ลิขิตไก่ย่าง อร่อยระดับตำนาน

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์  

ไม่ว่าเราจะคุ้นเคยพวกเขาในสถานะอะไร…? ทว่าปีนี้ คุณยายเกียวทอง ปัณทุราสัญญ์ เจ้าของร้านระดับตำนานก็บอกว่า “ลิขิตไก่ย่าง” ก็ให้บริการ ทั้งอาหารไทย-อีสาน-จีน ซึ่งส่งกลิ่นหอม-แซบ-อร่อยฟุ้งจรุงใจโด่งดังกระฉ่อนไปทั่วโลก…! มาแล้วกว่า 51 ปี
       
       คุณยายเกรียวทองเล่าว่าสมัยก่อนสนามมวยราชดำเนินต่อยมวยกันวันอาทิตย์แค่วันเดียว ดังนั้นทุกวันอาทิตย์ที่นี่จะเป็นเหมือนจุดรวมตัวของคนรักมวยไทยและชอบกินอาหารอีสานอร่อยๆ ทั่วสารทิศมากมาย ไม่ว่าจะเป็น นักธุรกิจ ตำรวจ ทหาร พ่อ-แม่ค้า ดารา หมอ ผู้พิพากษา ฝรั่งมังค่า รวมถึงนักการเมืองชื่อดังในยุคนี้ค่อนสภาต่างติดใจรสชาติ แวะเวียนมา ชิมอาหารติดต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน

       แต่กว่า “แบรนด์ลิขิตไก่ยาง”จะโด่งดังและเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก และมีที่ตั้งเป็นหลักเป็นแหล่งดั่งวันนี้ คุณยายเกรียวทอง ปัณทุราสัญญ์ เจ้าของร้านที่ยังมีสุขภาพแข็งแรง บอกว่า เล่นเอาเหนื่อยลากเลือดอยู่เหมือนกัน
       
       ย้อนตำนานลิขิตไก่ย่างไปเมื่อกว่าครึ่งศตวรรษเมื่อคุณตาลิขิตกับคุณยายเกรียวทองสองสามีภรรยาซึ่งประกอบชีพตั้งแต่ขายของหน้าโรงหนังไปจนถึงรับจ้างทั่ว ๆ ไป อาศัยเก็บเล็กผสมน้อยพอมีทุนก้อนหนึ่งประมาณ 6 หมื่นบาท ก็ตัดสินใจเปิดร้านขายอาหารไทย-อีสาน โดยใช้ชื่อว่า “ภัตตาคารลิขิตไก่ย่าง” ขายอาหารทั้งไทย-จีน-อีสาน แต่คนทั่วไปมักเรียกติดปากว่า “ลิขิตไก่ย่าง”
       
       สำหรับเมนูที่เรียกว่าขายดีสุดๆ มาแล้วไม่สั่งไม่ได้ ก็คือ ไก่ย่างสูตรลิขิต ( ตัวละ 130 บาท) คุณยายเกรียวทองบอกว่า ขายดีขนาดที่ว่าต้องใช้ไก่กว่า 2,000 ตัวต่อหนึ่งวัน และต้องเลือก “ไก่พันธุ์เนื้อ” เพราะไก่ชนิดนี้ตัวใหญ่และเนื้อแน่นโดยก่อนจะนำมาย่างต้องผ่านการหมักเพื่อให้ได้รสชาติหอม เวลากัดลงไปจะได้ความรู้สึกของเนื้อไก่ที่แน่นกว่าไก่ที่มีขายตามท้องตลาดทั่วไป แถมมีกลิ่นหอมของกระเทียมและเครื่องปรุงแถมออกเผ็ดพริกไทยติดปลายลิ้น

