ReadyPlanet.com


ข้อมูลก๊าซ NGV - LPG ... 2


ปตท.ประกาศขึ้นราคาก๊าซ NGV 11 บ.ต้อนรับปีใหม่

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์  17 ธันวาคม 2551 09:31 น.

 

ปตท.ประกาศขึ้นราคาก๊าซ NGV กิโลกรัมละ 11 บาท จากราคาเดิม 8.50 บาท อ้างแบกต้นทุนอ่วม พร้อมระบุ ราคาต้นทุนเอ็นจีวีที่แท้จริงอยู่ที่กิโลกรัมละ 14.50 บาท
       

       
วันนี้ (17 ธันวาคม 2551) นายณัฐชาติ จารุจินดา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงสภานการณ์ราคาน้ำมันที่ปรับลดลงโดยเฉพาะกลุ่มดีเซล ทำให้ ปตท.เตรียมเสนอปรับขึ้นราคาก๊าซเอ็นจีวี 11 บาทต่อดิโลกรัม หลังจากเดิมที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) มีมติให้ปรับเพิ่มในราคาเพดานไม่เกิน 12 บาทต่อกิโลกรัม ในปี 2552
       
       
การประกาศปรับราคาครั้งนี้ มีผลตั้งแต่ 1 มกราคม 2552 เป็นต้นไป จากราคาปัจจุบัน 8.50 บาทต่อกิโลกรัม สาเหตุที่ต้องขึ้นราคา ปตท.ระบุว่า มีต้นทุนทั้งระบบการจำหน่ายก๊าซอยู่ในระดับสูง และราคาต้นทุนเอ็นจีวีที่แท้จริงอยู่ที่ 14.50 บาทต่อกิโลกรัม
       
       
อย่างไรก็ตาม กพช.ยังกำหนดให้การปรับขึ้นราคาก๊าซเอ็นจีวี ต้องขึ้นไม่เกินครึ่งหนึ่งของราคาน้ำมันดีเซล ซึ่งการปรับขึ้นในอัตรา 11 บาทต่อกิโลกรัม จึงถือว่าเหมาะสมแล้ว
       
       
นายณัฐชาติ กล่าวยอมรับว่า ตั้งแต่ ปตท.เริ่มจำหน่ายก๊าซเอ็นจีวี จนถึงปัจจุบัน ปตท.มีปัญหาขาดทุนมาโดยตลอด โดยปีนี้รับภาระขาดทุน 3,700 ล้านบาท ปี 2550 ขาดทุน 1,900 ล้านบาท และปี 2549 ขาดทุน 1,200 ล้านบาท
       
       
นอกจากนี้ จากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและราคาน้ำมันที่ลดต่ำมาก ทำให้ความต้องการใช้ก๊าซเอ็นจีวีทดแทนน้ำมันลดลง โดยปัจจุบันยอดการติดตั้งเอ็นจีวีของรถยนต์อยู่ที่ 150-200 คันต่อวัน จากเดิมที่ในช่วงราคาน้ำมันสูงสุดกว่า 40 บาทต่อลิตร ยอดการติดตั้งอยู่ที่ประมาณ 450-500 คันต่อวัน ดังนั้น เมื่อยอดติดตั้งลดลง ปตท.จึงอยู่ระหว่างการทบทวนแผนลงทุนทั้งหมด
       
       
อย่างไรก็ตาม ภายในปีนี้การเปิดสถานีจำหน่ายก๊าซเอ็นจีวี ยังเป็นไปตามแผนเดิม คือ 300 แห่ง จากที่ขณะนี้มี 275 แห่ง ครอบคลุม 44 จังหวัด และในส่วนปริมาณความต้องการใช้อยู่ที่ 2,800-2,900 ตันต่อวัน ขณะที่ปริมาณการจำหน่ายมีกว่า 3,000 ตันต่อวัน
       
       
ส่วนแผนการก่อสร้างท่อก๊าซธรรมชาติที่มีเป้าหมาย ทั้งเพื่อการรองรับความต้องการใช้ไฟฟ้า และรองรับความต้องการใช้เอ็นจีวี แผนดังกล่าวคงต้องชะลอ เพราะความต้องการใช้พลังงานทั้ง 2 ส่วนได้ชะลอลง โดยเฉพาะการสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ กระทรวงพลังงานได้ประกาศชะลอออกไป 1 ปี
       
       
ดังนั้น การก่อสร้างท่อก๊าซจึงไม่จำเป็นต้องเร่งดำเนินการ โดยโครงการก่อสร้างท่อก๊าซ ปตท.มี 3 เส้นทาง วงเงินรวมกว่า 5 หมื่นล้านบาท ตามแผนเดิม คือ 1.เส้นสายใต้ราชบุรี-ประจวบคีรีขันธ์ วงเงิน 22,000 ล้านบาท กำหนดเดิมจะก่อสร้างเสร็จในปี 2554 2.ท่อสายอีสาน สระบุรี-โคราช วงเงิน 16,000 ล้านบาท เดิมจะแล้วเสร็จปี 2553 และ 3.สายเหนือ พระนครศรีอยุธยา-นครสวรรค์ วงเงิน 1.9 หมื่นล้านบาท ตามแผนเดิมจะเสร็จปี 2554
       
       
ทั้งนี้ ในวันนี้ ปตท.ได้ร่วมกับกรมธุรกิจพลังงาน จัดพิธีมอบประกาศนียบัตรช่างติดตั้งอุปกรณ์เอ็นจีวีมาตรฐานสำหรับรถยนต์ประจำปี 2551 ในโครงการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในการใช้ก๊าซเอ็นจีวีในรถยนต์ ซึ่งจะนำไปสู่การเพิ่มช่างที่มีความเชี่ยวชาญ และส่งผลให้เกิดความปลอดภัยในการใช้ก๊าซต่อประชาชนในที่สุด

* * * * * * * * * * * *

 

พันตรีศิริชัย  ทรัพย์ศิริ

สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

www.waddeeja.com

Tel. 02-990-0331

1812511251

 



ผู้ตั้งกระทู้ พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com) :: วันที่ลงประกาศ 2008-12-18 12:51:29 IP : 124.121.138.33


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (2953459)

ปิยสวัสดิ์ค้านถอน ปตท.จากตลาดหุ้น แนะลอยตัว LPG ขึ้นราคา NGV

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์  24 ธันวาคม 2551

 

ปิยสวัสดิ์ผวารัฐสั่งถอน ปตท.ออกจากตลาดหุ้น ค้ากำไรเกินควร บนหลังคนไทย ดำเนินธุรกิจแบบผูกขาดทั้งก๊าซและน้ำมัน แถมมีแหล่งผลิตในประเทศ แต่คนไทยต้องใช้เชื้อเพลิงแพงกว่าตลาดโลก แนะให้ยกเลิกภาษีน้ำมัน-ลอยตัวก๊าซ แอลพีจีอ้างราคาตอนนี้ ถือว่าถูกมากแล้วแล้ว พร้อมสนับสนุนการปรับขึ้นราคาก๊าซเอ็นจีวีกิโลกรัมละ 11 บาท
       
       
นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ประธานที่ปรึกษามูลนิธิพลังงานเพื่อสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงแนวคิดรัฐบาลที่จะเพิกถอน บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ออกจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เนื่องจากที่ผ่านมา ปตท.ไม่สามารถดูแลผู้บริโภคได้ ทั้งราคาน้ำมัน และราคาก๊าซในประเทศ ที่ต้องใช้สูงกว่าตลาดโลก โดยช่วงที่ตลาดโลกปรับขึ้น ปตท.กลับประกาศขึ้นราคาทุกวัน แต่พอราคาในตลาดโลกลดลง ปตท.กลับไม่ค่อยปรับราคาลงตามตลาดโลก ทั้งที่เป็นผู้ทำธุรกิจผูกขาด
       
