ถามหน่อย ผมหูหนวกเรื่องเบี้ยเลี้ยง

ผมอายุ28 ปีเรียนจบ.ป.ตรี มีงานทำ แต่ไม่พอค่าเงิน อยากเบี้ยเลี้ยงได้ไหมครับ

ผมอยู่ยโสธรครับ

“มท.” โกยอีก 2 พันล้าน แจก ผู้สูงอายุ-อสม.ทั่วประเทศ

ครม.อนุมัติงบเพิ่มอีก 2.2 พ้นล้าน ให้กระทรวงมหาดไทย แบ่งจ่ายองค์กรท้องถิ่นแจกให้ผู้สูงอายุ 1.7 พันล้าน ส่วนอีก 500 ล้าน แจกจ่ายเป็นเงินเดือน อสม.
       
       วันนี้ (9 ก.ค.52) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า ครม.ได้อนุมัติงบประมาณเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2552 ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ จำนวนเงิน 2,283,251,400 บาท โดยแบ่งเป็นโครงการสร้างหลักประกันรายได้แก่ผู้สูงอายุ ที่จัดสรรให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนำไปจ่ายแก่ผู้สูงอายุ ที่ยังไม่ได้รับเงินสวัสดิการเบี้ยยังชีพจำนวน 576,661 คน คนละ 500 บาทต่อเดือน จำนวน 6 เดือน เป็นเงิน 1,729,983,000 บาท และโครงการส่งเสริมอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เชิงรุกตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล โดยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นำไปจ่ายให้แก่ อสม.ที่มีสิทธิ์แต่ยังไม่ได้รับจำนวน 153,686 คน คนละ 600 บาทต่อเดือน จำนวน 6 เดือน เป็นเงิน 553,268,400 บาท

- - - - - - - - - - - - - - - - - -            

พันตรีศิริชัย    ทรัพย์ศิริ                             

นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

โทร. 02-990-0331                   

http://www.apdi2002.com

http://www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ สมาคมคนพิการ

0907522139           

พม.ดันแก้กฎกระทรวงหนุนค่าทำศพคนชรา 2 พันต่อหัว

พม.เปิดลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ รอบ 2 ตั้งแต่บัดนี้ถึง 31 ส.ค. ก่อนโอนเงิน 500 บาทเข้ากระเป๋าภายใน 1 ต.ค.นี้ พร้อมแก้ประกาศกระทรวงฯ สนับสนุนค่าจัดการศพผู้สูงอายุทุกคนรายละ 2,000 บาท ขณะที่เตรียมจ่ายเบี้ยความพิการแก่ผู้พิการให้ได้ทุกคนเริ่มต้นปี 53
       
       วันนี้ (17 ส.ค.) ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) นายอิสสระ สมชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยว่า พม.กำหนดเปิดรับลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุรอบ 2 ให้แก่ผู้สูงอายุที่มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ในวันที่ 30 ก.ย.2552 หรือผู้ที่เกิดก่อนวันที่ 1 ต.ค.2492 รวมทั้งเปิดโอกาสให้ผู้สูงอายุที่ครบ 60 ปีและไม่ได้ลงทะเบียนรอบแรกได้ลงทะเบียนด้วยเช่นกัน โดยสามารถลงทะเบียนขอรับเบี้ยยังชีพเดือนละ 500 บาท ได้ที่ เทศบาล องค์การบริหารส่วนตำบล หรือสำนักงานเขตที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 31 ส.ค.นี้ ก่อนประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิภายในวันที่ 15 ก.ย. และรับเงินได้ในวันที่ 1 ต.ค.เป็นต้นไป ทั้งนี้ในปีงบประมาณ 2552 มีผู้สูงอายุที่รับเบี้ยยังชีพไปแล้วทั้งสิ้น 5,963,089 คน
       