       วิธีย่างของที่นี่ก็ต้องพิถีพิถันพอสมควร โดยเฉพาะเรื่องไม้เสียบไก่ ต้องเป็นไม้ไผ่ จ.ราชบุรีเท่านั้น และถ้าไม้ไผ่หนาเกินไปเวลาหนีบไก่ไม้จะแตก เพราะฉะนั้นต้องใช้ไม้ไผ่ที่บางและทรงแบน เวลาอ้าจะไม่แตก และใช้เชือกมัดไว้ธรรมดา
       ส่วนเทคนิคการย่าง จะต้องใช้เตาถ่านเท่านั้น ไม่ใช้เครื่องย่างไฟฟ้าเหมือนทั่วไป เริ่มด้วยติดไฟให้ถ่านแดงลุกโชนครึ่งเตาแล้วจึงใช้ขี้เถ้ากลอบให้หนาพอสมควรเพื่อให้ไฟอ่อนสม่ำเสมอ เพราะไม่อย่างนั้นไฟจะแรงเกินไปเนื้อไก่จะไหม้ เนื้อไก่ย่างลิขิตที่ย่างด้วยไฟแบบนี้เนื้อจะไม่แห้งแต่จะชุ่มด้วยน้ำเนื้อแล้วข้างในก็สุกสม่ำเสมอ เวลากัดลงไปจะสัมผัสกับรสชาติของเนื้อที่หอมกลิ่นเครื่องสมุนไพรหมักฟุ้งเต็มปากเต็มคำ เคี้ยวแล้วเนื้อยังเหนียวสู้ฟัน ไม่เปื่อยยุ่ย

ยิ่งได้ “น้ำจิ้ม” มาช่วยเพิ่มความจัดจ้าน โดยมีให้เลือก 2 แบบ คือ สูตรแนวอีสานที่ออกเค็มเผ็ด ส่วนสูตร 3 รส ในแนวหวาน เผ็ด เปรี้ยว
       
       สำหรับเมนูแนะนำต่อมาเรียกว่าใครมาแล้วพลาดไม่ได้ ก็คือ “ส้มตำ” โดยมือตำของ “ลิขิตไก่ย่าง” ซึ่งเป็นแม่ครัวมืออันดับต้นๆ ของภาคอีสานและอยู่กับที่นี่มานานถึง30 ปี รสชาติน่าจะคุ้นลิ้นกับคนกรุงเทพฯมากกว่าเพราะเน้นรสเปรี้ยว-หวานนำ ที่สำคัญหนักเครื่องทั้งกุ้งเนื้อตัวใหญ่ ถั่วคัวใหม่ ๆ ยิ่งถ้าสั่งตำปูนั้นเนื้อปูเป็นเนื้อใส ๆ ดูดแล้วรสชาติเค็ม ๆ มัน ๆ แซบหลายจริง ๆ แต่ราคาครกละ 30 บาท
       
       นอกจากนี้ยังอาหารทั้งแนวอีสานและแนวจีนให้ลิ้มลองอีกหลายเมนู อาทิ คอหมูย่าง หมูแดดเดียวทอดใหม่ ๆ เสิร์ฟกันร้อน ๆ เนื้อนุ่มไม่เหนียวรสชาติหอมซอสกำลังดี อีกเมนูหนึ่งไม่ไม่ควรพลาดคือหอยทอดออส่วน ( 120 บาท ) ที่ร้านนี้ปรุงแป้งได้กรอบหอมอร่อยมากแบบที่ไม่เคยกินที่ไหนมาก่อน ผัดโป๊ยเซียน ปลากะพงนึ่งมะนาว ปลาเก๋าราดพริก เต้าหู้ทรงเครื่อง กุ้งอบวุ้นเส้น เนื้อตุ๋นน้ำแดง เป็นต้น

**ข้อมูล**
       ลิขิตไก่ย่าง
       ประเภท อาหารอีสานและจีน แนะนำไก่ย่าง-ส้มตำ
       สถานที่ ข้างสนามมวยราชดำเนิน เขตป้อมปราบ ฯ
       โทร. 02-28 4, 02-28
       เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.30-21.30 น.

- - - - - - - - - - - - - - - - - -

พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ                

นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

โทร. 02-990-0331

http://www.apdi2002.com

http://www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ สมาคมคนพิการ

2012511056