       
นายปิยสวัสดิ์ ให้เหตุผลในการคัดค้านการเพิกถอน ปตท.ออกจากตลาดหุ้น โดยเสนอแนะให้รัฐบาลใช้ทางเลือกอื่น อาทิ การกำหนดกฎเกณฑ์ในการกำกับดูแลเพื่อให้เป็นธรรมแก่บริโภคและผู้ลงทุน ซึ่งต้องเร่งดำเนินการ คือ การออกกฎเกณฑ์ และระเบียบต่างๆ ในการกำกับดูแลกิจการก๊าซธรรมชาติของ ปตท.เพื่อให้การประกอบธุรกิจ การกำหนดราคาและเงื่อนไขในการจำหน่ายก๊าซให้มีความโปร่งใส เป็นธรรม ไม่เลือกปฏิบัติ ไม่เป็นการสร้างการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม มีคุณภาพบริการที่ดี
       
       
นอกจากนี้ นายปิยสวัสดิ์ ยังได้เสนอมาตรการที่รัฐบาลควรดำเนินการใน 99 วันแรกของปีหน้า โดยแนะนำว่า รัฐบาลควรลอยตัวก๊าซหุงต้ม (LPG) โดยสั่งยกเลิกการกำหนดราคาก๊าซ LPG ทั้งภาคขนส่งและครัวเรือน เพราะไม่สามารถควบคุมการลักลอบถ่ายเทก๊าซ และจำมีการปลอมแปลงเอกสาร เพื่อขอรับเงินส่วนต่างจากอัตรากองทุนที่อุดหนุนราคาที่ต่างกัน
       
       
นายปิยสวัสดิ์ กล่าวถึงเหตุผลในการประกาศลอยตัว LPG เพราะเป็นช่วงที่ราคาน้ำมันลดลง จากระดับสูงสุดที่ 924 ดอลลาร์ต่อตัน เมื่อเดือนกรกฎาคม 2551 ที่ผ่านมา เหลือเพียง 338 ดอลลาร์ต่อตัน ในเดือนธันวาคม 2551 หรือคิดเป็น 11.7 บาทต่อกิโลกรัม พร้อมแนะนำให้กำหนดสูตรราคา ณ โรงกลั่นที่ชัดเจน
       
       
ส่วนการปรับขึ้นราคาก๊าซ NGV ควรปฏิบัติตามเกณฑ์ของคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เช่น การปรับราคาจากกิโลกรัมละ 8 บาท 50 สตางค์ เพิ่มเป็นกิโลกรัมละ 11 บาท และปรับขึ้นไม่เกินครึ่งหนึ่งของราคาดีเซล เพราะราคาในปัจจุบันถูกเกินควรจากการอุดหนุน ถึงแม้จะปรับราคาขึ้นไปถึง 3 บาท 50 สตางค์ แต่ก็ยังถือว่าต่ำกว่าดีเซล
       
       
นอกจากนี้ นายปิยสวัสดิ์ ยังเสนอให้รัฐบาลปรับภาษีสรรพาสามิตน้ำมันมาอยู่ระดับเดิมในทันที ซึ่งอาจมีผลกระทบกับราคาขายปลีกบ้าง แต่ก็สามารถลดการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน
       
       
ส่วนนโยบายพลังงานทดแทนควรเร่งส่งเสริมแก๊สโซฮอล์ อี 20 และอี 10 ที่มีค่าออกเทน 91 ให้มีการใช้เพิ่มขึ้น สำหรับน้ำมันอี 85 ควรวางแผนระยะยาว เพราะต้องคำนึงถึงความพร้อมของอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศ
       
       
นอกจากนี้ ควรกำหนดให้น้ำมันดีเซล บี3 ซึ่งมีการเติมสัดส่วนของไบโอดีเซลสูงขึ้น ให้เป็นมาตรฐานสำหรับผู้ใช้ ตั้งแต่ 1 เมษายนปีหน้า และปรับเป็น บี4 และ บี5 ในปีถัดไป เพราะการตึงตัวของน้ำมันปาล์มดิบลดลงไปมากปิยสวัสดิ์ผวารัฐสั่งถอน ปตท.ออกจากตลาดหุ้น ค้ากำไรเกินควร บนหลังคนไทย ดำเนินธุรกิจแบบผูกขาดทั้งก๊าซและน้ำมัน แถมมีแหล่งผลิตในประเทศ แต่คนไทยต้องใช้เชื้อเพลิงแพงกว่าตลาดโลก แนะให้ยกเลิกภาษีน้ำมัน-ลอยตัวก๊าซแอลพีจีอ้างราคาตอนนี้ ถือว่าถูกมากแล้วแล้ว พร้อมสนับสนุนการปรับขึ้นราคาก๊าซเอ็นจีวีกิโลกรัมละ 11 บาท
       
       
นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ประธานที่ปรึกษามูลนิธิพลังงานเพื่อสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงแนวคิดรัฐบาลที่จะเพิกถอน บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ออกจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เนื่องจากที่ผ่านมา ปตท.ไม่สามารถดูแลผู้บริโภคได้ ทั้งราคาน้ำมัน และราคาก๊าซในประเทศ ที่ต้องใช้สูงกว่าตลาดโลก โดยช่วงที่ตลาดโลกปรับขึ้น ปตท.กลับประกาศขึ้นราคาทุกวัน แต่พอราคาในตลาดโลกลดลง ปตท.กลับไม่ค่อยปรับราคาลงตามตลาดโลก ทั้งที่เป็นผู้ทำธุรกิจผูกขาด
       
       
นายปิยสวัสดิ์ ให้เหตุผลในการคัดค้านการเพิกถอน ปตท.ออกจากตลาดหุ้น โดยเสนอแนะให้รัฐบาลใช้ทางเลือกอื่น อาทิ การกำหนดกฎเกณฑ์ในการกำกับดูแลเพื่อให้เป็นธรรมแก่บริโภคและผู้ลงทุน ซึ่งต้องเร่งดำเนินการ คือ การออกกฎเกณฑ์ และระเบียบต่างๆ ในการกำกับดูแลกิจการก๊าซธรรมชาติของ ปตท.เพื่อให้การประกอบธุรกิจ การกำหนดราคาและเงื่อนไขในการจำหน่ายก๊าซให้มีความโปร่งใส เป็นธรรม ไม่เลือกปฏิบัติ ไม่เป็นการสร้างการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม มีคุณภาพบริการที่ดี
       
       
นอกจากนี้ นายปิยสวัสดิ์ ยังได้เสนอมาตรการที่รัฐบาลควรดำเนินการใน 99 วันแรกของปีหน้า โดยแนะนำว่า รัฐบาลควรลอยตัวก๊าซหุงต้ม (LPG) โดยสั่งยกเลิกการกำหนดราคาก๊าซ LPG ทั้งภาคขนส่งและครัวเรือน เพราะไม่สามารถควบคุมการลักลอบถ่ายเทก๊าซ และจำมีการปลอมแปลงเอกสาร เพื่อขอรับเงินส่วนต่างจากอัตรากองทุนที่อุดหนุนราคาที่ต่างกัน
       
       
นายปิยสวัสดิ์ กล่าวถึงเหตุผลในการประกาศลอยตัว LPG เพราะเป็นช่วงที่ราคาน้ำมันลดลง จากระดับสูงสุดที่ 924 ดอลลาร์ต่อตัน เมื่อเดือนกรกฎาคม 2551 ที่ผ่านมา เหลือเพียง 338 ดอลลาร์ต่อตัน ในเดือนธันวาคม 2551 หรือคิดเป็น 11.7 บาทต่อกิโลกรัม พร้อมแนะนำให้กำหนดสูตรราคา ณ โรงกลั่นที่ชัดเจน
       
       
ส่วนการปรับขึ้นราคาก๊าซ NGV ควรปฏิบัติตามเกณฑ์ของคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เช่น การปรับราคาจากกิโลกรัมละ 8 บาท 50 สตางค์ เพิ่มเป็นกิโลกรัมละ 11 บาท และปรับขึ้นไม่เกินครึ่งหนึ่งของราคาดีเซล เพราะราคาในปัจจุบันถูกเกินควรจากการอุดหนุน ถึงแม้จะปรับราคาขึ้นไปถึง 3 บาท 50 สตางค์ แต่ก็ยังถือว่าต่ำกว่าดีเซล
       
       
นอกจากนี้ นายปิยสวัสดิ์ ยังเสนอให้รัฐบาลปรับภาษีสรรพาสามิตน้ำมันมาอยู่ระดับเดิมในทันที ซึ่งอาจมีผลกระทบกับราคาขายปลีกบ้าง แต่ก็สามารถลดการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน
       