       นายอิสสระกล่าวต่อว่า ตนได้รับข้อร้องเรียนมาว่ายังมีผู้สูงอายุซึ่งมีสิทธิตั้งแต่รอบแรกแต่ยังไม่ได้รับเงิน ซึ่งขอยืนยันว่า พม.ได้โอนงบประมาณให้กับองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น (อปท.) เพื่อแจกจ่ายให้กับผู้มีสิทธิไปแล้ว แต่ความล่าช้าอยู่ที่ อปท.บางพื้นที่กั๊กไว้ ไม่ยอมจ่าย ซึ่งคงต้องกำชับไปยังกระทรวงมหาดไทย (มท.) ให้ช่วยดูแล และหากพื้นที่ใดยังมีปัญหาจ่ายเงินล่าช้าหรือยังไม่ได้รับ หรือมีการหักค่าหัวคิวใดๆ ขอให้ร้องเรียนมายังศูนย์ประชาบดี โทร.1300 หรือร้องเรียนที่ตนโดยตรง อย่างไรก็ตาม ตนมีแนวคิดที่จะให้มีการจ่ายเงินผ่านธนาคารรัฐโดยตรงไม่ต้องผ่าน อปท.เพื่อแก้ปัญหาการเบิกจ่ายเงิน ซึ่งจะหาทางพูดคุยกับผู้เกี่ยวข้องในการดำเนินการต่อไป
       
       นายอิสสระกล่าวอีกว่า พม.ได้แก้ไขประกาศ กระทรวงฯ เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการคุ้มครอง การส่งเสริม และการสนับสนุนการสงเคราะห์ในการจัดการศพตามประเพณี เพื่อให้ผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไปและมีสัญชาติไทยทุกคนได้รับสิทธิค่าจัดการศพรายละ 2,000 บาท เพื่อเป็นสวัสดิการแก่ผู้สูงอายุ โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 7 ส.ค.2552 เป็นต้นไป อย่างไรก็ตามข้อมูลจากคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติในปี 2553 จะมีผู้สูงอายุประมาณ 7,639,000 คน และสถิติข้อมูลทะเบียนราษฎร กรมการปกครอง ระบุโดยเฉลี่ยมีผู้สูงอายุเสียชีวิตปีละประมาณร้อยละ 3.4 คาดว่าในปี 2553 จะมีผู้สูงอายุเสียชีวิตประมาณ 259,726 คน
       
       ทั้งนี้ พม.ได้รับการจัดสรรงบประมาณค่าจัดการศพในปี 2553 แล้วจำนวน 22,063 คน เป็นเงิน 44,126,000 บาท จึงยังมีผู้สูงอายุที่คาดว่าจะเสียชีวิตและมีคุณสมบัติต้องได้รับความช่วยเหลืออีก 237,663 คน พม.จึงได้ขอแปรญัตติเพิ่มเติมงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2553 วงเงิน 475,326,000 บาท เพื่อเป็นค่าจัดการศพผู้สูงอายุจำนวน 237,663 คน นอกจากนี้ยังได้ขอสนับสนุนงบประมาณกลางปี 2552 วงเงิน 40,000,000 บาท เพื่อเป็นค่าจัดการศพผู้สูงอายุจำนวน 20,000 คนระหว่างเดือน ส.ค.-ก.ย.นี้ ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงบประมาณ คาดว่าจะสามารถรองรับการดำเนินงานตามประกาศดังกล่าวได้
       
       “บุตร หรือญาติผู้สูงอายุที่เสียชีวิตที่มีภูมิลำเนาอยู่ในภูมิภาคต่างๆ ให้นำหลักฐาน ประกอบด้วยสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาใบมรณบัตร สำเนาทะเบียนบ้านของผู้สูงอายุและผู้ยื่นคำขอ ติดต่อได้ที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (พมจ.) ทุกจังหวัด หรือที่ อบต.ที่ผู้สูงอายุมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ในเขตกรุงเทพฯ ติดต่อที่ศูนย์คุ้มครองสวัสดิภาพชุมชนทั้ง 12 เขต หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ศูนย์ประชาบดี โทร.1300” รมว.พม.กล่าว
       
