ปิดฉากตำนาน"รงค์ วงษ์สวรรค์ ศิลปินแห่งชาติ

ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ศิลปินแห่งชาติสาขาวรรณศิลป์ 2538 "รงค์ วงษ์สวรรค์" สิ้นลมแล้วด้วยวัย 77 ปี ปิดฉากตำนาน "พญาอินทรีแห่งสวนอักษร" ญาติเตรียมนำศพตั้งวัดพระสิงห์ ในตัวเมืองเชียงใหม่ พร้อมตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยโรคไตที่ยากไร้ "เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์"ยกเป็น"อักขราจารย์" แนะมหาวิทยาลัยนำงานเขียน "รงค์" มาศึกษา
       
       นาย"รงค์ วงษ์สวรรค์" วัย 77 ปี ศิลปินแห่งชาติสาขาวรรณศิลป์ ประจำปี 2538 และนักเขียนชื่อดังของวงเมืองไทย ผู้ได้รับการขนานนามว่า "พญาอินทรีย์แห่งสวนอักษร" ได้เสียชีวิตลงแล้วเมื่อเวลาประมาณ 18.05 น.วานนี้ (15 มี.ค.) ที่โรงพยาบาลเทพปัญญา ในตัวเมืองเชียงใหม่ หลังถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาด้วยอาการหมดสติและมีเลือดออกในแกนสมอง ตั้งแต่เมื่อค่ำวันที่ 13 มี.ค.52 ท่ามกลางความเสียใจของครอบครัวและญาติมิตร
       
       นับตั้งแต่ถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาล "รงค์ วงษ์สวรรค์" ต้องนอนพักรักษาตัวอยู่ภายในห้องไอซียูและใช้เครื่องช่วยหายใจตลอด โดยทีมแพทย์เฝ้าดูแลใกล้ชิด เพราะอาการอยู่ในภาวะวิกฤต ซึ่งหลังทราบข่าวได้มีบรรดาญาติมิตร ลูกศิษย์และคนที่นับถือทยอยเดินทางมาเยี่ยมอาการอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งวาระสุดท้ายของชีวิต
       
        สำหรับศพของศิลปินแห่งชาติผู้นี้ ข่าวแจ้งว่า ครอบครัวจะตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดพระสิงห์วรวิหาร ในตัวเมืองเชียงใหม่ โดยงดรับพวงหรีด แต่จะขอรับเป็นกล้าพันธุ์ไม้เพื่อนำไปปลูกเพื่อสืบเจตนารมณ์ในการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือขอรับเป็นบริจาคเพื่อตั้งเป็นกองทุนสำหรับช่วยเหลือผู้ป่วยโรคไตที่ยากไร้แทน เนื่องจาก "รงค์ วงษ์สวรรค์" ป่วยด้วยโรคนี้และต้องเข้ารับการฟอกไตเป็นประจำ ทางญาติจึงเข้าใจความลำบากของผู้ที่ป่วยเป็นโรคนี้ดี โดยเฉพาะผู้ที่มีฐานะยากจน
       
       ทั้งนี้ เมื่อเวลา 10.00 น.วันเดียวกันนายวงษ์ดำเริง วงษ์สวรรค์ ลูกชายคนโตของนาย "รงค์ วงษ์สวรรค์" ได้เดินทางจากสหรัฐอเมริกามาถึงโรงพยาบาลเพื่อเยี่ยมอาการป่วยของผู้เป็นพ่อ โดยได้มีการอัญเชิญพระพุทธรูปปางมารวิชัย เข้าไปภายในห้องไอซียูที่ศิลปินแห่งชาตินอนพักรักษาตัวอยู่ ส่วนลูกชายคนเล็กอีกคนที่อยู่สหรัฐอเมริกาเช่นกันจะมาถึงในวันนี้ (16 มี.ค.)
       
       ส่วนบริเวณชั้น 1 ของโรงพยาบาลมีผู้ใกล้ชิด และแฟนคอลัมน์ของนายรงค์ เดินทางมาลงสมุดเยี่ยมให้กำลังใจอย่างต่อเนื่อง รวมถึงบุคคลจากตัวละครในหนังสือ "ใต้ถุนป่าคอนกรีต" เรื่องดังของ "รงค์ วงษ์สวรรค์" คือนายนรา เขียวแก้ว หรือ "เอื้อนขจี" พร้อมกับนายสุพี ปสุตนาวิน นักเขียนชื่อดัง ซึ่งทั้ง 2 มีวัยไล่เลี่ยกับนายณรงค์ มาเยี่ยมอาการภายในห้องไอซียู
       
       นายเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ (กวีนิพนธ์) ปี 2536 กล่าวว่า พี่ปุ๊ (รงค์ วงษ์สวรรค์) เป็นผู้สร้างสรรค์งานเขียนหนังสือที่แตกต่างไปจากนักเขียนท่านอื่นๆ ในรุ่นราวเดียวกัน มีคลังภาษาเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตนอย่างที่กล่าวขานกันพญาอินทรีสวนอักษร เขียนได้อย่างโดดเด่นอลังการเฉิดฉายและน่าอ่าน มีลีลาภาษาที่เรียกว่านอกขนบ แม้แต่นักเขียนในปัจจุบันไม่มีใครทำได้ โดยตนขอยกย่องเป็นอักขราจารย์ทางด้านวรรณศิลป์คนหนึ่งของเมืองไทย
       
       ดังนั้น จึงอยากให้สถาบันการศึกษาได้นำงานเขียนของ "รงค์ วงษ์สวรรค์" มาให้นักเรียนนัก ศึกษาที่สนใจงานเขียนวรรณกรรมได้ศึกษาหาอ่าน จะทำให้เห็นการใช้ภาษาเขียนและช่วยให้มีคลังภาษามากขึ้น
       
