ReadyPlanet.com


คนพิการ...รู้ไว้ได้กำไร


 

ถอดยศ-เรียกคืนเครื่องราชฯทหารเรือ "นาวาเอก-เรือตรี"

ถูกพิพากษาจำคุก-หนีทหาร

เมื่อวันที่ 4 มิถุนายนว่า  มีประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ถอดยศ และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์นายทหาร 2 นาย ลงราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่3 มิถุนายน2551  ดังนี้

1.มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ถอด นาวาเอก วีรพันธ์วิบูลย์สุข สังกัดกองทัพเรือ ออกจากยศทหาร ตั้งแต่วันที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๔๘ ซึ่งเป็นวันที่มีคำพิพากษาถึงที่สุด และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นจัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย ตริตาภรณ์มงกุฎไทย ตริตาภรณ์ช้างเผือก ทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย ทวีติยาภรณ์ช้างเผือกและเหรียญจักรมาลา ซึ่งบุคคลดังกล่าวได้รับพระราชทาน เนื่องจากกระทรวงกลาโหมได้ปลดออกจากราชการเพราะกระทำความผิด ซึ่งต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก และเป็นกรณีประพฤติตนไม่สมเกียรติซึ่งเข้าเงื่อนไขเหตุแห่งการเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ พ.ศ. 2548  ข้อ 7(8)

2.มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ถอด เรือตรี วิชิตรสุลักษณ์ สังกัดกองทัพเรือ ออกจากยศทหาร ตั้งแต่วันที่ ๒๕ กันยายน ๒๕๕๐ ซึ่งเป็นวันที่กระทำความผิดฐานหนีราชการทหารในเวลาประจำการ และทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นจัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย ซึ่งบุคคลดังกล่าวได้รับพระราชทาน เนื่องจากกระทรวงกลาโหมได้ปลดออกจากราชการเพราะกระทำความผิดฐานหนีราชการทหารในเวลประจำการ และเป็นกรณีประพฤติตนไม่สมเกียรติ ซึ่งเข้าเงื่อนไขเหตุแห่งการเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ฯ

* * * * * * * * *

พันตรีศิริชัย  ทรัพย์ศิริ

นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

www.waddeeja.com

Tel.02-990-0331

0406511531



ผู้ตั้งกระทู้ พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ :: วันที่ลงประกาศ 2008-06-04 15:30:56 IP : 124.121.140.17


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (2863036)

 

เตือนผู้ใช้เบอร์มือถือขึ้นต้น081เสี่ยงถูกแก๊งโอนเงินผ่านATMตุ๋น

 
พ.ต.อ.ญาณพล ยั่งยืน ผู้บัญชาการสำนักเทคโนโลยีและสารสนเทศ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า ดีเอสไอ ตรวจสอบพบว่ามีกลุ่มมิจฉาชีพจากต่างประเทศหลายกลุ่มได้เข้ามาทำการหลอกลวงประชาชน โดยร่วมมือกับคนไทยหรือจ้างกลุ่มคนไทยเป็นผู้โทรศัพท์สุ่มไปตามหมายเลขโทรศัพท์ต่างๆ ที่มีการใช้งานอยู่ในขณะนี้ กลุ่มที่เสี่ยงถูกหลอกคือผู้ใช้หมายเลขโทรศัพท์ที่ขึ้นด้วย 081 ซึ่งคาดว่าเป็นผู้ใช้โทรศัพท์รุ่นแรกๆ ที่ปัจจุบันมีอายุมากและอาจไม่ทันต่อเทคโนโลยี ไม่ค่อยเข้าใจภาษาอังกฤษ และการทำธุรกรรมการเงินทางตู้เอทีเอ็ม โดยหลอกลวงอ้างว่าถูกรางวัลพิเศษ เช่น จากรายการเกมส์โชว์ หรือมีปัญหาเกี่ยวกับบัตรเครดิต
 
พ.ต.อ.ญาณพล กล่าวว่า คนกลุ่มนี้จะหลอกให้เจ้าของหมายเลขโทรศัพท์ไปตรวจสอบที่ตู้เอทีเอ็ม และบอกให้เข้าหน้าจอระบบภาษาอังกฤษเท่านั้น  ระหว่างนั้นก็อาจพูดคุยหลอกล่อให้กดหมายเลขโอนเงินเข้าบัญชีของกลุ่มมิจฉาชีพ โดยผู้เสียหายไม่รู้ตัว วิธีการจะจ้างคนไทยเป็นคนติดต่อ มีความซับซ้อนทั้งหมายเลขโทรศัพท์ที่ใช้ติดต่อและบัญชีที่เปิดไว้ ดำเนินการเป็นเครือข่ายทำให้ยากต่อการติดตามจับกุม อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา ตำรวจได้จับกุมแก๊งหลอกลวงลักษณะนี้ได้ที่เซี่ยงไฮ้ซึ่งเป็นกลุ่มใหญ่และมีคนไทยเกี่ยวข้องด้วย ขณะเดียวกันยังมีอีกหลายกลุ่มซึ่งกำลังติดตามอย่างใกล้ชิด
 
พ.ต.อ.ญาณพล ย้ำว่า ในด้านการป้องกัน ขณะนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ประสานความร่วมมือไปยังธนาคารทุกแห่งให้ปรับปรุงโปรแกรมที่ตู้เอทีเอ็ม เมื่อมีการใช้ตู้เอทีเอ็มในระบบภาษาอังกฤษ (เข้าหน้าจอภาษาอังกฤษ) ก็ให้มีภาษาไทยกำกับอยู่ด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายมากและเป็นการป้องกันการถูกหลอกลวงของประชาชนที่ดีที่สุดอีกทางหนึ่ง เพราะเมื่อเขาไปกดที่ตู้เอทีเอ็มก็จะได้รู้ว่าจะกดโอนเงินหรืออะไร ในส่วนของประชาชนเองหากมีผู้ติดต่อมาในลักษณะเช่นนี้  ที่ให้กดตู้เอทีเอ็มเป็นภาษาอังกฤษให้สงสัยไว้ก่อนเลยว่า กำลังจะถูกหลอก ให้เลิกติดต่อไปเลย หรือควรมีการตรวจสอบให้ชัดเจนก่อน เพราะในประเทศไทย ไม่มีระบบของธนาคารไหนที่ต้องกดเป็นภาษาอังกฤษแล้วจึงจะทำงานได้

*****************

พันตรีศิริชัย  ทรัพย์ศิริ

สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

www.waddeeja.com Tel.02-990-0331

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2008-06-20 17:03:49 IP : 124.121.136.152


ความคิดเห็นที่ 2 (2865769)

 

มหาเศรษฐีทั่วโลกมีมากขึ้น6%อินเดีย-จีนเพิ่มสูงที่สุด26 มิถุนายน 2551

 

ผู้มั่งคั่งมีเงินตั้งแต่ล้านดอลลาร์สหรัฐฯขึ้นไปในทั่วโลกมีจำนวนเพิ่มขึ้นมา 6% ในปีที่แล้ว ทำให้เวลานี้พื้นพิภพของเรามีมหาเศรษฐีระดับนี้อยู่ 10.1 ล้านคน โดยที่ประเทศกำลังพัฒนาขนาดใหญ่อย่างจีน อินเดีย บราซิลมีจำนวนผู้มั่งคั่งเพิ่มขึ้นมากที่สุด
       
       ข้อมูลเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของรายงานความมั่งคั่งในโลก ซึ่งจัดทำโดย เมอริลลินช์ วาณิชธนกิจยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ และ แคปเจมิไน กลุ่มกิจการเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยรายงานของปีนี้ซึ่งเป็นครั้งที่ 12 แล้ว ได้เน้นย้ำให้เห็นอิทธิพลบารมีของพวกประเทศเศรษฐกิจเฟื่องฟูใหม่ ที่กำลังเพิ่มทวีขึ้นในเวทีการเงินของโลก
       
       รายงานระบุว่ามูลค่าสินทรัพย์รวมของบรรดามหาเศรษฐีเหล่านี้เพิ่มขึ้น 9.4% จากปี 2006 เป็น 40,700,000 ล้านดอลลาร์เมื่อปีที่แล้ว ส่วนเมูลค่าสินทรัพย์ฉลี่ยรายหัวก็เพิ่มขึ้นจนทะลุระดับ 4 ล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรก แถมมีมหาเศรษฐีทั่วโลก 103,320 คนที่มีสินทรัพย์เกิน 30 ล้านดอลลาร์ หรือเพิ่มขึ้น 8.8% จากปีก่อนหน้า
       
       สำหรับข้อมูลรายประเทศนั้น ปี 2007 อินเดียมีจำนวนมหาเศรษฐีเพิ่มขึ้นมากที่สุดคือ 22.7% จนมีจำนวนทั้งสิ้น 123,200 คน ตามมาด้วยจีนที่สูงขึ้น 20.3% เป็น 415,000 คน ส่วนบราซิลเพิ่ม 19.1% นอกจากสามประเทศนี้แล้ว เกาหลีใต้ อินโดนีเซียและสิงคโปร์ก็มีจำนวนมหาเศรษฐีใหม่เพิ่มขึ้นในอัตราสูงด้วยเช่นกัน กล่าวคือ โสมขาวเพิ่ม 18.9% เป็น 118,000 คน, แดนอิเหนาเพิ่ม 16.8% เป็น 23,000 คน, และแดนลอดช่องเพิ่ม 15.3% เป็น 77,000 คน
       
       หากคำนวณตามภูมิภาค ตะวันออกกลางจะมีจำนวนมหาเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นมากที่สุดคือ 15.6% ยุโรปตะวันออก 14.3% และละตินอเมริกา 12.2% เหตุผลเบื้องหลังก็คือราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่พุ่งพรวด "รวมทั้งที่มีการยอมรับกันในระดับระหว่างประเทศกันมากขึ้นว่า ศูนย์กลางการเงินในเขตเศรษฐกิจเฟื่องฟูใหม่ ได้กลายมาเป็นผู้เล่นระดับโลกที่สำคัญไปแล้ว"

www.waddeeja.com

Tel.02-990-0331

พันตรีศิริชัย  ทรัพย์ศิริ

สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

2606510946

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2008-06-26 09:46:43 IP : 124.121.137.106


ความคิดเห็นที่ 3 (2867907)

 

กระทรวงการคลังให้ ขรก.เบิกค่าทำฟันได้เพิ่ม


 30 มิถุนายน 2551 .

ก.คลังไฟเขียวให้ข้าราชการเบิกค่าทำฟันได้เพิ่มขึ้น เป็น 8 รายการ

ร.ต.หญิง ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กรมบัญชีกลางได้ประสานกับสำนักงานเลขาธิการทันตแพทยสภา และคณะกรรมการพิจารณากำหนดประเภท และอัตราค่าอวัยวะเทียม และอุปกรณ์ในการบำบัดรักษาโรค โดยเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้ข้าราชการ ลูกจ้างประจำ ผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ และบุคคลในครอบครัว เบิกค่ารักษาพยาบาลด้านทันตกรรมได้เพิ่มขึ้น 8 รายการ ขณะนี้อยู่ระหว่างเสนอกระทรวงการคลังออกประกาศคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ในเดือนสิงหาคมนี้

นายมนัส แจ่มเวหา รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวว่า รายการอุปกรณ์และอวัยวะเทียมด้านทันตกรรม ที่จะกำหนดเพิ่ม เช่น ฟันปลอมทั้งปากแบบถอดได้ 2 ชิ้น เบิกได้ 4,400 บาท ครอบฟันแท้ เบิกได้ซี่ละ 2,100 บาท เดือยฟันเบิกได้ซี่ละ 1,000 บาท แต่เบื้องต้นผู้มีสิทธิต้องทดรองจ่ายเงินไปก่อน และนำใบเสร็จรับเงินไปเบิกจากต้นสังกัด เพราะกรมบัญชีกลางอยู่ระหว่างจัดทำโปรแกรมเพื่อรองรับการเบิกจ่าย

- - - - - - - - - - - - - -

พันตรีศิริชัย  ทรัพย์ศิริ

สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

3006511625

www.waddeeja.com

1 ////////////////////////////////////

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2008-06-30 16:26:39 IP : 124.121.139.239


ความคิดเห็นที่ 4 (2870061)

 

โรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ
หากคุณเป็นชายที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป หรือมีคนที่รักอยู่ในช่วงวัยนี้ คุณอาจอยู่ในความสัมพันธ์ที่ยาวนานมากว่า 10 ปี ดังนั้น ทั้งคู่อาจต่างพยายามมองข้าม "ชีวิตรัก" เพื่อให้อยู่ร่วมกันได้อย่างปกติที่สุด

นพ.กวิวัช ตันติวงษ์ ส่งสัญญาณเตือนคุณผู้ชายที่นกเขาไม่ขัน ให้สังเกตอาการเบื้องต้นด้วยตัวเองอย่างง่ายๆ ว่าคุณผู้ชายในวัยนี้มีอาการหรือพฤติกรรมต่อไปนี้หรือไม่

-
นกเขาไม่ขัน หรือขันไม่จบเพลง ติดต่อกันเกิน 2 เดือน หรือมีการเกิดซ้ำ

-
มีรอบเอวหนาเกิน 90 ซม.

-
มีอาการปัสสาวะบ่อยผิดปกติ แล้วต่อมาเกิดเหตุการณ์กางเกงเปียกเป็นหย่อมๆ เนื่องจากอาการปัสสาวะขัด หรือปัสสาวะกะปริบกะปรอย

-
มีอาการซึมเศร้า

-
หงุดหงิดง่าย

-
ขี่จักรยานทางไกล หรือขี่มอเตอร์ไซค์เป็นประจำ

-
สูบบุหรี่

-
ดื่มแอลกอฮอล์

-
ออกกำลังกายน้อย

-
อ่อนเพลีย อยากดื่มน้ำตลอดเวลา รับประทานอาหารได้แต่ผอม

-
มีโรคประจำตัวเรื้อรัง เช่น โรคหลอดเลือดและหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง

-
เคยผ่าตัด เช่น ผ่าตัดในอุ้งเชิงกราน ผ่าตัดท่อปัสสาวะ หรือผ่าตัดไขสันหลัง

-
เคยได้รับการฉายแสง

หากพบว่า คุณผู้ชายมีปัญหาข้อ 1 ร่วมกับข้ออื่นข้อใดที่เหลือ หรือพบอาการตั้งแต่ข้อ 2 เป็นต้นไป มากกว่า 3 อาการขึ้นไป แสดงว่ามีความเสี่ยงต่อโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (อีดี) ค่อนข้างสูง แนะนำให้มาพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพ หากปล่อยไว้เนิ่นนานอาจนำไปสู่โรคร้ายแรงต่างๆ อาทิ โรคหลอดเลือดและหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคไขมันในเลือดสูง โรคสมองเสื่อมและโรคเบาหวาน

 

* * * * * * * * * * * * *

 

พันตรีศิริชัย  ทรัพย์ศิริ

สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

www.waddeeja.com

Tel. 02-990-0331

0407511430

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2008-07-04 14:32:05 IP : 124.121.141.195


ความคิดเห็นที่ 5 (2879280)

 

"จมูกเทียม"วิเคราะห์อาหารแทนจมูกคน

กลิ่นของอาหารเป็นสิงสำคัญที่สามารถบ่งบอกถึงความอร่อย ดังนั้นอวัยวะในร่างกายของที่ถูกเรียกว่า จมูกต้องหน้าที่พิสูจน์รสชาติของอาหารด้วยการสูดดม แต่ถ้าวันใดที่ระบบทางเดินหายใจกลับมีปัญหาไม่สามารถทำหน้าที่สูดดมอาหารได้ เราจะมีวิธีแก้ไขได้อย่างไร
       
       
ด้วยสาเหตุนี้ ดร.นวภัทรา หนูนาค อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมอาหาร คณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) นักวิจัยประจำสถาบัน ออกแบบอุปกรณ์เลียนแบบการรับรู้กลิ่นของจมูกมนุษย์ นั้นก็คือ "จมูกอิเล็กทรอนิกส์ดมกลิ่นวิเคราะห์คุณภาพอาหาร" ระบุแม่นยำและเที่ยงตรงกว่าจมูกมนุษย์ ตรวจสอบได้ทั้งอาหารสดและอาหารแห้ง เพิ่มความปลอดภัยในการบริโภค โดยแบ่งรูปแบบการทำงานเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนรับกลิ่น และส่วนประมวลผล เพื่อประโยชน์ด้านการวิเคราะห์คุณภาพอาหารว่าได้ตามมาตรฐานหลังการผลิตหรือไม่
       
       
ดร.นวภัทรา กล่าวถึงบทบาทการทำงานของจมูกอิเล็กทรอนิกส์วิเคราะห์คุณภาพอาหารทำหน้าที่คล้ายเซลล์ประสาทรับกลิ่นในจมูกมนุษย์ เราจะใช้การทำงานมอเตอร์พัดลมดูดไอระเหยให้เข้าไปจับกับตัวแผงเซ็นเซอร์รับกลิ่น ซึ่งทำมาจากสารกึ่งตัวนำโลหะออกไซด์ เพื่อดูค่าความต้านทานของเซ็นเซอร์แต่ละชนิดที่เปลี่ยนแปลงไประหว่างก่อนและหลังดมกลิ่น ค่าความต้านทานจะถูกประมวลผลต่อด้วยระบบสถิติหรือระบบใยประสาทเทียมเปรียบได้กับสมองของมนุษย์ เพื่อแยกประเภทของกลิ่นในรูปกราฟแท่ง ซึ่งเป็นรูปแบบจำกัดความที่ชัดเจนยิ่งขึ้น เช่น ความสดของอาหาร หรือกลิ่นเหม็นหืน
       
       “
ผู้ใช้สามารถนำอุปกรณ์ดังกล่าววิเคราะห์คุณภาพอาหารหลังจากนำชุดเซ็นเซอร์ไปบันทึกรูปแบบของกลิ่นและไอระเหยจากอาหารต้นแบบ หากอาหารมีกลิ่นเจือจาง ก็สามารถเพิ่มความเข้มข้นของไอระเหยด้วยความร้อนหรือเย็น ขึ้นอยู่กับคุณภาพของวัสดุที่นำมาใช้สร้างเซ็นเซอร์เป็นหลัก และผู้ใช้ต้องระวังไม่ให้ความชื้นหรือของเหลวติดเข้าไปยังตัวเครื่อง เพราะอาจสร้างความเสียหายแก่แผงเซ็นเซอร์
       

       
ทั้งนี้ ผลงานวิจัยจมูกอัจฉริยะดังกล่าว สามารถประยุกต์ใช้ได้ทั้งงานวิจัยในห้องปฏิบัติการและระดับอุตสาหกรรมเนื่องจากมีขนาดเล็กพกพาสะดวก และรายงานผลค่อนข้างแม่นยำในหลายสภาวะ เช่น ตรวจสอบความสดของกุ้งหรืออาหารทะเลชนิดต่างๆ ตรวจหากลิ่นที่ไม่ต้องการในขนม เช่น กลิ่นหืน กลิ่นเน่าเสีย ที่อาจเกิดระหว่างการเก็บรักษา หรือแม้แต่การใช้ติดตามดูการเปลี่ยนแปลงของกระบวนการหมัก
       
       
เมื่อเปรียบเทียบการทำงานของจมูกมนุษย์แล้ว จมูกอิเล็กทรอนิกส์ที่พัฒนาขึ้นสามารถวิเคราะห์ผลได้อย่างรวดเร็วต่อเนื่อง ใช้ตัวอย่างเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และยังสามารถใช้แทนจมูกคนได้ดี แต่อาจยังแสดงผลออกมาในรูปความรู้สึกที่ชัดเจนอย่างกลิ่นหอม กลิ่นเปรี้ยว ไม่ได้ ดร.นวภัทร กล่าว   

* * * * * * * * * * * * *   

พันตรีศิริชัย  ทรัพย์ศิริ

สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

www.waddeeja.com

Tel. 02-990-0331

2007510915

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2008-07-20 09:14:50 IP : 124.121.139.98


ความคิดเห็นที่ 6 (2879288)

 

อาการของผู้มีแนวโน้มเป็นโรคหลอดเลือดสมอง

วันนี้......มีวิธีสังเกตอาการของคนที่กำลังจะมีแนวโน้มเป็นโรคหลอดเลือดสมองผิดปกติมาบอก....

