กลุ่มผู้ค้าหวยบนดินมีมติคัดค้านแนวทางการออกสลากกินแบ่ง 2 ตัว 3 ตัว เนื่องจากเหมือนลอตเตอรี่ และทำให้รายได้ลดลง รวมทั้งทำให้ต้องรับผิดชอบสลากที่รับมา หากขายไม่หมดด้วย เตรียมขอฟังความชัดเจนจากกระทรวงการคลังวันที่ 3 พ.ค.นี้ ขณะที่สำนักงานสลากฯเตรียมเสนอให้คณะกรรมการกฤษฎีกาวินิจฉัยก่อน เพื่อป้องกันปัญหาซ้ำรอยหวยบนดิน
       
       นายวรวุฒิ กมลวิทยานนท์ ประธานชมรมสลาก 2 ตัว 3 ตัว กล่าวว่า การประชุมตัวแทนผู้ค้าหวยบนดิน 2 ตัว 3 ตัว ทั่วประเทศวันนี้ (1 พ.ค.) มีมติร่วมกันคัดค้านแนวทางการเลือกออกสลากกินแบ่ง 2 ตัว 3 ตัว ของกระทรวงการคลัง เหมือนสลากกินแบ่งรัฐบาล เพราะเห็นว่าแนวทางดังกล่าวจะกระทบผู้ค้าหวยบนดิน โดยเฉพาะการกำหนดผลตอบแทน ซึ่งให้รายได้น้อยลงจากเดิมที่ได้รับร้อยละ 17 เหลือร้อยละ 7 ทำให้ผู้ค้าหวยบนดินอยู่ไม่ได้ รวมถึงสลากจะต้องรับซื้อทั้งเล่ม จะทำให้ผู้ค้าขาดทุน และต้องเป็นผู้ซื้อสลากเองหากขายไม่หมด เนื่องจากสลากบางเล่มที่รับมาจะมีตัวเลขทุกตัว แต่ผู้ซื้อจะเลือกซื้อเฉพาะเลขเด็ดหรือเลขที่ต้องการ ทำให้ขายสลากไม่หมด ซึ่งต่างจากหวยบนดิน เขียนเองจะขายเลขใดก็ได้ จึงต้องการให้สำนักงานสลากฯ รับซื้อคืน รวมถึงการจัดพิมพ์สลากจะเป็นการแย่งลูกค้าระหว่างสลากกินแบ่งรัฐบาลและสลากกินแบ่ง 2 ตัว 3 ตัว รวมถึงหวยใต้ดิน ทำให้ไม่สามารถแข่งขันได้
       
       นอกจากนี้ ยังเรียกร้องให้กระทรวงการคลังเลือกแนวทางแก้ไข พ.ร.บ.สำนักงานสลากฯ เพราะมีความพร้อมอยู่แล้ว และเสนอให้จัดเวทีตั้งโต๊ะกลมเปิดรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งตัวแทนจากกระทรวงการคลัง สำนักงานสลากฯ ผู้แทนจำหน่าย นักวิชาการ เพื่อหาข้อสรุปร่วมกัน
       
       ด้านนายกานต์ อมรศิริพาณิช กรรมการชมรมสลาก 2 ตัว 3 ตัว กล่าวว่า แนวทางแก้ไข พ.ร.บ.สำนักงานสลากฯ เชื่อว่าสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เห็นด้วยถึงร้อยละ 90 ที่ต้องการแก้ไข พ.ร.บ. เหลือเพียงความกล้าหาญของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่จะนำเสนอต่อ สนช. ซึ่งในวันที่ 3 พฤษภาคมนี้ กลุ่มผู้ค้าหวยบนดินจะเดินทางไปที่กระทรวงการคลัง เพื่อขอให้เลือกแนวทางแก้ไขกฎหมาย
       
       ด้านนายวันชัย สุระกุล รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานสลากฯ กล่าวว่า สำนักงานสลากฯ จะทำหนังสือถึงสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ว่าสามารถออกสลากกินแบ่งเลขท้าย 2 ตัว 3 ตัว ได้ตามกฎหมายหรือไม่ เพราะไม่ต้องการให้เกิดปัญหาซ้ำรอยอีก พร้อมทั้งกำลังกำหนดรายละเอียดของสลากเลขท้าย เชื่อว่าจะสรุปได้ภายในสัปดาห์หน้า และเสนอให้คณะกรรมการสลากฯ และกระทรวงการคลังเห็นชอบต่อไป หากไม่มีอะไรต้องแก้ไข เชื่อว่าจะเริ่มเปิดขายได้ตั้งแต่วันที่ 2 มิถุนายนนี้เป็นต้นไป ส่วนกรอบการจ่ายรางวัลต้องคำนึงถึงกรอบการจ่ายเงินรางวัลร้อยละ 60 ตามกฎหมาย แต่คาดว่าจะคงเงินรางวัลไว้เช่นเดิมที่ 65 บาทต่อ 1 บาท สำหรับเลขท้าย 2 ตัว และ 500 บาทต่อ 1 บาท สำหรับรางวัลเลขท้าย 3 ตัว แต่ประเภทของรางวัลอาจลดลง คือ มีเพียงเลขท้าย 2 ตัวบน เพราะเลขท้าย 2 ตัวล่าง มีรางวัลของสลากกินแบ่งอยู่แล้ว ขณะเดียวกัน จะไม่มีรางวัลเลขท้าย 3 *** มีเพียง 3 ตัวบน อย่างไรก็ตาม ให้โอกาสมาตรวจรางวัล 3 ตัวล่างได้ด้วย แต่เงินรางวัลต้องลดลง เพราะมีโอกาสตรวจรางวัลถึง 5 ครั้ง เพราะปัจจุบันสำนักงานสลากฯ ได้ออกรางวัลเลขท้าย 3 ตัวล่าง ถึง 4 ครั้ง สำหรับรูปแบบการพิมพ์ จะเหมือนกับสลากกินแบ่งทั่วไป คือมีเลข 6 หลัก ตั้งแต่ 000001-000999 ต่อเล่ม ส่วนจะจำหน่ายในราคาเท่าใด ยังไม่ได้ข้อสรุป ระหว่างราคาเท่าเดิมคือฉบับละ 20 บาท 50 บาท และ 100 บาท หรือมีราคาเท่ากับสลากกินแบ่งปกติ คือฉบับละ 40 บาท
       