       นายอิสสระกล่าวด้วยว่า นอกจากนี้รัฐบาลมีนโยบายที่จะช่วยเหลือผู้พิการทุกคนโดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าจะให้เบี้ยความพิการกับผู้พิการทุกคนที่ขึ้นทะเบียนและมีสมุดประจำตัวตั้งแต่ต้นปี 2553 โดยมอบหมายให้ พม.สำรวจจำนวนผู้พิการที่ยังไม่ได้เบี้ยความพิการและรณรงค์ให้มาลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ์ ซึ่งขณะนี้มีผู้พิการที่ขึ้นทะเบียนไว้ประมาณ 8 แสนคน ในจำนวนนี้รัฐบาลได้จ่ายเบี้ยความพิการให้ไปเพียง 2.6 แสนคน ขณะที่ผู้พิการมีกว่า 1 ล้านคน ซึ่งต้องเร่งรณรงค์ให้ผู้พิการมาขึ้นทะเบียน โดยไม่จำเป็นต้องขึ้นทะเบียนเฉพาะที่ พมจ.เท่านั้น แต่สามารถขึ้นละเบียนได้ที่ อปท.และโรงพยาบาลทุกแห่ง

---------------------------------        

พันตรีศิริชัย    ทรัพย์ศิริ                             

นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

โทร. 02-990-0331                   

http://www.apdi2002.com

http://www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ สมาคมคนพิการ

1708522157

กาฬสินธุ์-กลุ่มผู้สูงอายุในตำบลกลางหมื่น อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ ร้องจังหวัดตรวจสอบการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้สูงอายุผ่าน อบต.กลางหมื่น เหตุถูกหักจ่ายเหลือแค่รายละ 250 บาท/เดือน อ้างรัฐบาลถังแตก ผู้สูงอายุเชื่อถูกโกงเงินแน่ วอนเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องตรวจสอบด่วน
       
       กลุ่มผู้สูงอายุในตำบลกลางหมื่น อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ จำนวน 15 คน รวมตัวกันร้องเรียนผ่านสื่อเพื่อให้ทางจังหวัดเข้าตรวจสอบการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้สูงอายุ ผ่านองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยเฉพาะการจ่ายเงินให้ผู้สูงอายุของอบต.กลางหมื่น เนื่องจากผู้สูงอายุ เชื่อว่า ผู้บริหาร อบต.กลางหมื่น มีพฤติกรรมทุจริต โกงเงินเดือนผู้สูงอายุ ตามนโยบายรัฐบาลประกาศช่วยเหลือคนละ 500 บาทต่อเดือน แต่ผู้สูงอายุจำนวนไม่น้อยกลับได้รับเงินเพียงคนละ 250 บาทเท่านั้น
       
       นายทอง ผลถวิล อายุ 71 ปี เลขที่ 9 หมู่ที่ 1 บ้านกลางหมื่นตำบลกลางหมื่น กล่าวว่าตั้งแต่เริ่มต้นที่รัฐบาลประกาศเพิ่มเงินช่วยเหลือผู้สูงอายุ เกือบ 1 ปีแล้ว ที่ตนได้รับเงินรายเดือนเพียง 250 บาทต่อเดือนซึ่งเมื่อทำการสอบถามเจ้าหน้าที่ อบต. จะอ้างว่า เงินไม่พอจ่ายบ้าง ทั้งที่มีการขึ้นทะเบียนถูกต้องทุกอย่าง จนเมื่อสอบถามมากๆ บางครั้งเจ้าหน้าที่ จะอ้างว่า รัฐบาลถังแตก ไม่มีเงินบริหาร การหักเงินก็เพื่อนำไปเป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารท้องถิ่น เมื่อรู้คำตอบแบบนี้ ทำให้เชื่อว่า มีการโกงเงินผู้สูงอายุแน่นอน ผู้สูงอายุต้องการให้จังหวัดเข้าทำการตรวจสอบด่วน
       
       อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามผู้สูงอายุตำบลกลางหมื่นที่มีอยู่ 12 หมู่บ้าน คาดว่าน่าจะมีมากกว่า 100 ราย จากจำนวนผู้สูงอายุเกือบ 600 คน
       
       นางเลี่ยน เดชโกพรม อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 154 ม.1 ต.กลางหมื่น อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า รู้สึกเสียใจ น้อยใจ และไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะตนและผู้สูงอายุอีกมากว่า 10 รายได้รับเบี้ยยังชีพเพียง 250 บาทเท่านั้น แต่ผู้สูงอายุคนอื่นกลับได้รับเบี้ยยังชีพคนละ 500 บาท เท่ากลับว่าอบต.กลางหมื่นเลือกปฏิบัติ เลือกที่จะจ่ายเงินไม่เป็นไปตามที่รัฐบาลประกาศ
       
       ทั้งนี้เมื่อประมาณเดือนมกราคม 2552 ที่ผ่านมา ทางอบต.กลางหมื่นได้รับปากว่าผู้สูงอายุทุกคนจะได้รับเงินเบี้ยยังชีพครบ 500 บาท แต่ก็ได้รับ 250 เท่าเดิม กระทั่งล่าสุด ได้รับปากอีกว่าภายในเดือนตุลาคมนี้ทุกคนจะได้รับเงินครบ 500 บาท เคยสอบถามไปทางเจ้าหน้าที่แต่ก็ได้รับคำตอบว่าเงินไม่พอจ่าย จึงขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบและจ่ายเงินให้ครบตามที่ปะกาศไว้ด้วย
       
       ด้านนางอัจฉรา พุ่มมณีกร พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า เงินช่วยเหลือผู้สูงอายุรายละ 500 บาท รัฐบาลจะสนับสนุนผ่านตรงไปยัง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีหน้าที่จ่ายเงินให้กับผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป คนละ 500 บาท โดยไม่สามารถที่จะหักเงินไปได้แม้แต่บาทเดียว กรณีอบต.กลางหมื่นหักเงินนั้น จะต้องเข้าไปตรวจสอบ หากพบว่าหักจริง จะต้องคืนเงิน หรือมีความผิดตามกฎหมาย
       
       ด้านนายโสพนธ์ ชาเลืองฤทธิ์ ท้องถิ่นจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า เบื้องต้นจะให้ทางท้องถิ่นอำเภอเมืองกาฬสินธุ์เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง หากมีการหักเงินผู้สูงอายุจริง ถือว่ามีความผิด จะดำเนินการทั้งทางกฎหมายและทางวินัยอย่างเต็มที่
 

---------------------------------        

พันตรีศิริชัย    ทรัพย์ศิริ                             

นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

โทร. 02-990-0331                   

http://www.apdi2002.com

http://www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ สมาคมคนพิการ

2308520652

กทม. รับขึ้นบัญชีเบี้ยยังชีพ ผู้สูงอายุเพิ่มอีก 27,000 คน


เมื่อวันที่ 1 กันยายน นางทยา ทีปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังประชุมผู้บริหาร กทม.ว่า ตามที่ กทม.ได้เปิดลงทะเบียนผู้สูงอายุที่เกิดก่อนวันที่ 1 ตุลาคม 2492 เพื่อรับเบี้ยยังชีพรอบใหม่ ระหว่างวันที่ 17-31 สิงหาคมที่ผ่านมา พบว่ามีผู้สูงอายุแสดงความจำนงขอรับเบี้ยยังชีพเพิ่มขึ้นอีก 27,318 ราย ซึ่งเป็นตัวเลขอย่างไม่เป็นทางการ สำหรับเขตที่มีผู้สูงอายุลงทะเบียนสูงสุดคือ จตุจักร 984 คน รองลงมา ลาดพร้าว 950 คน และเขตที่ลงทะเบียนน้อยที่สุด สัมพันธวงศ์ 262 คน เมื่อรวมตัวเลขผู้สูงอายุที่ลงทะเบียนไปก่อนหน้านี้ 474,219 ราย ทำให้มียอดผู้สูงอายุประมาณ 5 แสนราย ซึ่งในปีงบประมาณ 2553 กทม.ต้องจ่ายเบี้ยยังชีพรวมเป็นเงินกว่า 27,000 ล้านบาท โดยรัฐบาลช่วยเหลือร้อยละ 60 และ กทม. สนับสนุนอีกร้อยละ 40

นางทยากล่าวถึงปัญหาที่ผู้สูงอายุรายร้องเรียนว่าได้รับเงินล่าช้าว่า อาจเกิดจากเอกสารไม่ครบถ้วน หรือขาดหาย หรือให้เลขบัญชีธนาคารไม่ถูกต้อง จึงมอบหมายให้สำนักพัฒนาสังคม กทม.ประสานไปยัง 50 สำนักงานเขต ทำความเข้าใจกับผู้สูงอายุในพื้นที่ต่อไป

* * * * * * * * * * * *

พันตรีศิริชัย    ทรัพย์ศิริ

สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

www.waddeeja.com

Tel. 02-990-0331

0209522025