โรคหลอดเลือดสมองเป็นโรคที่เกิดจากการสูญเสียหน้าที่การทำงานของสมองอย่างเฉียบพลันแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ โรคหลอดเลือดสมองอุดตัน และโรคหลอดเลือดสมองแตก 80% จะเป็นชนิดหลอดเลือดสมองอุดตัน เกิดจากการมีลิ่มเลือดอุดตันหลอดเลือดในสมอง (Ischemic stroke) 20% จะเป็นชนิดหลอดเลือดสมองแตก เกิดจากการแตกของหลอดเลือดทำให้เกิดเลือดคั่งในเนื้อสมอง (Hemorrhagic stroke) ทำให้เกิดเลือดคั่งในเนื้อสมอง (Hemorrhagic stoke)

อาการของผู้ที่มีแนวโน้มเป็นโรคหลอดเลือดสมอง มีดังนี้
 
1. มีอาการแขนขาอ่อนแรงครึ่งซีก ปากเบี้ยวหรือชาครึ่งซีก เป็นทันทีทันใด
 
2. พูดไม่ออก ฟังไม่เข้าใจภาษา พูดอ้อแอ้ไม่ชัด เป็นทันทีทันใด
 
3. ตาข้างใดข้างหนึ่งมองไม่เห็นหรือมองไม่เห็นครึ่งซีกของลานสายตา หรือเห็นภาพซ้อน เป็นทันทีทันใด
 
4. เวียนศีรษะ บ้านหมุน รู้สึก โคลงเคลง เดินเซ คล้ายคนเมาเหล้า เป็นทันทีทันใด
 
5. ปวดศีรษะอย่างรุนแรงและไม่เคยเป็นมาก่อน ร่วมกับอาเจียนหรือหมดสติเป็นทันทีทันใด
 
รู้อย่างนี้แล้ว ก็อย่าลืมดูแลตัวเองให้แข็งแรงจะได้ห่างไกลจากโรคภัยต่าง ๆ.

* * * * * * * * * * * * *

พันตรีศิริชัย  ทรัพย์ศิริ

สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

www.waddeeja.com

Tel. 02-990-0331

2007510943

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2008-07-20 09:43:57 IP : 124.121.139.98


ความคิดเห็นที่ 7 (2880891)

เตือนอันตรายจัดฟันแฟชั่น



น.พ.วีรพล นิธิพงศ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ เปิดเผยว่า ปัญหาแฟชั่นจัดฟันในกลุ่มวัยรุ่น พบว่าผู้รับจัดฟันไม่ใช่ทันตแพทย์ อุปกรณ์ที่ใช้ไม่ได้มาตรฐาน ทำให้มีเชื้อโรคและสารพิษเข้าสู่ร่างกาย ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพได้ และมีการโฆษณาทั้งในอินเตอร์เน็ตและตามแหล่งชุมชนต่างๆ โดยประกาศรับสอนจัดฟันแฟชั่น บริการรับไปพิมพ์ฟันถึงบ้าน และจัดส่งเครื่องมือจัดฟันที่ทำเสร็จแล้วทางไปรษณีย์ นอกจากนั้นยังสามารถสั่งซื้อลวดจัดฟัน ยาง และอุปกรณ์ต่างๆ ได้อีกด้วย สถานที่รับจัดฟันมักจะเป็นตลาดนัด แหล่งชุมชน หรือบางแห่งอยู่ในห้างสรรพสินค้า แต่ผู้รับจัดฟันไม่ใช่ทันตแพทย์จึงไม่มีความรู้ที่จะใส่เครื่องมือจัดฟัน

น.พ.วีรพล กล่าวต่อว่า ขอเตือนถึงอันตรายของการจัดฟันแฟชั่น เพราะเครื่องมือที่ใช้ไม่มีการฆ่าเชื้อโรค ใช้หัวกรอฟันที่เป็นหินกรอเอาเคลือบฟันออก ทำให้เสียเคลือบฟันไป รวมทั้งการใช้กรดกัดฟันซึ่งจะทำให้เคลือบฟันบางลง เครื่องมือที่ใช้อาจหลุดลงคอ บาดกระพุ้งแก้ม และเนื้อเยื่อในช่องปาก ทำให้เป็นแผล การแปรงฟันทำได้ยาก เครื่องมือและยางสีที่ไม่ได้มาตรฐาน เมื่ออยู่ในช่องปากและถูกน้ำลายจะเกิดสนิม อาจมีสารพิษปนเปื้อนและละลายออกมาเมื่อถูกน้ำลาย หากสะสมในร่างกายจะเป็นอันตรายได้ ดังนั้นวัยรุ่นที่ตัดสินใจจัดฟันแฟชั่นควรปรึกษาทันตแพทย์ เพื่อความปลอดภัยและไม่เกิดผลเสียที่อาจเป็นอันตรายต่อร่างกายได้
 

* * * * * * * * * * * * *

พันตรีศิริชัย  ทรัพย์ศิริ

สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

www.waddeeja.com

Tel. 02-990-0331

2307511110

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2008-07-23 11:10:00 IP : 124.121.138.167


ความคิดเห็นที่ 8 (2886461)

 

"ควันธูป-สารก่อมะเร็ง" มส.-พศ.เร่งหาวิธีป้องกัน



ธูปมีประวัติความเป็นมาในอดีตหลายพันปีก่อนหน้าพุทธกาลตั้งแต่สมัยอียิปต์โบราณ การจุดธูปเป็นพิธีกรรมที่ชาวอียิปต์ใช้สักการะเทพเจ้าด้วยควันที่มีกลิ่นหอม วัฒนธรรมนี้ได้แพร่ขยายไปกรีกและโรมันโบราณ

แต่ที่สำคัญที่สุดมาที่ประเทศอินเดีย เข้ามาในศาสนาฮินดูต่อมาในศาสนาพุทธ ต่อจากนั้นเข้ามาประเทศต่างๆ ในตะวันออกไกล ประเทศไทย เกาหลี ญี่ปุ่น และจีน

ทุกวันนี้คนมากกว่าครึ่งโลก ยึดถือวัฒนธรรมดั้งเดิมที่มีมาแต่โบราณ จุดธูปเพื่อสักการะเทพเจ้า เทวดา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ บรรพบุรุษ และในพิธีกรรมของศาสนาทั้งฮินดูและพุทธศาสนา โดยมีความเชื่อว่าควันหอมนี้เป็นเครื่องบูชาสิ่งที่ตนสักการะ

ธูปเป็นเครื่องหอมที่ทำจากขี้เลื่อย กาว น้ำมันหอมสกัดจากพืช ไม้หอม ใบไม้ เปลือกไม้ รากไม้ เมล็ดพืช เรซิ่น และสารเคมีที่ใช้ในอุตสาหกรรมน้ำหอม พอกอยู่บนก้านไม้

ธูปมีหลายรูป หลายขนาดตั้งแต่เล็กถึงใหญ่มาก เผาไหม้หมดในเวลา 20 นาที ถึง 3 วัน 3 คืน

ในประเทศไทยคนไทยจุดธูป 1 ดอก เพื่อเคารพบูชาบรรพบุรุษหรือคนถึงแก่กรรม จุด 3 ดอก เพื่อบูชาพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ บางคนจุดทีเดียว 9 ดอกหรือมากกว่า คาดว่าในแต่ละปีมีคนจุดธูปทั้งโลกเป็นหมื่นถึงแสนตัน

การเผาไหม้ของธูปจะปล่อยสารต่างๆ มากมายมีทั้งฝุ่นละอองขนาดเล็กก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ คาร์บอนมอนอกไซด์ ไนโตรเจนออกไซด์ มีเทน และสารก่อมะเร็งหลายชนิด เช่น ฟอร์มาลดีไฮด์ polycyclic aromatic hydrocarbons (PAH) และสารอินทรีย์ระเหยง่าย เช่น เบนซีน (Benzene) และ 1, 3-บิวทาไดอีน (1, 3-butadiene)

กล่าวได้ว่า ควันธูปเป็นมลพิษทางอากาศที่สำคัญในบ้าน อาคาร สถานที่ทำงาน วัด และศาลเจ้าที่มีการจุดธูป



ศูนย์สื่อสารวิทยาศาสตร์ไทย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สวทช.) จัดเวทีนำเสนอผลงานวิจัย "สารก่อมะเร็ง : ภัยเงียบที่มากับควันธูป" ณ อาคารสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

เนื่องด้วยปัจจุบันโรคมะเร็งปอด นับเป็นโรคที่เป็นสาเหตุการตายในอันดับต้นของโรคมะเร็งที่พบมากทั้งในเพศชายและหญิง แม้ว่าสาเหตุการเกิดโรคประมาณร้อยละ 80-90 จะมาจากการสูบบุหรี่หรือได้รับมลพิษ



แต่จากสถิติผู้ป่วยโรคมะเร็งปอดในผู้หญิงกลับพบว่า ผู้ป่วยหญิงโรคมะเร็งปอดมากกว่าร้อยละ 50 ไม่พบประวัติสูบบุหรี่หรืออยู่ใกล้ชิดกับผู้สูบบุหรี่ อีกทั้งไม่มีประวัติสัมผัสกับสารก่อมะเร็งจากการประกอบอาชีพเลย

ล่าสุดผลการวิจัยการประเมินผลกระทบต่อสุขภาพของคนทำงานในวัดจากการสูดดมควันธูปซึ่งมีสารก่อมะเร็งของ น.พ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ หัวหน้าไอซียู โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ร่วมกับสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ พบว่าควันธูปมีสารก่อมะเร็งและอาจจะเป็นหนึ่งในปัจจัยที่เหนี่ยวนำให้เกิดโรคมะเร็งปอดได้

น.พ.มนูญ กล่าวว่า ทีมวิจัยได้ทำการตรวจหาปริมาณสารก่อมะเร็งในอากาศซึ่งมีการจุดธูปปริมาณมากจากวัด 3 แห่ง ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ฉะเชิงเทรา และสมุทรปราการ พร้อมทั้งทำการตรวจเลือดและปัสสาวะของคนงานที่ปฏิบัติงานในวัดจำนวน 40 คน คนที่นำมาตรวจจึงเป็นเพศเดียวกัน อายุใกล้เคียงกัน ไม่สูบบุหรี่เหมือนกัน และเลือกวัดต่างจังหวัดเพื่อหลีกเลี่ยงมลพิษจากท่อไอเสียเช่นเดียวกัน

"ผลการวิจัยพบสารก่อมะเร็งในควันธูป 3 ชนิด ได้แก่ เบนซีน บิวทาไดอีน และเบนโซเอไพรีน ซึ่งสารกลุ่มนี้ล้วนได้รับการยืนยันจากทั่วโลกว่าเป็นสารก่อมะเร็ง ที่สำคัญปริมาณสารที่พบยังมีความเข้มข้นสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานความปลอดภัยที่กำหนดไว้หลายสิบเท่าตัว โดยสารเบนซีนที่ตรวจพบในวัดมีถึง 94 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ขณะที่เกณฑ์ความปลอดภัยกำหนดไว้ไม่ควรมีความเข้มข้นเกิน 1.7 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร

สารตัวที่ 2 คือ บิวทาไดอีน พบในวัด 11 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร มาตรฐานระบุว่าไม่ควรเกิน 0.33 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร

สุดท้ายสารเบนโซเอไพรีน วัดได้ 2.52 นาโนกรัม/ลูกบาศก์เมตร มาตรฐานระบุว่าไม่ควรเกิน 0.25 นาโนกรัม/ลูกบาศ์เมตร

หากเปรียบเทียบง่ายๆ จะพบว่า ธูป 1 ดอกที่ถูกจุด มีปริมาณสารก่อมะเร็งไม่ต่างจากบุหรี่ 1 มวนเลยทีเดียว


* * * * * * * * * * * * * * * * *

พันตรีศิริชัย   ทรัพย์ศิริ

นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล 

โทร. 02-990-0331

http://www.apdi2002.com

http://www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ สมาคมคนพิการ

308511722

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2008-08-03 17:22:14 IP : 124.121.144.81


ความคิดเห็นที่ 9 (2886462)

(ต่อ............)

 

สำหรับในส่วนการประเมินผลกระทบต่อสุขภาพด้วยการตรวจเลือดและปัสสาวะเพื่อติดตามดูการเปลี่ยนแปลงของสารพันธุกรรมของคนงานพบว่า คนงานในหน่วยงานที่ไม่มีการจุดธูปจำนวนสารพันธุกรรมในร่างกายมีการแตกหัก แต่สามารถซ่อมแซมได้ซึ่งเป็นเรื่องปกติ

แต่ในคนงานที่ได้รับควันธูปเป็นประจำพบมีการแตกหักของสารพันธุกรรมเพิ่มขึ้นและมีการซ่อมแซมลดลง ซึ่งระยะเริ่มต้นของการเป็นมะเร็งคือมีการแตกหักของสารพันธุกรรมและไม่สามารถซ่อมแซมได้

ทั้งนี้ แม้ในทางการแพทย์จะไม่สามารถยืนยันได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ว่า ควันธูป คือ ต้นเหตุของการเกิดโรคมะเร็ง แต่การค้นพบสารก่อมะเร็งในควันธูปและศักยภาพในการซ่อมแซมความผิดปกติของสารพันธุกรรมที่ลดลงของผู้ที่ได้รับควันธูปเป็นประจำ นับเป็นกลไกส่วนหนึ่งในการเหนี่ยวนำให้เกิดโรงมะเร็งได้

น.พ.มนูญ กล่าวว่า ในควันธูปยังเต็มไปด้วยฝุ่นละออง ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ คาร์บอนมอนอก ไซด์ ไนโตรเจนออกไซด์ และมีเทน ซึ่งล้วนเป็นก๊าซเรือนกระจกต้นเหตุการเกิดภาวะโลกร้อนแทบทั้งสิ้น โดยมีผู้ทำการวิจัยและรายงานไว้ว่าการจุดธูป 1 ดอกจะมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาเท่ากับ 1 ใน 3 ของน้ำหนักธูปทีเดียว

อย่างไรก็ตาม การจุดธูปของคนไทยนั้นมีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับการประกอบพิธีกรรมทางด้านพระพุทธศาสนามายาวนาน แต่เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพประชาชน น.พ.มนูญ แนะนำว่า ภายหลังจากจุดธูปเพื่ออธิษฐานแล้วให้ดับธูปทันทีนับเป็นวิธีที่ดีที่สุด เนื่องจากควันธูปมีอนุภาคที่เล็กมาก การใช้ผ้าปิดจมูกจึงไม่สามารถปิดกั้นสารกลุ่มนี้ได้

พระธรรมกิตติเมธี โฆษกมหาเถรสมาคม กล่าวถึงกรณีผลวิจัยพิษภัยจากควันธูป ว่า ได้รับทราบถึงข้อมูลการวิจัยของสวทช.แล้ว ถือเป็นการวิจัยที่มีประ โยชน์เป็นอย่างมาก สำหรับพระภิกษุตามวัดต่างๆ และพุทธศาสนิก ชนที่นิยมจุดธูปเทียนบูชาพระหรือสวดมนต์ เท่าที่เราพบโดยทั่วไป สังคมไทยเป็นสังคมชาวพุทธที่มีพิธีกรรมทางศาสนาด้วยการสวดมนต์และใช้ธูปเทียนดอกไม้ไหว้บูชาพระพุทธรูปสิ่งศักดิ์สิทธิ์ โดยเฉพาะตามวัด ศาลเจ้า หรือแม้แต่ในบ้านก็ตาม

การจุดธูปไหว้พระจนเกิดควันลอยคลุ้งปะปนไปในอากาศ สามารถทำให้ผู้ที่สูดดมสำลักควัน จนเกิดอาการไอได้ หากเป็นในห้องปิดที่ปล่อยให้ควันอบอวลในอากาศไม่มีทางระบายออก ย่อมจะเกิดอันตรายต่อร่างกายของผู้สูดดมอย่างแน่นอน โดยเฉพาะผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้หรือโรคทางเดินหายใจ ส่วนผลร้ายในระยะยาวตามที่มีผลการวิจัยนำเสนอออกมา คงต้องทำให้เราหันมาตระหนักพิษภัยจากสิ่งของใกล้ตัว ที่บางครั้งเราได้มองข้ามไป ถือเป็นเรื่องดี

พระธรรมกิตติเมธี กล่าวต่อว่า เมื่อเราทราบถึงผลร้ายจากควันธูปกันแล้ว เราคงต้องหาทางป้องกัน โดยไม่ให้กระทบต่อความรู้สึกของชาวพุทธทั่วไป จะไปห้ามจุดธูปเทียน เป็นเรื่องที่ย่อมเป็นไปไม่ได้ แต่เราหาทางป้องกันได้ โดยอาจจะจัดทำแบบวัดในประเทศจีน ที่มีการตั้งกระถางธูปใหญ่ๆ ไว้ด้านนอกศาลาการเปรียญ อุโบสถ หรือพระวิหาร ให้ญาติโยมได้จุดธูปไหว้พระ ให้เผาไหม้ธูปให้หมดก้านดอกโดยเร็ว

ต่อไปในอนาคต เราอาจขอความร่วมมือไปตามวัดทั่วประเทศ มิให้นำธูปเทียนเข้ามาไหว้พระในสถานที่ปิด ตามโบสถ์วิหาร ซึ่งนอกจากเป็นการป้องกันไม่ให้เราสูดดมควันธูปเป็นเวลานาน ยังเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุเพลิงไหม้ หรือให้ควันธูปลอยไปตามอากาศ ไปสร้างความสกปรกตามเพดานหรือฝาผนังโบสถ์ นอกจากนี้ ควันธูปยังทำปฏิกิริยาในทางเคมี ทำให้สีเนื้อของพระพุทธรูปเกิดมัวหมอง สีตก ต้องทำให้วัดเสียค่าใช้จ่ายในการบูรณะซ่อมแซมตรงนี้ด้วย

"อาตมาก็พบเห็นเป็นประจำตามวัดต่างๆ เวลาสวดมนต์ ที่มีควันลอยตลบไปทั่ว บางทีพระหรือญาติโยม ยังนั่งสำลักควัน ไอจามกันทีเดียว เรื่องนี้เป็นสิ่งที่เราอาจมองข้ามไป ไม่ได้ให้ความสำคัญ ซึ่งต้องขอบคุณทางกลุ่มผู้วิจัยด้วย และขอให้ส่งผลวิจัยนี้ มาที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติด้วย เพื่อนำผลวิจัยไปหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้อง หาทางออกให้กับพระและญาติโยมทั่วไป จะเป็นการดียิ่งขึ้น" โฆษก มหาเถรสมาคม กล่าว

* * * * * * * * * * * * * * * * *

พันตรีศิริชัย   ทรัพย์ศิริ

นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล 

โทร. 02-990-0331

http://www.apdi2002.com

http://www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ สมาคมคนพิการ

308511724

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2008-08-03 17:24:05 IP : 124.121.144.81


ความคิดเห็นที่ 10 (2902871)

 

สปสช.แจง ปชช.ใช้สิทธิบัตรทองเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลนอกสังกัดได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง

 

สำนัก งานหลักประกันสุขภาพ ชี้แจงประชาชนใช้สิทธิบัตรทองเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลนอกสังกัดได้ไม่ จำกัดจำนวนครั้ง แต่ต้องจ่ายค่าส่วนเกินในการรักษาเอง ย้ำต้องตรวจสอบข้อมูลสถานพยาบาลในการเข้ารับบริการ

 

นายแพทย์วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) กล่าวถึงการใช้สิทธิบัตรทองตามสิทธิการใช้บริการฉุกเฉิน ตามที่คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้มีมติให้ยกเลิกการจำกัดความคุ้มครองการเจ็บป่วยฉุกเฉิน จากเดิมไม่เกินปีละ 2 ครั้ง เปลี่ยนเป็นสามารถใช้บริการนอกหน่วยบริการที่กำหนดได้ตามความจำเป็นไม่จำกัด จำนวนครั้ง ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 14 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งผู้มีสิทธิในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าสามารถใช้บริการจากหน่วย บริการอื่นที่ใกล้ที่สุดได้โดยไม่จำเป็นต้องเป็นสถานที่ที่ระบุตามบัตร ในกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน อย่างไรก็ตาม หากเป็นหน่วยบริการที่ขึ้นทะเบียนกับ สปสช. ผู้รับบริการไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ แต่หากเป็นสถานบริการอื่นซึ่งไม่ได้ขึ้นทะเบียนกับ สปสช. ผู้รับบริการต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเฉพาะส่วนที่เกินจากที่ สปสช.จ่ายให้

 

ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนเข้าใจรายละเอียดว่าการที่ถูกเรียกเก็บเงินในบางกรณีต้องดูก่อน ว่าสถานพยาบาลได้ขึ้นทะเบียนไว้กับ สปสช.หรือไม่ ซึ่งหากมีข้อสงสัยสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนบัตรทองโทร. 1330 ตลอด 24 ชั่วโมง

* * * * * * * * * * * * * * * * *

พันตรีศิริชัย   ทรัพย์ศิริ

นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล 

โทร. 02-990-0331

http://www.apdi2002.com

http://www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ สมาคมคนพิการ

0409511438

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2008-09-04 14:37:32 IP : 124.121.138.159


ความคิดเห็นที่ 11 (2904652)

 