       
ส่วนนโยบายพลังงานทดแทนควรเร่งส่งเสริมแก๊สโซฮอล์ อี 20 และอี 10 ที่มีค่าออกเทน 91 ให้มีการใช้เพิ่มขึ้น สำหรับน้ำมันอี 85 ควรวางแผนระยะยาว เพราะต้องคำนึงถึงความพร้อมของอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศ
       
       
นอกจากนี้ ควรกำหนดให้น้ำมันดีเซล บี3 ซึ่งมีการเติมสัดส่วนของไบโอดีเซลสูงขึ้น ให้เป็นมาตรฐานสำหรับผู้ใช้ ตั้งแต่ 1 เมษายนปีหน้า และปรับเป็น บี4 และ บี5 ในปีถัดไป เพราะการตึงตัวของน้ำมันปาล์มดิบลดลงไปมาก

- - - - - - - - - - - - - - - - - -

พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ                

นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

โทร. 02-990-0331

http://www.apdi2002.com

http://www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ สมาคมคนพิการ

2512510037     

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2008-12-25 00:37:35 IP : 124.121.139.142


ความคิดเห็นที่ 2 (2954598)

น้ำมันลดราคา "แอลพีจี-ซีเอ็นจี" หยุดแจ้งเกิด

 

พิษสงของราคาน้ำมันที่ผันผวนเอาแน่นอนไม่ได้ในช่วง 6-8 เดือนเแรกของปี 2551 ทำเอาคนใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิงภาคขนส่ง เพื่อการพาณิชย์ รวมถึงภาคการเกษตร ต้องแบกภาระหนักอึ้ง เนื่องจากต้องจ่ายค่าน้ำมันแพง เพราะราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกพุ่งทะยาน สร้างสถิติใหม่สูงถึง 147 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล (1 บาร์เรล=159 ลิตร)
 
วิกฤติการณ์ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกแพง ทำให้ราคาขายน้ำมันปลีกในประเทศไทยสูงขึ้นตามไปอย่างอัตโนมัติ โดยดีเซลขึ้นไปแตะที่ลิตรละ 44 บาท เบนซินเฉียด 40 บาท ส่งผลกระทบกับคนส่วนใหญ่ต้องหาทางเลือก ทางรอดให้ตัวเองด้วยการหันมาใช้เชื้อเพลิงธรรมชาติ หรือพลังงานทางเลือก หรือที่เรียกกันติดปากว่า เอารถไปติดแก๊สโดยแก๊สที่ว่าก็คือ ก๊าซแอลพีจี (ก๊าซที่นำไปใช้หุงต้มในครัวเรือน) และ ก๊าซซีเอ็นจี (ก๊าซธรรมชาติอัด) ซึ่งสามารถนำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับรถยนต์ และมีราคาถูกกว่าน้ำมันเกินครึ่ง ทำให้กระแสความนิยมนำรถยนต์ส่วนบุคคลและรถยนต์ที่ใช้ในการขนส่งไปติดแก๊สแอลพีจีและซีเอ็นจี กันเป็นจำนวนมาก ถึงขั้นต้องจับจองคิวเพื่อติดตั้งแก๊สกันนานเป็นเดือนสองเดือน
 
ความต้องการในการหาพลังงานทดแทน เพื่อประหยัดเงินในกระเป๋า ทำให้คนส่วนใหญ่ ยอมลงทุนควักเงินหลายหมื่นบาท ติดตั้งระบบเครื่องยนต์ให้ใช้แอลพีจีและซีเอ็นจี ได้โดยบรรดาร้านติดตั้งระบบแอลพีจีและซีเอ็นจี รวมถึงปั๊มเติมก๊าซทั้ง 2 ชนิด ผุดขึ้นราวกับดอกเห็ด เพื่อรองรับกับความต้องการที่เกิดขึ้น ขณะที่คนที่นำรถไปติดตั้งแก๊สต้องเข้าคิว หรือกระทั่งเข้าคิวรอเติมก๊าซนาน เพื่อเป้าหมายสูงสุด ประหยัดค่าใช้จ่าย
 
อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบราคาน้ำมัน เมื่อช่วง 7-8 เดือนแรกของปีที่ผ่านมา กับราคาก๊าซแอลพีจีและก๊าซซีเอ็นจีถูกแพงต่างกันโดยสิ้นเชิง โดยก๊าซแอลพีจี ราคากก.ละ 11-12 บาท ส่วนซีเอ็นจี ราคากก.ละ 8.50 บาท แต่มติคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติให้ราคาซีเอ็นจีปรับขึ้นได้ถึง 12 บาท ในวันที่ 1 ม.ค. 2552 ซึ่งเรื่องนี้ทาง ปตท. มีแผนปรับราคาก๊าซซีเอ็นจีใหม่ เป็น กก.ละ 12 บาท แม้ว่าทุกอย่างเป็นไปตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ     (กพช.) และมติคณะรัฐมนตรีก็ตาม แต่ต้องชะงัก เพราะเสียงส่วนใหญ่คัดค้านมากกว่าเห็นชอบ
 
กระแสนิยมนำรถมาติดตั้งก๊าซแอลพีจีและซีเอ็นจี แรงได้ไม่นาน ราคาน้ำมันถึงคราวผันผวน ปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง ด้วยนานาปัจจัยทั้งความต้องการน้ำมันในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และจีน ที่ลดลง รวมถึงปัญหาซับไพร์ม การล้มละลายของสถาบันการเงินในสหรัฐอเมริกา ปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก ทำให้ตลาดน้ำมันตกต่ำ ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกลดลง
 
ซึ่งราคาน้ำมันดิบลดลงด้วยปัจจัยทั้งปวง พลอยทำให้ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ขายปลีกในประเทศไทยลดลง ความจำเป็นในการพึ่งพาก๊าซแอลพีจีและซีเอ็นจี ย่อมน้อยลงตาม คนที่ยิ้มออกคือ ผู้ใช้รถยนต์ที่พึ่งน้ำมันเป็นเชื้อเพลิงหลัก แต่คนที่กระอักคือ เจ้าของร้านที่รับติดตั้งระบบก๊าซแอลพีจีและซีเอ็นจี ที่เจอวิกฤติงานไม่เข้า ลูกค้าเงียบและหายไปจนหลายรายต้องปิดกิจการหันไปทำธุรกิจอย่างอื่น
 
สภาพการณ์เช่นนี้ไม่มีใครบ่งบอกอารมณ์ และความรู้สึกที่เกิดขึ้นได้ดีเท่ากับผู้ประกอบธุรกิจด้านนี้ อุษณีย์ ติรณะประกิจเจ้าของบริษัท แอลพีจี ออโต้แก๊ส จำกัด เธอเล่าว่า ในช่วงที่น้ำมันมีราคาแพง ระหว่างเดือน พ.ค.-ก.ค. 2551 เป็นช่วงที่ลูกค้านำรถยนต์มาติดตั้งระบบซีเอ็นจีและแอลพีจีจำนวนมากถึงขั้นต้องจองคิวล่วงหน้า ส่วนถังก๊าซขาดตลาดไม่เพียงพอกับความต้องการ ส่วนทีมช่างต้องทำงานกันตั้งแต่เวลา 08.30-23.00 น. เพื่อติดตั้งระบบให้เสร็จสมบูรณ์ แต่ในระยะหลังภาครัฐมีนโยบายไม่แน่นอนเกี่ยวกับการส่งเสริมการใช้พลังงานทางเลือก และราคาน้ำมันเริ่มลดลง ในขณะที่ราคาแอลพีจีและซีเอ็นจีขยับสูงขึ้น ทำให้คนที่มีรถยนต์ส่วนบุคคลหันมาใช้น้ำมันมากขึ้น ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลต้องพึ่งซีเอ็นจีและแอลพีจีอีกต่อไป
 
