ReadyPlanet.com


ใช้มืถือนานเสี่ยงเป็นมะเร็ง


นักวิจัยอังกฤษ เตือนใช้มือถือนานเสี่ยงเป็นโรคมะเร็ง

 

บรรดาผู้เชี่ยวชาญโครงการวิจัยเพื่อสุขภาพ และการสื่อสารด้วยโทรศัพท์มือถือแห่งอังกฤษ ซึ่งศึกษาวิจัยผลจากการใช้โทรศัพท์มือถือมานานถึง 6 ปีเต็ม เปิดเผยว่า ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า การใช้โทรศัพท์มือถือไปนานๆ ในระยะยาว อาจจะทำให้ผู้ใช้มีความเสี่ยงสูง ที่จะเป็นป่วยเป็นโรคมะเร็ง หรือว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้น กับระบบการทำงานของสมอง และเซลล์สมองได้ แต่สำหรับผู้ใช้โทรศัพท์มือถือในระยะสั้นๆ ยังไม่พบว่ามีความเสี่ยง โครงการวิจัยดังกล่าวได้รับเงินสนับสนุน จากรัฐบาลอังกฤษ และอุตสาหกรรมการคมนาคมสื่อสาร โดยได้ดำเนินการศึกษาวิจัยแล้ว 23 รายการ เพื่อศึกษาว่าโทรศัพท์มือถือ เสาอากาศ และสถานีรับส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือ จะส่งผลกระทบอย่างไรบ้าง ต่อทั้งสุขภาพร่างการของมนุษย์ ซึ่งบรรดานักวิจัยกำลังขยายโครงการศึกษาวิจัยต่อไป ในช่วงเวลาที่เกิน 10 ปี และจะมุ่งเน้น หาผลกระทบที่เกิดกับเด็กที่ใช้โทรศัพท์มือถือต่อไปด้วย

 

www.waddeeja.com

สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

พันตรีศิริชัย  ทรัพย์ศิริ



ผู้ตั้งกระทู้ พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ :: วันที่ลงประกาศ 2007-09-13 21:32:17 IP : 124.121.142.93


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (1182058)
ผู้แสดงความคิดเห็น _ ›ำ^๖ฝขถ จ วันที่ตอบ 2007-09-26 12:31:55 IP : 203.146.127.172


ความคิดเห็นที่ 2 (1191624)

ผ่านร่าง กม.ฮัลโหลไม่ขับ


เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติจราจรทางบก ในวาระที่ 1 ด้วยคะแนน 80 ต่อ 1 เสียง ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ 17 คน และแปรญัตติภายใน 7 วัน ใช้ร่างของรัฐบาลเป็นหลัก มีเนื้อหาเพื่อแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 กำหนดห้ามผู้ขับขี่ขับรถในขณะใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ เว้นแต่ใช้อุปกรณ์เสริมสำหรับการสนทนาโดยผู้ขับขี่ไม่ต้องถือหรือจับ

 

www.waddeeja.com

สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

พันตรีศิริชัย  ทรัพย์ศิริ

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย วันที่ตอบ 2007-10-04 12:26:53 IP : 124.121.138.161


ความคิดเห็นที่ 3 (1258409)

วันที่ 14 พฤศจิกายน 2550

สนช.เห็นชอบร่างกม.ห้ามโทรฯขณะขับรถ

 

การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) โดยมีนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานสนช.ทำหน้าที่ประธาน ซึ่งที่ประชุมได้ให้ความเห็นชอบร่างพ.ร.บ.จราจรทาง บก  (ฉบับที่   พ.ศ. ......... )  ( กำหนดห้ามผู้ขับขี่  ใช้โทรศัพท์หรือเครื่องมือสื่อสารอื่นใด  ในขณะที่รถเคลื่อนที่ ) ที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว ด้วยคะแนน 57 เสียง

ร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวมีสาระสำคัญคือ ห้ามใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ในขณะขับรถ เว้นแต่มีอุปกรณ์เสริมสำหรับการสนทนาโดยผู้ขับขี่ไม่ต้องถือหรือจับโทรศัพท์เคลื่อนที่ เพื่อลดอุบัติเหตุบนท้องถนนและมีบทกำหนดโทษผู้ที่ฝ่าฝืนต้องระวางโทษปรับตั้งแต่ 400 บาทถึง 1,000 บาท ทั้งนี้กฎหมายดังกล่าวให้มีบังคับใช้เมื่อพ้นกำหนด 90 วันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา 

 

www.waddeeja.com

สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

พันตรีศิริชัย  ทรัพย์ศิริ

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย วันที่ตอบ 2007-11-14 19:34:08 IP : 124.121.143.70


ความคิดเห็นที่ 4 (1561719)
วันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551 เวลา 15:54 น.  ข่าวสดออนไลน์


เตือน8พ.ค.ดีเดย์ฮัลโหลห้ามขับ

โทษปรับ 400-1,***

        พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รองผบช.น. กล่าวว่า ขณะนี้กฎหมายห้ามโทรศัพท์ขณะขับรถ ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วเมื่อวันที่ 8กุมภาพันธ์ โดยจะมีผลบังคับใช้ 90 วัน คือวันที่ 8 พฤษภาคม หากฝ่าฝืนจะมีโทษปรับ 400-1,000 บาท ดังนั้นระหว่างนี้ขอให้ผู้ขับขี่เตรียมซื้ออุปกรณ์เสริมหรือสมอลทอล์ค ใช้ให้คุ้นเคย เพราะขณะขับรถจะไม่อนุญาตให้ถือโทรศัพท์มือถือ หากพบการกระทำผิดเจ้าหน้าที่ตำรวจในฐานะเจ้าพนักงานจราจรสามารถเรียกผู้กระทำผิด และเขียนใบสั่งเพื่อให้ไปเสียค่าปรับ


www.waddeeja.com

สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

พันตรีศิริชัย  ทรัพย์ศิริ

1502512230

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ วันที่ตอบ 2008-02-15 22:21:20 IP : 124.121.143.220


