ครม. เห็นชอบใช้มาตรการภาษีช่วยเหลือสังคม โดยเฉพาะคนพิการ
26 ตุลาคม 2550

นายสมหมาย ภาษี รมช.คลัง เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กรมสรรพากรจัดตั้งคณะทำงานเพื่อศึกษารายละเอียดทั้งหมดเกี่ยวกับการใช้มาตรการภาษี เพื่อดึงดูดและกระตุ้นให้คนไทยมีสำนึกรับผิดชอบดูแลสังคมให้มากขึ้น ทั้งการช่วยเหลือคนพิการ การช่วยเหลือคนจน หรือการดูแลสังคมในด้านอื่น โดยตนเองจะเข้าไปกำกับดูแลเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อให้มาตรการมีผลบังคับใช้ได้ทันในวันที่ ๕ ธ.ค.นี้ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา และเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับคนไทย

ทั้งนี้ในหลักการของมาตรการภาษีเพื่อดูแลสังคมและคนด้อยโอกาส จะเป็นการกระตุ้นให้บุคคลที่มีรายได้มากพอ หรือมีเงินเหลือใช้ และนำเงินรายได้ทั้งในปัจจุบันและในอนาคตมาบริจาคเพื่อสังคมได้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น และสามารถนำเงินเหล่านั้นไปหักลดหย่อนภาษีได้ เช่นเดียวกับในต่างประเทศที่มีการจัดตั้งกองทุนขนาดใหญ่ ที่นำไปช่วยเหลือมหาวิทยาลัยขนาดใหญ่ เช่น ร็อคกี้เฟลเลอร์ หรือบิลเกตต์ หรือ*** มหา*** ในยุโรปหรือสหรัฐ ที่มีรายได้มากและนำเงินไปบริจาค แต่สำหรับประเทศไทยยังมีข้อจำกัดและไม่เอื้ออำนวยมาก อย่างไรก็ตามจะมีรายละเอียดอย่างไรคงไม่สามารถระบุชัดเจนได้ในขณะนี้ เพราะมีรายละเอียดค่อนข้างมาก ทั้งการเพิ่มค่าลดหย่อน เพิ่มรายการการหักค่าลดหย่อน เป็นต้น ซึ่งต้องพิจารณาให้รอบด้านครบถ้วนและต้องเป็นประโยชน์ต่อสังคมโดยแท้จริงและไม่เปิดช่องให้ผู้เสียภาษีใช้ช่องโหว่ของกฎหมายเพื่อหลบเลี่ยงการเสียภาษี

นายสมหมาย กล่าวว่า จากการหารือกับกรมสรรพากรเบื้องต้นนั้นพบว่ามีผู้เสียภาษีใช้ช่องทางของการหักค่าใช้จ่าย ค่าลดหย่อนจากการบริจาค แล้วหลบเลี่ยงภาษีกันมาก เช่นกรณีการบริจาคเงินให้กับวัด แต่ปรากฏว่าทางวัดให้นำใบอนุโมทนาบัตรมากรอกตัวเลขเอง ซึ่งไม่ตรงกับความ เป็นจริง เพื่อนำไปขอลดหย่อนภาษี ซึ่งเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตามกรมสรรพากรก็สามารถที่จะวางกฎเกณฑ์การตรวจสอบการใช้สิทธิในการขอลดภาษีให้รัดกุมได้ เช่น กรมสรรพากรอาจต้องเข้าไปตรวจสอบรายละเอียดกับทางวัดว่ามีการบริจาคจริงหรือไม่ โดยต้องกำหนดให้มีสำเนาใบอนุโมทนาบัตร เป็นต้น และการตรวจสอบอาจใช้วิธีการสุ่มตรวจที่เน้นไปที่การบริจาคเป็นจำนวนมาก แต่หากมีการบริจาคเพียงเล็กน้อยก็ไม่ต้องเข้าไปตรวจสอบ เช่นเดียวกับการตรวจสอบการเสียภาษีเงินได้ เป็นต้น อย่างไรก็ตามในการประชุม ครม. เมื่อวันที่ ๒๒ ต.ค.ที่ผ่านมา แม้ว่าที่ประชุมจะเห็นชอบในหลักการของการใช้มาตรการภาษีช่วยเหลือสังคม โดยเฉพาะคนพิการ แต่ก็ให้กรมสรรพากรไปกำหนดรายละเอียดให้ชัดเจนต่อไปโดยไม่ได้เน้นเฉพาะมาตรการที่กระทรวงการพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์เสนอมาเท่านั้น แต่ให้พิจารณาครอบคลุมทั้งระบบ รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ที่ประชุม ครม.เมื่อวันที่ ๒๒ ต.ค. ได้เห็นชอบในหลักการเกี่ยวกับมาตรการทางภาษีเพื่อกระตุ้นให้เกิดการบริจาคเพื่อสังคม ตามที่กระทรวงการพัฒนาฯเสนอเพียงข้อเดียวจากที่เสนอมาทั้ง ๘ ข้อ โดยเห็นชอบข้อเสนอให้ลดหย่อนภาษีแก่ผู้เลี้ยงดูคนพิการ ได้คนละ ๓๐,๐๐๐ บาท ส่วนอีก ๗ ข้อที่เหลือนั้นให้ทั้ง ๒ กระทรวงไปหารือร่วมกัน ให้ชัดเจนอีกครั้ง เพราะแนวคิดที่เสนอมานั้นกระทรวงการคลังยังไม่เห็นด้วยและเห็นว่าเป็นการผูกมัดมากเกินไปรวมทั้งอาจทำให้เกิดการใช้ช่องโหว่ไปในทางที่ไม่ถูกต้อง

(เดลินิวส์ออนไลน์ ๒๖ ตค. ๒๕๕๐ )

สมาคมคนพิการทางเคลื่อนไหวสากล

พันตรีศิริชัย  ทรัพย์ศิริ

www.waddeeja.com