ความแตกต่างในการเลี้ยงดู

สดจากจิตวิทยา

นฤภัค ฤธาทิพย์ /กรมสุขภาพจิต



ในเรื่องการเลี้ยงดูลูก เมื่อพูดคุยกันไปเพื่อนก็ได้เล่าให้ฟังว่า เขาไม่อยากให้ลูกของเขามีพฤติ กรรมเหมือนหลานทั้งสองคนที่มีลักษณะเหมือนคนสองบุ*** ภาพ นั่นคือเวลาอยู่กับแม่ ทั้งสองจะเป็นเด็กดีสามารถทำสิ่งต่างๆ ได้ด้วยตนเอง แต่เมื่ออยู่กับยายเด็กจะเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งคือจะค่อนข้างเกเร อ้อน และไม่ยอมทำอะไรด้วยตนเองเลย เมื่อพูดคุยกันไปจึงได้ทราบว่า การเลี้ยงดูของบ้านนี้มีความขัดแย้งกันอยู่ระหว่างแม่และยาย ที่มีความคิดมีแนวทางการเลี้ยงดูเด็กไม่เหมือนกัน และความขัดแย้งนั้นก็แสดงออกมาให้เด็กเห็นโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นการโต้เถียงกันต่อหน้าเด็ก พูดหรือบ่นกับเด็กเวลาอีกคนหนึ่งไม่อยู่

สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยหนึ่งที่เด็กสามารถรับรู้ความต้องการและความรู้สึกของผู้ใหญ่ได้ทั้งสิ้น เด็กจะเรียนรู้ว่าแม่ชอบแบบไหนคาดหวังและเลี้ยงดูเขาแบบใด เมื่ออยู่กับแม่ เด็กจึงพยายามปรับตัวในแบบที่แม่พอใจแม่จะได้รัก เช่นเดียวกันเด็กก็จะรับรู้ว่ายายมีรูปแบบการเลี้ยงดูตนแบบใด ตนเองสามารถเรียกร้องหรือแสดงพฤติกรรมใดที่ยายยอมรับได้ เด็กก็จะแสดงพฤติกรรมนั้นให้ยายพอใจ เรียกได้ว่าเป็นกระบวนการปรับตัวของเด็กก็ว่าได้

ดังนั้น การที่พ่อแม่หรือผู้เลี้ยงดูเด็กมีแนวคิดหรือวิธีการเลี้ยงดูที่แตกต่างกันไม่ใช่เรื่องที่ผิด เพียงแต่ในการพูดคุยทำความเข้าใจกันไม่ควรที่จะให้เด็กรับรู้ ที่สำคัญการบ่นหรือต่อว่าอีกฝ่ายให้เด็กฟังก็ไม่ใช่สิ่งที่ถูกเพราะเด็กจะสับสนและไม่แน่ใจว่าตนควรแสดงพฤติกรรมอย่างไร ซึ่งอาจก่อให้เกิดผลเสียขึ้นกับเด็กได้ทั้งสิ้น

 

* * * * * * * * * * * * * * * * *

พันตรีศิริชัย   ทรัพย์ศิริ

นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล 

โทร. 02-990-0331

http://www.apdi2002.com

http://www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ สมาคมคนพิการ

0809512029

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2008-09-08 20:29:48 IP : 124.121.78.110


ความคิดเห็นที่ 12 (2905917)

 

วันที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2551 ปีที่ 31 ฉบับที่ 11142 มติชนรายวัน

ขั้นตอนเลือกนายกฯ-ครม.ใหม่

ยังไม่รู้ว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ส่วนใหญ่จะลงมติเลือก "ใคร" เป็นนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 12 กันยายน

แต่สำหรับขั้นตอนการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 172 วรรคสอง ระบุว่า ส.ส.จำนวน 1 ใน 5 ของจำนวน ส.ส.ที่มีอยู่

ในปัจจุบันมี ส.ส.ในสภา 467 คน นั่นหมายความว่าบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อต่อที่ประชุม จะต้องมี ส.ส.รับรองอย่างน้อย 94 คน

ส่วนในวรรค 3 ของมาตราดังกล่าว ยังกำหนดให้การลงมติในกรณีดังกล่าว กระทำด้วยการลงคะแนนโดยเปิดเผย หรือ "ลงมติด้วยการขานชื่อ" นั่นเอง

ตามรัฐธรรมนูญได้ให้สิทธิ ส.ส.แต่ละคนโหวตเลือกใครก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเลือกตามมติของพรรค

โดยบุคคลที่จะได้รับเลือกเป็น "นายกรัฐมนตรี" จะต้องมีเสียงของ ส.ส.เห็นชอบเกินกึ่งหนึ่ง ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่

นั่นก็คือ 234 เสียงขึ้นไป..!!

"
พิฑูรย์ พุ่มหิรัญ" เลขาธิการสภาผู้แทนราาฎร กำหนดกรอบเวลาว่าไม่เกิน 12.00 น. ก็จะได้ชื่อบุคคลที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่

จากนั้น "ชัย ชิดชอบ" ในฐานะประธานสภาผู้แทนราษฎร จะนำชื่อขึ้นกราบบังคมทูลเพื่อโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งตามขั้นตอน โดยตามมาตรา 173 กำหนดว่าจะต้องนำรายชื่อทูลเกล้าฯ ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่เปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรครั้งแรก ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่อีกไม่เกิน 35 คน นำคณะรัฐมนตรี เข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ฯต่อพระมหากษัติรย์ ตามมาตรา 175

สุดท้าย ต้องแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ตามมาตรา 176 ครม.ชุดใหม่มีผลสมบูรณ์ ขณะที่ ครม.ชุดรักษาการก็ต้องพ้นสภาพไป

* * * * * * * * * * * * * * * * *

พันตรีศิริชัย   ทรัพย์ศิริ

นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล 

โทร. 02-990-0331

http://www.apdi2002.com

http://www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ สมาคมคนพิการ

1109510951

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2008-09-11 09:51:01 IP : 124.121.138.248


ความคิดเห็นที่ 13 (2906756)

 

พืชมหัศจรรย์ของไทยดังทั่วโลก "แฝก"

 

เมื่อวันที่ 9 ก.ย. นายศักดิ์สิทธิ์ ตรีเดช ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ให้สัมภาษณ์ถึงการเข้าร่วมจัดงาน World Water Expo 2008 ที่เมืองซาราโกซา ประเทศสเปน หรือ Expo Zaragoza 2008 ว่า การ      เข้าร่วมจัดนิทรรศการเกี่ยวกับการบริหารจัดการ ทรัพยากรน้ำของประเทศไทยถือว่าประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง เนื่องจากคณะทำงานได้นำแนวคิดการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำที่ถูกต้องและสามารถปฏิบัติได้จริงไปนำเสนอต่อชาวโลก ตลอดจนการนำเสนอพระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเกี่ยวกับทรัพยากรน้ำไปเผยแพร่อีกทางหนึ่ง อาทิ กังหันน้ำชัยพัฒนา โครงการฝนเทียม เป็นต้น
 
ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ กล่าวต่อว่า คณะทำงานยังได้นำหญ้าแฝกซึ่งเป็นพืชที่พระองค์ทรงศึกษาวิจัยว่าช่วยป้องกันการ    กัดเซาะหน้าดิน เพื่อป้องกันน้ำท่วมน้ำหลากทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ไปแสดงให้ชาติ      ต่าง ๆ ได้รับทราบถึงพระอัจฉริยภาพและเป็นตัวอย่างในการใช้ทรัพยากรธรรมชาติมาปกป้องมนุษย์ให้พ้นจากภัยธรรมชาติ นอกจากนี้ยังได้นำประโยชน์ที่ได้จากหญ้าแฝก คือ ไม้อัดหญ้าแฝกมาทำเป็นผนังและพื้น โดยด้านหน้าศาลาไทยที่เป็นภาพวัดพระศรีรัตนศาสดารามหรือวัดพระแก้วก็ใช้ไม้อัดหญ้าแฝกเป็นฉากก่อนลงสีจริง
 
นายศักดิ์สิทธิ์ กล่าวด้วยว่า จากจำนวนผู้เข้าชมนิทรรศการในศาลาไทยไม่ต่ำกว่า 6,000 คนต่อวัน ถือว่าศาลาไทยประสบความสำเร็จ เพราะสามารถถ่ายทอดประสบการณ์ แนวคิด ตลอดจนวิธีการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำได้อย่างชัดเจนและเป็นรูปธรรม ทั้งนี้กระทรวงทรัพยากรฯ กำลังพิจารณาว่าจะนำรูปแบบนิทรรศการดังกล่าวนี้มาจัดแสดงในเดือน พ.ย. นี้ด้วย.

 

* * * * * * * * * * * * * * * * *

พันตรีศิริชัย   ทรัพย์ศิริ

นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล 

โทร. 02-990-0331

http://www.apdi2002.com

http://www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ สมาคมคนพิการ

1209511858

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2008-09-12 18:57:59 IP : 124.121.141.155


ความคิดเห็นที่ 14 (2909780)

 

กินเนสส์นัดพบหนุ่มตัวเล็กที่สุดกับผู้หญิงขายาวกว่าใครในโลก

 

 เอเจนซี - ปกติแล้ว ทราฟัลการ์สแควร์จะเป็นพื้นที่ชุมนุมละครใบ้ นักเล่นกล และการแสดงเล็กๆ น้อยๆ อื่นๆ แต่เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (16 ก.ย.51) ความสนใจของฝรั่งมุงกลับเปลี่ยนทิศไปอยู่ที่ผู้ชายตัวเล็กที่สุดที่สามารถเดินได้ กับผู้หญิงขายาวที่สุดในโลก
       
       
เหอปิงปิงจากจีน เกิดมาพร้อมลักษณะของคนแคระครบถ้วนทุกประการ ปัจจุบัน แม้อายุ 20 ปีแล้ว แต่เหอสูงเพียง 2 ฟุต 5.37 นิ้ว (74 เซนติเมตร)
       
       
ทั้งคู่โคจรมาพบกันในงานประชาสัมพันธ์เปิดตัว กินเนสส์ เวิลด์ เรกคอร์ด 2009’ หรือหนังสือรวบรวมสถิติน่าสนใจทั่วโลกที่มีกำหนดวางจำหน่ายวานนี้ (17)
       
       
เหอชมว่าเรียวขาของสเวตลานา แพนคราโตวาสวยมาก
       
       
แพนคราโตวา วัย 36 ปี เป็นชาวรัสเซียแต่ไปอาศัยอยู่ที่สเปน ขาของเธอยาวเกือบ 52 นิ้ว (132 เซนติเมตร) หรือกว่า 4 ฟุต ความยาวของลำตัวส่วนบนของเธอเกือบปกติ ทำให้มองเผินๆ คล้ายเธอเป็นยีราฟ
       
       
แพนคราโตวา ในชุดกระโปรงสั้นสีฟ้าและรองเท้าส้นเตี้ย บอกว่าเธอชอบขาตัวเอง แม้อาจทำให้หลายอย่างยุ่งยากขึ้นก็ตาม อย่างเช่น การหาซื้อเสื้อผ้า โดยเฉพาะกางเกง
       
       
ด้วยความสูงเพียง 6 ฟุต 4 นิ้ว (190 เซนติเมตร) แพนคราโตวาจึงไม่ใช่ผู้หญิงสูงที่สุดในโลก แต่ตำแหน่งดังกล่าวเป็นของแซนดี้ อัลเลน จากรัฐอินเดียนา สหรัฐฯ ที่เพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อไม่นานมานี้พร้อมสถิติความสูง 7 ฟุต 7 นิ้ว (227 เซนติเมตร)
       
       
สำหรับเหอ กินเนสส์บันทึกว่าเป็นผู้ชายเตี้ยที่สุดในโลกที่สามารถเดินได้ตามปกติ
       
       
นอกจากนั้น กินเนสส์บุ๊กเล่มล่าสุดยังบันทึกว่า บริตนีย์ สเปียร์ เป็นบุคคลที่มีผู้ค้นหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตมากที่สุด ขณะที่ซีรี่ส์ ลอสต์เป็นรายการทีวีที่มีคนดาวน์โหลดเนืองแน่นที่สุดตลอดกาล
       
       
กินเนสส์บุ๊กมีอายุอานามประมาณครึ่งศตวรรษ แต่ละปีทำยอดขายได้ราว 3.5 ล้านเล่ม ทั้งนี้ จากข้อมูลของเคร็ก เกลนเดย์ บรรณาธิการบริหาร

* * * * * * * * * * * * * * * * *

พันตรีศิริชัย   ทรัพย์ศิริ

นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล 

โทร. 02-990-0331

http://www.apdi2002.com

http://www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ สมาคมคนพิการ

1809511948

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2008-09-18 19:47:40 IP : 124.121.137.245


ความคิดเห็นที่ 15 (2912377)

 

5 นวัตกรรมเปลี่ยนชีวิต

 

ไอบีเอ็มเปิดเผยรายงานประจำปี “IBM Next Five in Five” ฉบับที่สอง ซึ่งแสดงรายการ นวัตกรรมที่มีแนวโน้มว่าจะเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงานและการใช้ชีวิตของคนเราในช่วง 5 ปีข้างหน้า  รายการดังกล่าวอ้างอิงแนวโน้มตลาดและแนวโน้มทางสังคมที่คาดว่าจะเปลี่ยนแปลงชีวิตของเรา รวมถึงเทคโนโลยีใหม่ ๆ จากห้องปฏิบัติการทั่วโลกของไอบีเอ็ม ซึ่งจะสามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมเหล่านี้ให้กลายเป็นจริง
 
ในช่วง 5 ปีข้างหน้า เทคโนโลยีที่จะมาเปลี่ยนแปลงชีวิตของมนุษย์ มีดังนี้
 
เครือข่ายพลังงานอัจฉริยะ เราจะอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมได้ง่ายขึ้นโดยเสียค่าใช้จ่ายน้อยลง กับเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่รองรับ พลังงานอัจฉริยะ” (smart energy) จะใช้เพิ่มความสะดวกให้ในการควบคุมปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนในส่วนของคุณ เมื่อเริ่มมีการถ่ายโอนข้อมูลผ่านสายไฟเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น เครื่องล้างจาน เครื่องปรับอากาศ ไฟส่องสว่างภายในบ้าน และ  อื่น ๆ อีกมากมาย ก็จะถูกเชื่อมต่อโดยตรงกับเครือข่ายไฟฟ้า    “อัจฉริยะซึ่งจะทำให้คุณสามารถเปิดและปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านี้โดยใช้โทรศัพท์มือถือของคุณหรือโปรแกรมเว็บ เบราว์เซอร์ใด ๆ 
 
นอกเหนือจากการแจ้งเตือนคุณเกี่ยวกับเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ถูกเปิดทิ้งไว้ทั้ง ๆ ที่ควรจะปิดเครื่องใช้ไฟฟ้านั้นเพื่อประหยัดพลังงานแล้ว เทคโนโลยีรุ่นใหม่ยังช่วยให้คุณได้รับรายงานข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับการใช้ไฟฟ้า ดังนั้นจึงสามารถตรวจสอบปริมาณการใช้ไฟฟ้า และจำนวนพลังงานที่ประหยัดได้ เช่นเดียวกับที่คุณสามารถตรวจสอบติดตามจำนวนนาทีที่คุณใช้โทรศัพท์มือถือในปัจจุบัน นอกจากนั้น เครือข่ายพลังงานอัจฉริยะนี้จะช่วยให้คุณสามารถเลือกใช้แหล่งพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น พลังงานจากแสงอาทิตย์และลม เพื่อรองรับการใช้ไฟฟ้าในบ้านของคุณ และนวัตกรรมในเทคโนโลยีแสงอาทิตย์และลมจะนำเสนอทางเลือกที่ประหยัดค่าใช้จ่ายสำหรับผู้ให้บริการสาธารณูปโภคใกล้บ้านคุณ
 
ระบบจราจรอัจฉริยะ วิธีขับรถของคุณจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง : ในช่วง 5 ปีข้างหน้า การเชื่อมต่อแบบใหม่ระหว่างรถยนต์และถนนจะเปลี่ยนแปลงวิธีที่คุณขับรถ โดยจะช่วยให้คุณปลอดภัย และช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงการจราจรที่ติดขัดบนท้องถนน 
 
เทคโนโลยีรุ่นใหม่จะช่วยปรับปรุงสภาพการจราจร ลดมลพิษ ลดอุบัติเหตุ และเพิ่มความสะดวกในการเดินทางจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งโดยไม่ก่อให้เกิด   ความรู้สึกตึงเครียด เมืองที่คุณอาศัยอยู่จะค้นพบวิธี แก้ไขปัญหาการจราจร โดยใช้ระบบจราจรอัจฉริยะที่   สามารถทำการปรับเปลี่ยนไฟจราจรได้ในแบบเรียลไทม์      และเปลี่ยนเส้นทางการจราจรได้อย่างสะดวกรวดเร็ว  รถยนต์ของคุณจะมีเทคโนโลยีสำหรับช่วยเหลือผู้ขับขี่ โดยรถยนต์จะสามารถสื่อสารระหว่างกันและสื่อสารกับเซนเซอร์ที่ติดตั้งไว้บนถนน และทำงานได้ราวกับว่ามี   “ปฏิกิริยาตอบสนอง
 
ดังนั้นรถยนต์จึงสามารถดำเนินมาตรการป้องกันในสภาวะที่อันตราย รถยนต์ของคุณจะแจ้งให้คุณทราบโดยอัตโนมัติเกี่ยวกับตำแหน่งที่มีการจราจรติดขัด และเส้นทางอื่นที่คุณสามารถใช้ได้
 
เทคโนโลยีตรวจสอบอาหาร คุณจะทราบว่าคุณกินอะไรไปบ้าง เพื่อโภชนาการที่ดี : เราทุกคนคงเคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า กินอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น” (you are what you eat) แต่เนื่องจากอาหารต่าง ๆ ถูกจัดส่งมาจากต่างประเทศ ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ คุณจะต้องทราบรายละเอียดที่ชัดเจนเกี่ยวกับสิ่งที่คุณ กินเข้าไป ทั้งนี้ในช่วง 5 ปีข้างหน้าระบบเทคโนโลยี   ใหม่ ๆ จะช่วยให้คุณทราบแหล่งที่มาที่ชัดเจน รวม  ถึงส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ที่คุณซื้อและบริโภค ความก้าวหน้าในเทคโนโลยีซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์และเซนเซอร์วิทยุไร้สายจะช่วยให้คุณเข้าถึงข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับอาหารที่คุณซื้อและรับประทาน คุณจะทราบทุกเรื่อง ตั้งแต่สภาพภูมิอากาศและดินที่ใช้ปลูก การใช้ยาฆ่าแมลงและมลพิษที่เกี่ยวข้อง ไปจนถึงพลังงานที่ใช้ในการผลิต อุณหภูมิและคุณภาพอากาศภายในตู้คอนเทเนอร์ที่ใช้ในการจัดส่ง ก่อนที่ผลิตภัณฑ์นั้นจะกลายมาเป็นอาหารที่ตั้งวางอยู่บนโต๊ะอาหารของคุณ เซนเซอร์และระบบติดตามที่ก้าวล้ำจะแจ้งให้คุณทราบว่าคุณกำลังจะกินอะไรเข้าไป
 
นวัตกรรมของโทรศัพท์มือถือ โทรศัพท์มือถือของคุณเป็นกระเป๋าเงิน นายหน้าค้าหุ้น เลขานุการ ธนาคาร เพื่อนซื้อของ ฯลฯ : ในช่วง 5 ปีข้างหน้า โทรศัพท์มือถือจะทำหน้าที่ให้คำแนะนำในการจับจ่ายซื้อของ การใช้บริการธนาคาร การเยี่ยมชมเมือง และ   อื่น ๆ อีกมากมาย 
 
เทคโนโลยีรุ่นใหม่ในโทรศัพท์มือถือ จะทำ    ให้สามารถถ่ายภาพใครบางคนที่สวมเครื่องแต่งกายที่ คุณต้องการ และตรวจสอบเว็บโดยอัตโนมัติเพื่อค้นหาชื่อนักออกแบบและร้านค้าใกล้ ๆ ที่คุณสามารถซื้อเครื่องแต่งกายแบบนั้นได้ จากนั้นคุณจะสามารถตรวจสอบว่าเครื่องแต่งกายนั้นจะดูเป็นอย่างไรเมื่อถูกสวมใส่บนภาพจำลอง 3 มิติ (avatar) ของคุณในโทรศัพท์มือถือ และสามารถขอความเห็นจากเพื่อนที่อยู่ห่างออกไปโดยผ่านระบบออนไลน์ นอกจากนี้โทรศัพท์จะทำหน้าที่เป็นไกด์พาคุณท่องเที่ยวสถานที่ต่าง ๆ โดยเมื่อคุณเปิดโทรศัพท์มือถือของคุณในเมืองที่คุณกำลังเยี่ยมชม โทรศัพท์มือถือนั้นก็จะแสดงข้อมูลสถานบันเทิง กิจกรรม และร้านอาหารที่คุณเลือกได้ตามที่คุณต้องการ และจากนั้นก็จะจองที่นั่งและซื้อตั๋วให้แก่คุณ ราวกับเป็นเลขานุการส่วนตัวเลยทีเดียว
 
เทคโนโลยีใหม่ในวงการแพทย์ เรียกว่า  “ประสาทสัมผัสพิเศษเพื่อปรับปรุงการวินิจฉัยและการรักษาพยาบาลให้ดียิ่งขึ้น อีก 5 ปีข้างหน้า คุณหมอจะมองเห็น ได้ยิน และเข้าใจเวชระเบียนของคนไข้ในรูปแบบที่แปลกใหม่ กล่าวคือ แพทย์จะได้รับพลังพิเศษ นั่นคือ เทคโนโลยีที่เหมือนกับภาพถ่ายเอกซเรย์สำหรับการตรวจดูภาพถ่ายทางการแพทย์ การฟังเสียงจังหวะการเต้นของหัวใจโดยละเอียด และการจัดระเบียบข้อมูลสำหรับการรักษาผู้ป่วยในรูปแบบใหม่ ๆ 
 
ภาพจำลอง 3 มิติสำหรับร่างกายของคุณจะช่วยให้แพทย์สามารถตรวจสอบเวชระเบียนของคุณในรูปแบบที่แปลกใหม่ โดยแพทย์จะสามารถ***เมาส์คอมพิวเตอร์บนอวัยวะของภาพจำลองนั้นเพื่อดำเนินการสืบค้นข้อมูลประวัติทางการแพทย์และเรียกดูข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับอวัยวะส่วนนั้นในร่างกายของคุณ แทนที่จะต้องพลิกดูใบประวัติแต่ละหน้า นอกจากนั้น คอมพิว เตอร์จะเปรียบเทียบข้อมูลภาพและเสียงที่ได้ กับข้อมูลประวัติผู้ป่วยหลายพันหรือหลายแสนราย และวินิจฉัยอาการของคุณอย่างถูกต้องแม่นยำ ทั้งยังระบุวิธีการรักษาที่เฉพาะเจาะจง โดยอ้างอิงข้อมูลผู้ป่วยที่มีอาการใกล้เคียงกัน
 
เทคโนโลยีทั้ง 5 รูปแบบคือ นวัตกรรมด้านความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่คาดว่าจะมาเปลี่ยนรูปแบบเปลี่ยนชีวิตของเราในอีก 5 ปีข้างหน้า.

