ReadyPlanet.com


ผลโหวต 7 สิ่งมหัศจรรย์โลก


ผลโหวต 7 สิ่งมหัศจรรย์โลกยุคใหม่

 

เว็บไซต์มูลนิธิที่มีชื่อว่า "สิ่งมหัศจรรย์ใหม่ 7 อย่าง" อันเป็นมูลนิธิไม่แสวงหากำไร ที่ก่อตั้งโดยนายเบอร์นาร์ด เวเบอร์ ผู้สร้างภาพยนตร์ชาวสวิส ได้ประกาศรายชื่อบรรดาสิ่งมหัศจรรย์ต่างๆ ทั่วโลก วานนี้ (7 ก.ค.) หลังจากที่ริเริ่มรณรงค์ให้ประชาชนทั่วโลกเลือกสิ่งมหัศจรรย์ใหม่ของโลกเมื่อปี 2542 และเปิดให้มีการลงคะแนนทางเว็บไซต์ www.new7wonders.com รวมทั้งการส่งข้อความทางโทรศัพท์เคลื่อนที่
       
       
ผลการลงคะแนนจากประชาชนทั่วโลกกว่า 100 ล้านคน ได้เลือก 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ ได้แก่

 

1.ชิเชน อิตซา อัสเทค ไซต์ แห่งยูคาตาน ประเทศเม็กซิโก

2.ไครสต์ เดอะ รีดีมเมอร์ ที่กรุงริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล หรือรูปปั้นพระเยซูขนาดใหญ่ในบราซิล

3.กำแพงเมืองจีน

4.มาจู พิคจู ประเทศเปรู

5.เมืองโบราณเปตรา จอร์แดน

6.โคลอสเซียม กรุงโรม   

7.ทัชมาฮาล แห่งอินเดีย
       
       สำหรับวัตถุประสงค์ของการคัดเลือกสิ่งมหัศจรรย์ 7 อย่าง ครั้งนี้ เพื่อให้ชาวโลกตระหนักถึงความจำเป็นในการอนุรักษ์สถานที่สำคัญต่างๆ ที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ทั้งนี้ สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ทั้ง 7 มีทั้งอยู่นอกยุโรป และตะวันออกกลาง ขณะที่ 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกดั้งเดิมที่เกิดขึ้นกว่า 2 พันปีที่ผ่านมา ล้วนตั้งอยู่ในแถบเมดิเตอร์เรเนียน และมีเพียงพีระมิดแห่งกิซา อียิปต์ เท่านั้นที่ยังได้รับการจัดอันดับว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่

 

www.waddeeja.com

สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

พันตรีศิริชัย  ทรัพย์ศิริ



ผู้ตั้งกระทู้ พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ :: วันที่ลงประกาศ 2007-07-08 14:20:51 IP : 124.121.138.158


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (1042029)

เอเอฟพี – หลังจากลุ้นกันจนตัวโก่ง ในที่สุดผลโหวต 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ก็ได้มีการประกาศแล้วเมื่อเช้าวันเสาร์ ซึ่งตัดสินจากคะแนนเสียงจากผู้โหวตเกือบ 100 ล้านคน รวมทั้งจากผู้เชี่ยวชาญด้านวัฒนธรรม โดยงานประกาศจัดขึ้นในกรุงลิสบอน เมืองหลวงของโปรตุเกส
       
     

 

7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ในครั้งนี้ ประกอบด้วย กำแพงเมืองจีน, “โคลอสเซียม” ในกรุงโรมของอิตาลี, “ทัชมาฮาล” ของอินเดีย, นคร “เปตรา” ในจอร์แดน, รูปปั้นพระเยซูขนาดใหญ่ในริโอ เดอ จาเนโรของบราซิล, “มาชู ปิกชู” อาณาจักรอินคาในเปรู และตบท้ายด้วยโบราณสถานชิเชน อิสตา ในเม็กซิโก
       