ตอนนี้ร้านที่ติดตั้งระบบซีเอ็นจีและแอลพีจี เรียกว่าใครอยู่ได้ก็อยู่ไป เพราะไม่มีแรงจูงใจให้ลูกค้ามาติดตั้งระบบการใช้ซีเอ็นจีหรือแอลพีจี กับรถยนต์ของเขาแล้ว ส่วนร้านที่ต้องเสียค่าเช่าสถานที่ เกิดไม่มีลูกค้า ยิ่งอยู่ลำบาก เพราะค่าใช้จ่ายสูง ทางเราเองยังพอมีลูกค้าบ้าง แต่ถือว่าเงียบมาก ซึ่งร้านยอมลดราคาให้กับลูกค้า หรือไม่แพงเหมือนตอนกระแสแรง ๆ บางทียอมขาดทุน หากมีลูกค้านำรถยนต์มาติดตั้งจะมีการตกลงราคากันก่อน ส่วนจะลดให้มากน้อยแค่ไหนต้องดูตามสภาพรถยนต์หรือองค์ประกอบอื่น ๆ
 
คุณเปีย ลูกจ้างของร้านติดตั้งระบบซีเอ็นจีและแอลพีจีใหญ่แห่งหนึ่งย่านวรจักร เล่าด้วยความหนักใจว่า   “ตั้งแต่น้ำมันราคาถูกลง ไม่มีลูกค้ารายใหม่นำรถยนต์มาติดตั้งก๊าซซีเอ็นจีและแอลพีจีเลย เงียบมาก พอไม่มีลูกค้า ทำให้ลูกจ้างหลายคนลาออกไปทำไร่ทำนาที่ต่างจังหวัด ตอนนี้เรียกว่าช่างไม่มีงานทำ จากที่เคยทำงาน 7-8 คนเหลือ 2 คนเท่านั้น เจ้าของร้านไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะไม่มีลูกค้า แต่ยังหวังว่าทุกอย่างจะดีขึ้น
 
ราคาน้ำมันในวันนี้อาจลดลงแบบฮวบฮาบให้บรรดาคนใช้รถยนต์ได้หายใจโล่งมากขึ้น ทว่าทุกอย่างในโลกมีขึ้นมีลงเป็นสัจธรรม ทางที่ดีคือการสร้างสำนึกและสร้างวินัยในการช่วยกันใช้พลังงานบนโลกนี้อย่างประหยัดเป็นสิ่งสำคัญที่สุด.

 

- - - - - - - - - - - - - - - - - -                                      

พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ                

นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

โทร. 02-990-0331

http://www.apdi2002.com

http://www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ สมาคมคนพิการ

2812512304     

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2008-12-28 23:03:52 IP : 124.122.241.236


ความคิดเห็นที่ 3 (2958591)

ปตท.ลั่นไม่ปรับราคาน้ำมัน สัปดาห์นี้ เอ็นจีวี-แอลพีจี

โดนใช้เป็นตัวประกัน

 

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์   9 มกราคม 2552

 

 

ปตท.ยืนยัน ไม่ปรับราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศ สัปดาห์นี้ แม้ราคาในตลาดโลกจะปรับลง 4-5 ดอลลาร์/บาเรล ต่อเนื่อง 2 วันซ้อน และค่าการตลาดอยู่ในระดับต่ำ อ้างไม่มั่นใจสถานการณ์สัปดาห์หน้า ส่วนการปรับลดราคาก๊าซ แอลพีจี-เอ็นจีวีเพื่อให้สะท้อนต้นทุนจริง ปตท.เป็นผู้รับภาระกรณีนำเข้าสูงถึง 8 พันล้าน ซึ่งได้ลงบัญชีในฐานะเจ้าหนี้ไปแล้ว หากรัฐบาลนำเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมาทยอยชำระโดยไม่จ่ายดอกเบี้ย ก็จะไม่กระทบต่อรายได้แสนล้านในปีนี้ คาดต้นทุนบริหารที่ผิดพลาด โดนผลักภาระให้ประชาชนตามเคย
       
       
วันนี้ (09 มกราคม 2552) นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สัปดาห์นี้ ปตท.จะยังไม่ปรับขึ้นราคาน้ำมัน แม้ค่าการตลาดจะอยู่ในเกณฑ์ต่ำกว่าที่ควรจะเป็น โดยมีค่าเฉลี่ยประมาณ 50-70 สตางค์ต่อลิตรก็ตาม ล่าสุด มีข่าวดีน้ำมันตลาดโลกลดลง 4-5 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล แต่หากราคาตลาดโลกสัปดาห์หน้าปรับขึ้นอีกก็คงจะต้องพิจารณาใหม่ว่าจำเป็นต้องปรับขึ้นหรือไม่
       
       
ส่วนราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) และก๊าซเอ็นจีวี จะมีการปรับเปลี่ยนอย่างไร นายประเสริฐ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับนโยบายรัฐบาล ซึ่งคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) จะมีการพิจารณาในสัปดาห์หน้า โดยในส่วนของแอลพีจี ขณะนี้ ปตท.เป็นผู้รับภาระกรณีนำเข้ามาให้ก่อนประมาณ 8,000 ล้านบาท ซึ่ง ปตท.ได้ลงบัญชีในฐานะเจ้าหนี้ไปแล้ว ดังนั้น หากกระทรวงพลังงานจะนำเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมาทยอยชำระโดยไม่จ่ายดอกเบี้ย ก็จะไม่กระทบต่อรายได้ปีนี้
       
       
ส่วนก๊าซเอ็นจีวีที่ตรึงราคา 8.50 บาทต่อกิโลกรัม ตั้งแต่ปี 2546 นายประเสริฐ กล่าวว่า เดิมจะมีการปรับขึ้นปีนี้ในสัดส่วนไม่เกินครึ่งหนึ่งของราคาดีเซล แต่หากไม่ปรับขึ้นเลย จะส่งผลกระทบต่อการขยายการลงทุนเพื่อบริการประชาชนในอนาคต เนื่องจาก ปตท.หรือผู้ประกอบการรายอื่นที่สนใจเข้ามาลงทุนขยายเครือข่ายเอ็นจีวี จะต้องชะลอการลงทุนใหม่ เพราะไม่มีผู้ประกอบการรายใดสามารถเข้ามาแบกรับภาระขาดทุนได้ตลอด
       
       “
เป็นที่ทราบดีว่าต้นทุนเฉลี่ยปีนี้จะสูงประมาณ 12 บาทต่อกิโลกรัม ขณะที่ผ่านมา ปตท.รับภาระเรื่องนี้วงเงินสูงไม่ต่ำกว่า 4,000 ล้านบาทต่อปี ประกอบกับปีนี้ฐานะการทำธุรกิจของบริษัทพลังงานโดยรวมคงอยู่ในภาวะลำบากกว่าปีที่แล้ว เพราะมาร์จิ้นหรือกำไรของธุรกิจต่างๆ ไม่ว่าปิโตรเคมี โรงกลั่นน้ำมัน ล้วนแต่มีภาระสูงขึ้น โดยเฉพาะการขาดทุนจากการสตอกน้ำมันในคลังที่มีภาระสูงมากจนทำให้ไตรมาส 4 ปี 2551 เกิดปัญหาขาดทุนและปี 2552 เป็นปีที่ทั่วโลกได้รับผลกระทบเศรษฐกิจ บริษัทพลังงานก็จะได้รับผลกระทบไปด้วย
       
       
นายประเสริฐ ระบุว่า ทุกภาคส่วนมีภาระด้วยกันทั้งหมด ไม่ว่า ประชาชน รัฐบาล กระทรวงการคลัง ปตท.ซึ่งคงจะต้องมีการพิจารณาว่าจะมีการจัดการเรื่องนี้ให้สมดุลได้อย่างไร โดยขณะนี้ ปตท.ยังไม่ได้จัดทำตัวเลขว่าควรจะปรับขึ้นเอ็นจีวีเท่าใด และเมื่อไร โดยจะต้องหารือกับรัฐบาลก่อน
       
       
นายประเสริฐ ยังกล่าวถึงการลงนามสัญญาเงินกู้ระหว่างบริษัท พีทีที ฟีนอล จำกัด ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารทหารไทย และธนาคารออมสิน วงเงิน 4,250 ล้านบาท เพื่อใช้ในการก่อสร้างโครงการบิสฟีนอลเอ โดยระบุว่า เป็นโครงการต่อเนื่องจากโครงการฟีนอล ปัจจุบันก่อสร้างเสร็จแล้ว ใช้เงินลงทุนรวม 8,500 ล้านบาท มาจากกลุ่มธนาคาร 4,250 ล้านบาท ที่เหลือมาจากผู้ถือหุ้น ได้แก่ ปตท. บริษัท ปตท.เคมีคอล จำกัด (มหาชน) และบริษัท ปตท.อะโรเมติกส์และการกลั่น จำกัด (มหาชน)
       
