Contact to www.waddeeja.com
Name : อำนาจ เรืองวงษ์ Subject :
คนพิการที่สู้ชีวิตขาลีบเป็นโปลิโอเลี้นงลูกชายที่เป็นดาวซินโดม
Message :
ผมอำนาจ เรืองวงษ์ ครับ
ก่อนอื่นผมก็ต้องขอบคุณคุณพวงแก้วเช่นกันที่เห็นความสำคัญของคนพิการอย่างผม
ผมยินดีและดีใจมากที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งของมูลนิธิของคุณ
ผมจะเล่าให้ฟังเลยนะครับ
ตอนนี้ผมมีอายุ 44 ปี ภรรยาผมอายุ 45 ปี มีลูก 3 คน
ลูกสาว 2 คน ลูกชาย 1 คน ลูกสาวคนโตอายุ 22 ปี
มีครอบครัวแล้วมีลูก 1
คนตอนนี้ก็แยกบ้านอยู่แล้วแต่ก็เจอและมาหากันทุกวัน
ลูกสาวคนที่ 2 อายุ 17 ปี กำลังเรียนอยู่ ปวช.ปี 2
สาขาการขาย
คนนี้ก็ไม่ค่อนสมบูรณ์ซักเท่าไรเพราะเขาเป็นคนตัวเล็กอายุ17ปีแต่ตัวเล็กเหมือนเด็ก
ป.6และยังเป็นโรคสมาธิสั้นอีกแต่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ทุกอย่างเหมือนเด็กทั่วไป
ส่วนลูกชายคนเล็ก อายุ 8 ปี ก็เป็นดาวซินโดม
พัฒนาการช้าแต่ได้รับการรักษา
และก็ได้เรียนหนังสือที่โรงเรียนในจังหวัด
ได้เรียนร่วมกับเด็กปกติแต่ยังไม่ได้เลื่อนชั้นเลย
เพราะต้องขึ้นอยู่กับความสามารถของตัวเขาเอง
เขาได้เรียนหนังสือห้องเดียวกับหลานคือลูกของลูกสาวคนโต
หลานอายูแค่ 3 ขวบครึ่ง อยู่โรงเรียนเดียวกัน
เดิมผมมีอาชีพเป็นนักดนตรี
ผมเล่นอิเล็กโทนอยู่ในคาเฟ่
เมียผมก็ขายปลาหมึกย่างอยู่หน้าคาเฟ่ ตอนนั้นมีลูก 2
คน ทางบ้านผมมีอาชีพเป็นนักดนตรีกันทุกคน
ปัจุบันพ่อผมก็ยังเล่นดนตรีไทยอยู่ที่บ้านนครสวรรค์เล่นตามงานทั่วไป
และได้เป็นครูสอนดนตรีไทยทั้งที่โรงเรียนและที่บ้าน
ผมมาอยู่ที่สมุทรสาครเป็น 10 กว่าปีแล้ว
ตอนกลางคืนผมเล่นดนตรีที่คาเฟ่
ส่วนตอนกลางวันผมก็อยู่ที่ร้านซ่อมทีวี
เป็นลูกน้องเขา เมียผมก็ขายข้าว
จนคาเฟ่ปิดผมก็เลิกเล่นดนตรี
อยู่ร้านซ่อมทีวีอย่างเดียว จนมีลูกคนที่ 3
ผมก็ได้ออกมาเปิดร้านซ่อมเป็นของตัวเอง
เมียผมก็ขายข้าวมาตลอด จนมาหยุดขายเมื่อประมาณ 5
ปีที่ผ่านมาเพราะไม่สบายบ่อย
ผมเดินและยืนไม่ได้เลยต้องใช้มือถัดเอา
ทุกวันนี้เมียผมไม่ได้ทำงานอะไร
เพราะเขาต้องคอยดูแลทั้งผมและลูก
ทั้งเรื่องงานในบ้านและในร้าน