 

* * * * * * * * * * * * * * * * *

พันตรีศิริชัย   ทรัพย์ศิริ

นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล 

โทร. 02-990-0331

http://www.apdi2002.com

http://www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ สมาคมคนพิการ

2409510934

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2008-09-24 09:33:10 IP : 124.121.138.91


ความคิดเห็นที่ 16 (2913247)

 

เตือนภัยมัจจุราชไร้สายต่อเด็ก ใช้มือถือเสี่ยงมะเร็งสมอง 5 เท่า

อินดิเพนเดนท์ - ผลวิจัยใหม่จากสวีเดนเตือนเด็กและวัยรุ่นเสี่ยงเพิ่ม 5 เท่าที่จะเป็นเนื้องอกในสมองชนิดร้ายแรงจากการใช้โทรศัพท์มือถือ
       
       
นักวิจัย ระบุว่า เด็กมีความเสี่ยงมากกว่าผู้ใหญ่เนื่องจากสมองและระบบประสาทยังพัฒนาไม่เต็มที่ นอกจากนี้ ความที่ศรีษะมีขนาดเล็กกว่าและกะโหลกบางกว่า ยังทำให้คลื่นพลังงานจากโทรศัพท์มือถือสามารถทะลุทะลวงเข้าสู่สมองเด็กได้มากกว่า
       
       
งานวิจัยจากสวีเดนที่เผยแพร่ต่อที่ประชุมระหว่างประเทศว่าด้วยโทรศัพท์มือถือและสุขภาพของผู้ใช้ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกที่อังกฤษเมื่อเร็วๆ นี้ มาจากการวิเคราะห์ข้อมูลจากการศึกษาครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งว่าด้วยความเสี่ยงจากการแพร่กระจายคลื่นพลังงานที่เป็นต้นเหตุของมะเร็ง
       
       
ศาสตราจารย์เลนนาร์ต ฮาร์เดลล์ จากยูนิเวอร์ซิตี้ ฮอสปิตอลในโอเรโบร สวีเดน ผู้นำการวิจัย แถลงต่อที่ประชุมที่จัดโดยเรดิเอชัน รีเสิร์ช ทรัสต์ว่า ผู้ที่เริ่มใช้โทรศัพท์มือถือก่อนอายุ 20 ปีมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น 5 เท่าที่จะเป็นเนื้องอกในสมองชนิดร้ายแรง (glioma) หรือมะเร็งที่เกิดที่เซลล์ค้ำจุนระบบประสาท (glial cells) ขณะที่ความเสี่ยงของโรคนี้ต่อเด็กจากการใช้โทรศัพท์ไร้สายในบ้านสูงถึงเกือบ 4 เท่า
       
       
สำหรับผู้ที่เริ่มใช้โทรศัพท์ในช่วงเด็กหรือวัยรุ่นมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น 5 เท่าที่จะเป็นมะเร็งบริเวณส่วนต่อของหูกับสมอง (acoustic neuromas) ซึ่งแม้ไม่เป็นอันตราย แต่การตัดเนื้องอกนี้จากเส้นประสาทรับเสียงอาจทำให้เกิดอาการหูตึงได้
       
       
ในทางกลับกัน คนที่ใช้โทรศัพท์มือถือหลังอายุ 20 ปีมีโอกาสเป็นเนื้องอกในสมองชนิดร้ายแรง เพียง 50% เท่านั้น และแค่ 2 เท่าสำหรับมะเร็งบริเวณส่วนต่อของหูกับสมอง
       
       
ศาสตราจารย์ฮาร์เดลล์ กล่าวว่า ผลศึกษานี้ถือเป็นสัญญาณอันตราย และว่าเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีไม่ควรใช้โทรศัพท์มือถือ ยกเว้นเมื่อมีเหตุฉุกเฉิน ส่วนวัยรุ่นควรใช้อุปกรณ์แฮนด์ฟรีหรือชุดหูฟัง และควรใช้โทรศัพท์มือถือเพื่อพิมพ์ข้อความเป็นหลัก
       
       
สำหรับคนอายุ 20 ปีขึ้นไป ความเสี่ยงจะลดลงเนื่องจากสมองมีการพัฒนาเต็มที่แล้ว ศาสตราจารย์ฮาร์เดลล์ยังยอมรับว่า อันตรายต่อเด็กและวัยรุ่นอาจมีมากกว่าที่พบในการศึกษานี้ เนื่องจากการศึกษานี้ไม่ได้แสดงผลกระทบจากการใช้โทรศัพท์มือถือระยะยาว ขณะที่มะเร็งส่วนใหญ่ใช้เวลานานเป็น 10 ปีในการก่อตัว หรือยาวนานกว่าช่วงเวลาที่โทรศัพท์มือถือเริ่มวางขายในตลาด
       
       
งานวิจัยนี้ยังแสดงให้เห็นว่า ผู้ใหญ่ที่ใช้อุปกรณ์สื่อสารชนิดนี้นานกว่า 10 ปีมีแนวโน้มมากขึ้นที่จะเป็นเนื้องอกในสมองชนิดร้ายแรงและมะเร็งบริเวณส่วนต่อของหูกับสมอง อย่างไรก็ดี ศาสตราจารย์ฮาร์เดลล์ยอมรับว่า ยังไม่มีข้อมูลเพียงพอที่แสดงให้เห็นว่าการใช้โทรศัพท์มือถือเป็นระยะเวลายาวนานเพิ่มความเสี่ยงสำหรับคนที่เริ่มต้นใช้ในวัยรุ่นอย่างไร จึงควรทำการศึกษาเพิ่มเติมต่อไป
       
       
เดวิด คาร์เพนเตอร์ คณบดีคณะสาธารณสุข มหาวิทยาลัยรัฐนิวยอร์ก ที่เข้าร่วมประชุมด้วย เห็นพ้องว่า เด็กสมัยนี้ใช้โทรศัพท์มือถือกันเกร่อไปหมด ทำให้ในอนาคตสังคมอาจเผชิญวิกฤตสุขภาพจากโรคมะเร็งสมองอันเป็นผลจากการใช้โทรศัพท์มือถือ

- - - - - - - - - - - - - - - - - -

พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ

นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

โทร. 02-990-0331

http://www.apdi2002.com

http://www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ สมาคมคนพิการ

2509511711

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2008-09-25 17:11:05 IP : 124.121.143.147


ความคิดเห็นที่ 17 (2916527)

 

ปลอมเอกสารได้สารพัด

 

ระหว่างปี ค.ศ. 1983-1947 ชาวอเมริกันชื่อ ชาร์ล คาร์ล สัน ได้คิดค้นและพัฒนาวิธีการถ่ายเอกสารที่นครนิวยอร์ก แล้วเรียกสิ่งประดิษฐ์นี้ว่า Xerography ซึ่งมาจากรากศัพท์ 2 คำ คือ Xeros แปลว่า แห้ง และ Graphos แปลว่า ข้อความ ถ้าชาร์ลยังมีชีวิตอยู่ถึงวันนี้ เขาคงประหลาดใจมากว่าสิ่งประดิษฐ์ของเขาได้พัฒนาถึงขั้นปลอมแปลงธนบัตรและเอกสารสำคัญ ๆ ได้แนบเนียนขนาดจับไม่ได้ไล่ไม่ทันเลยล่ะ
 
อันที่จริง บริษัท 3 M ได้พัฒนาการถ่ายเอกสาร เป็นสีไว้ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1969 แต่ก็ยังไม่สวยงามพอ จนถึงปี ค.ศ. 1987 เมื่อบริษัทแคนนอนของประเทศญี่ปุ่น สร้าง Canon Laser Copier ที่มีคุณภาพดีมาก คุณภาพที่ดีมากนี้เองที่ทำให้มิจฉาชีพมีช่องทางแสวงหาผลประโยชน์อีกแล้ว จากการทำสำเนาปลอมแปลงเอกสารสำคัญที่เสมือนจริง ร้อนถึงสมาคมผู้ผลิตเครื่องมือ ทางธุรกิจแห่งประเทศญี่ปุ่น (JBMA) ต้องศึกษาระบบป้องกันการปลอมแปลงที่ใส่ไว้ในเครื่องถ่ายเอกสารสี ซึ่งขณะนี้มี 2 วิธีคือ
 
1. การใส่ชิปที่บรรจุโปรแกรมซึ่งสามารถรับรู้ธนบัตรและเอกสารสำคัญ ถ้าผู้ไม่หวังดีคิดจะใช้เครื่องถ่ายเอกสารสีตัวกลางทำเอกสารปลอมจากธนบัตรและเอกสารสำคัญดังกล่าวแล้ว เครื่องถ่ายจะทำให้ภาพถ่ายบิดเบือนจนใช้การไม่ได้
 
2. เครื่องถ่ายเอกสารสีแต่ละยี่ห้อจะมีรหัสไม่เหมือนกันแฝงอยู่ จนสามารถดูเอกสารที่ถ่ายจากเครื่องหนึ่งแล้วบอกได้ว่าใครเป็น ผู้ผลิต
 
ในโลกปัจจุบันมีเครื่องถ่ายเอกสารสีวางตลาดอยู่ 7 บริษัทที่ถือเป็นเจ้าเก่าจริง ๆ คือ Canon, Hewlett-Packard, Minolta, Sharp, Toshiba, Ricoh และ Xerox ซึ่งจะเห็นได้ว่าส่วนใหญ่อยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น รหัสที่มาจากการกำหนดระยะ ห่างจากจุดซ้ำของแต่ละยี่ห้อที่ไม่เหมือนกัน อย่างของซีร็อกซ์ จะมีจุดแนว นอน 8 จุด, แนวตั้ง 15 จุด เป็นต้น โดยจุดเหล่านี้จะมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แต่มี 3 วิธีการที่จะดู
รูปแบบของจุดเหล่านี้ได้ คือ
  
1. ใช้กล้องจุลทรรศน์ที่ขยาย 30 เท่า
  
2. วิธี VSC (Video Spectral Comparator) โดยใช้แสง อัลตราไวโอเลตและแผ่นกรอง UPI
  
3. วิธี Scanner
ที่เลือกพื้นที่ในเอกสารแล้วป้อนเข้าสู่โปร  แกรมคอมพิวเตอร์ เช่น Adobe Photoshop
  
ทุกวันนี้หน่วยสืบราช การลับของสหรัฐอเมริกาทำหน้าที่เป็นหน่วยงานผู้แทนของผู้ผลิตเครื่องถ่ายเอกสารสีทุกบริษัท และมีซอฟต์แวร์ที่สามารถถอดรหัสได้ หน่วยนิติวิทยาศาสตร์ในประเทศใด ที่มีปัญหาเกี่ยวกับเอกสารปลอมแปลงที่ใช้เครื่อง ถ่ายเอกสารเลเซอร์สีสามารถส่งสำเนาไป หารือที่ห้องปฏิบัติการของเขาได้.

* * * * * * * * * * * * *

 

พันตรีศิริชัย  ทรัพย์ศิริ

สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

www.waddeeja.com

Tel. 02-990-0331

0110512053

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2008-10-01 20:53:10 IP : 124.121.136.223


ความคิดเห็นที่ 18 (2928044)

 

ราคาใช้ทางด่วนบางปะอิน-ปากเกร็ดอ่วมอีก

 

1 พ.ย.51 นี้เป็นต้นไม่ควักกระเป๋าจ่ายเพิ่ม…………………
 
รายงานข่าวจากการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) แจ้งว่า กทพ. และ บริษัท ทางด่วนกรุงเทพเหนือ จำกัด (เอ็นอีซีแอล) จะปรับขึ้นค่าผ่านทางพิเศษ ทางพิเศษอุดรรัถยา (ทางด่วนสายบางปะอิน-ปากเกร็ด) โดยจัดเก็บอัตราใหม่ ตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งมีผลบังคับใช้ ตั้งแต่เวลา 00.01 น. ของวันที่ 1 พ.ย. นี้ เป็นต้นไป โดยอัตราใหม่ที่กระทรวงคมนาคม อนุมัติให้ปรับขึ้นจากการคำนวณตามดัชนีผู้บริโภคตามเงื่อนไขสัมปทาน จะจัดเก็บสำหรับรถยนต์ 4 ล้อ/6-10 ล้อ/มากกว่า 10 ล้อ ตามลำดับ เป็นดังนี้ ด่านเมืองทอง, ด่านศรีสมาน, ด่านบางพูน และ ด่านเชียงราก คิดอัตราเดียวกันคือ 45/95/140 บาท ส่วนด่านบางปะอิน จัดเก็บที่ 55/115/170 บาท จากราคาค่าผ่านทางปัจจุบันที่เอ็นอีซีแอล จัดเก็บอยู่ที่ ด่านเมืองทอง จัดเก็บในราคา 20/40/60 บาท ด่านศรีสมาน 25/50/ 75 บาท ด่านบางพูน 30/60/90 บาท ด่านเชียงราก 35/70/105 บาท และด่านบางปะอิน 40/80/120 บาท 
 
อย่างไรก็ตามทางเอ็นอีซีแอล ต้องการลดค่าผ่านทางเพื่อจูงใจให้ประชาชนใช้ทางพิเศษ ลดภาระค่าใช้จ่าย โดยได้ให้ส่วนลด 10-45 เปอร์เซ็นต์ สำหรับรถทุกประเภท ไปถึง 31 ธ.ค. 2552 ส่งผลให้ราคาค่าผ่านทางสำหรับ   รถยนต์ 4 ล้อ/6-10 ล้อ/มากกว่า 10 ล้อ  ตามลำดับ เป็นดังนี้ ด่านเมืองทอง จัดเก็บในราคา 25/50/75 บาท ด่านศรีสมาน 30/60/ 90 บาท ด่านบางพูน 35/70/105 บาท ด่านเชียงราก 40/80/120 บาท และด่านบางปะอิน 45/90/135 บาท สำหรับผู้ใช้ทางที่มีข้อสงสัย สามารถสอบถามอัตราค่าผ่านทางฯ ใหม่ ได้ที่ศูนย์บริการข้อมูลผู้ใช้บริการทาง โทร. 1543 หรือ 0-2567-5700 และ www.exat.co.th ตลอด 24 ชั่วโมง 
 
ด้านนายเผชิญ ไพโรจน์ศักดิ์ ผู้ว่าการ กทพ. กล่าวว่า โครงข่ายทางด่วนเส้นทางดังกล่าว กทพ.ได้ให้สัมปทานกับเอ็นอีซีแอลในการลงทุนก่อสร้างและจัดเก็บค่าผ่านทาง โดยรายได้จะเป็นของเอกชนทั้งหมด ตลอดอายุสัมปทาน.1 พ.ย.นี้เป็นต้นไม่ควักกระเป๋าจ่ายเพิ่ม
 
รายงานข่าวจากการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) แจ้งว่า กทพ. และ บริษัท ทางด่วนกรุงเทพเหนือ จำกัด (เอ็นอีซีแอล) จะปรับขึ้นค่าผ่านทางพิเศษ ทางพิเศษอุดรรัถยา (ทางด่วนสายบางปะอิน-ปากเกร็ด) โดยจัดเก็บอัตราใหม่ ตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งมีผลบังคับใช้ ตั้งแต่เวลา 00.01 น. ของวันที่ 1 พ.ย. นี้ เป็นต้นไป โดยอัตราใหม่ที่กระทรวงคมนาคม อนุมัติให้ปรับขึ้นจากการคำนวณตามดัชนีผู้บริโภคตามเงื่อนไขสัมปทาน จะจัดเก็บสำหรับรถยนต์ 4 ล้อ/6-10 ล้อ/มากกว่า 10 ล้อ ตามลำดับ เป็นดังนี้ ด่านเมืองทอง, ด่านศรีสมาน, ด่านบางพูน และ ด่านเชียงราก คิดอัตราเดียวกันคือ 45/95/140 บาท ส่วนด่านบางปะอิน จัดเก็บที่ 55/115/170 บาท จากราคาค่าผ่านทางปัจจุบันที่เอ็นอีซีแอล จัดเก็บอยู่ที่ ด่านเมืองทอง จัดเก็บในราคา 20/40/60 บาท ด่านศรีสมาน 25/50/ 75 บาท ด่านบางพูน 30/60/90 บาท ด่านเชียงราก 35/70/105 บาท และด่านบางปะอิน 40/80/120 บาท 
 
อย่างไรก็ตามทางเอ็นอีซีแอล ต้องการลดค่าผ่านทางเพื่อจูงใจให้ประชาชนใช้ทางพิเศษ ลดภาระค่าใช้จ่าย โดยได้ให้ส่วนลด 10-45 เปอร์เซ็นต์ สำหรับรถทุกประเภท ไปถึง 31 ธ.ค. 2552 ส่งผลให้ราคาค่าผ่านทางสำหรับ   รถยนต์ 4 ล้อ/6-10 ล้อ/มากกว่า 10 ล้อ  ตามลำดับ เป็นดังนี้ ด่านเมืองทอง จัดเก็บในราคา 25/50/75 บาท ด่านศรีสมาน 30/60/ 90 บาท ด่านบางพูน 35/70/105 บาท ด่านเชียงราก 40/80/120 บาท และด่านบางปะอิน 45/90/135 บาท สำหรับผู้ใช้ทางที่มีข้อสงสัย สามารถสอบถามอัตราค่าผ่านทางฯ ใหม่ ได้ที่ศูนย์บริการข้อมูลผู้ใช้บริการทาง โทร. 1543 หรือ 0-2567-5700 และ www.exat.co.th ตลอด 24 ชั่วโมง 
 
ด้านนายเผชิญ ไพโรจน์ศักดิ์ ผู้ว่าการ กทพ. กล่าวว่า โครงข่ายทางด่วนเส้นทางดังกล่าว กทพ.ได้ให้สัมปทานกับเอ็นอีซีแอลในการลงทุนก่อสร้างและจัดเก็บค่าผ่านทาง โดยรายได้จะเป็นของเอกชนทั้งหมด ตลอดอายุสัมปทาน.1 พ.ย.นี้เป็นต้นไม่ควักกระเป๋าจ่ายเพิ่ม
 
รายงานข่าวจากการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) แจ้งว่า กทพ. และ บริษัท ทางด่วนกรุงเทพเหนือ จำกัด (เอ็นอีซีแอล) จะปรับขึ้นค่าผ่านทางพิเศษ ทางพิเศษอุดรรัถยา (ทางด่วนสายบางปะอิน-ปากเกร็ด) โดยจัดเก็บอัตราใหม่ ตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งมีผลบังคับใช้ ตั้งแต่เวลา 00.01 น. ของวันที่ 1 พ.ย. นี้ เป็นต้นไป โดยอัตราใหม่ที่กระทรวงคมนาคม อนุมัติให้ปรับขึ้นจากการคำนวณตามดัชนีผู้บริโภคตามเงื่อนไขสัมปทาน จะจัดเก็บสำหรับรถยนต์ 4 ล้อ/6-10 ล้อ/มากกว่า 10 ล้อ ตามลำดับ เป็นดังนี้ ด่านเมืองทอง, ด่านศรีสมาน, ด่านบางพูน และ ด่านเชียงราก คิดอัตราเดียวกันคือ 45/95/140 บาท ส่วนด่านบางปะอิน จัดเก็บที่ 55/115/170 บาท จากราคาค่าผ่านทางปัจจุบันที่เอ็นอีซีแอล จัดเก็บอยู่ที่ ด่านเมืองทอง จัดเก็บในราคา 20/40/60 บาท ด่านศรีสมาน 25/50/ 75 บาท ด่านบางพูน 30/60/90 บาท ด่านเชียงราก 35/70/105 บาท และด่านบางปะอิน 40/80/120 บาท 
 
อย่างไรก็ตามทางเอ็นอีซีแอล ต้องการลดค่าผ่านทางเพื่อจูงใจให้ประชาชนใช้ทางพิเศษ ลดภาระค่าใช้จ่าย โดยได้ให้ส่วนลด 10-45 เปอร์เซ็นต์ สำหรับรถทุกประเภท ไปถึง 31 ธ.ค. 2552 ส่งผลให้ราคาค่าผ่านทางสำหรับ   รถยนต์ 4 ล้อ/6-10 ล้อ/มากกว่า 10 ล้อ  ตามลำดับ เป็นดังนี้ ด่านเมืองทอง จัดเก็บในราคา 25/50/75 บาท ด่านศรีสมาน 30/60/ 90 บาท ด่านบางพูน 35/70/105 บาท ด่านเชียงราก 40/80/120 บาท และด่านบางปะอิน 45/90/135 บาท สำหรับผู้ใช้ทางที่มีข้อสงสัย สามารถสอบถามอัตราค่าผ่านทางฯ ใหม่ ได้ที่ศูนย์บริการข้อมูลผู้ใช้บริการทาง โทร. 1543 หรือ 0-2567-5700 และ www.exat.co.th ตลอด 24 ชั่วโมง 
 
ด้านนายเผชิญ ไพโรจน์ศักดิ์ ผู้ว่าการ กทพ. กล่าวว่า โครงข่ายทางด่วนเส้นทางดังกล่าว กทพ.ได้ให้สัมปทานกับเอ็นอีซีแอลในการลงทุนก่อสร้างและจัดเก็บค่าผ่านทาง โดยรายได้จะเป็นของเอกชนทั้งหมด ตลอดอายุสัมปทาน.