       
ทั้งนี้ โครงการบิสฟีนอลเอ เป็นการผลิตเม็ดพลาสติกวิศวกรรมที่มีคุณค่าสูงใช้ในหลายอุตสาหกรรม เช่น ยานยนต์ เครื่องมือแพทย์ คอมพิวเตอร์ แผ่นซีดี-ดีวีดี มีกำลังการผลิต 150,000 ตันต่อปี คาดว่า จะก่อสร้างแล้วเสร็จกลางปี 2553

* * * * * * * * * * * *

พันตรีศิริชัย  ทรัพย์ศิริ

สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

www.waddeeja.com

Tel. 02-990-0331

1001521602

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2009-01-10 16:02:11 IP : 124.121.136.94


ความคิดเห็นที่ 4 (2959281)

สุรปขึ้นราคา LPG ศุกร์นี้

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์  12 มกราคม 2552

 

รมว.พลังงาน แย้มขึ้นราคาก๊าซ แอลพีจีรู้ผลสรุป 16 ม.ค.นี้ คาดไม่ถึง 6 บาท/กก.หลังราคาตลาดโลกวูบเหลือตันละ 380 ดอลลาร์ และยอดนำเข้าลดลง 2 แสนตัน
       
       
นายแพทย์ (นพ.) วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังมอบนโยบายข้าราชการกระทรวงพลังงาน โดยระบุว่า ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ในวันที่ 16 มกราคม 2552 นี้ กระทรวงจะมีการพิจารณาเรื่องการปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) สำหรับภาคอุตสาหกรรมและภาคขนส่ง
       
       
นพ.วรรณรัตน์ ราคาก๊าซแอลพีจีภาคขนส่ง มีแนวโน้มจะปรับขึ้นแน่นอน พร้อมระบุว่า ราคาคงไม่ถึง 6 บาทต่อกิโลกรัม ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) รัฐบาลชุดก่อน ขณะที่ราคาแอลพีจีสำหรับภาคครัวเรือน กระทรวงพลังงานยังคงตรึงราคาต่อไปตามนโยบายรัฐบาล เพื่อบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน
       
       
นพ.วรรณรัตน์ ยังเชื่อว่า แม้จะมีการปรับขึ้นราคาแอลพีจีภาคขนส่ง ก็จะไม่เกิดปัญหาการถ่ายเทก๊าซจากภาคครัวเรือนไปใช้ในภาคขนส่ง เนื่องจากราคาไม่แตกต่างกัน และปัจจุบันราคานำเข้าก๊าซแอลพีจีลดลงมาก จากที่เคยนำเข้าสูงถึง 900 ดอลลาร์ต่อตัน ช่วงปลายปีที่แล้ว มาอยู่ที่ 380 ดอลลาร์ต่อตัน และปริมาณนำเข้าก็ลดลงจากประมาณ 60,000 ตันต่อเดือน เหลือแค่ 40,000 ตันต่อเดือน
       
       
อย่างไรก็ตาม คงต้องมีการทบทวนโครงสร้างราคาก๊าซแอลพีจี สำหรับภาคครัวเรือนและภาคอุตสาหกรรม แต่ขอเตือนว่าหากมีการถ่ายเทจะทำให้เกิดอันตราย ซึ่งกระทรวงพลังงานมั่นใจจะสามารถดูแลได้ สำหรับราคาก๊าซธรรมชาติ (เอ็นจีวี) นั้น กระทรวงพลังงานยืนยันชะลอการปรับขึ้นราคาเพื่อลดรายจ่ายประชาชน

                                                                                                                                                     

- - - - - - - - - - - - - - - - - -

พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ                

นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

โทร. 02-990-0331            

http://www.apdi2002.com

http://www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ สมาคมคนพิการ

1201522053     

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2009-01-12 20:54:03 IP : 124.121.144.68


ความคิดเห็นที่ 5 (2960486)

คาดปรับขึ้น LPG ภาคขนส่ง 2 บาท พรุ่งนี้ ส่วนต่างใน-ตปท. 1.5-2.0 บาท โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์  15 มกราคม 2552

                                                                                                                                                      

รมว.พลังงาน คาดที่ประชุม กพช.พรุ่งนี้ ปรับขึ้นราคาก๊าซ LPG กลุ่มขนส่ง-อุตฯ ไม่เกิน 2 บาท/กก. โดยตรึงราคาภาคครัวเรือน เผยส่วนต่างราคาในประเทศและตลาดโลก 1.50-2.00 บาท/กก.
       
       
นายแพทย์ (นพ.) วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน คาดว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) ในวันพรุ่งนี้จะอนุมัติประกาศแยกโครงสร้างราคาก๊าซหุงต้ม(แอลพีจี) ออกเป็น 2 กลุ่ม โดยตรึงราคาก๊าซที่จำหน่ายให้กับผู้ใช้ในภาคครัวเรือน และปรับขึ้นราคาก๊าซที่จำหน่ายให้กับภาคขนส่งและอุตสาหกรรม แต่คาดว่าจะปรับขึ้นไม่เกิน 2 บาทต่อกิโลกรัม
       
       "
คาดว่าไม่เกินกิโลกรัมละ 2 บาท ถ้าปรับราคา ณ ตอนนี้ จากมติเดิมของ กพช.ที่ให้ปรับกิโลกรัมละ 6 บาท เนื่องจากราคาในตลาดโลกมีส่วนต่างจากราคาในประเทศประมาณ 1.50-2.00 บาทต่อกิโลกรัม"
       
       
ก่อนหน้านี้ กระทรวงพลังงานยืนยันว่าเตรียมเสนอให้มีการปรับโครงสร้างราคาแอลพีจีเป็น 2 กลุ่ม โดยในส่วนของภาคครัวเรือนจะยังคงตรึงราคาต่อไป แต่ในภาคขนส่งและอุตสาหกรรมจะต้องมีการพิจารณาปรับขึ้นอย่างแน่นอน โดยราคาในตลาดโลกเฉลี่ยในเดือน มกราคม 2552 อยู่ที่ประมาณ 380 ดอลลาร์ต่อตัน ขณะที่ราคาในประเทศไทยอยู่ที่ประมาณ 340 ดอลลาร์ต่อตัน (ราคาหน้าโรงกลั่นที่ 315 ดอลลาร์ต่อตัน บวกค่าขนส่ง)
       
       
อย่างไรก็ตาม กระทรวงพลังงานจะเสนอแนวทางในการปรับราคาเป็นหลายรูปแบบ และขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของที่ประชุม กพช.

- - - - - - - - - - - - - - - - - -

พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ                

นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

โทร. 02-990-0331            

http://www.apdi2002.com

http://www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ สมาคมคนพิการ

1301521911           

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2009-01-15 19:11:11 IP : 124.121.141.129


ความคิดเห็นที่ 6 (2960946)

กพช.มีมติ ตรึงราคาก๊าซ "LPG-NGV" ไม่มีกำหนด

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์  16 มกราคม 2552                                                             

 

นายวรรณรัตน์ ชาญนุกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้มีการตรึงราคาก๊าซ LPG และ NGV โดยไม่มีกำหนด จากเดิมที่จะมีการปรับขึ้นราคากิโลกรัมละ 2 บาท เนื่องจากขณะนี้ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว และไม่ต้องการให้ประชาชนได้รับผลกระทบ
       
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบในหลักการให้ใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงบรรเทาผลกระทบจากราคาน้ำมันที่จะสูงขึ้นจากการปรับเพิ่มภาษีสรรพสามิตในวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ โดยจะปรับลดการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ ให้ราคาขายปลีกเพิ่มขึ้นประมาณ 1 บาทต่อลิตรก่อน หลังจากนั้นจะทยอยปรับเพิ่มขึ้น โดยคาดว่าจะมีการปรับประมาณ 3-4 ครั้ง ในช่วงเวลา 2 เดือน
       
รวมทั้ง ที่ประชุมยังได้มีการพิจารณาแผนการพัฒนากำลังไฟฟ้าของประเทศใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันด้วย

 

