หน้าหลัก | สมาคมคนพิการ ฯ (ส.พ.ค.) | โครงการ ปี2567 | รวมภาพกิจกรรม | คุณถาม-เราตอบ | ติดต่อเรา |
ปัญหาโลกร้อน น่ากลัว | ||||
| ||||
ผู้ตั้งกระทู้ พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ :: วันที่ลงประกาศ 2007-03-21 21:40:30 IP : 124.121.136.40 |
[1] 2 ถัดไป >> |
ความคิดเห็นที่ 1 (871020) | |
เอเอฟพี - น้ำจืดกำลังจะเป็นสิ่งมีค่ามากขึ้น เนื่องจากภาวะโลกร้อนเริ่มคุกคาม บรรดาผู้เชี่ยวชาญเตือน โดยที่วันที่ 22 มี.ค.ของทุกปีถือเป็น "วันน้ำโลก" ด้วย ความคิดหลักของการรำลึกถึง "วันน้ำโลก" (World Water Day) ประจำปีนี้ก็คือ "เผชิญกับการขาดแคลนน้ำ" (Coping with Water Scarcity) ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดจากประชากรเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว การใช้น้ำอย่างสิ้นเปลือง และมลภาวะ องค์การสหประชาชาติประมาณไว้ว่า ภายในปี 2025 ประชากรโลกถึง 2 ใน 3 จะต้องอยู่ในภาวะขาดน้ำ โดยแอฟริกาเหนือ ตะวันออกกลาง และเอเชียตะวันตก จะเป็นภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบสาหัสที่สุด ทั้งนี้ ภาวะโลกร้อนก็มีส่วนทำให้ปัญหาขาดแคลนน้ำย่ำแย่ลงอีก ผู้เชี่ยวชาญระบุ ในหลายๆ ภูมิภาค ความแห้งแล้งที่รุนแรงขึ้น รูปแบบปริมาณฝนตกที่เปลี่ยนแปลงไป และปริมาณหิมะและน้ำแข็งบนภูเขาที่ลดลง อาจทำให้น้ำในแม่น้ำ ทะเลสาบ และชั้นหิน แห้งเหือดไปได้ บางภูมิภาคจะมีปริมาณน้ำฝนมากขึ้น แต่อาจจะเกิดจากพายุฝนรุนแรงที่จะก่อให้เกิดน้ำท่วมเฉียบพลัน มากกว่าที่จะเป็นฝนโปรยที่จะซึมซับลงสู่พื้นดินได้ หรือฝนอาจตกในพื้นที่มีประชากรเบาบาง หรือพื้นที่ซึ่งไม่มีโครงสร้างพื้นฐานที่จะรองรับหรือเก็บกักไว้ใช้ยามแห้งแล้ง นักวิทยาศาสตร์จากคณะกรรมาธิการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยความเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ (IPCC) ของยูเอ็น มีกำหนดจะเน้นย้ำถึงปรากฏการณ์ดังกล่าวในรายงานที่จะเผยแพร่ในวันที่ 6 เมษายนนี้ ซึ่งรายงานฉบับนี้เป็นรายงานประเมินภาวะโลกร้อนล่าสุดฉบับที่ 2 ทั้งนี้ เอเอฟพีระบุว่า ตามร่างรายงานของ IPCC ที่ได้มา มีเนื้อหาระบุว่า ในอาณาบริเวณตำแหน่งเส้นละติจูดสูงๆ และเขตเส้นศูนย์สูตรที่มีฝนตกมากบางพื้นที่ ซึ่งรวมถึงบริเวณที่มีประชากรหนาแน่นในเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ "เป็นไปได้อย่างมากว่า" ปริมาณน้ำน่าจะเพิ่มขึ้นในศตวรรษนี้ ร่างรายงานที่เอเอฟพีได้มาระบุ แต่ประเทศในตำแหน่งละติจูดกลางๆ และเขตเส้นศูนย์สูตรที่มีฝนน้อย ซึ่งประสบกับภาวะขาดน้ำไปแล้ว จะยิ่งมีน้ำน้อยลงไปอีก "พื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบจากภาวะแห้งแล้งน่าจะมีมากขึ้น และสภาพการณ์รุนแรงจากหยาดน้ำฟ้า (น้ำฝน,หิมะ,ลูกเห็บ) ซึ่งน่าจะเกิดถี่ขึ้นและรุนแรงขึ้น จะเพิ่มความเสี่ยงเกิดน้ำท่วมมากยิ่งขึ้น" นอกจากนี้ รายงานยังเผยด้วยว่า "เป็นไปได้อย่างมากที่ปริมาณน้ำซึ่งสะสมในธารน้ำแข็งและหิมะปกคลุมจะลดลง ซึ่งจะทำให้ปริมาณกระแสน้ำในฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วงในภูมิภาคต่างๆ ซึ่งมีประชากรกว่า 1 ใน 6 ของโลกอาศัยอยู่ ลดลงตามไปด้วย" ในระดับโลก ถ้าอุณหภูมิเพิ่มขึ้น 2 องศาเซลเซียสภายในปี 2100 เมื่อเทียบกับระดับเมื่อปี 1990 จะทำให้ประชากรมากถึง 2,000 