หน้าหลัก | สมาคมคนพิการ ฯ (ส.พ.ค.) | โครงการ ปี2567 | รวมภาพกิจกรรม | คุณถาม-เราตอบ | ติดต่อเรา |
ข้อเสนอแก้ปัญหาโลกร้อน... | |
ข้อเสนอแหวกแนวเพื่อแก้ปัญหาโลกร้อน 7 เมษายน 2550 08:58 น. ความวิตกเรื่องปัญหาโลกร้อนกระตุ้นให้นักวิทยาศาสตร์หลายคนคิดค้นหนทางแก้ไขแบบสุดแหวกแนว อาทิ การเทสารเจริตอล (Geritol) ลงสู่มหาสมุทร การสร้างฉากกันแดดนอกโลก การทดลองพ่นสารแบบภูเขาไฟระเบิดหรือแม้แต่การสร้างเครื่องดักจับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ถึงแม้นักวิจารณ์จะออกมาโต้เสียงดังว่าวิธีการเหล่านี้ "หลุดโลก" แต่ปรากฏว่าได้มีการทดลองใช้วิธีการดังกล่าวกันไปบ้างแล้ว ปัจจุบัน บริษัทหลายแห่งให้เงินสนับสนุนภารกิจเทสารเจริตอลลงสู่มหาสมุทรอย่างเป็นล่ำเป็นสันเพื่อชดเชยการใช้ทรัพยากรน้ำมันเชื้อเพลิงที่ก่อมลพิษของตนเอง สารเจริตอลนั้น คือ สารเหล็กที่มีประสิทธิภาพในการกระตุ้นการเจริญเติบโตของแพลงตอนเนื่องจากแพลงตอนต้องอาศัยสารดังกล่าวในการสังเคราะห์แสง ซึ่งกระบวนการดังกล่าวจะช่วยลดก๊าซเรือนกระจกและสร้างสาหร่ายทะเลที่ดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ด้วย ถึงแม้การทดลองใช้สารเหล็กเพื่อลดก๊าซาร์บอนไดออกไซด์จะประสบความสำเร็จมาแล้วหลายครั้งหลายหนในรอบทศวรรษที่ผ่านมา แต่นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมหลายคนก็ยังห่วงว่าหากมีการใช้สารเหล็กในปริมาณมาก ระบบนิเวศของมหาสมุทรอาจจะได้รับผลกระทบร้ายแรง เฉพาะแค่ช่วงต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา บริษัท "แพลงโตส อิงค์" จากรัฐแคลิฟอร์เนียได้เทผงเหล็กร่วม 50 ตันลงมหาสมุทรแปซิฟิกเพื่อกำจัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศ "ถ้าเราเทสารแบบนี้ลงไปมาก อุณหภูมิพื้นผิวมหาสมุทรกับใต้มหาสมุทรจะต้องต่างกันแน่ๆ แล้วสัตว์ทะเลก็จะเดือดร้อน" นายทิม บาร์เน็ตต์ ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบนิเวศทางทะเลประจำสถาบันสมุทรศาสตร์สคริปป์ส แสดงความวิตก อย่างไรก็ตาม แพลงโตส อิงค์ ยืนยันว่า สารเหล็กที่เทลงสู่ทะเลนั้นน้อยนิดเมื่อเทียบกับปริมาณน้ำของห้วงมหาสมุทร จึงเป็นหลักประกันได้ว่าสารเหล็กจะไม่ส่งผลเชิงลบต่อสิ่งมีชีวิตในห้วงสมุทร "ที่สำคัญ เราคาดว่าเหล็ก 1 ตันที่ลงสู่ห้วงสมุทรจะช่วยกำจัดคาร์บอนไดออกไซด์จากอากาศไปได้ 1 แสนตัน ทีเดียว" เจ้าหน้าที่ของบริษัทกล่าวอย่างมั่นใจ ขณะเดียวกัน องค์การนาซา ทุ่มเงินจำนวน 7.5 หมื่นดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.44 ล้านบาท) เพื่อเติมเต็มรายละเอียดเกี่ยวกับแนวคิดการสร้างฉากกันแดดนอกโลก แนวคิดดังกล่าวมาจากนายโรเจอร์ แองเจิล นักดาราศาสตร์ประจำมหาวิทยาลัยอริโซนา ที่เชื่อว่าหากสร้างแผ่นกันแดดกางกั้นระหว่างดวงอาทิตย์และโลกได้ ปัญหาโลกร้อนก็จะคลี่คลายไปได้ "ผมคิดไว้ว่าฉากกันแดดดังกล่าวน่าจะลดความร้อนจากดวงอาทิตย์ไปได้ราวร้อยละ 2" นักดาราศาสตร์รายนี้ย้ำ นายแองเจิล มั่นใจว่า แนวคิดนี้มีความเป็นไปได้เพราะโลกมีวิทยาการเพียงพอที่จะจัดทำแผ่นกันแดดแล้วส่งแผ่นเหล่านี้ออกไปติดตั้งนอกโลกได้ หากต้องการสร้างฉากกันแดดนอกโลก นายแองเจิล ประเมินไว้ว่า จะต้องสร้างแผ่นกันแดดขนาด 1 ยาร์ดต่อแผ่นจำนวนทั้งสิ้น 16 ล้านล้านแผ่น "จรวดแต่ละลูกน่าจะบรรจุได้ 8 แสนแผ่น ซึ่งหมายความว่าเราน่าจะต้องยิงจรวดประมาณ 20 ล้านครั้ง" นักดาราศาสตร์รายเดิม อธิบาย นายแองเจิลชี้ว่าโครงการนี้อาจจะต้องใช้งบประมาณราว 4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 130 ล้านล้านบาท) และใช้เวลาดำเนินการอย่างน้อย 30 ปี "อย่าไปคิดว่าโครงการนี้ใหญ่เกินกว่าจะทำได้เพราะการที่เราส่งคนออกไปดาวอังคารก็ใช้งบใช้เวลาประมาณนี้แหละ ถ้าเราตระหนักถึงอันตรายของภาวะโลกร้อนอย่างแท้จริง ผมเชื่อว่าโครงการสร้างฉากกันแดดนอกโลกจะได้รับการยอมรับ" นายแองเจิล กล่าวปิดท้าย ด้านศูนย์วิจัยชั้นบรรยากาศแห่งชาติอเมริกากำลังหันมาสนใจแนวคิดการสร้างฉากกันแดดนอกโลกด้วยเหมือนกันโดยมีแผนไว้ว่าจะเริ่มศึกษาแนวคิดดังกล่าวอย่างจริงจัง ก่อนหน้านี้ ทางศูนย์ได้ลองศึกษาการพ่นผงซัลเฟตสู่ชั้นบรรยากาศด้านบนมาแล้วเพราะเคยเห็นว่าผงดังกล่าวจากเหตุภูเขาไฟพินาตูโบระเบิดในฟิลิปปินส์เมื่อ 16 ปีก่อนช่วยให้อุณหภูมิโลกเย็นอยู่ได้นานถึง 1 ปีทีเดียวเนื่องจากผลซัลเฟตช่วยสะท้อนแสงแดดออกสู่นอกโลกไปบางส่วน "เราสามารถใช้เครื่องพ่น ปืนใหญ่หรือบอลลูนส่งเอาซัลเฟตขึ้นไปอยู่ในอากาศได้ เมื่อทำแล้ว โลกจะร้อนน้อยลงเพราะกั้นแสงอาทิตย์ไปได้บางส่วน แต่มลพิษในอากาศจะเพิ่มขึ้นไปเล็กน้อย ถ้าเราเลือกใช้วิธีนี้ เราก็ต้องชั่งใจว่าปัญหาโลกร้อนกับมลพิษทางอากาศนั้นอย่างไหนร้ายแรงกว่ากัน" นายทอม วิกลีย์ นักวิทยาศาสตร์ประจำศูนย์วิจัยชั้นบรรยากาศแห่งชาติอเมริกาให้ความเห็น อย่างไรก็ตาม เพื่อนร่วมงานอย่าง "นายคาสปาร์ อัมมานน์" ค้านหัวชนฝาว่าแนวคิดนี้สมควรทิ้งไปได้เลยเพราะหากจะให้เกิดปฏิกิริยาสะท้อนแสงมากในระดับเดียวกับที่ภูเขาไฟพินาตูโบทำได้ ผู้ลงมือปฏิบัติจะต้องพ่นสารซัลเฟตมากหลายหมื่นตันขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศต่อเดือน "ผมคิดว่าถ้าวิธีการยุ่งยากขนาดนี้ ผมว่าน่าจะไปหาทางแก้ปัญหาโลกร้อนที่ต้นเหตุจะดีกว่า" นายอัมมานน์ แสดงความคิดเห็น อีกแนวคิดหลุดโลกว่าด้วยการแก้ปัญหาโลกร้อน คือ การสร้างเครื่องดักจับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากมันสมองของนายเคลาส์ แล็กเนอร์ อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย เกือบสิบปีที่แล้ว นายแล็คเนอร์คิดค้นเครื่องดักจับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ขึ้นเพื่อช่วยลูกสาววัยเรียนทำสิ่งประดิษฐ์ไปจัดแสดงในนิทรรศการงานวิทยาศาสตร์ หลังจากโครงงานของลูกสาวประสบความสำเร็จ นายแล็คเนอร์เลยเกิดแนวคิดว่าเครื่องดังกล่าวอาจจะนำไปใช้แก้ปัญหาระดับโลกได้ มหาเศรษฐีอย่างนายริชาร์ด แบรนสัน ก็เห็นด้วยว่าเครื่องดักจับคาร์บอนไดออกไซด์อาจจะเป็นทางออกในการแก้ปัญหา จึงยินดีมอบเงินรางวัลถึง 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 814 ล้านบาท) ให้แก่การพัฒนาแนวคิดดังกล่าวเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นายแล็คเนอร์ มั่นใจว่าสิ่งประดิษฐ์นี้จะดักจับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ยอมรับว่าการหาทางกำจัดก๊าซดังกล่าวจะมีต้นทุนมากสักหน่อย แต่ไม่ว่านักคิดหัวใสจะพูดว่าอย่างไร นักวิจารณ์บางส่วนยังเห็นว่าการแก้ปัญหาทางธรรมชาติไม่ควรจะใช้วิธีการแบบสุดขั้วอย่างนี้ "ผมมองว่านี่เป็นการกระทำที่เกิดจากความสิ้นหวัง เกิดจากความเชื่อของคนบางคนว่าโลกไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ด้วยตัวเอง" นายสตีเฟน ชไนเดอร์ อาจารย์จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด กล่าว เรียบเรียงโดย อุริสรา โกวิทย์ดำรงค์ แหล่งข้อมูล เอพี พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล Tel. 0-2990-0331 | |
ผู้ตั้งกระทู้ พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ :: วันที่ลงประกาศ 2007-04-08 12:29:17 IP : 124.121.137.35 |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (931024) | |
เอลนีโญส่งปรากฏการณ์ทะเลไทย น้ำเย็นลงมีตะ กอนขุ่นทำให้คัน นักวิชาการชี้ปรากฏการณ์เอลนีโญจากภาวะโลกร้อนส่งผลให้ธรรมชาติใต้ท้องทะเลอันดามันเปลี่ยนแปลง น้ำทะเลเป็นน้ำเย็นมีตะกอนขุ่น เผยนักท่องเที่ยวเริ่มย้ายจุดดำน้ำลึกจากอันดามันใต้ไปเหนือ เพราะดำน้ำแล้วมีอาการคันตามผิวหนังและปะการังอ่อนที่สวยงามเริ่มเหี่ยวเฉา ดร.ธรณ์ ธำรงค์นาวาสวัสดิ์ อาจารย์ภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เปิดเผยว่า จากภาวะโลกร้อนที่เกิดขึ้นทำให้เกิดหลายปรากฏการณ์ ที่เกี่ยวกับทะเลโดยตรงคือปรากฏการณ์เอลนีโญในเมืองไทยได้รับผลกระทบหลายครั้ง ที่ชัดเจนคือ 10 ปีที่ผ่านมา น้ำทะเลอันดามันเย็นลง ในช่วงเดือนธันวาคม-เมษายน และเกิดน้ำร้อนในอ่าวไทยในเดือนพฤษภาคม-กันยายน และปี 2550 นี้ ลักษณะคล้ายคลึงกัน คือในอันดามันน้ำเย็น มาจากน้ำที่อยู่ในทะเลลึกเคลื่อนที่เข้าสู่พื้นที่ใกล้ฝั่ง ซึ่งน้ำนอกจากเย็นแล้วยังขุ่นมีตะกอนจากทะเลลึก ซึ่งเดิมไม่เคยเข้ามาในเขตตื้น แต่มากับมวลน้ำเย็น และตะกอนนี้มีธาตุอาหารจำนวนมาก ทำให้แพลงก์ตอนที่อยู่ในเขตน้ำตื้นเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว นักท่องเที่ยวที่ไปว่ายน้ำหรือดำน้ำจะรู้สึกว่า น้ำเย็น น้ำขุ่นและคันยิบๆ เพราะแพลงก์ตอนบางตัวซึ่งมีพิษแต่ไม่อันตรายถึงชีวิตแต่ทำให้คัน นอกจากนี้ แพลงก์ตอนทำให้มีสัตว์น้ำขนาดใหญ่และสัตว์น้ำแปลกๆตามเข้ามา เช่น กระเบนราหู.
พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล | |
ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ วันที่ตอบ 2007-04-29 07:03:16 IP : 124.121.135.82 |
ความคิดเห็นที่ 2 (980620) | |
ดันผู้นำศาสนาสอน"โลกร้อน" พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล | |
ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ วันที่ตอบ 2007-05-31 11:34:56 IP : 124.121.138.124 |
ความคิดเห็นที่ 3 (986519) | ||||||||||||
| ||||||||||||
ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ วันที่ตอบ 2007-06-05 07:28:24 IP : 124.121.136.65 |
ความคิดเห็นที่ 4 (986758) | |
จีนสู้โลกร้อน-อินโดฯที่3 ทำลายอากาศ สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ วันที่ตอบ 2007-06-05 11:24:38 IP : 124.121.136.65 |
ความคิดเห็นที่ 5 (999575) | |
ประชุมจี-8ลดท่าทีผ่าทางตัน"โลกร้อน" ผนึกยูเอ็นคลอดพิธีสารใหม่ภายใน2ปี สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ วันที่ตอบ 2007-06-13 16:14:43 IP : 124.121.139.240 |
ความคิดเห็นที่ 6 (1028417) | |
วิกฤติโลกร้อนใกล้ตัว เรื่องจริงที่คนไทยต้องรู้ สภาวะโลกร้อนส่งผลให้น้ำทะเลมีปริมาณเพิ่มขึ้น น้ำแข็งจากขั้วโลกเหนือและทวีปแอนตาร์กติกาได้ละลายลงสู่มหาสมุทรอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมีรายงานว่าน้ำแข็งขั้วโลก 3 ก้อน หรือน้ำแข็งหมื่นปี ก้อนแรกที่กรีนแลนด์ เริ่มละลายในอัตราที่เร็วมากขึ้นกว่าเดิม คาดกันว่าหากอุณหภูมิของโลกเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 2 องศา น้ำแข็งก้อนนี้ละลายจะทำให้น้ำทะเลสูงขึ้นจากเดิม 5.5 เมตร อย่างไรก็ตามจ.สมุทรปราการมีแนวชายฝั่งทะเลยาวทั้งสิ้น 45 กิโลเมตร มีปัญหากัดเซาะชายฝั่งรุนแรงสุดในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา พื้นดินถูกกัดเซาะจมน้ำหายไป 11,104 ไร่ ถ้าไม่มีการจัดการใดๆอีก 20 ปีข้างหน้า แผ่นดินจะจมน้ำอีก 3 หมื่นกว่าไร่ สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ หวัดดีจ้า. | |
ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ วันที่ตอบ 2007-07-01 10:44:25 IP : 124.121.139.25 |
ความคิดเห็นที่ 7 (3213145) | |
womens ugg boots womens ugg boots discount ugg boots discount ugg boots mens leather slippers mens leather slippers boots boots | |
ผู้แสดงความคิดเห็น 1 (izlvxr-at-126-dot-com)วันที่ตอบ 2010-09-21 21:48:21 IP : 125.118.233.198 |
[1] |