+- รัฐศาสตร์รักกัน.....รัฐศาสตร์รักกัน. - - - - - - - - - - - - - - - - - - พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ นักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ ปี 2 รุ่น 8 มหาวิทยาลัยปทุมธานี นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล (ส.พ.ค.) โทร. 02-990-0331 http://www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ สมาคมคนพิการ 2103541103 ********************* | |
ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2011-03-21 11:03:38 IP : 115.87.7.84 |
ความคิดเห็นที่ 54 (3240608) | |
วงจร PDCA การจัดทำตัวชี้วัด 1.การกำหนดวัตถุประสงค์ ในแต่ละมุมมอง -ด้านการเงิน -ด้านลูกค้า -ด้านกระบวนการภายใน -ด้านการพัฒนา 2.การกำหนดว่าอะไร คือสิ่งสำคัญที่ทำให้องค์การประสบความสำเร็จ 3.ปัจจัยความสำเร็จตามองค์การ 4.การจัดทำตัวชี้วัดโดยอาศัยการถาม-ตอบ 5.การจัดทำตัวชี้วัดจากแผนที่มีอยู่แล้ว สรุป การบริหารการเปลี่ยนแปลง เป็นการบริหารที่มีความสำคัญ ซึ่งผู้บริหารจะต้องคำนึงถึงปัญหาในเชิงเทคนิค เชิงการเมือง และเชิงวัฒนธรรมองค์การ แล้วบริหารการเปลี่ยนแปลงที่มีอยู่ 4 ช่วงให้เหมาะสม คือ ช่วงของการสร้างวิสัยทัศน์ในการเปลี่ยนแปลง ช่วงของการพิจารณาอุปสรรคที่จะขัดขวางการเปลี่ยนแปลง ช่วงการดำเนินการเปลี่ยนแปลง และช่วงการประเมินผลการเปลี่ยนแปลง +-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-
รัฐศาสตร์รักกัน.....รัฐศาสตร์รักกัน. - - - - - - - - - - - - - - - - - - พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ นักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ ปี 2 รุ่น 8 มหาวิทยาลัยปทุมธานี นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล (ส.พ.ค.) โทร. 02-990-0331 http://www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ สมาคมคนพิการ 2103541118
********************* | |
ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2011-03-21 11:18:00 IP : 124.122.206.16 |
ความคิดเห็นที่ 55 (3241097) | |
ประกาศ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยปทุมธานี เรื่อง พรุ่งนี้ สอบวันสุดท้ายของ ภาคการศึกษา 2/2553 อีก 2 วิชา.....
ของอ.สมพงษ์..... / อ.ไพฑรูย์
เช้า / บ่าย.... และทุกคนอย่างลืมลงทะเบียนภาคฤดูร้อนด้วย พรุ่งนี้ลงทะเบียนวันสุดท้าย เย็นสอบเสร็จ.....คุณรัฐศาสตร์ รุ่น 8 กินเลี้ยง โค้ชเข้ม เจ้าภาพ.....ครับ. - - - - - - - - - - - - - - - - - - พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ นักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ ปี 2 รุ่น 8 รหัส 52013351 มหาวิทยาลัยปทุมธานี นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล (ส.พ.ค.) โทร. 02-990-0331 http://www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ สมาคมคนพิการ 2603541839 ********************* | |
ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2011-03-26 18:39:31 IP : 125.25.34.209 |
ความคิดเห็นที่ 56 (3241615) | |
พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล (ส.พ.ค.) โทร. 02-990-0331 http://www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ สมาคมคนพิการ 104541418 ********************* | |
ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2011-04-01 14:18:43 IP : 125.25.59.40 |
ความคิดเห็นที่ 57 (3247475) | |