ReadyPlanet.com


มะเร็ง.......


แม้ไม่ใช่กลุ่มเสี่ยง...แต่มะเร็งก็ไม่เว้น

ผู้หญิงหลายคนอาจจะรู้จักโรคมะเร็งปากมดลูกกันมาบ้างแล้ว แต่ก็คิดว่าคงเป็นเรื่องไกลตัว*** เข้าใจผิดคิดว่าตัวเองไม่มีปัจจัยเสี่ยง แต่ความจริงแล้วผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ทุกคนมีความเสี่ยงที่จะเป็นได้

นางวรรณา เหลืองชัยชาญ เธอไม่เคยคิดว่าจะตกเป็นเหยื่อมะเร็ง เพราะเติบโตในครอบครัวที่อบอุ่น รักนวลสงวนตัว รักและแต่งงานอยู่กินกับสามีเดียวเมื่ออายุ 23 ปี จนประมาณ 10 ปี วันหนึ่งเกิดอาการตกขาวมามากผิดปกติ จึงได้หาแพทย์ พบว่าเป็นโรคมะเร็งปากมดลูกขั้น 1B ที่ไม่สามารถผ่าตัดได้ในทันที แต่ต้องทำคีโมนานถึง 2 เดือน

เธอว่า เจอโรคนี้ตอนอายุ 32 ปี ไม่เคยคิดว่ามีความเสี่ยง ทำให้ตกใจมากตอนที่รู้ผลตรวจ ยังดีที่ร่างกายแสดงปฏิกิริยาออกมาให้เห็นก่อน ไม่เช่นนั้นมะเร็งคงลุกลามไปมากกว่านี้

"
หลังจากผ่าตัดแล้ว ช่วงปีแรกๆ ต้องไปตรวจทุก 2 เดือน จนปัจจุบัน 8 ปีแล้วต้องตรวจทุก 6 เดือน กลัวตลอดเวลาว่ามันจะกลับมาอีกเมื่อไหร่ หลังผ่าตัดมะเร็งสิ่งที่ตามมาคือเกิดถุงน้ำบริเวณที่ผ่าตัด บางครั้งมีขนาดใหญ่ถึง 11 เซนติเมตร แล้วไปกดทับเส้นประสาท เจ็บหลังมาก เลยต้องไปเจาะออก" เธอเล่าถึงความรู้สึกอันแสนทรมานจากมะเร็งปากมดลูก

รศ.นพ.วิชัย เติมรุ่งเรืองเลิศ หัวหน้าหน่วยมะเร็งนรีเวช ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝากถึงผู้หญิงว่า มะเร็งปากมดลูกเป็นโรคที่ทำให้ผู้หญิงไทยเสียชีวิตเป็นอันดับ 1 โดยโรคนี้มักไม่ค่อยแสดงอาการจน 10-15 ปีแล้ว หรือแสดงอาการเมื่อก้าวไปเข้าระยะที่ 2 หรือ 3 ไปแล้ว สาเหตุของโรคเกิดจากเชื้อ Human Papilloma Virus หรือ "เอชพีวี" ซึ่งชอบอยู่บริเวณผิวที่มีความชุ่มชื้น เช่น ซอกเล็บ ปาก และบริเวณอวัยวะเพศ ผู้หญิงทุกคนมีโอกาสติดไวรัสชนิดนี้ แต่คนที่มีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุน้อย ซึ่งมีโอกาสที่จะมีคู่นอนหลายคน จะมีความเสี่ยงสูงมากกว่าคนอื่น

"
ปัจจุบันผู้ป่วยโรคนี้มีแนวโน้มอายุน้อยลงมาก ล่าสุด พบเด็กหญิงอายุ 12 ปี เป็นมะเร็งปากมดลูกแล้ว ทางป้องกันที่สำคัญคือ อย่าอายที่จะไปพบหมอเพื่อตรวจเป็นประจำทุกปี, ลดพฤติกรรมเสี่ยง เช่น การมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย การมีคู่นอนหลายคน การสูบบุหรี่ และถ้าสามารถฉีดวัคซีนป้องกันเอชพีวีร่วมกับการตรวจ Pap Smear ก็จะได้ผลดีที่สุดในการป้องกันมะเร็งปากมดลูก" หมอทิ้งท้ายผู้หญิงหลายคนอาจจะรู้จักโรคมะเร็งปากมดลูกกันมาบ้างแล้ว แต่ก็คิดว่าคงเป็นเรื่องไกลตัว*** เข้าใจผิดคิดว่าตัวเองไม่มีปัจจัยเสี่ยง แต่ความจริงแล้วผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ทุกคนมีความเสี่ยงที่จะเป็นได้

นางวรรณา เหลืองชัยชาญ เธอไม่เคยคิดว่าจะตกเป็นเหยื่อมะเร็ง เพราะเติบโตในครอบครัวที่อบอุ่น รักนวลสงวนตัว รักและแต่งงานอยู่กินกับสามีเดียวเมื่ออายุ 23 ปี จนประมาณ 10 ปี วันหนึ่งเกิดอาการตกขาวมามากผิดปกติ จึงได้หาแพทย์ พบว่าเป็นโรคมะเร็งปากมดลูกขั้น 1B ที่ไม่สามารถผ่าตัดได้ในทันที แต่ต้องทำคีโมนานถึง 2 เดือน