       อนึ่ง นาย"รงค์ วงษ์สวรรค์ เกิดเมื่อวันที่ 20 พ.ค.2475 ที่ ต.คลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท บิดารับราชการเป็นวิศวกร กรมชลประทาน แม่เป็นชาวสวน "รง" สมรสกับสุมาลี ตระการไทย มีบุตรสองคน คือ วงศ์ดำเลิง กับสเริงรงค์
       
       ชีวิตวัยเด็กอยู่กับยายที่โพธาราม จ.ราชบุรี เพราะพ่อต้องออกไปทำงานตามป่าเขา รงค์ ช่วยแม่ทำมาหากินอีกทาง ตั้งแต่ยังเรียนชั้นประถมศึกษา ที่โรงเรียนโพธารามวัฒนาเสนี อ.โพธาราม จ.ราชบุรี โดยนำท็อฟฟี่ที่แม่ทำไปขายที่โรงเรียน แม้ภายหลังจะเข้ามาเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นที่โรงเรียนอำนวยศิลป์ ปิดเทอมจะกลับบ้านไปช่วยแม่หาบแตงโมขาย การเรียนที่อำนวยศิลป์รุ่นลมหวน จึงมีเพื่อนร่วมรุ่น เช่น พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ, พล.อ.วันชัย เรืองตระกูล และทวี ชูทรัพย์ (อดีตอธิบดีกรมราชทัณฑ์) เป็นต้น เข้าเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา มีผลการเรียนดี แต่ถูกให้ออกเพราะทะเลาะกับครู
       
       ผ่านชีวิตมามากพอ จึงมีวัตถุดิบสำหรับงานประพันธ์ มีใจรักหนังสือและรับรสวรรณคดีจากการอ่านให้พ่อและยายฟัง เริ่มเขียนหนังสือลงจุลสารของโรงเรียนเตรียมอุดม พึงใจและรับผลสะเทือนจากสำนวน "สวิง" หรือสำนวนเพรียวลมของ "วิตต์ สุทธเสถียร" ครั้น รงค์ เขียนหนังสือ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เรียกสำนวนของเขาว่า "สำนวนเพรียวลม"
       
       เมื่อออกจากโรงเรียนเขาเคยเป็นนายท้ายเรือโยงจากบางบัวทอง จ.นนทบุรี ไปสุพรรณบุรี เคยขึ้นไป อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ เป็นคนคุมปางไม้ เมื่อกลับกรุงเทพฯ ได้แสดงภาพยนตร์ ในบทพระรอง จากเรื่องชั่วฟ้าดินสลาย บทประพันธ์ของเรียมเอง และเป็นนายแบบของนิตยสารจึงรู้จัก "ม.ล.ต้อย ชุมสาย" ศิลปินทางการถ่ายภาพนู้ดของไทย
       
       รงค์ ได้เรียนการถ่ายภาพจาก ม.ล.ต้อย และเป็นผู้พาไปรู้จักคนในวงหนังสือพิมพ์ กระทั่งได้เข้าทำงานที่หนังสือพิมพ์สยามรัฐ พ.ศ.2497 ต่อมาเริ่มถ่ายภาพที่ชวนสนใจทั้งภาพและการเขียนคำบรรยาย จากนั้นเริ่มเขียนคอลัมน์ "รำพึง-รำพัน" ด้วยนามปากกา "ลำพู" ในสยามรัฐสัปดาห์วิจารณ์ ซึ่งได้รับความนิยมจากผู้อ่านเป็นจำนวนมากด้วยลีลาและสำนวนภาษาที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแปลกแหวกแนวไปจากคนอื่นๆ จนมีผลงานรวมเล่ม เรื่อง "หนาวผู้หญิง" ตีพิมพ์เมื่อ พ.ศ.2503 จากนั้นไม่นานทุกคนก็ได้รู้จักกับนักเขียนที่ชื่อ "รงค์ วงษ์สวรรค์" ที่เป็นนามปากกาที่ย่อมากจาก "ณรงค์ วงษ์สวรรค์"
       
       สำหรับงานเขียนของ "รงค์ วงษ์สวรรค์" มีหลายประเภท อาทิ นวนิยาย เรื่องสั้น ปกิณกะ บทความ และ ฯลฯ ผลงานที่จัดพิมพ์รวมเล่มมีประมาณ 100 เล่ม และเมื่อ พ.ศ.2528 สมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย ประกาศเกียรติคุณว่า รงค์ เป็นหนึ่งในจำนวนนักเขียนเรื่องสั้นดีเด่นของไทยในวาระครบรอบร้อยปีเรื่องสั้นไทย พร้อมกับพิมพ์เรื่อง "แจ้ง ใบตอง ผู้ยิ่งยงแห่งสวนกล้วย" อันเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องเสเพลบอยชาวไร่ อีกสิบปีต่อมา คณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ ประกาศเชิดชูเกียรติให้ รงค์ วงษ์สวรรค์ เป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ.2538
       
       ผลงานรวมเล่มที่มีชื่อเสียงนอกจากเสเพลบอยชาวไร่แล้ว ยังมีอีกหลายเล่ม อาทิ สารคดีไฉไลคลาสสิค เถ้าอารมณ์ สนิมสร้อย สนิมกรุงเทพฯ ปีนตลิ่ง คืนรักและผู้ดีน้ำครำ เป็นต้น ล้วนได้รับความชื่นชมเป็นที่กล่าวขวัญ

- - - - - - - - - - - - - - - - - -            

พันตรีศิริชัย    ทรัพย์ศิริ                             

นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

โทร. 02-990-0331                   

http://www.apdi2002.com

http://www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ สมาคมคนพิการ

1603522137