ต้องคอยหาข้าวให้ผมและลูกกิน
ทำงานบ้านและคอยไปซื้ออะไหล่และยกของในร้านให้ผม
และลูกชายผมก็ต้องไปโรงเรียนพิเศษอีกเพราะทางจังหวัดมีศูนย์พัฒนาเด็กพิเศษต้องคอยไปส่งโรงเรียนทั้ง
2 ที่ เพราะโรงเรียนพิเศษเรียนแค่วันละ 2 ชั่วโมง
ลูกชายผมได้ทางโรงพยาบาลจังหวัดรักษาและมียาให้กิน
ผมเองเป็นคนไปรับ-ส่งลูกที่โรงเรียนทั้งเช้าและเย็น
ผมสามารถขับรถยนต์ได้ โดยไม่ต้องใช้เท้าเหยียบเลย
เพียงแค่ใช้ไม้ท่อนเดียวขับ
ผมมีรถก็เหมือนมีขาที่เดินได้
เพราะไม่ว่าจะไปไหนกลับบ้านต่างจังหวัด
พาครอบครัวไปเที่ยวผมเองก็เป็นคนขับพาพวกเขาไปตลอด
เพราะมีแต่คนขับไม่เก่งเลย
พอขับได้กันทั้งเมียและลูกสาวคนโต
นี้ก็เป็นงานหลักของผมอีกงานหนึ่ง
ผมไม่เคยยอมแพ้กับอุปสรรคที่เกิดขึ้นเลย
พยายามสู้กับมันมาตลอด
ดูเหมือนที่ผมเล่าให้ฟังจะไม่มีอุปสรรคเลย
แต่ใครจะรู้ได้ว่า กว่าผมจะมีวันนี้ได้ผมลำบากมาก่อน
ผมต้องสู้กับสิ่งที่เกิด ผมเป็นหนี้กู้ยืมเงินก็เคย
ไม่มีเงินซื้อข้าวกินก็เคย
ผมได้กำลังใจจากเมียกับลูกยื่งผมมีลูกชายแบบนี้อีก
ก็ยิ่งทำให้ผมต้องสู้เพื่อเขา ไม่ใช่ผมไม่รักลูกอีก
2คนนะ แต่เขาโตและเอาตัวรอดกันแล้ว
ผมห่วงเขาคนเดียวกลัวเขาจะลำบากกลัวเขาจะช่วยเหลือตัวเองไม่ได้
ผมไม่อยากให้เขาเป็นภาระใครผมหาทุกวิธีทางที่จะช่วยให้เขาเก่งขึ้น
จนทุกวันนี้เขาช่วยเหลือตัวเองได้ทุกอย่างแล้วในการใช้ชีวิตประจำวัน
เหลือแต่เรื่องเรียนที่ยังไม่ค่อยได้เท่าไร
ผมอยากบอกกับคนพิการทุกคนว่าอยากท้อกับสิ่งที่เป็นอุปสรรค
ต้องสู้และมีความหวังแล้วจะผ่านอุปสรรคได้
ผมก็ไม่รู้ว่าจะเล่าอะไรอีกมีเรื่องเล่าอีกเยอะที่เกิดขึ้นกับตัวผม
ถึงผมจะพิการขาแต่ผมก็สามารถเลี้ยงดูเขาได้
ถึงมันจะไม่ดีมากซักเท่าไร
แต่ผมก็ทำหน้าที่เป็นพ่อที่ดีที่สุดให้กับลูกๆทั้ง 3
คน ของผม ถ้าอยากรู้อะไรมากกว่านี้
ติดต่อมาหาผมได้เลยผมอยู่ที่ ตลาดมหาชัยเมืองใหม่
บ.59/281 หมู่ 2 ต.คอกกระบือ อ. เมือง จ.สมุทรสาคร
74000 เบอร์โทร 081-4980106
**************
พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ
สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล
www.waddeeja.com
2709521831
|