เธอว่า เจอโรคนี้ตอนอายุ 32 ปี ไม่เคยคิดว่ามีความเสี่ยง ทำให้ตกใจมากตอนที่รู้ผลตรวจ ยังดีที่ร่างกายแสดงปฏิกิริยาออกมาให้เห็นก่อน ไม่เช่นนั้นมะเร็งคงลุกลามไปมากกว่านี้

"
หลังจากผ่าตัดแล้ว ช่วงปีแรกๆ ต้องไปตรวจทุก 2 เดือน จนปัจจุบัน 8 ปีแล้วต้องตรวจทุก 6 เดือน กลัวตลอดเวลาว่ามันจะกลับมาอีกเมื่อไหร่ หลังผ่าตัดมะเร็งสิ่งที่ตามมาคือเกิดถุงน้ำบริเวณที่ผ่าตัด บางครั้งมีขนาดใหญ่ถึง 11 เซนติเมตร แล้วไปกดทับเส้นประสาท เจ็บหลังมาก เลยต้องไปเจาะออก" เธอเล่าถึงความรู้สึกอันแสนทรมานจากมะเร็งปากมดลูก

รศ.นพ.วิชัย เติมรุ่งเรืองเลิศ หัวหน้าหน่วยมะเร็งนรีเวช ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝากถึงผู้หญิงว่า มะเร็งปากมดลูกเป็นโรคที่ทำให้ผู้หญิงไทยเสียชีวิตเป็นอันดับ 1 โดยโรคนี้มักไม่ค่อยแสดงอาการจน 10-15 ปีแล้ว หรือแสดงอาการเมื่อก้าวไปเข้าระยะที่ 2 หรือ 3 ไปแล้ว สาเหตุของโรคเกิดจากเชื้อ Human Papilloma Virus หรือ "เอชพีวี" ซึ่งชอบอยู่บริเวณผิวที่มีความชุ่มชื้น เช่น ซอกเล็บ ปาก และบริเวณอวัยวะเพศ ผู้หญิงทุกคนมีโอกาสติดไวรัสชนิดนี้ แต่คนที่มีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุน้อย ซึ่งมีโอกาสที่จะมีคู่นอนหลายคน จะมีความเสี่ยงสูงมากกว่าคนอื่น

"
ปัจจุบันผู้ป่วยโรคนี้มีแนวโน้มอายุน้อยลงมาก ล่าสุด พบเด็กหญิงอายุ 12 ปี เป็นมะเร็งปากมดลูกแล้ว ทางป้องกันที่สำคัญคือ อย่าอายที่จะไปพบหมอเพื่อตรวจเป็นประจำทุกปี, ลดพฤติกรรมเสี่ยง เช่น การมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย การมีคู่นอนหลายคน การสูบบุหรี่ และถ้าสามารถฉีดวัคซีนป้องกันเอชพีวีร่วมกับการตรวจ Pap Smear ก็จะได้ผลดีที่สุดในการป้องกันมะเร็งปากมดลูก" หมอทิ้งท้าย

 

- - - - - - - - - - - - - - - - - -            

พันตรีศิริชัย    ทรัพย์ศิริ                             

นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

โทร. 02-990-0331                   

http://www.apdi2002.com

http://www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ สมาคมคนพิการ

0906520840           

 



ผู้ตั้งกระทู้ พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com) :: วันที่ลงประกาศ 2009-06-09 08:40:05 IP : 124.121.140.12


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (3162459)

"ปัจจุบันผู้ป่วยโรคนี้มีแนวโน้มอายุน้อยลงมาก ล่าสุด พบเด็กหญิงอายุ 12 ปี เป็นมะเร็งปากมดลูกแล้ว ทางป้องกันที่สำคัญคือ อย่าอายที่จะไปพบหมอเพื่อตรวจเป็นประจำทุกปี, ลดพฤติกรรมเสี่ยง เช่น การมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย การมีคู่นอนหลายคน การสูบบุหรี่ และถ้าสามารถฉีดวัคซีนป้องกันเอชพีวีร่วมกับการตรวจ Pap Smear ก็จะได้ผลดีที่สุดในการป้องกันมะเร็งปากมดลูก" หมอทิ้งท้าย

 

- - - - - - - - - - - - - - - - - -            

พันตรีศิริชัย    ทรัพย์ศิริ                             

นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

โทร. 02-990-0331                   

http://www.apdi2002.com

http://www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ สมาคมคนพิการ

1403532045           

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2010-03-14 20:45:45 IP : 124.121.144.140



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล 802/410 หมู่12 หมู่บ้านวังทองริเวอร์ปาร์ค ซอย10/4 ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี 12130 โทร : 02-990-0331 Copyright © 2010 All Rights Reserved.