เนื่องจากหลักการทำงานของ IPL คือ การนำพลังงานแสงเข้าไปกำจัดขน แต่ทว่าในรูขุมขน จะมีผิวข้างๆ ที่ไม่ใช่รูขุมขน ก็จะรับพลังงานแสงด้วย (ซึ่งเลเซอร์ IPL จะทำปฏิกิริยาทั้งกับเม็ดสีดำและเม็ดสีแดง) ถ้าเป็นคนผิวขาวแสงจะทะลุผ่านไปเลย แต่ถ้าเป็นคนผิวคล้ำ เม็ดสีที่อยู่ข้างบน จะดูดพลังงานแสงไว้อยู่ในตัวเม็ดสี ถ้าเราใส่พลังงานเลเซอร์ไป เม็ดสีที่ดูดไว้ก็จะเกิดอาการแสบร้อน
       
       การกำจัดขนถาวรด้วย IPL ในปัจจุบันถือว่าได้รับ ความนิยมค่อนข้างมากและทำได้กับขนทุกส่วนตั้งแต่ ใบหน้า ลำตัว แขนขา ไปจนถึง บิกินี่ไลน์ (Bikini line) ส่วนที่คนไทยนิยมทำมากที่สุดคือ การกำจัด ขนรักแร้ รองลงมาคือหนวด และเครา เรียกได้ว่า นิยมทำ กันทั้งผู้หญิงและผู้ชายเลยทีเดียว
สำหรับวิธีการยิงเลเซอร์นั้น แต่ละตำแหน่งจะแตก ต่างกันไป เช่นในใบหน้าซึ่งมีลักษณะผิวบาง รากของเส้น ขนจะอยู่ตื้นกว่า จึงใช้เพียงคลื่นสั้นๆ ไม่ต้องลงไป ถึงชั้นผิวหนังที่ลึกมาก อย่างบริเวณหน้าแข้งและลำตัว โดยการปรับช่วงความยาวคลื่นจะใช้แผ่นกรองแสง หรือฟิลเตอร์ (Filter) เป็นตัวกรองเพื่อลดระดับความยาวคลื่นการยิงเลเซอร์กำจัดขนด้วย IPL ต้องทำอย่างต่อเนื่อง แล้วแต่ว่าเป็นขนบริเวณใด เช่นช่วงหนวด ต้องทำ 2สัปดาห์/ครั้ง เพราะวงจรชีวิตขนบริเวณนั้นสั้น แต่หากเป็นขนรักแร้ จะประมาณ 1เดือน/ครั้ง ในส่วนของบิกินี่ไลน์ (กำจัดขนตามแนวกางเกงในแบบบิกินี่ ) จะอยู่ที่ 6-8 สัปดาห์/ครั้ง ส่วนการหลุดล่วงนั้น เมื่อยิงเลเซอร์เสร็จเราจะไม่ได้เห็นเส้นขนหลุดออกมาทันทีทันใด ต้องรอไปสักระยะหนึ่ง

หลายคนสงสัยว่าการทำเลเซอร์จะทำให้ขนหายถาวรมั้ย หมอบอกเลยว่าขึ้นอยู่กับระยะที่เหมาะสม คือ ขนจะมีหลายระยะ พูดให้เข้าใจง่ายๆ เหมือนระยะตัวอ่อน เด็ก วัยรุ่น ผู้ใหญ่ ระยะแก่ แต่ขนที่จะเจอพลังงานที่ดีและเหมาะสมจะสลายไปเลยไม่ขึ้นมาใหม่อีก ก็คือ ระยะตัวอ่อนเท่านั้น
       
       เมื่อขนมี 5 ระยะ การจะกำจัดขนได้อย่างถาวรในแต่ละครั้ง จึงต้องเฉลี่ยกัน 10 – 15 – 20 % ตัวอย่างเช่น เมื่อยิงเลเซอร์ไปครั้งแรกอาจจะได้พลังงานยังไม่เหมาะสม ครั้งที่ 2 พลังงานเหมาะสมแล้ว แต่ส่วนที่เป็นเส้นขนแบบตายแล้วจะไม่เกิดใหม่มีแค่ 15 % ดังนั้นเราจึงต้องยิงหลายๆ ครั้ง (การยิงโดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 5-8 ครั้ง) แต่หากเป็นบริเวณหนวดและใบหน้าที่เป็นขนนุ่ม เส้นสีอ่อนทำให้ดูดแสงเลเซอร์ได้น้อย จึงต้องทำจำนวนมากถึง 7-8 ครั้ง นอกจากนี้ยังสามารถกำจัดขนได้ 70-80% เท่านั้นแม้จะยิงเลเซอร์เกิน 8-9 ครั้งก็ตาม