- - - - - - - - - - - - - - - - - -

พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ

นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

โทร. 02-990-0331

2610511344

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2008-10-26 13:45:17 IP : 124.121.143.177


ความคิดเห็นที่ 19 (2930210)

 

กรมการแพทย์ยัน สะเก็ดเงินไม่น่ากลัวอย่างที่คิด

 

สถาบันโรคผิวหนังจัดกิจกรรมรับวันสะเก็ดเงินโลก มุ่งให้รู้จักและเข้าใจอย่างถูกต้อง แม้จะเป็นโรคที่รักษาไม่หายขาด ถ่ายทอดทางพันธุกรรม แต่ไม่ใช่โรคติดต่อ สามารถใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นได้
       
       
วันนี้ (29 ต.ค.) ที่สถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ นายแพทย์เรวัต วิศรุตเวช อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดงานสัมมนาวิชาการวันสะเก็ดเงินโลก (World Psoriasis Day) ว่า วันที่ 29 ตุลาคมของทุกปี ถูกกำหนดให้เป็นวันสะเก็ดเงินโลกและมีการจัดกิจกรรมในหลายประเทศ
       
       
สำหรับประเทศไทยเพื่อเป็นการสร้างความตระหนักเกี่ยวกับโรคสะเก็ดเงิน สถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ จึงได้จัดงานวันสะเก็ดเงินโลกเพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับโรคดังกล่าว แม้ว่าโรคสะเก็ดเงินจะเป็นโรคที่รักษาไม่หายขาด รอยโรคอาจจะดูน่าเกลียดแต่ไม่ใช่โรคติดต่อ ผู้ป่วยสามารถอยู่ใกล้ชิดกับผู้อื่นได้
       
       
โรคสะเก็ดเงิน หรือ โรคเรื้อนกวาง (Psoriasis) เป็นโรคผิวหนังชนิดเรื้อรัง ซึ่งเกิดจากการหนาตัวของชั้นหนังกำพร้า พบได้ในทุกเพศทุกวัยแต่จะพบมากในช่วงอายุ 10-30 ปี โรคนี้ถ่ายทอดทางพันธุกรรม และสามารถพบได้ทุกแห่งทั่วร่างกายตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า บริเวณที่พบบ่อย ได้แก่ ศีรษะ ลำตัว แขนขา ข้อศอก หัวเข่า ฝ่ามือ ฝ่าเท้า เล็บมือและเล็บเท้า อาการเป็นมากบ้างน้อยบ้างแตกต่างกันในแต่ละคน บางคนเป็น 2-3 จุด แต่บางคนเป็นมากจนลุกลามไปทั่วทั้งตัว ศีรษะเป็นรังแคบางๆ หรือเป็นปื้นหนาเป็นหย่อมๆ เล็บผิดปกติ เล็บล่อนไม่ติดกับผิว หรือหนาขรุขระ
       
       
โรคสะเก็ดเงินอาจมีอาการข้ออักเสบและปวดข้อ ซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนของโรค ในรายที่เป็นมากอาจทำให้ข้อหงิกจนยืดไม่ออก สำหรับการรักษาขึ้นอยู่กับอาการและระยะของโรค ทั้งนี้ ผู้ป่วยควรปฏิบัติดังนี้ รักษาสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ป้องกันการติดเชื้อ เช่น เป็นหวัด เจ็บคอและขณะเป็นโรคต้องรักษาสม่ำเสมอ
       
       
นายแพทย์จิโรจ สินธวานนท์ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กล่าวเพิ่มเติมว่า สถิติในปี 2548, 2549 และ 2550 มีผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงินมารับการรักษาที่สถาบันโรคผิวหนังจำนวน 3,024 ราย 2,751 ราย และ 2,291 รายตามลำดับ สำหรับสถิติผู้ป่วยนอก 10 อันดับแรกในปี 2550 พบผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงินมากเป็นอันดับที่ 6 ในขณะที่สถิติผู้ป่วยในพบผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงินมากเป็นอันดับหนึ่งใน 5 อันดับแรก
       
       
สำหรับการจัดกิจกรรมในวันนี้ เพื่อให้ผู้ป่วยและประชาชนทั่วไปได้รับความรู้และมีความเข้าใจโรคสะเก็ดเงิน โดยกิจกรรมในช่วงเช้าประกอบด้วยนิทรรศการความรู้เรื่องโรคสะเก็ดเงิน บริการวัดความชุ่มชื้นผิว ให้คำแนะนำปัญหาสุขภาพผิว ปัญหาการใช้ยา ชมวิดีทัศน์ความรู้เรื่องโรคสะเก็ดเงิน ตอบปัญหาชิงรางวัล ช่วงบ่ายมีการบรรยายความรู้เรื่องโรคสะเก็ดเงิน แนวทางการรักษา บทบาทของผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงินและแพทย์ในประเทศไทย การรักษาทางเลือกและโภชนาการ การดูแลข้อและการรักษาข้อที่เหมาะสม

 

- - - - - - - - - - - - - - - - - -

พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ

นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

โทร. 02-990-0331

http://www.apdi2002.com

http://www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ สมาคมคนพิการ

3010511925

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2008-10-30 19:25:43 IP : 124.121.144.39


ความคิดเห็นที่ 20 (2949155)

สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล...ช่วยประชาสัมพันธ์

 

แพทย์พยาบาลไทยจากสหรัฐอเมริกา และนานาชาติ ร่วมมือกันรักษา ผ่าตัด ฟรี แก่ผู้ยากไร้ ด้อยโอกาสและทุพพลภาพ ระหว่างวันที่ 26 มกราคม – 2 กุมภาพันธ์ 2552 ที่ รพ.วชิรพยาบาล-สามเสน และ รพ.ตำรวจ-ปทุมวัน

รายละเอียดเพิ่มเติมโทร.1484 และ 02 - 244 – 3000

 

- - - - - - - - - - - - - - - - - -

พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ

นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

โทร. 02-990-0331

http://www.apdi2002.com

http://www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ สมาคมคนพิการ

1211511720

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2008-12-12 17:19:59 IP : 124.121.142.201


ความคิดเห็นที่ 21 (2949808)

รายละเอียดเพิ่มเติมให้สมอง..... ต้อง อ่าน...อ่านแล้วคิด............ เริ่มตั้งแต่วันนี้.... ยากได้ความรู้ต้อง.....สรรหา อ่าน.

 

- - - - - - - - - - - - - - - - - -

พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ

นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

โทร. 02-990-0331

http://www.apdi2002.com

http://www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ สมาคมคนพิการ

1412511715

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2008-12-14 17:14:19 IP : 124.121.139.105


ความคิดเห็นที่ 22 (2953461)

ธนารักษ์ปรับราคาที่ดินใหม่ ลาดพร้าวพุ่ง 65.77% ครองแชมป์ กทม.

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์  24 ธันวาคม 2551

 

ธนารักษ์ปรับราคาประเมินที่ดินใหม่ 9 เขต ในเขตกรุงเทพฯ เพิ่มเฉลี่ย 35% “ลาดพร้าวครองแชมป์ 65.77% ส่วนที่ดินในภูมิภาคปรับตัวเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 12.8%
       
       
กรมธนารักษ์ ประกาศปรับปรุงราคาประเมินทุนทรัพย์ที่ดินใหม่ใน 9 เขต ของกรุงเทพฯ และใน 120 อำเภอ ของ 52 จังหวัด โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2552 เป็นต้นไป โดยราคาในเขตกรุงเทพฯ ปรับตัวสูงขึ้นเฉลี่ย 35% ซึ่งใน เขตลาดพร้าว ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุด 65.77% ขณะที่ในส่วนภูมิภาคปรับตัวเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 12.8% ซึ่งพบว่า อ.วังจันทน์ จ.ระยอง ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุด 57.23%
       
       
ทั้งนี้ กรมธนารักษ์ จะปรับปรุงราคาประเมินทุนทรัพย์ที่ดินทุกปี โดยพิจารณาจากความแตกต่างของราคาประเมินกับราคาซื้อขายในตลาด ซึ่งในส่วนภูมิภาคนั้นมีนโยบายที่จะประเมินเป็นรายบลอคโดยนำระวางแผนที่ UTM มาใช้แทนแผนที่ภูมิประเทศ เพื่อให้ราคาประเมินใกล้เคียงกับราคาตลาด

- - - - - - - - - - - - - - - - - -

พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ                

นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

โทร. 02-990-0331

http://www.apdi2002.com

http://www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ สมาคมคนพิการ

2512510044   

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2008-12-25 00:43:50 IP : 124.121.139.142


ความคิดเห็นที่ 23 (2954600)

รถห้องสมุดเคลื่อนที่

 

ความรู้เราต้องวิ่งเข้าหา แต่ว่าตอนนี้ความรู้จะวิ่งเข้าหาเรา…!!

บริษัทสยามนิสสัน ออโตโมบิล จำกัด ร่วมสร้างโอกาสทางการเรียนรู้ ให้กับเด็กในพื้นที่ด้อยโอกาส โดยมอบ NISSAN MOBILE LIBRARY รถห้องสมุดเคลื่อนที่ ให้แก่มูลนิธิสิกขาเอเชีย เพื่อสร้างโอกาสในการเรียนรู้สู่เยาวชน

บริษัท สยามนิสสัน ออโตโมบิล จำกัด ได้มอบรถห้องสมุดเคลื่อนที่ให้กับ มูลนิธิ สิกขาเอเชีย ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อปี 2549 นิสสันได้มอบรถตู้ให้มูลนิธิแล้ว 1 คัน ซึ่งขณะนั้น ทางมูลนิธิฯได้ดัดแปลงเป็นห้องสมุดเคลื่อนที่เพื่อช่วยเยียวยาเด็กๆที่ประสบภัยสึนามิ แต่ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการจึงมอบรถห้องสมุดเคลื่อนที่เพิ่ม เพื่อทางมูลนิธิสามารออกเดินทางไปยัง45หมู่บ้านในท้องถิ่นทุรกันดารทั่งประเทศเพื่อสร้างโอกาสในการเรียนรู้ให้กับน้องๆ

รถห้องสมุดเคลื่อนที่ จะมีลักษณะคล้ายกับห้องสมุดเล็กๆ สามารถเดินทางไปหาน้องๆได้อย่างทั่วถึง ภายในถูกดัดแปลงให้เป็นชั้นวางหนังสือ ประกอบด้วยหนังสือประเภทต่างๆไม่ว่าจะเป็น หนังสือภาพดูสนุกเหมาะกับน้องวัยก่อนประถมศึกษา อย่าง มากินข้าวด้วยกันนะ” ,“อีกาเจ้าเล่ห์ หรือจะเป็นหนังสือที่มอบสาระความรู้ให้แก่น้องๆวัยกำลังเรียน เช่น “100 ปีไอน์สไตน์”,“สุภาษิต-คำพังเพย-สำนวนไทย และหนังสือเพิ่มพูนความรู้เหมาะสำหรับวัยผู้ใหญ่ อย่างพูดภาษาอังกฤษแบบมือโปร”,“น้ำผักน้ำผลไม้”,“คู่มือแม่ลูกอ่อนฯลฯ โดยหนังสือภายในรถห้องสมุดจะถูกคัดเลือกให้มีเนื้อหาสาระที่หลากหลาย เหมาะกับทุกเพศทุกวัย

รถห้องสมุดจะเคลื่อนที่ออกไปให้บริการตามชุมชนในที่ต้าง ๆ และในการออกไปให้บริการแต่ละครั้งยังมีการให้คำแนะนำ หนังสือดีๆ ให้กับน้องๆ อีกทั้งมีกิจกรรมต่างๆ ให้ร่วมสนุกตลอดช่วงเวลาให้บริการ ส่งเสริมและกระตุ้นทักษะทางการเรียนรู้ เพื่อให้ผู้ปกครองเห็นถึงความสำคัญของพัฒนาการเด็ก

งานนี้ นอกจากจะได้สนุกสนานและเพลิดเพลินกับกิจกรรมต่างๆอย่างเต็มอิ่มแล้ว ยังได้ทั้งความรู้และสาระจากการอ่านหนังสือ ตั้งแต่คุณลูกไปจนถึงคุณพ่อคุณแม่เลยทีเดียว

 

 

- - - - - - - - - - - - - - - - - -                                      

พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ                

นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

โทร. 02-990-0331

http://www.apdi2002.com

http://www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ สมาคมคนพิการ

2812512311

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2008-12-28 23:10:51 IP : 124.122.241.236


ความคิดเห็นที่ 24 (2954835)

คนพิการทางการได้ยินต่อสู้จนได้มาเป็นดอกเตอร์

 

ก้าวข้ามขีดจำกัด ด้วยใจเกินร้อย"งานเขียนของ "ดร.ประกาย กิจธิกุล"คนพิการทางการได้ยินคนแรกของเมืองไทยที่เรียนจบปริญญาเอกอย่างที่เธอฝัน โดยหนังสือเล่มนี้จะกำลังใจให้กับคนทุกคนที่กำลังประสบปัญหาชีวิต และด้วยความพิการทางการได้ยินของเธอนี่เอง ที่ทำให้เธอต้องต่อสู้ มานะอดทน เพื่อก้าวไปให้ถึงสิ่งที่ปรารถนา นั่นคือ การเรียนให้จบ ปริญญาเอก ในสังคมเดียวกับคนปกติ โดยเธอกล่าวว่า ความพิการทางกาย ไม่ใช่อุปสรรคชีวิตของเธอ เพราะมันเป็นได้เพียงแค่บั่นทอนประสิทธิภาพในการรับรู้ของเธอเท่านั้น มันไม่ได้ทำให้จิตใจของเธอต้องพิการไปด้วย หนังสือเล่มนี้จึงเป็นแรงผลักดัน และเป็นกำลังใจที่ดีที่สุดของคนที่กำลังท้อแท้ และคนที่ต้องการมีกำลังใจเพื่อการต่อสู้ให้พบกับความสำเร็จ จัดจำหน่ายในราคาเล่มละ 155 บาท.

 

- - - - - - - - - - - - - - - - - -

พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ                

นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

โทร. 02-990-0331

http://www.apdi2002.com

http://www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ สมาคมคนพิการ

2912512020     

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริขัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2008-12-29 20:20:56 IP : 124.121.138.41


ความคิดเห็นที่ 25 (2954924)

6 วิธีลดอาการปวดหัวระหว่างตั้งครรภ์

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

 

ว่าที่คุณแม่หลายท่านอาจคุ้นเคยกับเพื่อนสนิทยามตั้งครรภ์ที่มีชื่อว่า "อาการปวดหัว" กันมาไม่มากก็น้อย ซึ่งหลายคนอาจเป็นไม้เบื่อไม้เมากับเจ้าโรคชวนหงุดหงิดนี้บ่อยครั้ง และทำให้เกิดอาการพาลกับคนใกล้ตัวได้ง่าย ๆ วันนี้เราจึงมองหาวิธีบรรเทาอาการปวดหัว ซึ่งนอกจากจะช่วยให้ว่าที่คุณแม่เองไม่ต้องอารมณ์เสีย และอ่อนเพลียได้แล้ว ยังทำให้คนใกล้ชิดดูแลได้อย่างสบายใจมากขึ้นด้วย
       
       
วิธีลดอาการปวดหัวที่เราหามาฝากกันในครั้งนี้ ส่งตรงมาจาก the American Pregnancy Association โดยเป็นข้อแนะนำง่าย ๆ ดังนี้ค่ะ
       
       1.
พยายามคิดถึงสิ่งต่าง ๆ ในแง่ดี เวลาตั้งครรภ์ ว่าที่คุณแม่หลายคนอารมณ์แปรปรวน อารมณ์เสียได้บ่อยครั้ง เมื่อหงุดหงิดนาน ๆ เข้า คงจะหนีอาการปวดศีรษะไปไม่พ้น แต่ถ้าลองพยายามมองโลก มองสิ่งต่าง ๆ ที่ผ่านเข้ามาในแง่ดี ยกตัวอย่างเช่น สามีกลับบ้านดึก ก็เพราะเขาทำงานหาเงินเพิ่มเติมเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับลูกน้อยที่กำลังจะเกิด แทนที่จะเกิดอารมณ์หงุดหงิด ก็อาจจะเปลี่ยนไปเป็นเข้าใจ และเห็นอกเห็นใจสามีมากยิ่งขึ้นค่ะ
       
       2.
นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เป็นข้อที่พูดง่ายแต่อาจจะทำยาก แต่ควรจะทำเสียก่อนที่อาการปวดหัวจะถามหา แล้วนอนกี่ชั่วโมงจึงจะเหมาะสม สำหรับผู้ใหญ่ การนอนวันละ 7 - 9 ชั่วโมงก็เพียงพอแล้ว การนอนหลับพักผ่อนนอกจากจะช่วยบรรเทาอาการปวดหัวแล้ว ยังลดความเสี่ยงที่จะเป็นโรคอ้วน เบาหวาน และอีกมากมายหลายโรคด้วยนะคะ ถ้าเมื่อใดที่คุณตื่นนอนขึ้นมาแล้วพบว่า สามารถเรียกความสดชื่นกลับคืนมาได้ ก็ถือว่า เวลาที่ใช้ไปกับการนอนนั้นมีคุณภาพเต็มที่แล้วค่ะ
       
       3.
รับประทานอาหารและของว่างที่มีประโยชน์ บางครั้ง หากว่าที่คุณแม่มีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำก็อาจเป็นตัวการทำให้เกิดอาการปวดศีรษะได้ ดังนั้นคุณแม่ตั้งครรภ์จึงควรทานอาหารตามปกติ เน้นอาหารและของว่างที่มีประโยชน์
       
       4.
ดื่มน้ำสะอาดมาก ๆ สามารถช่วยบำรุงผิวพรรณ และความคิดให้แจ่มใสอยู่เสมอ
       
       5.
ออกกำลังกายเบา ๆ ตามที่คุณหมอแนะนำ แน่นอนว่าการตั้งครรภ์ไม่ใช่การป่วย คงไม่ดีนักหากว่าที่คุณแม่จะเลือกจมจ่อมอยู่กับเตียงหรือม้านั่ง การลุกเดิน ทำกิจกรรมต่าง ๆ บ้าง นอกจากจะช่วยให้ร่างกายได้เคลื่อนไหวแล้วยังทำให้ว่าที่คุณแม่รู้สึกว่าตนเองได้ทำประโยชน์แก่คนอื่น ๆ และช่วยเพิ่มความรู้สึกดี ๆ กับตัวเองมากขึ้นด้วยค่ะ
       
       6.
ข้อสุดท้าย ก็คือพยายามกำจัดความเครียดออกจากชีวิตให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ การคิดเรื่องเครียด ๆ ระหว่างตั้งครรภ์มีแต่จะทำให้ปวดหัวมากยิ่งขึ้น หากมีโอกาส ว่าที่คุณแม่อาจหาหนังสือธรรมะมาอ่านช่วยฝึกจิตใจก็จะเป็นสิ่งที่ดีมากค่ะ เพราะหลักธรรมคำสอนในทางพุทธศาสนาสามารถช่วยให้ความเครียดในใจคลายลงได้เป็นอย่างดีค่ะ

* * * * * * * * * * * *

 

พันตรีศิริชัย  ทรัพย์ศิริ

สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

www.waddeeja.com

Tel. 02-990-0331

3012510815

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2008-12-30 08:16:49 IP : 124.121.139.223


ความคิดเห็นที่ 26 (2961011)

วันนี้...ท่านเพิ่มอาหารให้สมองท่าน..หรือยัง..ถ้ายัง ก็..... ต้อง อ่าน...อ่านแล้วคิด............ เริ่มตั้งแต่วันนี้.... สมองของท่านจะได้เจริญมีรอยยัก มากมายเพิ่มขึ้น..ได้ความรู้ต้อง.....สรรหา อ่าน.

