วัยทอง….ของผู้หญิง - ผู้ชาย

คอลัมน์ รู้ไปโม้ด

น้าชาติ ประชาชื่น nachart@yahoo.com

ถาม....วัยทองเป็นได้ทั้งชายและหญิงหรือเปล่าคะ เกิดจากอะไรและรักษาได้ไหม


ตอบ……..

วัยทองเป็นช่วงต่อระหว่างวัยผู้ใหญ่ตอนต้นและวัยสูงอายุ เป็นได้ทั้งชายและหญิง โดยจะเกิดขึ้นในช่วงอายุ 40 หรือ 45 ปีขึ้นไป ร่างกายจะเปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะมีการผลิตฮอร์โมนเพศลดลง

ในผู้หญิงวัยทองจะเกิดเมื่อรังไข่หยุดทำงานอย่างสิ้นเชิงอย่างน้อย 1 ปี ซึ่งอาจเกิดได้ระหว่างอายุ 45-55 ปี ขึ้นกับสุขภาพและกรรมพันธุ์ เช่น บางคนหมดประจำเดือนตั้งแต่อายุ 40 ปี หรือน้อยกว่า

ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนลดลง ทำให้ประจำเดือนเริ่มมาไม่แน่นอน จึงเกิดอาการต่างๆ ที่เรียกว่า กลุ่มอาการหมดประจำเดือน (Menopausal Symptom) ได้แก่ ร้อนวูบวาบ เหงื่อออกตอนกลางคืน นอนไม่หลับหรือหลับยาก อารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย หลงลืมง่าย บางคนมีปัสสาวะบ่อย แสบ เวลาไอจามอาจมีปัสสาวะเล็ด ช่องคลอดแห้ง เจ็บเวลามีเพศสัมพันธ์

สำหรับผลกระ ทบต่อสุขภาพในระยะยาวที่พบ ได้แก่ โรคกระดูกพรุน โรคหัวใจและหลอดเลือดจากการมีระดับไขมันในเลือดสูงโดยเฉพาะระดับคอเลสเตอรอล บางรายอาจเกิดโรคอัลไซเมอร์เมื่ออายุมากขึ้น

อายุโดยเฉลี่ยของผู้หญิงไทยที่หมดประจำเดือนเท่ากับ 51 ปี ผู้หญิงที่เคยสูบบุหรี่หรือยังสูบบุหรี่อยู่มักจะเข้าวัยหมดประจำเดือนเร็วกว่าผู้หญิงทั่วไป การรักษาโรคบางอย่างที่ทำให้ต้องตัดรังไข่ออกหรือฉายรังสีที่ไข่ การให้เคมีบำบัดและยาบางชนิดอาจทำให้ประจำเดือนหยุดมาได้ แต่การตัดมดลูกโดยไม่ตัดรังไข่ไม่ถือว่าเป็นภาวะหมดประจำเดือน

ในผู้ชายวัยทองจะเกิดขึ้นหลังจากที่อัณฑะเสื่อมหน้าที่ ผลิตฮอร์โมนเพศชาย คือ เทสโทสเตอโรน ได้ลดลง โดยปกติฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนจะทำให้เด็กผู้ชายเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ เมื่ออายุมากขึ้นฮอร์โมนนี้จะช่วยควบคุมการเจริญเติบโตของกล้ามเนื้อและช่วยคงสภาพความชุ่มชื้นของผิวหนัง

ผู้ชายวัยทองพบได้ตั้งแต่อายุ 40 ปีขึ้นไป แต่ไม่แสดงอาการชัดเจนเหมือนผู้หญิง มีจำนวนน้อยมากที่มีอาการร้อนวูบวาบตามตัวเช่นเดียวกับวัยทองของผู้หญิง แต่อาการจะแสดงออกทั้งทางร่างกาย จิตใจและทางเพศ เรียกว่า ภาวะการขาดฮอร์โมนเพศชาย (Partial Androgen Deficiency in Aging Male หรือ PADAM)

อาการที่กล่าวมาเหล่านี้จะมากขึ้นตามระดับฮอร์โมนที่ลดลงตามอายุที่มากขึ้นด้วย

กล่าวคือ อ่อนเพลียง่ายในตอนกลางคืนและตอนเช้า กระสับกระส่าย หงุดหงิดง่าย ไม่กระฉับกระเฉง เฉื่อยชาลง กล้ามเนื้อลดขนาดลง อ้วนลงพุง นอนไม่หลับ ความจำเสื่อม อารมณ์แปรปรวน บางรายมีอาการซึมเศร้า

สำหรับผลกระทบในระยะยาว ได้แก่ มีไขมันในเลือดสูง โรคหัวใจและเส้นเลือดอุดตัน กระดูกพรุน เสื่อมสมรรถ ภาพทางเพศ ความต้องการทางเพศลดลง การแข็งตัวของอวัยวะเพศน้อยลง การหลั่งน้ำอสุจิลดลงทั้งปริมาณและความถี่

- - - - - - - - - - - - - - - - - -  

พันตรีศิริชัย   ทรัพย์ศิริ

นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล (ส.พ.ค.)

โทร. 02-990-0331

http://www.apdi2002.com

http://www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ

สมาคมคนพิการ

0403531219

*********************