ล้านคนอยู่ใน "ภาวะขาดแคลนน้ำมากขึ้น" ถ้าอุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้น 4 องศา ก็จะทำให้ตัวเลขเพิ่มขึ้นไปถึง 3,200 ล้านคน โดยแอฟริกาและเอเชียจะเป็นทวีปที่ได้รับผลกระทบรุนแรงมากที่สุด ร่างรายงานประมาณไว้ แม้แต่ประเทศร่ำรวย ซึ่งมีเงิน ทรัพยากรและความรู้ความเชี่ยวชาญทางเทคโนโลยีมากกว่า ก็จะประสบปัญหาขาดน้ำด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ดี ในเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา องค์การสิ่งแวดล้อมแห่งสหภาพยุโรป เตือนให้รัฐบาลในยุโรป เริ่มวางแผนรับมือกับภาวะขาดแคลนน้ำที่เกิดจากภูมิอากาศเปลี่ยน และระบุชัดว่า ทางตอนใต้ของสเปน ทางตอนใต้ของอิตาลี กรีซ และตุรกี กำลังได้รับผลกระทบอย่างหนัก | |
ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ วันที่ตอบ 2007-03-23 21:30:37 IP : 124.121.142.169 |
ความคิดเห็นที่ 2 (886291) | |
นักวิชาการชี้อากาศร้อนแต่ไม่ถึงขั้นวิกฤต เตือนคนกรุง 28 เมษาฯดวงอาทิตย์ตั้งฉาก เมื่อวันที่ 3 เมษายน นายอานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการศูนย์เครือข่ายงานวิเคราะห์วิจัยและฝึกอบรม การเปลี่ยนแปลงของโลกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงสภาวะอากาศร้อนและแล้งในประเทศไทยขณะนี้ว่า ยังอยู่ในภาวะปกติ ไม่ถึงขั้นวิกฤต แต่สาเหตุที่ทุกคนวิตกกังวล เพราะส่วนหนึ่งมาจากความต้องการในการใช้น้ำสูงขึ้นมากกว่าปกติ "ขณะนี้ประเทศไทยเป็นช่วงฤดูร้อนปกติ ไม่ได้ประสบกับภาวะโลกร้อน ภาวะโลกร้อนนั้นเป็นเพียงแพะรับบาปสิ่งที่เกิดขึ้นเท่านั้นแต่ก็เป็นเรื่องที่ดี เพราะความตระหนกจะทำให้เกิดการป้องกันภาวะโลกร้อนที่อาจจะเกิดขึ้นจริงในอนาคต" นายอานนท์กล่าว และว่า องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ได้กำหนดมาตรฐานการใช้น้ำของประชาชนที่สามารถอยู่ได้อย่างไม่เดือดร้อน คือ ประมาณวันละ 40 ลิตร แต่ข้อเท็จจริงคนในเมืองใช้น้ำมากถึงคนละ 100 ลิตรต่อวัน นายอานนท์กล่าวว่า หากประเทศไทยประสบกับปัญหาโลกร้อนจริงๆ สังเกตได้จากช่วงกลางคืนจะต้องมีอากาศร้อนด้วย เป็นความร้อนที่ไม่เกี่ยวกับแสงแดด แต่เกิดจากการคายความร้อนของพื้นดินที่ดูดซับเอาไว้ในช่วงกลางวัน หลักการเดียวกับในตึกที่กลางวันตัวตึกจะดูดซับความร้อนเอาไว้และคายออกตอนกลางคืน ทำให้ในตัวตึกมีอากาศร้อน แต่ขณะนี้จะร้อนเฉพาะตอนกลางวันเท่านั้น กลางคืนอากาศยังเป็นปกติ ด้านนายวิมุติ วสะหลาย ผู้ดูแลเว็บไซต์ ของสมาคมดาราศาสตร์ไทย กล่าวว่า ความจริงแล้ว ช่วงเวลานี้โลกกำลังเคลื่อนที่ออกห่างจากดวงอาทิตย์ และประมาณวันที่ 28 เมษายนนี้ ดวงอาทิตย์จะทำมุม 90 องศา และทำมุมตรงศีรษะคนกรุงเทพฯ จากนั้นประมาณวันที่ 21-22 มิถุนายนนี้ จะเป็นช่วงที่กลางวันยาวกว่ากลางคืนมากที่สุด ซึ่งจะทำให้คนกรุงเทพฯ รับแสงแดดได้มากที่สุด วันเดียวกัน เอเอฟพีรายงานว่า ศาลฎีกาของสหรัฐอเมริกาลงมติ 5-4 เสียง ให้มีคำพิพากษาว่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และก๊าซเรือนกระจกต่างๆ ถือเป็นมลพิษภายใต้กฎหมายอากาศบริสุทธิ์ นับเป็นการตัดสินคดีที่เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศเป็นครั้งแรก โดยคำพิพากษานี้จะส่งผลให้องค์การพิทักษ์สิ่งแวดล้อมของสหรัฐ (อีพีเอ) มีอำนาจในการตรวจสอบและควบคุมปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในรถยนต์รุ่นใหม่ที่จะออกจำหน่ายภายใต้กฎหมายสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้คำพิพากษาดังกล่าวยังเหมือนเป็นการส่งเสียงตำหนิไปยังฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุชที่มีท่าทีเฉื่อยชาปัญหาโลกร้อนมาตลอดด้วย | |
ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ วันที่ตอบ 2007-04-04 21:57:54 IP : 124.121.140.158 |
ความคิดเห็นที่ 3 (904481) | ||||
| ||||
ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ วันที่ตอบ 2007-04-10 16:31:22 IP : 124.121.141.137 |
ความคิดเห็นที่ 4 (911861) | |
ไทยระอุ"โลกร้อน" พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล www.waddeeja.com Tel. 0-2990-0331 | |
ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ วันที่ตอบ 2007-04-16 16:18:29 IP : 124.121.140.10 |
ความคิดเห็นที่ 5 (921421) | |
ไม่น่าเกี่ยวกับโลกร้อน... นายสุรพงษ์ ปรานศิลป์ อธิบดีกรมการข้าว เปิดเผยถึงโครงการวิจัยการปลดปล่อยก๊าซมีเทนจากนาข้าวภายใต้การสนับสนุนจากสถาบันวิจัยข้าวไอรี่ โดยร่วมกับสถาบันวิจัย 5 ประเทศ คือ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย อินเดีย จีน และไทย ว่า เป็นโครงการวิจัยเพื่อหาอัตราการปลดปล่อยก๊าซมีเทนสู่บรรยากาศ และศึกษาผลการใช้เทคโนโลยีต่างๆในการทำนาที่มีผลต่อการปลดปล่อยก๊าซมีเทน รวมถึงศึกษาเรื่องปัจจัยแวดล้อมในดินและอากาศที่มีผลต่อการปลดปล่อยก๊าซมีเทน พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล www.waddeeja.com | |
ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ วันที่ตอบ 2007-04-23 19:33:10 IP : 124.121.140.232 |
ความคิดเห็นที่ 6 (921513) | |
เสนอผลคาดการณ์ โลกร้อน ชี้ผลกระทบต่อไทย ระบบลมเปลี่ยนแปลง ทำมรสุมชายฝั่งสูงขึ้น เหตุลมตะวันออกเฉียงใต้กำลังแรงพัดความชื้นเข้าฝั่ง แต่ลมตะวันออกเฉียงเหนือเบาลงเหตุแผ่นดินร้อนขึ้น ส่งผลให้ไม่หนาวอย่างเคย จำนวน วันร้อน เพิ่มขึ้น 30-60 วัน/ปี แต่จำนวน วันเย็น ลดลง และบางพื้นที่ไม่มีเลย พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล Tel. 0-2990-03321 | |
ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ วันที่ตอบ 2007-04-23 21:15:54 IP : 124.121.140.232 |
ความคิดเห็นที่ 7 (928164) | ||||
| ||||
ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ วันที่ตอบ 2007-04-26 21:48:03 IP : 124.121.141.200 |
ความคิดเห็นที่ 8 (928181) | ||||
| ||||
ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ วันที่ตอบ 2007-04-26 21:56:31 IP : 124.121.141.200 |
ความคิดเห็นที่ 9 (930498) | |||
กทม.เอาจริงเตรียมออกกฎคุมแก้โลกร้อน
| |||
ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ วันที่ตอบ 2007-04-28 17:02:47 IP : 124.121.140.48 |
ความคิดเห็นที่ 10 (931046) | ||||
| ||||
ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ วันที่ตอบ 2007-04-29 07:35:19 IP : 124.121.135.82 |
ความคิดเห็นที่ 11 (939509) | ||||||||
| ||||||||
ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ วันที่ตอบ 2007-05-03 19:46:17 IP : 124.121.141.108 |
ความคิดเห็นที่ 12 (939522) | |||
|