 

- - - - - - - - - - - - - - - - - -

พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ

นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

โทร. 02-990-0331

http://www.apdi2002.com

http://www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ สมาคมคนพิการ

1701520712

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2009-01-17 07:11:56 IP : 124.121.135.217


ความคิดเห็นที่ 27 (2961013)

ยกย่อง"ฮีโร่"นักบินนำเครื่องแอร์บัส จอดฉุกเฉินในแม่น้ำ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์  17 มกราคม 2552

 

เครื่องบินโดยสาร แอร์บัส เอ320 ของสายการบินยูเอสแอร์เวย์ส ที่มีผู้โดยสารพร้อมลูกเรือรวม 155 คน ต้องร่อนลงจอดฉุกเฉินกลางแม่น้ำฮัดสันที่เย็นเยียบ นอกชายฝั่งเกาะแมนฮัตตันของนครนิวยอร์กเมื่อวันพฤหัสบดี(15)ที่ผ่านมา หลังชนฝูงห่านกลางอากาศ ปรากฏว่าทุกคนบนเครื่องบินต่างได้รับความช่วยเหลือขึ้นฝั่งได้อย่างปลอดภัย และหลายฝ่ายชื่นชมความสามารถของนักบิน
       
       
เดวิด แพทเตอร์สัน ผู้ว่าการมลรัฐนิวยอร์กแถลงว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเสมือนกับมีปาฏิหาริย์ขึ้นในแม่น้ำฮัดสัน และนักรบคือวีรบุรุษที่สามารถนำเครื่องบินโดยสารลำขนาดนี้ลงจอดฉุกเฉินกลางแม่น้ำซึ่งกำลังไหลเชี่ยว โดยที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บร้ายแรงอะไร อีกทั้งเครื่องยนต์ก็ดับหมดทุกเครื่อง
       
       
ขณะที่ ไมเคิล บลูมเบิร์ก นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์กแถลงในโอกาสเดียวกันแสดงความชื่นชมนักบินที่พยายามดูแลให้แน่ใจวาทุกคนบนเครื่องบินซึ่งมีทารกรวมอยู่ด้วยคนหนึ่ง ต่างปลอดภัยกันทั้งหมดแล้ว
       
       "
นักบินคนนี้ทำผลงานอันเชี่ยวชาญยอดเยี่ยมในการนำเครื่องร่อนลงจอดกลางแม่น้ำ จากนั้นยังดูแลให้ความช่วยเหลือทุกคนออกจากเครื่องบินได้อย่างปลอดภัย" บลูมเบิร์กกล่าวและตั้งข้อสังเกตว่า นักบินได้เดินตรวจทั่วเครื่องบินถึง 2 รอบหลังจากเครื่องบินจอดลอยเคว้งคว้างอยู่กลางแม่น้ำ ทั้งนี้เพื่อความแน่ใจว่าทุกคนสามารถขึ้นฝั่งได้อย่างปลอดภัย
       
       
นักบินเที่ยวบินที่ 1549 ซึ่งได้รับการชื่นชมเป็นวีรบุรุษครั้งนี้ ชื่อ เชสลีย์ "ซัลลี" ซัลเลนเบอร์เกอร์ เป็นชาวเมืองแดนวิลล์ มลรัฐแคลิฟอร์เนีย เขาเคยเป็นนักบินขับไล่ของกองทัพอากาศสหรัฐมาก่อน และมีประสบการณ์การบินถึง 40 ปี

- - - - - - - - - - - - - - - - - -

พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ                

นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

โทร. 02-990-0331            

http://www.apdi2002.com

http://www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ สมาคมคนพิการ

1701520746    

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2009-01-17 07:46:40 IP : 124.121.135.217


ความคิดเห็นที่ 28 (2961944)

ตอบคุณสมหญิง  วรรณรี ถามที่อยู่ของมูลนิธิขาเทียม

1. "มูลนิธิขาเทียม ในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี" 199 หมู่ 4 ต. ดอนแก้ว อ. แม่ริม จ. เชียงใหม่ 50180 โทรศัพท์ (053) 112271-3 แฟกซ์ (053) 112275

2."มูลนิธิขาเทียม ในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี" อาคารกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ (ข้างโรงพยาบาลหัวเฉียว) 693 ถ.บำรุงเมือง แขวงพลับพลาชัย เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ 10100

โทรศัพท์ (02) 2265666 ต่อ 2600

แฟกซ์ (02) 2255510 , 2255411 (มูลนิธิขาเทียมฯ ชั้น 7)

- - - - - - - - - - - - - - - - - -

พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ                

นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

โทร. 02-990-0331            

http://www.apdi2002.com

http://www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ สมาคมคนพิการ

1901522056    

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2009-01-19 20:56:30 IP : 124.121.141.140


ความคิดเห็นที่ 29 (2962637)

เน้นคุณภาพชีวิตผู้ด้อยโอกาส ฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์

 

นายยอดยิ่ง จันทนพิมพ์ นายก อบต.ศิลา อ.เมืองขอนแก่น เปิดเผย ว่าตลอดเวลาของการดำรงตำแหน่งและบริหาร ได้เน้นในเรื่องคุณภาพชีวิตและให้ความสำคัญกับผู้ด้อยโอกาสเป็นหลัก เพื่อให้คนพิการและผู้ด้อยโอกาสสามารถอยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างมีความสุขจนทำให้ อบต.ศิลา ได้รับการคัดเลือกจากทางจังหวัดขอนแก่น ให้เป็นเมืองนำร่องน่าอยู่เพื่อคนพิการ เนื่องด้วยพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. 2550 โดยมาตรฐาน 20 แห่ง พระราชบัญญัติดังกล่าว กำหนดให้คนพิการมีสิทธิและเข้าถึง และใช้ประโยชน์ได้จากสิ่งอำนวยความสะดวกจากส่วนราชการและเอกชน ตลอดจนการได้รับสวัสดิการ และความช่วยเหลืออื่นจากรัฐ ทั้งการบริการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์ การศึกษา การส่งเสริมอาชีพ เพื่อให้คนพิการสามารถอยู่ร่วมกันภายในสังคมได้ ตลอดจนการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร การสื่อสารเทคโนโลยีสารสนเทศและเทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวก การปรับสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัย เป็นต้น ซึ่งเป็นหนึ่งในภารกิจของ อบต.ศิลา ที่จะต้องช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในตำบล
 
นายก อบต.ศิลา กล่าวต่อไปว่า คนพิการก็เป็นภารกิจหลักอีกภารกิจหนึ่งของ อบต.ศิลา เพื่อให้คนพิการสามารถเข้าถึงสิทธิและบริการ รวมทั้งส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคมต่าง ๆ อันจะนำไปสู่การยอมรับทางสังคมเช่นเดียวกับคนทั่วไป ทางสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ (พก.) จึงได้ผลักดันให้มีการจัดทำสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐานสำหรับคนพิการ วัตถุประสงค์เพื่อสร้างต้นแบบหน่วยงาน/องค์กร เป็นตัวอย่างปรับปรุงสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมให้แก่คนพิการ เพื่อให้คนพิการได้รับความสะดวกในอุปกรณ์และบริการสิ่งอำนวยความสะดวกที่พร้อมเข้าถึงบริการต่าง ๆ รวมทั้งกระตุ้นให้ภาครัฐและเอกชนเกิดแนวทางในการพัฒนาองค์กรจัดทำสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับ คนพิการ
 
"
เป็นที่น่ายินดีว่า พก. ได้คัดเลือกให้จังหวัดขอนแก่น เป็นจังหวัดนำร่องจัดทำเมืองน่าอยู่เพื่อคนพิการ เนื่องจากพิจารณาเห็นว่าเป็นจังหวัดที่มีองค์กรเครือข่ายและองค์กรคนพิการที่เข้มแข็ง รวมทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ให้ความสนใจและสนับสนุนงานด้านคนพิการ โดยเลือกพื้นที่ตัวอย่างเพื่อสร้างรูปแบบ 2 แห่ง ได้แก่ เทศบาลตำบลเมืองเก่า และ อบต.ศิลา อย่างไรก็ตาม ได้มีคนพิการใน ต.ศิลา ที่ขึ้นทะเบียนไว้แล้วจำนวน 249 คน ซึ่งก็ได้ประชุมระดมความคิดเห็นในหมู่คนพิการ พร้อมทั้งให้ความรู้ และสร้างเครือข่ายคนพิการ ต.ศิลา เป็นที่เรียบร้อยแล้วเช่นกัน" นายกยอดยิ่ง กล่าวในตอนท้าย.

 

- - - - - - - - - - - - - - - - - -

พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ                

นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

โทร. 02-990-0331            

http://www.apdi2002.com

http://www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ สมาคมคนพิการ

2101521232

- - - - - - - - - - - - - - - - - -

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2009-01-21 12:32:41 IP : 124.121.139.203


ความคิดเห็นที่ 30 (2964014)

สลด! นางงามบราซิลผู้เสียมือและเท้าสิ้นใจแล้ว

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    25 มกราคม 2552

 

"มาเรียนา บริดิ ดา คอสตา" นางงามชาวบราซิลวัย 20 ที่โด่งดังไปทั่วโลกเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา จากการที่เธอติดเชื้อในเลือดจนแพทย์ต้องยอมตัดเท้าและมือทั้งสองของเธอเพื่อหวังยื้อชีวิต ได้สิ้นใจแล้วจากโรคแทรกซ้อนเมื่อเช้าวันเสาร์ที่ผ่านมา
       
       
เรื่องราวที่แสนโชคร้ายของ มาเรียนา บริดิ ดา คอสตา เกิดขึ้นเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว เมื่อเธอรู้สึกเจ็บป่วยและไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาล ซึ่งแรกเริ่มแพทย์ได้วินิจฉัยว่าอาการของเธอเกิดจากนิ่วในไตและทางเดินปัสสาวะ จนกระทั้งเดือนม.ค.ที่เธอเกิดภาวะช็อกจากโรคติดเชื้อ* ที่ทำให้ความดันโลหิตของเธอลดต่ำเข้าขั้นวิกฤต จนทางแพทย์พบว่าเธอป่วยเป็นโรคติดเชื้อแบคทีเรียในทางเดินปัสสาวะ** ซึ่งเป็นอาการที่ร้ายแรงและเป็นเชื้อที่ดื้อยาปฏิชีวนะหลายชนิด
       
       
จนทางทีมแพทย์ที่ทำการรักษาของโรงพยาบาลดาริโอ ซิลวา ในเมืองเซอร์รา ทางตะวันออกเฉียงเหนือของ ริโอ เดอ จาไนโร ของประเทศบราซิล ได้ตัดสินใจตัดเท้า( เมื่อสัปดาห์ก่อน )และมือ( สัปดาห์นี้ )ของเธอทิ้งทั้งสองข้างเพื่อรักษาชีวิตไว้ เนื่องจากการติดเชื้อได้ทำลายเนื้อเยื้อเกินกว่าจะรักษาได้ รวมถึงการผ่าเอาส่วนหนึ่งในช่องท้องของเธอออกไปในการผ่าตัดครั้งสุดท้ายอีกด้วย
       
       
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาทางครอบครัวและสื่อในประเทศบราซิลได้ช่วยกันออกประกาศตามหาผู้บริจาคเลือดใจบุญเพื่อช่วยเหลือเธอที่มีกรุ๊ปเลือดโอ เนกาทีฟชนิดที่หายาก
       
       
แต่ความพยายามทั้งหมดก็สูญเปล่า เมื่อเวลาตีสองครึ่งก่อนเช้าวันเสาร์ที่ 24 ม.ค.ตามเวลาท้องถิ่นที่บราซิล เธอได้เสียชีวิตด้วยอาการหัวใจวายจากภาวะติดเชื้อแบคทีเรียในกระแสเลือด ซึ่งสาเหตุการเสียชีวิตของเธอมีทั้งการติดเชื้อในกระแสเลือดอย่างรุนแรง, ติดเชื้อแบคทีเรียในทางเดินปัสสาวะ และเลือดไหลในช่องท้อง ที่นำไปสู่การล้มเหลวในการทำงานของอวัยวะภายในหลายส่วน

 

หมายเหตุ * Septic shock ภาวะช็อกจากโรคติดเชื้อ ซึ่งเกิดจากพิษของแบคทีเรีย เช่น ภาวะโลหิตเป็นพิษ , กรวยไตอักเสบ, มดลูกอักเสบ จากการทำแท้ง หรือหลังคลอด
       
       
หมายเหตุ ** Pseudomonas aeruginosa เป็นเชื้อโรคฉวยโอกาส ที่จะติดเชื้อกับผู้ที่ภูมิคุ้มกันต่ำ พบมากในผู้ป่วยที่ติดเชื้อในโรงพยาบาลผ่านทางบุคลากร, อุปกรณ์การแพทย์, ผิวหนัง, น้ำยาฆ่าเชื้อ และอาหาร เป็นเชื้อที่มีความสามารถในการเกาะยึดติดกับเยื่อบุผิวและสร้างโปรตีนที่มาทำลายเนื้อเยื่อ เป็นเชื้อที่ดื้อต่อยาปฏิชีวนะมากและยากต่อการรักษา สามารถติดเชื้อได้หลายระบบในร่างกาย โดยทางเดินปัสสาวะสามารถติดได้จากการใช้เครื่องทางการแพทย์หรือการผ่าตัด

- - - - - - - - - - - - - - - - - -

พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ                

นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

โทร. 02-990-0331            

http://www.apdi2002.com

http://www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ สมาคมคนพิการ

2501520820

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2009-01-25 08:20:26 IP : 124.121.138.76


ความคิดเห็นที่ 31 (2969903)

เล็งสร้างเตาเผาขยะผลิตไฟฟ้าได้ มอบสำนักสิ่งแวดล้อมศึกษาขนาดเล็ก-กลาง-ใหญ่

นายประกอบ จิรกิติ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงปัญหาและแนวทางการจัดการขยะมูลฝอยของกทม.ว่า เนื่องจากปัจจุบัน กทม.มีปริมาณขยะมูลผอยมากขึ้น การจัดเก็บและกำจัดขยะด้วยวิธีที่ใช้อยู่ คือ การฝังกลบในพื้นที่ของจังหวัดใกล้เคียง ซึ่งวิธีนี้อาจมีขีดจำกัดในเรื่องของพื้นที่ที่จะไม่เพียงพอในอนาคต ยิ่งกว่านั้นยังอาจเกิดปัญหามลภาวะตามมาด้วย ด้วยเหตุนี้ทางผู้บริหารกทม.จึงมีนโยบายให้จัดหาวิธีการกำจัดขยะมูลฝอยที่มีประสิทธิภาพมาใช้ โดยมอบสำนักสิ่งแวดล้อมทำการศึกษาวิธีการกำจัดขยะแบบ"เผา" โดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยเผาขยะแล้วสามารถผลิตไฟฟ้านำมาใช้เป็นพลังงานทดแทนได้ กำหนดระยะเวลาในการศึกษาความเป็นไปได้และรูปแบบการก่อสร้างเป็นเวลา 6 เดือน และหากผลการศึกษาออกมาเห็นว่าควรทำการสร้างเป็นขนาดเล็กที่ใช้งบประมาณไม่ถึง 1 พันล้านบาทก็จะสามารถดำเนินการก่อสร้างได้ภายใน 3 ปี แต่หากเห็นควรให้มีการก่อสร้างขนาดกลางหรือใหญ่ที่ใช้งบประมาณเกิน 1 พันล้านบาท ก็ต้องนำเข้าพ.ร.บ.ร่วมทุนและดำเนินการไปตามขั้นตอน ตั้งเป้าหมายว่าจะสามารถใช้งานได้ใน 4 ปีนี้ อย่างไรก็ตามการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ คือ การรณรงค์ให้ประชาชนร่วมมือกันลดปริมาณขยะ และตระหนักถึงความสำคัญที่ทุกฝ่ายต้องมีส่วนร่วมเพื่อให้เกิดการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรมที่สุด

ด้านเรือโทอิราวัสส์ ปัทมะสุคนธ์ ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า สำหรับเรื่องการก่อสร้างเตาเผาขยะ เบื้องต้นจะได้ทำการศึกษาความเป็นไปได้ที่จะทำการก่อสร้างเตาเผา โดยจะเชิญผู้เชี่ยวชาญทั้งจากมหาวิทยาลัยที่ศึกษาทางด้านนี้โดยเฉพาะ และผู้เชี่ยวชาญตจากต่างประเทศ อาทิ ผรั่งเศษ จีน ญี่ปุ่น ที่สนใจศึกษาร่วมกัน โดยรูปแบบของเตาเผาขยะต้องดูหลายองค์ประกอบ ทั้งขนาดและทำเลที่ตั้ง อาจเป็นขนาดเล็ก กลาง หรือใหญ่โดยพิจารณาความเหมาะสมของพื้นที่เป็นหลัก ตลอดจนผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นด้วย

 

- - - - - - - - - - - - - - - - - -            

พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ                

นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

โทร. 02-990-0331            

http://www.apdi2002.com

http://www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ สมาคมคนพิการ

0902520848

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2009-02-09 08:48:14 IP : 124.121.139.243


ความคิดเห็นที่ 32 (2971682)

ตาชาวญี่ปุ่นวัย 75 เป็นผู้พิชิตเอเวอเรสต์ที่อายุมากที่สุด

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์  12 กุมภาพันธ์ 2552

 

       เอเอฟพี คุณตานักปีนเขาชาวญี่ปุ่น ซึ่งพิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์ ด้วยวัย 75 ปี ในปีที่แล้ว ได้รับการจดบันทึกลงบันทึกสถิติโลก กินเนสส์เวิลด์เรคคอร์ด ว่า เป็นคนที่อายุมากที่สุด ที่พิชิตยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก
       
       
ก่อนหน้านี้ ยูอิชิโร มิอูระ ผู้พิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์สำเร็จ แม้จะผ่านการผ่าตัดหัวใจมาแล้วถึง 2 ครั้ง เพิ่งแสดงความยินดีกับมิน บาฮาดูร์ เชอร์จาน ชาวเนเปล อายุ 77 ปี ซึ่งปีนถึงยอดเขาที่สูงที่สุดในโลกได้ก่อนเขาเพียง 2 วัน
       
       
ทว่า เจ้าหน้าที่ของมิอูระ แสดงใบรับรองจากกินเนสส์เวิลด์เรคคอร์ด ซึ่งบันทึกให้เขาเป็นผู้พิชิตยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก ที่อายุมากที่สุด เนื่องจากนักปีนเขาชาวเนปาลคนดังกล่าวไม่ได้ยื่นเอกสารยืนยันสถิติของตัวเขา ขณะที่โฆษกของทางกิสเนสเองก็ยังไม่ออกมาแสดงความเห็นใดๆ ในทันที
       
       “
ด้วยความสัตย์จริง ผมรู้สึกดีใจที่ได้รับการยอมรับให้เป็นผู้ครองสถิติของกินเนสส์ แต่ว่าผมไม่ได้ปีนเขาแห่งนี้เพื่อทำสถิติมิอูระ วัย 76 ปีกล่าว
       
       “
สถิติเป็นสิ่งที่จะถูกทำลายในอนาคตเขาสำทับ
       
       
นอกจากนี้ มิอูระ นักปีนเขาวัยเกษียณ ยังเป็นคนแรกที่สกีลงมาจากเซาท์โคล ของเอเวอร์เรสต์ ในปี 1970 และเคยสร้างสถิติเป็นผู้พิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์ที่อายุมากที่สุดในปี 2003 เมื่อเขาขึ้นไปยืนบนจุดสูงสุดที่ 8,848 เมตร จากพื้นโลก ด้วย 70 ปี
       
       
อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้น เขากลับล้มป่วยด้วยอาการหัวใจเต้นผิดปกติ และปัญหาสุขภาพอื่นๆ ซึ่งทำให้เขาต้องเข้ารับการผ่าตัดหัวใจถึง 2 ครั้ง
       
       
ในปี 2007 สถิติครั้งก่อนของเขาก็ถูกทำลาย โดยคุณตาชาวญี่ปุ่นอีกคนหนึ่ง คัตซึซุเกะ ยานางิซาวา ซึ่งขณะนั้นอายุ 71 ปี กับอีก 2 เดือน