- - - - - - - - - - - - - - - - - -

พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ                

นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

โทร. 02-990-0331            

http://www.apdi2002.com

http://www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ สมาคมคนพิการ

1601522127     

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2009-01-16 21:27:37 IP : 124.121.78.174


ความคิดเห็นที่ 7 (2961252)

ปตท.โวยถูกเบรกขึ้นราคาก๊าซ "แอลพีจี-เอ็นจีวี" ทวงหนี้กองทุนน้ำมัน

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์  17 มกราคม 2552

 

ผู้บริหาร ปตท.โวยรัฐสั่งชะลอขึ้นราคาก๊าซ "แอลพีจี-เอ็นจีวี" แบ่งเบาภาระค่าครองชีพประชาชน หวั่นความนิยมใช้เพิ่มขึ้น ปตท. อาจต้องสั่งนำเข้า 5 แสน ถึง 1 ล้านตัน ในปี 52 พร้อมจี้รัฐเร่งนำเงินกองทุนมาจ่ายชดเชย "มาร์ค" แจงรัฐเบรกขึ้นราคาก๊าซ เพราะสวนทางกับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ยันสถานการตลาดโลกเปลี่ยน ก็สามารถพิจารณาใหม่ได้ เพราะไม่ได้เปลี่ยนหลักการ เพียงแต่จังหวะเวลาไม่เหมาะสม ตอกสมมติฐานที่ ปตท.ตั้งไว้ ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง
       
       
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงการที่รัฐบาลส่งให้ชะลอการปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) และเอ็นจีวี อย่างไม่มีกำหนด เพื่อแบ่งเบาภาระค่าครองชีพของประชาชน ตนเองเข้าใจถึงจุดประสงค์ของรัฐบาลที่ต้องการให้ประชาชนได้รับมาตรการช่วยเหลือทุกภาคส่วน ซึ่งในขณะนี้ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจชะลอตัว
       
       
ทั้งนี้ ปตท.ก็พร้อมที่จะปฏิบัติตาม แต่หากไม่มีกำหนดระยะเวลาที่ชัดเจนแล้ว อนาคตปริมาณการนำเข้าแอลพีจีจะต้องเพิ่มขึ้น โดยคาดว่าปี 2552 ต้องนำเข้าประมาณ 5 แสนถึง 1 ล้านตัน ซึ่งในปี 2551 ที่ผ่านมา ปตท.นำเข้าสูงถึง 4 แสนตัน มูลค่าประมาณเกือบ 9 พันล้านบาทแล้ว
       
       
โดยที่ผ่านมา คณะกรรมการ (บอร์ด) ปตท.ได้กำหนดกรอบด้านการเงิน เพื่อนำเข้าแอลพีจีประมาณ 10,000 ล้านบาท ดังนั้น หากภาระการนำเข้ามาก่อนสูงกว่ามูลค่าที่กำหนด ก็คงจะต้องหารือกันในคณะกรรมการอีกครั้งว่าจะทำอย่างไร โดยเบื้องต้นแนวทางที่ดีที่สุด คือ ภาครัฐควรเร่งนำเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมารับภาระนำเข้าแทน ปตท.เพื่อไม่ให้เกิดภาระมากเกินไป
       
       “
หากปีนี้ส่วนต่างราคาแอลพีจีในและต่างประเทศ อยู่ประมาณ 100 ดอลลาร์ต่อตัน ก็คาดว่า ภาระนำเข้าจะอยู่ประมาณ 2,000- 3,000 ล้านบาท แต่สิ่งที่น่ากังวลคือหากความนิยมใช้แอลพีจีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ภาระของประเทศต้องเพิ่มขึ้น ทั้งในแง่ต้องนำเข้าแอลพีจีที่เพิ่มสูงขึ้นตลอด ขณะที่โรงกลั่นน้ำมันต้องส่งออกน้ำมัน ภาระค่าขนส่งก็จะเพิ่มเป็น 2 เด้ง
       
       
นายประเสริฐ กล่าวว่า ในส่วนของเอ็นจีวีที่มีภาระเพิ่มขึ้นจากการที่ไม่ได้ปรับราคานั้น ซึ่งมีประมาณ 4,000 ล้านบาทต่อปี ในส่วนนี้จะรวมอยู่ในผลประกอบการสุดท้าย ภาครัฐที่ถือหุ้นใน ปตท.ร้อยละ 67 ก็จะได้รายได้จาก ปตท.ลดน้อยลงไปด้วย และยังกระทบต่อการขยายงานการลงทุนในอนาคตของผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับเอ็นจีวีทั้งหมด ซึ่งเมื่อประชาชนมีภาระ ภาครัฐดูแลประชาชนก็มีภาระ ในขณะที่ ปตท.มีภาระการลงทุนในอนาคต ก็ควรจะพิจารณาให้รอบคอบว่าจะสร้างความสมดุลเหล่านี้อย่างไร
       
       
โดยวานนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) มีมติให้ชะลอการปรับขึ้นราคาแอลพีจีและเอ็นจีวีออกไปอย่างไม่มีกำหนด โดยระบุว่า ในภาวะเศรษฐกิจเป็นเศรษฐกิจขาลง หากรัฐบาลขึ้นราคา ทั้งที่ความจำเป็นเปลี่ยนแปลงไปแล้ว ก็จะทำให้กระทบกับค่าครองชีพของประชาชน และเป็นปัญหาสวนทางกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
       
       
ดังนั้น รัฐบาลจึงให้ชะลอไป แต่หากวันข้างหน้าราคาน้ำมันในตลาดโลกเปลี่ยนแปลง มีปัญหาที่จะต้องนำเข้าอีกหรือไม่ ก็สามารถที่จะพิจารณากันได้ เพราะไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงหลักการ เพียงแต่จังหวะเวลาไม่เหมาะสม และสมมติฐานที่ตั้งไว้ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง

- - - - - - - - - - - - - - - - - -            

พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ                                                    

นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล                                                  

โทร. 02-990-0331            

http://www.apdi2002.com

http://www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ สมาคมคนพิการ

1701522116               

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2009-01-17 21:16:16 IP : 124.121.135.217


ความคิดเห็นที่ 8 (2969076)

ปตท.บีบรัฐขึ้นราคาก๊าซ LPG ฉวยจังหวะกองทุนฯ ถูกผูกเงื่อนตาย  โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์  6 กุมภาพันธ์ 2552

 

บิ๊ก ปตท.กระทุ้งรัฐประกาศขึ้นราคาก๊าซ "แอลพีจี" คาดภายใน 2-3 เดือน ต้องแบกภาระนำเข้าเต็มเพดาน 1 หมื่นล้าน และใกล้หมดภาระการขึ้นภาษีน้ำมัน รัฐต้องใช้กองทุนฯ เข้ามาอุ้มราคาก๊าซแทน พร้อมยอมรับ โครงสร้างราคาถูกบิดเบือนมาโดยตลอด หลังถูกรัฐบาลทักษิณจับแปรรูปเข้าตลาดหุ้น เพราะถูกมองว่าเป็นธุรกิจผูกขาด สามารถสร้างผลกำไรที่งดงาม
       
       
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท.จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงนโยบายให้ชะลอการขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) เพื่อแบ่งเบาภาระค่าครองชีพประชาชน ทำให้ ปตท.มีภาระการสั่งนำเข้าก๊าซเพิ่มขึ้น โดยคาดว่าภายใน 2-3 เดือนนี้ ปตท.ต้องแบกรับส่วนต่างราคานำเข้าเต็มเพดานที่ระดับ 10,000 ล้านบาท ซึ่งหากในอนาคตมีการใช้เกินเพดาน ก็ต้องเข้าที่ประชุมผู้ถือหุ้นว่าจะขยายเพดานเพิ่มอีกหรือไม่
       
       "
ผมมองว่า การขยายเพิ่มเพดานนำเข้า คงทำได้ลำบาก และหากว่า หมดภาระการขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมันแล้ว กระทรวงพลังงานต้องใช้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เข้ามาบริหารหนี้ส่วนนี้ ยิ่งขึ้นราคาก๊าซหุงต้มเร็ว ภาระของกองทุนน้ำมันก็ลดลงเร็ว"
       
