ฉลอง 100 ปี วชิราวุธฯ “อีตัน เมืองไทย” ในสมัย ร.6

หากเอ่ยถึงต้นฉบับโรงเรียนประจำแห่งสยามประเทศ โรงเรียนมหาดเล็กหลวง หรือ วชิราวุธวิทยาลัย ถือเป็นต้นฉบับอันสมบูรณ์แบบ โดยพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (ร.6) ที่ทรงเอาพระทัยใส่ในการวางรากฐานระบบการศึกษาเพื่อเยาวชนไทยจะเติบใหญ่ไปเป็นกำลังสำคัญของชาติ
       
       
       จากพระราชปณิธานที่ทรงปฏิบัติเป็นอันดับแรก ภายหลังเสด็จเถลิงถวัลย์ราชสมบัติเป็นล้นเกล้าฯ ร.6 แห่งราชวงศ์จักรี ด้วยการสร้างโรงเรียนประจำรัชกาล แทนการสร้างพระอารามที่มีอยู่เป็นจำนวนมากแล้ว จึงก่อกำเนิดวชิราวุธวิทยาลัยสืบต่อมา ตั้งแต่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2453 และนับแต่นี้เป็นต้นไปจนกว่าจะเข้าสู่วาระครบรอบ 1 ศตวรรษของการก่อตั้งโรงเรียนในวันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2553 วชิราวุธวิทยาลัยจะเป็นศูนย์กลางของกิจกรรมเพื่อการเฉลิมพระเกียรติ ร.6 ที่แสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ พร้อมด้วยการจัดกิจกรรมทางวิชาการ การจัดนิทรรศการพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจ การแสดงละครบทพระราชนิพนธ์ การแสดงดนตรี ที่จะเปิดให้สาธารณชนภายนอกสามารถเยี่ยมชมได้
       
       
       ดร.สาโรจน์ ลีสวรรค์ ผู้บังคับการวชิราวุธวิทยาลัย กล่าวถึงการจัดงานครั้งนี้ว่า ไม่เพียงแต่จะเป็นการฉลองกันภายในเท่านั้น แต่ยังได้เชิญองค์กร และหน่วยงานที่สถาปนาขึ้นโดยพระมหากรุณาฯ ของ ร.6 อาทิ ธนาคารออมสิน บริษัทปูนซีเมนต์ไทย ฯลฯ เข้าร่วมเป็นภาคีในการจัดงาน พร้อมด้วยศิษย์เก่า–ปัจจุบัน คณะครูอาจารย์ ผู้ปกครองและบุคคลภายนอก เพื่อร่วมสนับสนุนการจัดงาน และมีส่วนในการร่วมสร้างอาคารวชิราวุธ 100 ปี แทนอาคารเรียนเดิมของนักเรียนชั้นประถมศึกษา ซึ่งปัจจุบันชำรุดทรุดโทรมไปตามกาลเวลา
       
       
       ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล ประธานจัดงาน ในฐานะนักเรียนเก่ารุ่น 33 กล่าวว่า สิ่งที่ได้รับจากโรงเรียนแห่งนี้ ไม่ใช่เพียงแค่วิชาความรู้ติดตัว แต่สิ่งที่เป็นความภาคภูมิใจยิ่งสำหรับตัวเอง นั่นคือ การถูกสร้างให้เป็น “คน” อย่างเต็มเปี่ยมในทุกๆ มิติ และในฐานะที่ทรงเป็นนักเรียนเก่าอังกฤษ ความหมายของ พับลิค สคูล ตามพระประสงค์ของพระองค์ที่ทรงสถาปนาโรงเรียนมหาดเล็กหลวงขึ้นมา ก็เพื่อฝึกฝนให้เราเป็นนักเรียนที่มีคุณภาพของประเทศชาติ
       
       ใครที่เข้าเรียนในโรงเรียนแห่งนี้ล้วนทราบดีว่า พวกเราถูกฝึกฝนในระบบฝรั่ง แต่จิตวิญญาณเป็นไทย เรื่องวิชาความรู้อาจสอนกันได้ แต่รากของความเป็นไทยนั้นต้องชัดเจน วชิราวุธถือเป็นโรงเรียนอินเตอร์แห่งแรกที่ดำเนินการโดยคนไทย นอกเหนือจากการเรียนตำราในชั้นเรียนแล้ว ในเรื่องของกิจกรรม กีฬา ดนตรี ก็สามารถทำให้ทุกคนกลายเป็นฮีโร่ได้ แม้จะไม่ได้เรียนเก่งที่สุดก็ตาม ดังที่เคยมีรับสั่งไว้ว่า “ข้าไม่อยากให้เจ้าทั้งหลายเป็นตู้หนังสือเคลื่อนที่” แต่ทรงมีพระประสงค์ให้ลูกวชิราวุธทุกคนเป็นสุภาพบุรุษ ประพฤติตนเป็นคนดีของสังคม
       
       
       “ผมเองก็ได้รับความเป็น “คน” ออกไปจากรั้วโรงเรียนแห่งนี้ เมื่อไปทำงานจะอยู่ข้างบน หรืออยู่ข้างล่าง อยู่กับใครก็ได้ สำคัญที่ว่า เราเป็นคนดีที่สังคมยอมรับรึเปล่า จุดเด่นของที่นี่เราถูกปลูกฝังกันตลอด 24 ชม. เหมือนอยู่แคมป์ เรียนตรงนี้ ถูกฝึกตรงนี้ แม้จะจบออกไปหลายสิบปี แต่ก็ยังคงกลับมาเยี่ยมโรงเรียนและช่วยกิจกรรมต่างๆ เพราะความเป็นวชิราวุธเป็นไปตลอดชีวิต ถึงจะจบการศึกษาไปนานแล้วก็ตาม”
       
       
       นอกจากนี้ ประธานจัดงานยังกล่าวต่อว่า หากเทียบกับคุณูปการทั้งปวงที่ทรงมีต่อแผ่นดิน แม้คณะทำงานจะมีเวลาเตรียมงานไม่มากนัก แต่ทุกฝ่ายก็ร่วมแรงร่วมใจกันเต็มที่ เพื่อสะท้อนถึงพระราชกรณียกิจอันใหญ่หลวงของพระองค์ ซึ่งการฉลอง 100 ปี วชิราวุธวิทยาลัย นับเป็นเรื่องที่น่าจดจำ
        
       เนื่องจากในเวลาที่ไล่เลี่ยกันกับการสถาปนาโรงเรียนแห่งนี้ขึ้น ยังมีองค์กรอีกหลากหลายที่ทรงสถาปนาขึ้นและทรงสานต่อพระราชกิจจากพระราชบิดา ถือเป็นความผูกพันทางประวัติศาสตร์มายาวนานร่วมกันที่มีคุณค่ายิ่ง ทุกฝ่ายจึงพร้อมที่จะดำเนินการด้วยความตั้งใจ มุ่งหวังให้ประชาชนได้เรียนรู้และซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวที่พระราชทานแก่ปวงชนชาวไทยตลอดมา

- - - - - - - - - - - - - - - - - -            

พันตรีศิริชัย    ทรัพย์ศิริ                             

นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

โทร. 02-990-0331                   

http://www.apdi2002.com

http://www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ สมาคมคนพิการ

2906522114