       นายวันชัย กล่าวว่า สลากกินแบ่ง 2 ตัว 3 ตัว จะจัดสรรให้กับผู้แทนจำหน่ายหวยบนดินรายเดิมที่มีรายชื่ออยู่กับสำนักงานสลากฯ อยู่แล้วกว่า 5,000 ราย ส่วนจะจัดสรรอย่างไร จะมีคณะทำงานเป็นผู้ดำเนินการ แต่ยอมรับว่าการเปิดขายสลากกินแบ่ง 2 ตัว 3 ตัว จะทำให้รายได้ของผู้แทนขายหวยบนดินลดลงเหลือเพียงร้อยละ 7-8 จากเดิมที่ได้รับส่วนลดจากสำนักงานสลากฯ ร้อยละ 12 เพราะต้องเป็นไปตามกรอบของกฎหมายที่ระบุให้มีค่าบริหารจัดการได้เพียงร้อยละ 12 ซึ่งสำนักงานสลากฯ ต้องไปพิจารณารายละเอียดอีกครั้ง แต่มั่นใจว่าแนวทางการออกสลากกินแบ่ง 2 ตัว 3 ตัว จะได้รับความสนใจจากประชาชนที่ต้องการ*** เพราะมีสลากชนิดใหม่ออกมาให้เลือกเล่น รวมทั้งยังช่วยบรรเทาปัญหาเรื่องราคาสลากกินแบ่งแพงได้ส่วนหนึ่ง เพราะปัจจุบันราคาสลากกินแบ่งแพงเกิดจากความต้องการที่มีมากกว่าจำนวนที่พิมพ์ออกจำหน่าย ที่สำคัญยังช่วยลดปัญหาหวยใต้ดินด้วย ส่วนกรณีเรื่อง*** ต้องรอฟังนโยบายจากรัฐบาลชุดใหม่เท่านั้น คงไม่สามารถดำเนินการใด ๆ ได้ในขณะนี้

“สังศิต พิริยะรังสรรค์” ระบุการออกสลากกินแบ่ง 2 ตัว 3 ตัวไม่สามารถแก้ปัญหาใต้ดินและราคาแพงได้ ขณะเดียวกันยังส่งผลให้เกิดหวยบนดินมากขึ้นด้วย เพราะประชาชนไม่สามารถซื้อเลขเองได้
       
       นายสังศิต พิริยะรังสรรค์ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวว่า การออกสลากกินแบ่งแบบ 2 ตัว 3 ตัว ตามแนวคิดของนายฉลองภพ สุสังกร์กาญจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังว่า ไม่ได้ช่วยแก้ไขปัญหาหวยใต้ดิน แต่จะส่งผลให้เกิดหวยบนดินมากขึ้น เพราะการออกสลากกินแบ่ง 2 ตัว 3 ตัว ประชาชนไม่สามารถซื้อเลขเองได้ ก็ต้องหันไปซื้อหวยใต้ดินเพิ่มมากขึ้น เพราะสะดวกกว่า นอกจากนี้ในปัจจุบันสำนักงานสลากฯยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาล็อตเตอรี่เกินราคาได้ก็จะยิ่งไปสร้างปัญหาเพิ่มขึ้นอีก ยิ่งทำให้เกิดปัญหามากขึ้น เพราะประชาชนที่ต้องการซื้อหวยบนดินต้องการกำหนดหมายเลขที่จะซื้อเอง แต่เมื่อรัฐบาลไม่ทำก็ไม่จูงใจให้ซื้อและทำให้เลขที่ต้องการยิ่งมีราคาแพงเพราะมีจำนวนจำกัดซ้ำรอยกับล็อตเตอรี่แพง ซึ่งการแก้ไขปัญหารัฐบาลควรทำให้มีหวยบนดินขายได้โดยนัก***เลือกเลขได้เอง แต่สำนักงานสลากฯต้องกำหนดเงินรางวัลไว้ไม่เกินร้อยละ 60 ของรายได้ หากมีคนถูกรางวัลมากก็ต้องเฉลี่ยเงินรางวัลกัน ซึ่งจะเป็นวิธีที่ดีกว่าสิ่งที่รัฐบาลเลือกที่เชื่อว่าจะล้มเหลวแน่นอน อย่างไรก็ตามการหารือกับนายฉลองภพ นั้นไม่ได้พูดคุยในรายละเอียดมาก แต่เห็นด้วยที่ต้องมีหวยบนดิน ซึ่งต้องไม่นิรโทษกรรมให้กับรัฐบาลชุดก่อนและต้องทำให้ถูกกฎหมาย อย่างไรก็ตามคงจะประสานกับกระทรวงการคลังเพื่อหารือเรื่องนี้อีกครั้ง