       
นายประเสริฐ ยืนยันว่า ปตท.จะอุดหนุนภาระส่วนต่างการนำเข้าก๊าซหุงต้มแค่ 10,000 ล้านบาท หากเกินกว่านี้ก็เป็นหน้าที่ของรัฐบาล เพราะเป็นเรื่องของธรรมาภิบาลที่ต้องดูแลผู้ถือหุ้น และโครงสร้างราคาที่ผ่านมาผิดเพี้ยนไปมาก โดยราคาก๊าซหุงต้มหน้าโรงงานขายอยู่ที่ 19.25 บาทต่อกิโลกรัม ราคาขายปลีกอยู่ที่ 18.13 บาทต่อกิโลกรัม แต่ ปตท.ต้องรับภาระนำเข้าที่กำหนดเพดานราคาไว้ที่ 10 บาทต่อกิโลกรัม ทำให้ต้องรับภาระ 9 บาทต่อกิโลกรัม ที่ผ่านมารับภาระไปแล้ว 8-9 พันล้านบาท
       
       
นอกจากนี้ ถ้าราคาก๊าซหุงต้มต่ำเกินไป คนจะใช้มากขึ้น ทำให้กองทุนน้ำมันมีภาระมากขึ้น โดยคาดว่าปีนี้การนำเข้าจะใกล้เคียงปีก่อน 4-5 แสนตัน แต่ถ้ารัฐบาลใช้วิธีให้กองทุนน้ำมันฯ เข้าไปอุดหนุนต่อ ก็สามารถทำได้เหมือนในอดีตจนเป็นหนี้ 8-9 หมื่นล้านบาท สุดท้ายก็ไม่ไหว จึงควรพิจารณาโครงสร้างราคาให้เหมาะสมมากกว่า
       
       
ก่อนหน้านี้ มีการตั้งข้อสังเกตุมาโดยตลอดว่า ปตท.เป็นผู้ผลิตและผูกขาดก๊าซธรรมชาติรายใหญ่ และมีแหล่งวัตถุดิบผลิตได้เองภายในประเทศ แต่ทำไมต้องสั่งนำเข้าก๊าซธรรมชาติจากต่างประเทศ ในราคาแพง เพื่อเอามาให้คนไทยใช้ในประเทศ และถือเป็นข้อถกเถียงกันมาตลอด แต่ยังไม่มีการให้คำตอบที่ชัดเจน

 

- - - - - - - - - - - - - - - - - -            

พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ                

นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

โทร. 02-990-0331            

http://www.apdi2002.com

http://www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ สมาคมคนพิการ

0602521107           

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2009-02-06 11:07:53 IP : 124.121.136.90


ความคิดเห็นที่ 9 (2972446)

แนะลอยตัว "แอลพีจี" พยุงกระเป๋า ปตท. เล็งขึ้นราคาน้ำมัน 16 ก.พ.นี้  โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์  14 กุมภาพันธ์ 2552

                                          

อดีต รมว.พลังงาน แนะลอยตัวก๊าซ "แอลพีจี" หลังผู้บริหาร ปตท.กร้าวตรึงได้แค่เพดาน 1 หมื่นล้าน ขณะที่ผู้ค้าน้ำมัน ส่งสัญญาณปรับขึ้นราคาขายปลีก 16 ก.พ.นี้
       
       
นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวถึงสถานการณ์ราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ในตลาดโลก มีแนวโน้มปรับตัวลดลงต่อเนื่องตามราคาน้ำมันจากระดับ 900 ดอลลาร์ต่อตัน ช่วงครึ่งหลังปี 2551 ลงมาอยู่ที่ 400 ดอลลาร์ต่อตัน ในปัจจุบัน โดยแนะนำว่า รัฐบาลควรใช้โอกาสนี้ พิจารณาประกาศลอยตัวราคาก๊าซแอลพีจี
       
       
ก่อนหน้านี้ นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวข่มขู่รัฐบาลว่า ปตท.จะรับภาระส่วนต่างในการตรึงราคาก๊าซแอลพีจีในประเทศถึงเพดานที่ 10,000 ล้านบาท ตามมติของผู้ถือหุ้น โดยหลังจากนั้นให้เป็นภาระของรัฐบาลที่ตองไปดิ้นรน นำเงินจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเข้ามาอุดหนุนเอง
       
       
นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แผนแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่เพิ่งผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภา อาจจะส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ตลาดสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น และอาจส่งผลต่อราคาน้ำมันสำเร็จรูปที่ตลาดสิงคโปร์ ซึ่งไทยใช้ในการอ้างอิงราคาขายในประเทศ ส่วน ปตท.ยังรอพิจารณาราคาน้ำมันในตลาดโลก ก่อนที่จะตัดสินใจปรับราคาขายในวันจันทร์ที่จะถึงนี้

- - - - - - - - - - - - - - - - - -            

พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ                

นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

โทร. 02-990-0331                   

http://www.apdi2002.com

http://www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ สมาคมคนพิการ

1502520913    

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2009-02-15 09:13:36 IP : 124.121.141.9


ความคิดเห็นที่ 10 (2976617)

รถ NGV พลิกคว่ำ!! ถ.พระราม 5 แก๊สไหลนอง-ปิดการจราจรชั่วคราว  โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์  25 กุมภาพันธ์ 2552

 

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ดุสิต รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถบรรทุกแก๊สพลิกคว่ำบริเวณถนนพระราม 5 ขาออก ใกล้วัดประชาระบือธรรม เยื้องปั๊มน้ำมัน ปตท. เขตดุสิต จาการตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พบรถหกล้อของ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ซึ่งบรรทุกแก๊ส NGV ทะเบียน 98-3211 กทม. ตะแคงข้าง
       
สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุรถบรรทุกดังกล่าวได้เฉี่ยวชนกับรถยนต์ฮอนด้า สีดำ ทะเบียน ฌต 3284 กทม. ก่อนจะเสียหลักพุ่งไถลชนกับต้นไม้จนรถพลิกตะแคง แก๊ส NGV ที่บรรทุกมาจึงรั่วไหลลงพื้นถนน เป็นฟองควันสีขาวจำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงทำการปิดการจราจรบริเวณดังกล่าวชั่วคราว เนื่องจากเกรงจะเกิดอันตรายจากสารที่รั่วไหลออกมานั้น ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี พร้อมประสานรถดับเพลิงฉีดน้ำหล่อเลี้ยง เพื่อป้องกันการเกิดประกายไฟ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่
       
ทั้งนี้ ขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการใช้เส้นทางดังกล่าว เนื่องจากมีรถติดสะสมจำนวนมาก โดยเจ้าหน้าที่คาดว่าจะสามารถเปิดเส้นทางให้สัญจรได้อีกประมาณ 2 ชั่วโมง

- - - - - - - - - - - - - - - - - -            

พันตรีศิริชัย   ทรัพย์ศิริ                             

นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

โทร. 02-990-0331                   

http://www.apdi2002.com

http://www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ สมาคมคนพิการ

2502521025               

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2009-02-25 10:25:51 IP : 124.121.140.83


ความคิดเห็นที่ 11 (2978119)

กรมขนส่งฯ แจงไม่มี "อู่ติดก๊าซLPG" ในกทม.ผ่านเกณฑ์แม้แต่รายเดียว

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์  27 กุมภาพันธ์ 2552

 

กรมการขนส่งทางบก เผยยังไม่มี อู่รับติดตั้งแก๊สLPG ในกทม. ผ่านความเห็นชอบแม้แต่รายเดียว เตือนอู่ผู้รับติดตั้งก๊าซ LPG ในรถยนต์ รีบยื่นขอรับความเห็นชอบ ให้ถูกต้อง ตั้งแต่วันที่ 19 เม.ย. 52 เป็นต้นไป ผู้ไม่ได้รับความเห็นชอบจะติดตั้ง ก๊าซ LPG ในรถยนต์ไม่ได้

 

 นายเฉลิมไท ญาณภิรัต รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยถึงความคืบหน้าของมาตรการเพื่อความปลอดภัยในการใช้ก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) เป็นเชื้อเพลิงในรถยนต์ของ กรมการขนส่งทางบก ที่กำหนดให้ผู้ติดตั้งก๊าซ LPG ในรถยนต์ จะต้องได้รับความเห็นชอบจากกรมฯก่อน โดยให้ยื่นขอรับความเห็นชอบได้ ตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคม 2551 ที่ผ่านมา
       
