นิวยอร์ก-ฟอร์บส์เผยรายชื่อมหา***ประจำปี ญี่ปุ่นหลุดโผประเทศที่มี***พันล้านมากที่สุดในเอเชียเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ทศวรรษ ขณะที่ "บิล เกตส์" ครองแชมป์ติดต่อกันเป็นปีที่ 13
ฟอร์บส์ นิตยสารทางการเงินอันทรงอิทธิพลของสหรัฐ รายงานผลการจัดอันดับบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกประจำปี 2550 เมื่อวันพฤหัสบดี (8 มี.ค.) พบว่าจำนวนของมหา***พันล้านในจีน และอินเดียเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่า ส่งผลให้ญี่ปุ่นหลุดจากตำแหน่งประเทศที่มี***พันล้านมากที่สุดในเอเชียเป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี ในขณะที่ นายบิล เกตส์ เจ้าของบริษัทไมโครซอฟท์ ยังรั้งตำแหน่งบุคคลที่รวยที่สุดในโลกติดต่อกันเป็นปีที่ 13 ด้วยมูลค่าสินทรัพย์ 5.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (เกือบ 2 ล้านล้านบาท) แต่ก็ถูก นายวอร์เรน บัฟเฟต์ เจ้าพ่อนักลงทุนชาวอเมริกันซึ่งรั้งตำแหน่งที่ 2 ตีตื้นขึ้นมาทุกขณะ โดยนายบัฟเฟต์มีสินทรัพย์เพิ่มขึ้น 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็น 5.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (กว่า 1,800,000 ล้านบาท)
ส่วนอภิมหา***ของไทยที่ติดอันดับในปีนี้มีอยู่ 3 คน คือ นายเจริญ สิริวัฒนภักดี เจ้าของเบียร์ช้าง ติดอันดับ 264 ด้วยสินทรัพย์มูลค่า 3,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 119,000 ล้านบาท) นายเฉลียว อยู่วิทยา เจ้าพ่อกระทิงแดง มีสินทรัพย์มูลค่า 3,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 108,500 ล้านบาท) นายธนินท์ เจียรวนนท์แห่งเครือเจริญโภคภัณฑ์และครอบครัว มีสินทรัพย์ 2,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 84,000 ล้านบาท)
นางลุยซา โครล บรรณาธิการร่วมของนิตยสารฟอร์บส์ กล่าวว่า ปีที่แล้วถือเป็นปีที่ร้อนแรงของเอเชีย เศรษฐกิจของทั้งอินเดีย และจีนต่างขยายตัวเป็นอย่างมาก โดยขณะนี้อินเดียมี***พันล้านอยู่ 36 คน มีทรัพย์สินรวมกันทั้งสิ้น 191,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่มี***ติดอันดับของฟอร์บส์อยู่ 22 คน แซงหน้าญี่ปุ่นซึ่งมีมหา***ติดอันดับในปีที่แล้ว 24 คน ลดลงจาก 27 คน
ส่วนจีนซึ่งมี***ติดอันดับเพียง 7 คนในปีที่แล้วได้เพิ่มขึ้นพรวดพราดเป็น 20 คนในปีนี้ ขณะที่ฮ่องกงซึ่งมีสถานะเป็นเขตบริหารพิเศษของจีน มีผู้ที่รวยติดอันดับเพิ่มขึ้น 5 คนเป็น 21 ราย ทำให้เมื่อรวมกันแล้วฮ่องกง และจีนจึงมี***มากเป็นอันดับ 1 ในเอเชีย แต่มูลค่าทรัพย์สินรวม 1.4 แสนล้านดอลลาร์ ยังตามหลังอินเดียอยู่
ฟอร์บส์ กล่าวว่า ปัจจุบันโลกมีอภิมหา***มากเป็นประวัติการณ์ถึง 946 คน เพิ่มขึ้นจากเมื่อปีที่แล้ว 150 คน สาเหตุมาจากความรุ่งเรืองของธุรกิจโภคภัณฑ์ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และการที่เงินดอลลาร์อ่อนค่าลง ขณะที่สินทรัพย์โดยรวมของบรรดาอภิมหา***เหล่านี้เพิ่มขึ้นร้อยละ 35 จากปีที่แล้ว รวมเป็น 3.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 122 ล้านล้านบาท) โดยบรรณาธิการนิตยสารฟอร์บส์ถึงกับออกปากว่าปีนี้นับเป็นปีที่ร่ำรวยที่สุดในประวัติศาสตร์ของมวลมนุษยชาติ |