สนามหลวง 9 เม.ย.- สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ร่วมเสด็จฯ ในริ้วขบวนพระอิสริยยศ เชิญพระโกศทองใหญ่ทรงพระศพสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ออกพระเมรุ พระราชทานเพลิงพระศพ ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง เย็นวันนี้ โดยมีประชาชนเฝ้ารับเสด็จ และร่วมถวายอาลัยเป็นครั้งสุดท้าย

วันนี้ (9 เม.ย.) เวลา 07.10 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ แทนพระองค์ยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ทรงประกอบพิธีอัญเชิญพระโกศทองใหญ่ทรงพระศพ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ลงจากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท โดยมีพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ร่วมเสด็จด้วย

พระยานมาศสามลำคานอัญเชิญพระโกศทองใหญ่ทรงพระศพ ออกจากพระบรมมหาราชวัง ทางประตูเทวาภิรมย์เข้าร่วมในริ้วขบวนพระอิสริยยศที่ 1 ที่ตั้งอยู่ถนนมหาราช เคลื่อนไปตามถนนมหาราช ถนนท้ายวัง ถึงหน้าวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม โดยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฎราชกุมาร และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระดำเนินร่วมในริ้วขบวน พร้อมด้วยพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร รวมทั้งบุคคลสำคัญ เช่น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี, พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก, สมเด็จพระวันรัต จากวัดบวรนิเวศวิหารนั่งอ่านพระอภิธรรมบนเสลี่ยงกลีบบัวและราชรถน้อย, พระประยูรญาติ พล.ท.หม่อมเจ้าเฉลิมศึก ยุคล อัญเชิญเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เครื่องอิสริยยศราชูปโภค ข้าหลวง มหาดเล็ก และข้าราชบริพารในพระองค์

จากนั้น ริ้วขบวนที่ 2 อัญเชิญพระโกศพระศพโดยพระมหาพิชัยราชรถจากหน้าวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามไป ยังพระเมรุท้องสนามหลวง เส้นทางหน้าวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ถนนสนามไชย ถนนราชดำเนินใน ถนนเส้นกลางท้องสนามหลวง และริ้วขบวนที่ 3 อัญเชิญพระโกศพระศพโดยพระยานมาศสามลำคานเวียนรอบพระเมรุโดยอุตราวัฏ (เวียนซ้าย) 3 รอบ แล้วอัญเชิญพระโกศพระศพประดิษฐานบนพระจิตกาธานพระเมรุ ในเวลา 11.40 น.ซึ่งตลอดเส้นทางมีประชาชนทั้งจากกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เดินทางมาเฝ้ารับเสด็จและถ่ายภาพของริ้วขบวนที่สวยงามสมพระเกียรติ และบางคนยังนำดอกกุหลาบ พร้อมธูป 1 ดอก เทียน 1 เล่ม มาจุดเมื่อริ้วขบวนเคลื่อนผ่านเพื่อถวายสักการะตามโบราณราชประเพณีที่เคยมี การปฏิบัติมา

นางนารีรัตน์ ช่วงเหมาะ ชาวบุรีรัมย์ กล่าวว่า มาพร้อมคณะรวม 55 คน โดยออกเดินทางด้วยรถบัส ตั้งแต่เวลา 23.00 น. และมาถึงเช้ามืด รู้สึกภูมิใจและปลาบปลื้มใจที่จะเข้าร่วมงานครั้งนี้ เตรียมตัวมาพร้อมเต็มที่กับทุกสภาพอากาศ ไม่ว่าจะร้อนหรือฝนตก เพราะถือเป็นงานใหญ่ และได้ร่วมเทิดพระเกียรติเป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งเมื่อกลับไปบ้านจะนำประสบการณ์ที่ได้มีส่วนร่วมในงานพระราชพิธีครั้งนี้ ไปเล่าให้คนทางบ้านฟังด้วย

ด้าน น.ส.จิตภา กาญจิรภิญญาวงศ์ ชาวโคราชที่พักอาศัยย่านนางเลิ้ง กล่าวว่า มีความตั้งใจสูงที่จะมาร่วมงาน เพราะอยากมีบุญ เป็นคนต่างจังหวัดไม่เคยเห็นพระราชพิธีใหญ่มาก่อน ที่ผ่านมาเคยแต่ติดตามทางหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์แต่ครั้งนี้อยากมาเห็นกับตาตนเอง

ขณะที่การเดินทางเข้าร่วมงาน ขสมก.จัดรถบริการใน 6 เส้นทาง ส่วนทางเรือบริษัทเอกชนจัดบริการฟรี ท่าวังหลัง-ท่าช้าง ตั้งแต่เวลา 05.00-23.00 น. และท่าวังหลัง-ท่าวัดมหาธาตุ ตั้งแต่เวลา 05.00-21.00 น.-สำนักข่าวไทย