       
ผลปรากฏว่า มีผู้มายื่นขอรับ ความเห็นชอบน้อยกว่าจำนวนที่เปิดให้บริการจริง กรมการขนส่งทางบก จึงขอให้ผู้ประสงค์เป็นผู้ติดตั้งก๊าซ LPG ในรถยนต์ รีบมาดำเนินการขอรับความเห็นชอบให้ถูกต้อง ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 19 เมษายน 2552 นี้ เป็นต้นไป ผู้ที่ไม่ได้รับความเห็นชอบจากกรมฯ จะติดตั้งก๊าซ LPG ในรถยนต์ให้แก่ประชาชนไม่ได้
       

       
นายเฉลิมไท กล่าวเพิ่มเติมว่า เฉพาะในกรุงเทพมหานคร มีผู้รับติดตั้งก๊าซ LPG ในรถยนต์ ซึ่งเป็นสมาชิกของสมาคมติดตั้งแก๊สไทย อยู่จำนวน 99 ราย และที่ไม่ได้เป็นสมาชิกสมาคม อยู่อีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งจนถึงปัจจุบัน (26 ก.พ. 52) มีผู้มายื่นขอรับความเห็นชอบกับกรมการขนส่งทางบกกว่า 30 ราย แต่ยังไม่มีผู้ได้รับความเห็นชอบเลยแม้แต่รายเดียว
       
       
ส่วนในต่างจังหวัดมีผู้ได้รับความเห็นชอบแล้วเพียงไม่กี่รายเท่านั้น ทั้งนี้ การให้ความเห็นชอบเป็นผู้ติดตั้งก๊าซ LPG ในรถยนต์ มีขั้นตอนการดำเนินการเกี่ยวกับเอกสารหลักฐาน และการตรวจประเมินสถานที่และเครื่องมือที่ใช้ในการติดตั้ง ซึ่งใช้ระยะเวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ ดังนั้น จึงขอให้ผู้ประสงค์เป็นผู้ติดตั้งก๊าซ LPG ในรถยนต์ที่ถูกต้อง รีบดำเนินการขอรับความเห็นชอบ เพื่อให้สามารถรับติดตั้งก๊าซ LPG แก่ประชาชนได้ทันเวลาตามที่กฎหมายกำหนดไว้ โดยหากอยู่ในกรุงเทพมหานคร ยื่นคำขอได้ที่ สำนักวิศวกรรมและความปลอดภัย อาคาร 6 ชั้น 3 กรมการขนส่งทางบก และในต่างจังหวัดให้ยื่นคำขอที่สำนักงานขนส่งจังหวัดที่สถานประกอบการตั้งอยู่
       
       
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ส่วนวิเคราะห์และทดสอบมลพิษรถยนต์ สำนักวิศวกรรมและความปลอดภัย กรมการขนส่งทางบก หมายเลขโทรศัพท์ 0-2272-5751-2 หรือ Call Center 1584 หรือที่สำนักงานขนส่งจังหวัดทั่วประเทศ

 

- - - - - - - - - - - - - - - - - -            

พันตรีศิริชัย    ทรัพย์ศิริ                             

นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

โทร. 02-990-0331                   

http://www.apdi2002.com

http://www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ สมาคมคนพิการ

0103521021    

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2009-03-01 10:21:01 IP : 124.121.139.68


ความคิดเห็นที่ 12 (3206390)
ugg boot boots online no surprise to those living in south louisiana that the tracks tendency is to revert to its original form of mudhole riders will find uggs ugg boot for sale
ผู้แสดงความคิดเห็น 1 (nvsbca-at-hushmail-dot-com)วันที่ตอบ 2010-08-25 02:41:59 IP : 125.121.215.19


ความคิดเห็นที่ 13 (3213115)
botas ugg botas ugg ugg on sale ugg on sale boots women boots women women"s boots women"s boots
ผู้แสดงความคิดเห็น 1 (wwvjof-at-gmx-dot-com)วันที่ตอบ 2010-09-21 21:23:25 IP : 125.118.233.198


ความคิดเห็นที่ 14 (3213116)
discount ugg boots discount ugg boots womens boots womens boots toddler slipper toddler slipper fake uggs fake uggs
ผู้แสดงความคิดเห็น 1 (prxidy-at-bigstring-dot-com)วันที่ตอบ 2010-09-21 21:24:27 IP : 125.118.233.198


ความคิดเห็นที่ 15 (3221618)
Your Guide For Shopping for GHD Curly hair ghd straighteners The trend of hair follicles straightening has grow to be very popular nowadays and majority of females love to straighten their locks Inside the past it was frequent to straighten the hair follicles only on special events but currently women prefer to straighten their curly hair each day to look elegant and attractive It can be observed that hair follicles are damaged mainly because of exposure for the heat of your straightener so it can be needed to go by way of all safety measures that will minimize the harmful impacts of curly hair straighteners You will find various sorts of hair straighteners which have diverse features so the selection of your most suitable curly hair straightener is essential in accordance to the type of hair follicles so that you can stay away from the damaging effects ghd curly hair straightener could be the greatest straightener that offers quite a few advantageous capabilities You"ll find distinct models of ghd locks straighteners that happen to be suitable for certain sorts of head of hair GHD IV styler may be the most ideal tool that can be used for all forms of locks GHD IV salon styler is helpful for thick hair It has wider plates that make it effortless to straighten the curly hair in brief duration of time For those having brief hair follicles GHD IV mini styler may be the greatest option to buy and it can create waves or curls too For acquiring GHD hair follicles straightener it"s far better to evaluate the features and prices to select 1 which is in accordance to private demands There are lots of accessories that purchaser can obtain with the straightener so earlier than buying GHD hair follicles straightener the info about all equipment must be taken There are many ghd hair follicles straighteners that happen to be created in unique colors The coloration in the straightener has nothing to do with its features Individuals can choose any color of their choice Earlier than acquiring GHD locks straightener it"s vital to make sure that it provides the warranty of two years You will discover some pretend GHD hair follicles straighteners obtainable inside the markets so the buyer ought to be sure that the item he/she is getting is original If the GHD hair follicles straightener is bought from a reputable retailer then it"s going to not be a pretend straightener Cautious inspection earlier than buying the straightener lessens the dangers of getting a faux straightener
ผู้แสดงความคิดเห็น 1 (ncqvkw-at-fepg-dot-com)วันที่ตอบ 2010-11-01 21:35:49 IP : 125.122.102.4


ความคิดเห็นที่ 16 (3221626)
A history of GHD locks straighteners Do you would like the accomplished journey abaft ghd The grownup secrets of how an all-around super brand name was born Nicely aboriginal issues aboriginal afore we get agitated away let"s get a handful of details straight GHD is really a British corporation as well as additional as that itกฏs a Yorkshire corporation "Flippin" eck" we apprehend you say and you"d be correct Becoming a correct Yorkshire company the journey of ghd (or Jemella Ltd are they"re accepted on a Sunday) is according to harder strategy at t"forefront of all-around curly hair care All of it began if the blow of us were just accepting around our millennium celebrations Because the aggregate hangovers cleared several people have been acquainted that a anarchy was just demography place an insurgence inside the head of hair affliction apple that was to banish bad hair canicule for suitable and actualize a movement that will go on to become in time a new adoration for head of hair! When the aboriginal bowl locks straightening adamant was accustomed inside UK cipher obtained anytime obvious annihilation like ghd ghd straighteners it Being an ex-hairdresser to get a prime salon Robert Powls the guy who happened up this expense possession knew a lot if it came to head of hair Convinced he was assimilating a winner he and two business enterprise ally acquired the rights to your item alleged it the appropriate hair day locks straightener ("GHD") and started trading To activate with loads of hairdressers anticipation they had been badinage if they reply the GHD curly hair straightener with a retail amount of about $100! It really is genuinely could have an attempt!
ผู้แสดงความคิดเห็น 1 (xnlqmy-at-fepg-dot-com)วันที่ตอบ 2010-11-01 21:40:48 IP : 125.122.102.4



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล 802/410 หมู่12 หมู่บ้านวังทองริเวอร์ปาร์ค ซอย10/4 ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี 12130 โทร : 02-990-0331 Copyright © 2010 All Rights Reserved.