ความคิดเห็นที่ 5 (1621379)
งานวิจัยล่าสุดพบใช้ ‘มือถือ’ นาน เพิ่มความเสี่ยงมะเร็งต่อมน้ำลาย
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 22 กุมภาพันธ์ 2551 05:25 น.
ผลวิจัยล่าสุดชี้การใช้โทรศัพท์มือถือนานๆ อาจเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งต่อมน้ำลาย
        บีบีซีนิวส์ – ผลวิจัยใหม่จากอิสราเอลระบุการใช้โทรศัพท์มือถือนานๆ อาจเกี่ยวโยงกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในการเป็นมะเร็งต่อมน้ำลาย
       
        นักวิจัยศึกษาชาวยิว 500 คนที่เป็นโรคดังกล่าว โดยนำข้อมูลการใช้โทรศัพท์มือถือของคนเหล่านี้ไปเปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุมที่สุขภาพแข็งแรง 1,300 คน
       
        การวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสารดิ อเมริกัน เจอร์นัล ออฟ เอปิเดมิโอโลจี พบว่าผู้ที่ถือโทรศัพท์มือถือแนบใบหน้าด้านใดด้านหนึ่งเพียงด้านเดียววันละหลายชั่วโมง มีโอกาสมากขึ้น 50% ที่จะเกิดเนื้องอกที่ต่อมน้ำลาย
       
        อนึ่ง ก่อนหน้านี้มีผลศึกษาหลายฉบับที่มุ่งเน้นความเสี่ยงของเนื้องอกในหมู่ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือ และส่วนใหญ่พบว่าพฤติกรรมการสื่อสารดังกล่าวไม่ได้เพิ่มความเสี่ยงมะเร็งแต่อย่างใด
       
        อาทิเช่น ในการวิจัยที่ถือว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดและมีการติดตามผลนานที่สุด ซึ่งเป็นการศึกษากลุ่มตัวอย่าง 420,000 คนในเดนมาร์ก ซึ่งในจำนวนนี้รวมถึงผู้ที่ใช้โทรศัพท์มือถือนานถึงสิบปีนั้น พบว่าผู้ใช้โทรศัพท์มือถือมีความเสี่ยงมะเร็งน้อยกว่าที่คาดไว้ บ่งชี้ว่าการใช้อุปกรณ์สื่อสารประเภทนี้ไม่มีผลต่อการเกิดเนื้องอกแต่อย่างใด
       
        ทว่า นักวิจัยของมหาวิทยาลัยเทล อาวีฟกล่าวว่า การศึกษาในอดีตมุ่งเน้นเฉพาะเนื้องอกในสมอง และบ่อยครั้งไม่ครอบคลุมผู้ที่ใช้โทรศัพท์มือถือมาเป็นเวลายาวนาน
       
        มะเร็งต่อมน้ำลายเป็นอาการที่ไม่พบบ่อยนัก อาทิ ในบรรดาผู้ที่ถูกวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งในอังกฤษที่มีจำนวนปีละ 230,000 คนนั้น จะมีผู้ป่วยมะเร็งต่อมน้ำลายเพียง 550 คนเท่านั้น
       
        ดร.ซีกัล ซาเดตซ์กี ผู้นำการวิจัย กล่าวว่าความที่ในอิสราเอลมีปริมาณการใช้โทรศัพท์มือถือสูงกว่าอีกหลายประเทศทั่วโลก การวิจัยนี้จึงให้ภาพของผลลัพธ์สะสมจากการใช้โทรศัพท์มือถือเป็นระยะเวลานาน
       
        “เมื่อเปรียบเทียบกับงานวิจัยชิ้นอื่นๆ ปริมาณการได้รับความถี่ของคลื่นวิทยุที่เราพบถือว่าสูงกว่าในงานวิจัยอื่นๆ”
       
        หนึ่งในประเด็นสำคัญที่ค้นพบคือ ผู้ที่ใช้โทรศัพท์มือถือในพื้นที่ชนบทจะมีความเสี่ยงมากกว่าผู้ที่ใช้อยู่ในเมือง ซึ่งอาจสืบเนื่องจากข้อเท็จจริงที่ว่า การใช้โทรศัพท์มือถือในบริเวณที่ไม่ค่อยมีสัญญาณ ทำให้อุปกรณ์ต้องแพร่กระจายคลื่นความถี่ออกมามากขึ้นเพื่อให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
       
        ดร.ซาเดตซ์กียืนยันว่าจำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อยืนยันการค้นพบนี้ อย่างไรก็ดี ระหว่างที่ยังไม่มีหลักฐานที่แน่ชัด จึงควรใช้มาตรการป้องกันล่วงหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่ควรให้เด็กใช้โทรศัพท์มือถือ

www.waddeeja.com

สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

พันตรีศิริชัย  ทรัพย์ศิริ

2202511412

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ วันที่ตอบ 2008-02-22 14:02:49 IP : 124.121.138.108



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล 802/410 หมู่12 หมู่บ้านวังทองริเวอร์ปาร์ค ซอย10/4 ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี 12130 โทร : 02-990-0331 Copyright © 2010 All Rights Reserved.