แต่ปัจจุบันก็มีเลเซอร์ตัวใหม่ ที่ชื่อว่า Revlite ได้ถูกนำมาใช้ยิงขนอ่อนตัวบริเวณใบหน้าโดยเฉพาะ เนื่องจาก RevLite เป็นเป็นพิกเม้นต์ลเซอร์ (Pigment Laser) ที่จับพลังงานแสงได้ดี มีขนาดเล็กกว่า IPL จึงควบคุมทั้งความกว้าง และความเข้มของเลเซอร์ให้ทำปฏิกิริยาเฉพาะเม็ดสีดำเท่านั้น (จึงไม่เกิดอาการแสบร้อนในคนผิวคล้ำ) ดังนั้นไม่ว่าเส้นขนอ่อนแค่ไหน Revlite ก็สามารถตรวจพบและกำจัดได้
       
       จริงๆ แล้วประโยชน์หลักของ Revlite ใช้สำหรับปรับผิวหน้าให้ขาว กำจัดจุดด่างดำ รอยหมองฝ้า รอยรักแร้ที่ดำคล้ำให้ขาวขึ้น แต่เมื่อเอามาใช้ที่ใบหน้า ขนที่มีอยู่ก็จะกลายเป็นสีขาว และเมื่อดูดพลังงานเลเซอร์เข้าไปเรื่อย ๆ จะเข้าไปถึงรากขน จนสามารถกำจัดขนเส้นเล็กๆ บนใบหน้าได้”

* เรื่องต้องรู้ก่อนทำเลเซอร์
       
       - กรณียิงด้วย IPL ต้องไม่โดนแดดแรงๆ ก่อนมาทำ เพราะ IPL จะทำปฏิกิริยากับผิวคล้ำค่อนข้างมาก ดังนั้นเมื่อผิวโดนแดดมาแล้ว โอกาสในการเผาไหม้แสบร้อนก็สูง ดังนั้นควรเลี่ยงแดดจัดๆ ก่อนมาทำสัก 1 สัปดาห์
       
       - กลับกัน ถ้าผิวโดนแดดมา แล้วมายิงเลเซอร์Revlite จะได้ผลดี เพราะเมื่อไปรับแสงแดดมาเม็ดสีดำจะมีมาก เมื่อยิงเลเซอร์ Revlite เข้าไปเม็ดสีเหล่านั้นก็จะสลายไป ส่งผลให้ผิวขาวขึ้นและกำจัดขนได้ด้วย
       
       - สตรีมีครรภ์ , ผู้ใช้ยาที่มีปฏิกิริยาไวต่อแสง เช่น ยากลุ่มวิตามินเอ , ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ,ผู้ที่มีประวัติเป็นแผลนูน (keloid) ได้ง่าย รวมถึงคนไข้ที่มีประวัติเลือดออกได้ง่ายกว่าปกติ ควรเลี่ยงการรักษาด้วยเลเซอร์เหล่านี้นะคะ
       
       - หลังทำไม่เข้มงวดเท่าก่อนทำ สามารถโดนแดดได้ตามปกติ แต่ไม่ควรออกแสงจ้ามากนัก ที่สำคัญ ควรทาครีมกันแดดถนอมผิวด้วย แต่ไม่ถึงกับต้องใส่หมวก ปิดผ้าบังหน้า สามารถใช้ชีวิตประจำ***้ตามปกติ

- - - - - - - - - - - - - - - - - -  

พันตรีศิริชัย   ทรัพย์ศิริ

นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล (ส.พ.ค.)

โทร. 02-990-0331

http://www.apdi2002.com

http://www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ

สมาคมคนพิการ

1603532201

*********************