- - - - - - - - - - - - - - - - - -            

พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ                

นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

โทร. 02-990-0331                   

http://www.apdi2002.com

http://www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ สมาคมคนพิการ

1202522213               

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2009-02-12 22:13:33 IP : 124.121.78.116


ความคิดเห็นที่ 33 (2972607)

ศูนย์ฝนหลวงฯ เตรียมขึ้นบินทำฝนเทียมพื้นที่ภาคกลางพรุ่งนี้

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    15 กุมภาพันธ์ 2552

 

นายอาคเณย์ บุญเลิศ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคกลาง กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคกลาง จะขึ้นบินทำฝนเทียมเป็นครั้งแรก นับย้ายฐานมาจาก จ.นครสวรรค์ โดยพบว่าในช่วงนี้ในพื้นที่ภาคกลางเหมาะแก่การขึ้นบินทำฝนเทียม ทางสำนักฝนหลวงและการบินเกษตร จัดส่งเครื่องบินกาซา จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินคาราแวน จำนวน 2 ลำปฏิบัติการ
       
ทั้งนี้ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคกลาง ยอมรับว่า มีประชาชนจำนวนมากในเขตพื้นที่ภาคกลาง ทั้งตอนบน และตอนล่าง ขอให้ช่วยทำฝนเทียม เพราะระดับน้ำในพื้นที่ของแต่ละจังหวัด มีปริมาณที่น้อย โดยเฉพาะ จ.กาญจนบุรี สระบุรี ลพบุรี อุทัยธานี นครสวรรค์ และเพชรบูรณ์ตอนล่าง อีกทั้งปริมาณน้ำที่อยู่ในอ่างเก็บน้ำต่างๆ เหลือปริมาณที่น้อย
       
นอกจากนี้ยังเกิดไฟป่าขึ้นใน อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี ซึ่งเกรงว่าจะลุกลามไปยังอุทยานแห่งชาติห้วยขาแข้งด้วย

- - - - - - - - - - - - - - - - - -            

พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ                

นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

โทร. 02-990-0331                   

http://www.apdi2002.com

http://www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ สมาคมคนพิการ

1502521934               

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2009-02-15 19:33:54 IP : 124.121.78.58


ความคิดเห็นที่ 34 (2975252)

แม่บ้านกิมจิทำลายสถิติร้องคาราโอเกะนานที่สุดในโลก

เอเอฟพี แม่บ้านชาวเกาหลีใต้ร้องเพลงทำลายสถิติโลก หลังจากขับร้องเพลงมายาวนานกว่า 76 ชั่วโมง โดยไม่หยุดในร้านคาราโอเกะกลางกรุงโซล
       
       
สถาบันสถิติเกาหลีของแดนโสมขาวเผยว่า คิมซุนอก แม่บ้านวัย 54 ปี ทำลายสถิติโลกของกินเนสเวิล์ดเรคคอร์ด ที่สร้างไว้โดยมาร์คุส ลาปราต จากสหรัฐฯ
       
       
สถาบันดังกล่าวระบุว่า เธอเริ่มร้องเพลงตั้งแต่ 11.14 น. ในวันพฤหัสบดี (19) ที่ผ่านมา และร้องเพลงไปถึง 1,283 เพลง ก่อนที่จะเลิกร้องเมื่อเวลา 15.21 น. ในวันนี้ (21) หลังจากครอบครัวของเธอขอร้องให้เธอเลิกทำลายสุขภาพตัวเอง
       
       
ภายใต้กฎของกินเนสเวิล์ดเรคคอร์ด เธอมีโอกาสพัก 30 วินาทีระหว่างเปลี่ยนเพลง และมีเวลาพัก 5 นาทีในทุกๆ ชั่วโมง และเธอยังถูกห้ามไม่ให้ร้องเพลงเดิมที่เธอเคยร้องไปแล้วในช่วงเวลาไม่ถึง 4 ชั่วโมงก่อนหน้าด้วย
       
       
กวางจิน น้องชายของแม่บ้านสาวรายนี้เผยว่า พี่สาวของผมมีความมั่งมั่นสูงมากตั้งแต่ยังเด็ก เมื่อเธอตัดสินใจจะทำอะไรแล้ว เธอต้องทำให้สำเร็จ
       
       
สถาบันสถิติเกาหลีเสริมว่า จะส่งวิดีโอการร้องเพลงของคิมไปให้เจ้าหน้าที่ของกินเนส เพื่อให้การรับรองอย่างเป็นทางการ ในฐานะผู้ครองสถิติรองเพลงมาราธอนยาวนานที่สุดในโลกคนใหม่

 

- - - - - - - - - - - - - - - - - -            

พันตรีศิริชัย   ทรัพย์ศิริ                                                             

นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

โทร. 02-990-0331                   

http://www.apdi2002.com

http://www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ สมาคมคนพิการ

2102522202              

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2009-02-21 22:04:33 IP : 124.121.144.163


ความคิดเห็นที่ 35 (2976280)

กำนัน-ผญบ.เฮ!! ครม.ไฟเขียวขึ้นค่าตอบแทน เริ่มงบฯ ปี 53

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์   24 กุมภาพันธ์ 2552           

 

นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ขึ้นค่าตอบแทนแก่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และแพทย์ประจำตำบล อีกร้อยละ 50 จากที่ขอมา โดยจะเริ่มในปีงบประมาณ 2553 คือวันที่ 1 ตุลาคม 2552 โดยอัตราเงินเดือนใหม่ กำนันจะได้เพิ่มจากเดิมอีก 2,500 บาท รวมเป็น 7,500 บาท ผู้ใหญ่บ้านเพิ่มอีก 2,000 บาท เป็น 6,000 บาท แพทย์ประจำตำบลและผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เพิ่มอีก 1,250 บาท เป็น 3,750 บาท และคณะรัฐมนตรีอนุมัติให้ขึ้นค่าตอบแทนอีกในอัตราเดียวกัน ในปีงบประมาณ 2554
       
นายถาวร ระบุว่า การขึ้นค่าตอบแทนไม่ใช่การหาเสียงล่วงหน้าของรัฐบาล แต่เป็นสิ่งที่บุคลากรเหล่านี้ สมควรได้รับอยู่แล้วจากการทำงานที่เสียสละแต่ได้ค่าตอบแทนน้อยเกินไป แต่กระทรวงมหาดไทยเองก็จะมีแบบแผนการประเมินงานและวัดผลด้วย

 

- - - - - - - - - - - - - - - - - -            

พันตรีศิริชัย   ทรัพย์ศิริ              

นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

โทร. 02-990-0331                   

http://www.apdi2002.com

http://www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ สมาคมคนพิการ

2402521635                       

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2009-02-24 16:36:12 IP : 124.121.77.95


ความคิดเห็นที่ 36 (2977912)

ดีแทคมอบทุน 4 โครงการพัฒนาท้องถิ่น

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์   26  กุมภาพันธ์   2552

 

โครงการทำดีทุกวันจากดีแทคสานต่อโครงการ ทำดีเพื่อบ้านเกิด หนุนเครือข่ายเยาวชนในโครงการมูลนิธิสำนึกรักบ้านเกิด จับกลุ่มความร่วมมือเสนอแนวคิดพัฒนาบ้านเกิด พร้อมรับทุนสนับสนุนกิจกรรม เป็นการทำโครงการต่อเนื่องในปีที่ 2 ขยายโอกาสให้เยาวชนเสริมสร้างความรู้และประสบการณ์ชีวิตผ่านกิจกรรมเพื่อพัฒนาถิ่นฐานบ้านเกิดของตนเอง
        
       
นายพีระพงษ์ กลิ่นละออ ผู้อำนวยการสำนักงานสำนึกรักบ้านเกิดของดีแทคกล่าวว่า โครงการ ทำดีเพื่อบ้านเกิด นี้ มุ่งหวังให้เยาวชนของมูลนิธิสำนึกรักบ้านเกิดได้รวมตัวกันกับประชาชนในพื้นที่ กลุ่มละไม่น้อยกว่า 10 คน คิดกิจกรรมพัฒนาชุมชนของตน เพื่อขอทุนในการดำเนินการจากโครงการทำดีทุกวันจากดีแทค ทั้งนี้ จากการดำเนินการในปีที่ผ่านมา มีเยาวชนนำเสนอโครงการมาจากทั่วประเทศ และดีแทคได้ทำการคัดเลือกโครงการที่เห็นว่ามีประโยชน์ต่อชุมชนมากที่สุดและมอบทุนไปแล้ว 2 โครงการ โดยสนับสนุนทุนโครงการละ 100,000 บาท เป็นค่าดำเนินกิจกรรมและทุนสำหรับการบริหารอีกโครงการละ 20,000 บาท
        
       
สำหรับในปีนี้ โครงการทำดีทุกวันจากดีแทคขยายการมอบรางวัลให้ถึง 4 ทุน เนื่องจากเห็นศักยภาพของโครงการที่เยาวชนได้นำเสนอเข้ามา พร้อมเชิญชวนให้เยาวชนในโครงการสำนึกรักบ้านเกิดและประชาชนในพื้นที่ ส่งโครงการเพื่อเข้ารับการคัดเลือกได้ที่มูลนิธิสำนึกรักบ้านเกิดฯ ตั้งแต่วันนี้ถึง – 30 เมษายน 2552 หรือ ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.rakbankerd.com
       
 
       
โครงการ ทำดีเพื่อบ้านเกิด เป็นการสานต่อเจตนารมณ์ของการมอบทุนการศึกษาแก่เยาวชนผ่านมูลนิธิสำนึกรักบ้านเกิด โดยมุ่งส่งเสริมให้เยาวชนในโครงการฯ ทำประโยชน์เพื่อพัฒนาและตอบแทนบ้านเกิดจากการดำเนินกิจกรรมที่เป็นรูปธรรมร่วมกัน และให้เยาวชนมีแรงบันดาลใจที่จะจับกลุ่มกันทำความดีเพื่อพัฒนาชุมชนของตนเองตามแนวความคิดและสถานการณ์ของแต่ละพื้นที่ซึ่งมีความต้องการที่แตกต่างกัน ด้วยการใช้พลังขับเคลื่อนที่มาจากการรวมตัวกันของพี่น้องในชุมชน ผสานกับพลังความคิดของเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่จะนำความรู้ที่ได้จากการศึกษามาช่วยแก้ปัญหาและวางรากฐานการพัฒนาที่ยั่งยืนของท้องถิ่นต่อไป

- - - - - - - - - - - - - - - - - -            

พันตรีศิริชัย    ทรัพย์ศิริ                             

นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

โทร. 02-990-0331                   

http://www.apdi2002.com

http://www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ สมาคมคนพิการ

2802521401               

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2009-02-28 14:01:49 IP : 124.121.135.209


ความคิดเห็นที่ 37 (2982568)

คนอยากใหญ่ ฉีดเจ้าโลกเน่า

 

เมื่อตอนสาย วันที่ 11 มี.ค. นพ.ไพโรจน์ จึงอนุวัตร นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ สาขาศัลยกรรมระบบปัสสาวะ รพ.ศูนย์บุรีรัมย์ เปิดเผยว่า มีกลุ่มวัยรุ่นชายนิยมเพิ่มขนาดอวัยวะเพศโดยวิธีการที่ผิด มีทั้งนวดอวัยวะเพศด้วยน้ำมันมะกอกหรือน้ำมันชนิดอื่นๆ ซึ่งไม่ค่อยจะมีอันตรายมากนัก แต่ที่น่าเป็นห่วงคือ  มีการฉีดสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในอวัยวะเพศ  อาทิ  ยาคอแลม  ซึ่งเป็นยาปฏิชีวนะแก้อาการอักเสบ เพนนิซิลิน   หรือซิลิโคน   ซึ่งจะทำให้เกิดการติดเชื้อเน่าเปื˜อย และการฉีดโดยใช้เข็มร่วมกันอาจติดโรคติดต่อ เช่น  โรคเอดส์ได้  การรักษาจะต้องผ่าตัดเอาเนื้อบริเวณที่ติดเชื้อ  หรือมีสิ่งแปลกปลอมออก  หากมีอาการเน่าเปื˜อยมากก็ต้องผ่าตัดหลายครั้ง

 

นพ.ไพโรจน์กล่าวต่อว่า ในแต่ละปีมีกลุ่มวัยรุ่นที่เข้าใจผิดต้องการเพิ่มขนาดอวัยวะเพศโดยการฉีดยาจำพวกดังกล่าวเข้ารักษาที่  รพ.ศูนย์บุรีรัมย์  เป็นจำนวนมาก โดยเมื่อปีที่แล้วมีคนเข้ามารักษาราว 500-600 ราย

 

สำหรับปีนี้เฉพาะช่วงต้นปีที่ผ่านมามีกลุ่มวัยรุ่นเข้ามาขอรับการรักษาอาการอวัยวะเพศเน่าแล้วกว่า  100  ราย จึงขอเตือนไปยังกลุ่มวัยรุ่นที่คิดจะเพิ่มขนาดอวัยวะเพศโดยฝืนธรรมชาติ อย่าได้ริลอง หรือฉีดยาเข้าไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์อย่างเด็ดขาด

 

ทางด้านนายเอ (นามสมมติ) อายุ 20 ปี บ้านอยู่หมู่  13  ต.ละเวี้ย  อ.ประโคนชัย  จ.บุรีรัมย์  หนึ่งในกลุ่มวัยรุ่นที่ต้องทนทุกข์ทรมานจากอาการ จู๋เน่าเพราะฉีดยาเพิ่มขนาด เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้มีรุ่นพี่นิยมเพิ่มไซส์นกเขาโดยใช้น้ำมันมะกอกฉีดเข้าอวัยวะเพศ แต่อยู่ได้ไม่นานอวัยวะเพศก็เน่าต้องไปผ่าตัดรักษา ระยะหลังจึงนิยมใช้ยา คอแลมฉีดเข้าไปแทน เพราะอวัยวะเพศจะเพิ่มขนาดและอยู่ได้ทนกว่า หากรักษาความสะอาดดีไม่มีบาดแผลก็ไม่มีปัญหา ตนกับเพื่อนรวม 3 คน หลงเชื่อชวนกันไปซื้อยา  คอแลม  ชนิดน้ำขนาด  10  ซีซี มา 6 ขวด ราคาขวดละ 15 บาท จากร้านขายยา นำมาฉีดเพิ่มขนาดเมื่อ 3 ปีก่อน โดยใช้เข็มฉีดยาฉีดเข้าใต้ผิวหนังอวัยวะเพศคนละ 2 ขวด แล้วนวดให้ตัวยากระจายทั่วขึ้นราว1 เท่าตัว ส่วนความยาวยังเท่าเดิม

 

 

โจ๋อยากใหญ่กล่าวต่อว่า ช่วงนั้นตนมีความภูมิใจมากว่าที่มี นกเขาใต้ผิวหนัง ซึ่งอวัยวะเพศจะบวมราว 1 สัปดาห์ จากนั้นจะหายเป็นปรกติ ปรากฏว่า ขนาดของ นกเขาจะใหญ่ใหญ่ขึ้น เวลามีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิงที่เคยผ่านผู้ชายมามากจะมีความพึงพอใจ  แต่ก็มีผู้หญิงบางคนไม่ยอมรับ  ซึ่งเพื่อนๆที่ร่วมฉีดยาเพิ่มขนาดต่างก็รู้สึกเช่นเดียวกับตน  แต่พอเวลาผ่านไปได้เพียง  2  ปี เพื่อนทั้งสองคนก็ต้องวิ่งโร่เข้ารับการผ่าตัดรักษาอาการ จู๋เน่าตนจึงใช้ความระมัดระวังรักษาความสะอาด นกเขาเป็นอย่างดี  แต่ไม่วายต้องประสบชะตากรรมเดียวกัน  โดยเมื่อวันที่ 6 มี.ค.ที่ผ่านมา อวัยวะเพศของตนเกิดอักเสบและบวมขึ้นมา จึงไปพบแพทย์ที่ รพ.ศูนย์บุรีรัมย์ เพื่อทำการรักษา โดยแพทย์ได้ลอกหนัง นกเขาที่เน่าออกหมดใช้เครื่องมือแพทย์ดูดเอาสิ่งแปลกปลอมออก  แล้วใช้หนังอัณฑะเย็บหุ้มอวัยวะเพศเพื่อสร้างเนื้อเยื่อ  แล้วใช้ผ้าก๊อซพันหุ้มอวัยวะเพศกันการติดเชื่อ  ซึ่งต้องใช้เวลานานราว3 เดือน จากนั้นจะต้องกลับไปผ่าตัดอีกครั้งเพื่อเอาหนังอัณฑะออก  แล้วรักษาต่ออีกไม่น้อยกว่า  2  เดือน

 

นายเอกล่าวต่อว่า ทุกวันนี้ต้องทนทุกข์ทรมานกับการเจ็บอวัยวะเพศ ต้องกินยาแก้ปวดและแก้อักเสบอย่างต่อเนื่อง เวลาอาบน้ำต้องระวังไม่ให้แผลเปียกกันติดเชื้อเวลามีความต้องการทางเพศอวัยวะแข็งตัวก็จะเจ็บปวดขึ้นมาทันที ตอนนี้ต้องใส่กางเกงขาสั้นหูรูด ใส่กางเกงยีนส์ไม่ได้เลย จึงอยากเตือนเพื่อนวัยรุ่นที่คิดฉีดยาเพิ่มไซส์อวัยวะเพศว่าอย่าเสี่ยง เพราะไม่คุ้มที่จะต้องทนทุกข์ทรมานในระหว่างการรักษานานถึงกว่า  5  เดือน  และในที่สุด นกเขาก็จะกลับมามีขนาดเท่าเดิม หรืออาจเล็กกว่าเดิม และยังไม่ทราบว่าหลังผ่าตัดรักษาแล้วจะใช้งานได้ตามปรกติหรือไม่ ยิ่งไปกว่านั้นในการรักษาอาการ จู๋เน่าจากกรณีดังกล่าว โรงพยาบาลจะไม่รับเข้าเป็นคนไข้ปรกติถือว่าเป็นการศัลยกรรม จะต้องมีค่าใช้จ่ายในการรักษาราว 20,000-30,000 บาท ทำให้ครอบครัวของตนต้องเดือดร้อนขายข้าวในยุ้งมาทำการรักษา

- - - - - - - - - - - - - - - - - -            

พันตรีศิริชัย    ทรัพย์ศิริ                             

นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

โทร. 02-990-0331                   

http://www.apdi2002.com

http://www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ สมาคมคนพิการ

1203522108           

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2009-03-12 21:07:23 IP : 124.121.78.61


ความคิดเห็นที่ 38 (2984228)
ได้ฤกษ์เปิดใช้สะพานศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ18มี.ค.

 
วันนี้(17 มี.ค.) พ.ต.ท.บดินทร์ ผาสุก สารวัตรจราจร สถานีตำรวจนครบาลทุ่งสองห้อง เปิดเผยว่า ตามที่กรมทางหลวง (ทล.) มีโครงการก่อสร้างสะพานหน้าศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ โดยเริ่มก่อสร้างเฉพาะฝั่งขาเข้ามุ่งหน้าแยกหลักสี่ก่อนนั้น ขณะนี้ตนได้รับการประสานงานจาก ทล. ว่าการก่อสร้างสะพานฝั่งขาเข้าขนาด 2 ช่องจราจร เสร็จเรียบร้อยแล้ว และพร้อมเปิดให้วิ่งได้ในวันที่ 18 มี.ค.นี้ ตั้งแต่เวลา 15.00 น. โดยจะให้รถจากฝั่งขาเข้าวิ่งบนสะพานได้ 1 ช่องจราจร และฝั่งขาออกวิ่งได้ 1 ช่องจราจร แต่ห้ามรถจักรยานยนต์ และรถบรรทุกทุกชนิดขึ้นใช้สะพาน หลังจากนี้ผู้รับเหมาจะปิดถนนแจ้งวัฒนะฝั่งขาออกมุ่งหน้าปากเกร็ด 2 ช่องจราจร เพื่อก่อสร้างสะพานในฝั่งขาออกต่อไป.

www.waddeeja.com

พันตรีศิริชัย  ทรัพย์ศิริ

สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

1703521517

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2009-03-17 15:17:09 IP : 124.121.142.172


ความคิดเห็นที่ 39 (2985392)

อธิบดีที่ดินเตือน ปชช.รีบเปลี่ยนเป็นโฉนดก่อน

กฎหมายที่ดินใหม่บังคับใช้  โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์  19 มีนาคม 2552

 

อุบลราชธานี - ธิบดีกรมที่ดินจี้ จนท.ที่ดินจังหวัดเร่งออกเอกสารใช้ถือครองที่ดินค้างเก่าและใหม่ให้หมดภายในปีนี้ เพื่อให้ประชาชนนำเอกสารไปใช้ประโยชน์และปรับภาพลักษณ์การทำงานของที่ดิน พร้อมแจ้งเตือนประชาชนที่ถือเอกสารแบบแจ้งการครอบครองที่ดิน หรือ สค.1 รีบเปลี่ยนเป็นโฉนด ก่อนกฎหมายที่ดินฉบับใหม่บังคับใช้ในเดือน ก.พ.2553 เพราะจะทำให้ประชาชนยุ่งยากและเสียค่าใช้จ่ายดำเนินการเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว
       
       
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 มี.ค.) นายอนุวัฒน์ เมธีวิบูลวุฒิ อธิบดีกรมที่ดิน ได้มาเร่งรัดเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดอุบลราชธานี ให้สำรวจรังวัดออกโฉนดที่ดินค้างเก่าของจังหวัดกว่า 7,000 แปลง ให้กับประชาชนทั้งหมดภายในปีนี้ เพื่อให้ประชาชนมีเอกสารใช้ทำประโยชน์ตามความต้องการ และเป็นการเปลี่ยนแปลงภาพลักษณะของสำนักงานที่ดินในสายตาประชาชนให้ดีขึ้น
       
       
สำหรับการรังวัดออกโฉนดที่ดินทั้งประเทศ ปัจจุบันมีที่ดินขอออกโฉนดใหม่จำนวน 2 แสนแปลง และเป็นที่ดินค้างเก่าจากปีที่แล้วอีก 1 แสนแปลง ซึ่งกรมที่ดินจะดำเนินการออกโฉนดที่ดินค่างเก่า รวมทั้งการออกโฉนดใหม่ให้ได้กว่า 2 แสนแปลงในปีนี้
       
       
อธิบดีกรมที่ดิน กล่าวต่อว่า สำหรับความล่าช้าการออกโฉนด เพราะหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องในการออกเอกสารกับกรมที่ดินทำงานล่าช้า ซึ่งกรมที่ดินได้ประสานขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่จากต่างหน่วยงานเร่งทำงานให้เร็วขึ้น เพราะขณะนี้กรมที่ดินมีนโยบายให้ประชาชนที่ถือเอกสารแบบแจ้งการครอบครองที่ดิน หรือ สค.1 ยื่นเรื่องตรวจสอบรังวัดแนวเขตที่ดิน เพื่อออกโฉนดก่อนเดือนกุมภาพันธ์ 2553 เพราะหลังจากนั้นจะมีการบังคับใช้กฎหมายการถือครองที่ดินฉบับใหม่ หากประชาชนต้องการเปลี่ยนเอกสารการถือครองที่ดินแบบ สค.1 ต้องยื่นฟ้องต่อศาล เพื่อให้ศาลเป็นผู้สั่งให้มีการตรวจสอบแนวเขตที่ดินก่อนออกเป็นโฉนด จะทำให้ประชาชนยุ่งยากในขั้นตอนการขอออกโฉนดที่ดิน รวมทั้งต้องเสียค่าใช้จ่ายมากกว่าปกติหลายเท่าตัว
       
       
จึงขอฝากเตือนประชาชนที่ถือครองเอกสารแจ้งการครอบครองที่ดิน หรือ สค.1 รีบมายื่นเรื่องขอออกโฉนดที่ดินก่อนกฏหมายฉบับใหม่มีผลบังคับใช้ในปี 2553
       
       
สำหรับจังหวัดอุบลราชธานี มีประชาชนถือครองแบบแจ้งการครอบครองที่ดิน หรือ สค.1 มากกว่า 30,000 แปลงด้วย

- - - - - - - - - - - - - - - - - -            

พันตรีศิริชัย    ทรัพย์ศิริ                             

นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

โทร. 02-990-0331                   

http://www.apdi2002.com

http://www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ สมาคมคนพิการ

1903521639

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2009-03-19 16:39:46 IP : 124.121.77.192


ความคิดเห็นที่ 40 (2987074)

เปิดทางด่วนรามอินทรา เชื่อมสุวรรณภูมิ-บูรพาวิถี

เมื่อวันที่ 23 มี.ค. 52 นายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีเปิดให้บริการทางพิเศษสายรามอินทรา-วงแหวนรอบนอก กรุงเทพมหานคร ทางยกระดับทิศใต้สนามบินสุวรรณภูมิเชื่อมบูรพาวิถี และเริ่มเก็บค่าผ่านทางของทางพิเศษสายบางพลี-สุขสวัสดิ์ พร้อมกันตั้งแต่เวลา 10.30 น.โดยมีนายสมชาย จารุเกษมรัตนะ รองผู้ว่าการฝ่ายปฎิบัติการ รักษาการผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย รวมทั้งคณะผู้บริหารให้การต้อนรับ ที่บริเวณด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษสุขาภิบาล 5-1(ขาเข้า)
 - - - - - - - - - - - - - - - - -            

 

 

พันตรีศิริชัย    ทรัพย์ศิริ                             

นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

โทร. 02-990-0331                   

http://www.apdi2002.com

http://www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ สมาคมคนพิการ

2303522012

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2009-03-23 20:11:58 IP : 124.121.136.243


ความคิดเห็นที่ 41 (2989237)

ข้อควรรู้ : รถตู้ป้ายดำวิ่งรับผู้โดยสารโทษปรับเป็นแสน แถมโทษจำคุก

 

          กรมการขนส่งทางบก แจ้งเตือนผู้ประกอบการรถตู้ที่วิ่งให้บริการ ให้ปฏิบัติตามกฎหมาย เนื่องจากพบว่ายังมีการร้องเรียนเรื่องการนำรถตู้ป้ายดำ มาวิ่งรับ-ส่งผู้โดยสาร และข้อร้องเรียนเกี่ยวกับสภาพตัวรถที่ไม่ปลอดภัย รถเก่า หรือเพิ่มที่นั่งเกินจากที่กำหนด รวมทั้งปัญหาขับรถประมาท และการเก็บค่าโดยสารเกิน

ทั้งนี้รถที่จะนำมาวิ่งรับ- ส่งผู้โดยสารได้จะต้องเป็นรถตู้ที่จดทะเบียนเป็นรถขนส่งสาธารณะ ใช้ป้ายทะเบียนสีเหลือง ฝ่าฝืนมีความผิดฐานประกอบการขนส่งโดยมิได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 ถึง 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนี้ยังมีความผิดฐานใช้รถไม่ตรงตามประเภทที่จดทะเบียนไว้ ตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท ส่วนการนำรถตู้โดยสารออกให้บริการรับ-ส่ง นอกเส้นทางจากที่กำหนดไว้ จะมีความผิดตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 ต้องระวางโทษปรับคันละไม่เกิน 5,000 บาทด้วย

ผู้โดยสารที่ยังพบเห็นรถตู้ป้ายดำ ออกวิ่งรับส่งผู้โดยสาร อย่า ลืมแจ้งไปที่กรมฯ ที่ศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ โทร. 1584 จดจำหมายเลขทะเบียนและเส้นทางของรถตู้คันดังกล่าว เพื่อให้กรมฯตรวจสอบลงโทษ และช่วยกันสอดส่องผู้ประกอบการที่เอาเปรียบผู้โดยสาร.

 

- - - - - - - - - - - - - - - - - -            

พันตรีศิริชัย    ทรัพย์ศิริ                             

นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

โทร. 02-990-0331                   

http://www.apdi2002.com

http://www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ สมาคมคนพิการ

2803521537               

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2009-03-28 15:37:46 IP : 124.121.141.55


ความคิดเห็นที่ 42 (2990450)

ตร.เคาะแล้วถอดยศ พ.ต.ท.ใกล้เป็น

นายทักษิณราษฎรเต็มขั้น!

 

ตำรวจเดินหน้าลุยถอดยศ นช.แม้วแล้ว โดยมีตำรวจที่เข้าข่ายด้วยรวมกว่า 10 นาย แต่ระบุ ต้องทำเรื่องขอคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ไปพร้อมกันด้วย เชื่อไม่นาน กลายเป็นนายทักษิณราษฎรเต็มขั้น
       
       
วันนี้ (31 มี.ค.52) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) แหล่งข่าวระดับสูง เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการดำเนินการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ขณะนี้มีความคืบหน้าไปมากหลังจากที่ พล.ต.อ.พัชรวาท ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ตร.) สั่งการให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องพิจารณาอย่างรอบคอบนั้น ก็ได้มีการประชุมฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ซึ่งประกอบด้วย กองวินัย กองนิติการ กองคดี กองกำลังพล โดยที่ประชุมก็มีการหยิบยกเรื่องการต้องโทษในคดีการเมืองที่ไม่ใช่คดีอาญาทั่วไป ว่า จะเข้าองค์ประกอบว่าด้วยการถอดยศตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 หรือไม่ ซึ่งภายหลังที่ประชุม ก็มีมติว่าควรยึดตามคำพิพากษาของศาล ที่ถือว่าได้เข้าองค์ประกอบว่าด้วยการถอดยศแล้ว
       
       
แหล่งข่าวกล่าวด้วยว่า ตามระเบียบเมื่อถอดยศแล้ว ต้องดำเนินการขอพระราชทานคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ด้วย ควบคู่กัน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการของกองกำลังพลในการขอพระราชทานคืนเครื่องราชฯในส่วนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้รับพระราชทานสมัยเป็นข้าราชการตำรวจ จากนั้นก็ต้องเสนอเรื่องให้ ผบ.ตร.พิจารณาและดำเนินการต่อไป โดยการถอดยศของพ.ต.ท.ทักษิณครั้งนี้ มีตำรวจที่เข้าข่ายต้องถอดยศรวมอยู่ด้วย กว่า 10 คน โดยมีทั้งที่ต้องโทษยาเสพติดและหนีราชการ ทั้งนี้ คาดว่า ใช้เวลาไม่นานก็ดำเนินการแล้วเสร็จ

 

- - - - - - - - - - - - - - - - - -            

พันตรีศิริชัย    ทรัพย์ศิริ                             

นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

โทร. 02-990-0331                   

http://www.apdi2002.com

http://www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ สมาคมคนพิการ

3103522114               

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2009-03-31 21:14:17 IP : 124.121.143.45


ความคิดเห็นที่ 43 (2991310)

(ร่าง)

ขอบเขตงานของงาน (Terms of Reference : TOR)

โครงการเช่ารถโดยสารพร้อมอุปกรณ์

และซ่อมแซมบำรุงรักษารถยนต์โดยสารปรับอากาศใช้ก๊าซธรรมชาติ

(CNG) เป็นเชื้อเพลิง จำนวน 4,000 คัน ระยะเวลา 10 ปี ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์

องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ มีความประสงค์จะประกวดราคาโครงการเช่ารถโดยสารพร้อม

อุปกรณ์และซ่อมแซมบำรุงรักษารถยนต์โดยสารปรับอากาศใช้ก๊าซธรรมชาติ (CNG) เป็นเชื้อเพลิง จำนวน4,000 คัน ระยะเวลา 10 ปี ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์

 

(ร่าง)

ประกาศองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ

เลขที่.............../ 2552

เรื่อง ประกวดราคาโครงการเช่ารถโดยสารพร้อมอุปกรณ์และซ่อมแซมบำรุงรักษา

รถยนต์โดยสารปรับอากาศใช้ก๊าซธรรมชาติ(CNG) เป็นเชื้อเพลิง

ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์

..................................................

หน้า 29

6. คุณลักษณะตามเอกสารหมายเลข 2 เป็นข้อมูลความต้องการในขั้นต้น หากผู้เสนอให้เช่ามี

ข้อเสนออื่น เช่น ข้อเสนอที่จะให้มีรถ หรือระบบ อุปกรณ์ หรือสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับบุคคลซึ่งพิการ

หรือทุพพลภาพ ในจำนวนที่เหมาะสม หรือจำนวนทั้งหมดที่ยื่นข้อเสนอ หรือมีรายละเอียดทางเทคนิค

เพิ่มเติมที่คิดว่าเป็นประโยชน์ต่อทางราชการ หรือเงื่อนไขอื่นๆ ที่เป็นผลประโยชน์ให้ผู้เช่า (ตามหลักเกณฑ์

การดำเนินการตามระเบียบพัสดุ) ก็สามารถจัดทำเป็นเอกสารเพิ่มเติมแนบมาพร้อมกับเอกสารทางเทคนิคได้

 

หน้า 32

2.1.2.16 มีเครื่องอุปกรณ์และส่วนควบอื่นๆ ครบตามพระราชบัญญัติการขนส่งทาง

บก .. 2522 หรือเป็นไปตามที่กรมการขนส่งทางบกให้ความเห็นชอบ เพื่อให้สามารถจดทะเบียนเป็น

รถยนต์โดยสารตามมาตรฐานของกรมการขนส่งทางบกได้

สำหรับรถยนต์โดยสารที่จัดไว้อำนวยความสะดวกให้คนพิการในเส้นทางที่ผ่าน

สถานที่สำคัญ เช่น โรงพยาบาล โรงเรียน สถานที่ราชการ โดยกำหนดจัดรถสำหรับคนพิการ ให้มีในทุก

เส้นทาง จำนวน 145 เส้นทาง ละไม่น้อยกว่า 1 คัน และให้มีคุณลักษณะของอุปกรณ์ดังต่อไปนี้

() ประตูรถ ให้มีความกว้างของประตู ตามที่กรมการขนส่งทางบกประกาศ

กำหนด หรือให้ความเห็นชอบ

 

 

หน้า 33

() จัดให้มีทางลาดชนิดเลื่อนเข้า-ออก ใต้ประตูทางขึ้นและลงจากรถ โดยให้

พื้นผิวทางลาด เมื่อเลื่อนออกใช้งานเรียบเสมอทางเข้าจนถึงบริเวณล๊อคเก้าอี้เข็นรถคนพิการบนรถยนต์

โดยสาร ตามที่กรมการขนส่งทางบกประกาศกำหนด หรือให้ความเห็นชอบ

() จัดให้มีที่นั่งชนิดพับเก็บติดผนัง และติดตั้งเครื่องล๊อคเก้าอี้เข็นคนพิการ อย่าง

น้อย 4 ที่นั่ง บริเวณใกล้ประตูขึ้น-ลง ตามที่กรมการขนส่งทางบกประกาศกำหนด หรือให้ความเห็นชอบ

() ติดตั้งสัญญาณจอดรถบริเวณใกล้เคียงกับที่จัดที่นั่ง สำหรับผู้ใช้เก้าอี้เข็นคน

พิการ ความสูงไม่เกิน 120 ซม. ให้แสดงด้วยเสียงและสัญญาณไฟ ตามที่กรมการขนส่งทางบกประกาศ

กำหนด หรือให้ความเห็นชอบ

() ติดสัญลักษณ์คนพิการเหนือที่นั่งชนิดพับเก็บ แสดงให้ผู้โดยสารทั่วไปทราบ

ว่า เมื่อมีผู้โดยสารที่ใช้เก้าอี้เข็นคนพิการขึ้นมาบนรถโดยสาร ต้องมีการพับที่นั่ง

() ติดสัญลักษณ์คนพิการไว้ทั้งในและนอกตัวถังรถ

() ติดตั้งเสียงสัญญาณพูดบอกสถานีถัดไป สำหรับคนพิการทางการมองเห็น และ

มีอักษรวิ่งบอกชื่อสถานีถัดไป สำหรับคนพิการทางการได้ยิน หรือสื่อความหมาย

() ป้ายอัจฉริยะ ต้องจัดให้มีเสียงพูดและอักษรวิ่ง บอกชื่อสายรถที่กำลังจะเข้า

จอด และจัดให้มีข้อความอักษรเบรลล์บนป้ายอัจฉริยะ

() อุปกรณ์อื่น (ถ้ามี) ต้องเป็นไปตามที่กรมการขนส่งทางบกประกาศกำหนด

หรือให้ความเห็นชอบ

2.1.2.17 รถยนต์โดยสารพร้อมอุปกรณ์และซ่อมแซมบำรุงรักษารถยนต์โดยสาร

ปรับอากาศใช้ก๊าซธรรมชาติ (CNG) เป็นเชื้อเพลิง พร้อมติดตั้งระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้เป็นรถยนต์

โดยสารฝึกหัดขับรถของพนักงานขับรถ จำนวน 5 คัน มีคุณลักษณะตามข้อ 2.1.2.1 – ข้อ 2.1.2.16 วรรค

แรก ตามแบบที่กรมการขนส่งทางบกประกาศกำหนดหรือให้ความเห็นชอบ__

ขอขอบคุณ คุณสว่าง  ศรีสม

ที่กรุณาส่งข่าวมาให้ผมครับ

 

 - - - - - - - - - - - - - - - - - -    

พันตรีศิริชัย    ทรัพย์ศิริ                             

นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

โทร. 02-990-0331                   

http://www.apdi2002.com

http://www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ สมาคมคนพิการ

0304520844 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2009-04-03 08:44:39 IP : 124.121.139.99


ความคิดเห็นที่ 44 (3206302)
and it comes from the coolest little fake tag heuer watch rolex replicas panerai watch replica country no one hasever heard of omega replicas With a chrono and two other time presentations this beast
ผู้แสดงความคิดเห็น 1 (enfpht-at-263-dot-com)วันที่ตอบ 2010-08-25 02:12:40 IP : 125.121.215.19


ความคิดเห็นที่ 45 (3206326)
handbag online retailers designer handbag for sale men"s handbags lv handbags gifts under the circumstance of the choice of replica handbagsyou are to take selection as that louis vuitton ties
ผู้แสดงความคิดเห็น 1 (lllkrd-at-sohu-dot-com)วันที่ตอบ 2010-08-25 02:20:59 IP : 125.121.215.19


ความคิดเห็นที่ 46 (3221575)
Your Guide For Shopping for GHD Curly hair ghd straighteners The trend of hair follicles straightening has grow to be very popular nowadays and majority of females love to straighten their locks Inside the past it was frequent to straighten the hair follicles only on special events but currently women prefer to straighten their curly hair each day to look elegant and attractive It can be observed that hair follicles are damaged mainly because of exposure for the heat of your straightener so it can be needed to go by way of all safety measures that will minimize the harmful impacts of curly hair straighteners You will find various sorts of hair straighteners which have diverse features so the selection of your most suitable curly hair straightener is essential in accordance to the type of hair follicles so that you can stay away from the damaging effects ghd curly hair straightener could be the greatest straightener that offers quite a few advantageous capabilities You"ll find distinct models of ghd locks straighteners that happen to be suitable for certain sorts of head of hair GHD IV styler may be the most ideal tool that can be used for all forms of locks GHD IV salon styler is helpful for thick hair It has wider plates that make it effortless to straighten the curly hair in brief duration of time For those having brief hair follicles GHD IV mini styler may be the greatest option to buy and it can create waves or curls too For acquiring GHD hair follicles straightener it"s far better to evaluate the features and prices to select 1 which is in accordance to private demands There are lots of accessories that purchaser can obtain with the straightener so earlier than buying GHD hair follicles straightener the info about all equipment must be taken There are many ghd hair follicles straighteners that happen to be created in unique colors The coloration in the straightener has nothing to do with its features Individuals can choose any color of their choice Earlier than acquiring GHD locks straightener it"s vital to make sure that it provides the warranty of two years You will discover some pretend GHD hair follicles straighteners obtainable inside the markets so the buyer ought to be sure that the item he/she is getting is original If the GHD hair follicles straightener is bought from a reputable retailer then it"s going to not be a pretend straightener Cautious inspection earlier than buying the straightener lessens the dangers of getting a faux straightener
ผู้แสดงความคิดเห็น 1 (lkkzxj-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2010-11-01 21:02:38 IP : 125.122.102.4


ความคิดเห็นที่ 47 (3221578)
GHD MK4 curly hair straightener Permit your head of hair to angle for fifteen accounts and once more attain abiding your head of hair is absolutely dry You can dry your curly hair by itself or with curly hair dryer Accomplish abiding the hairdryer pointing straight down which can accept the aftereffect on hair follicles that would acquiesce them to point down and complete abiding your hair shine Research is an absolution or even a curse Of advance it is definitely an alloyed absolution on this break too for people with affection for look aided by the accession of ghd MK4 GHD MK4 hair adamant is absorbing and no agnosticism may be the absolution of research With the entire added role that has been an absolution to acclimatized the asparagus waves It truly is artlessly absurd and can"t be carried out unless of course you get one for you With numerous advantageous appearances has develop into the aboriginal very best for appearance aficionados The brand new larger technology is suggested to align your locks afterwards damage What is GHD MK4 curly hair adamant is success Able-bodied looking at the chump critiques which could admeasurements the acceptance of it What could be the affidavit for this kind of reputation In accordance to chump acknowledgment showed that humans achieved acclaim on your DVD MK4 ghd ghd straighteners be acutely advantageous to customers who"re accomplished together with the actual approach to attain an precise model Too the votes of barter for above superior articles or blog posts that motion GHD Hair Straighteners affliction head of hair additional safely afore and afterwards software the straightener All that is precise advantageous for those who carry out your head of hair extra commonly or you are able to say frequently
ผู้แสดงความคิดเห็น 1 (nfhpmx-at-inbox-dot-com)วันที่ตอบ 2010-11-01 21:05:36 IP : 125.122.102.4



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล 802/410 หมู่12 หมู่บ้านวังทองริเวอร์ปาร์ค ซอย10/4 ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี 12130 โทร : 02-990-0331 Copyright © 2010 All Rights Reserved.