       
งานประกาศในครั้งนี้มี เบน คิงส์เลย์ นักแสดงชื่อดังจากเกาะอังกฤษ และฮิลลารี สแวงก์ นักแสดงสาวจากสหรัฐฯ ทำหน้าที่เป็นผู้ประกาศผล ซึ่งถ่ายทอดสดสู่สายตาชาวโลกกว่า 170 ประเทศ โดยคาดว่าจะมีผู้ชมกว่า 1,600 ล้านคน
       
       
การประกาศผลซึ่งจัดขึ้นตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยมูลนิธิเบอร์นาร์ด เวเบอร์ ในสวิตเซอร์แลนด์ เปิดให้สาธารณชนลงคะแนนเสียงผ่านทางอินเทอร์เน็ต และโทรศัพท์ เพื่อเลือกสถานที่ 21 แห่งจากรายชื่อ 77 แห่งซึ่งถูกเลือกโดยเหล่าผู้เชี่ยวชาญด้านสถาปัตยกรรม
       
       
ส่วนสถานที่ชื่อดังซึ่งต้องอกหัก เพราะไม่ติดแม้แต่โผ 21 แห่ง ได้แก่ เมืองโบราณอาโครโปลิสในกรีซ, หอไอเฟลในกรุงปารีส, รูปปั้นบนเหินโมอายบนเกาะอีสเตอร์ และสโตนเฮนจ์ของอังกฤษ
       
       
อย่างไรก็ตาม องค์กรการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมของสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ซึ่งเป็นผู้ประกาศมรดกโลก ปฏิเสธที่จะสนับสนุนการโหวตดังกล่าว โดยให้เหตุผลว่าสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่เป็นผลมาจากการริเริ่มส่วนตัว โดยปราศจากความหมายและการอนุรักษ์สถานที่ซึ่งถูกเลือกอย่างยั่งยืน ยูเนสโกในกรุงปารีสออกแถลงการณ์เมื่อเดือนที่แล้ว
       
       
การริเริ่มในครั้งนี้ต้องการจะที่จะจัดอันดับ 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกขึ้นใหม่แทนยุคโบราณ โดยหนึ่งเดียวจาก 7 สิ่งมหัศจรรย์เก่าซึ่งติดอันดับในครั้งนี้ด้วย คือ พีระมิดจากอียิปต์ แต่ถูดถอดชื่อในเวลาต่อมา
       
       
การประกาศผลในครั้งนี้ซึ่งจัดในวันที่ 07/07/07 มีดาราและผู้มีชื่อเสียงหลั่งไหลเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง เช่น นีล อาร์มสตรอง มนุษย์อวกาศคนแรกของโลก, เจนนิเฟอร์ โลเปซ ดาราและนักร้องชื่อดัง, และ โฆเซ โซคราเตส นายกรัฐมนตรีโปรตุเกส
       
       
ด้าน ดีโอโก เฟรย์ตัส โด อมารัล ประธานคณะกรรมการจัดงาน กล่าวว่า งานในครั้งนี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ซึ่งชาวโลกสามารถที่จะออกเสียงและตัดสินใจด้วยตัวเอง

 

www.waddeeja.com

สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

พันตรีศิริชัย  ทรัพย์ศิริ

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ วันที่ตอบ 2007-07-09 06:56:43 IP : 124.121.135.186


ความคิดเห็นที่ 2 (1043532)

นครวัดไม่ติดอันดับ "7 สิ่งมหัศจรรย์ใหม่" ของโลก จากการโหวตที่ดำเนินมาเป็นเวลา 6 ปี ที่จัดโดยบริษัทเอกชนรายหนึ่งในสวิตเซอร์แลนด์ ในนามมูลนิธิ New7Wonder ในทวีปเอเชียคงเหลือแต่กำแพงเมืองจีนกับอนุสรณ์สถานทัจมาฮาล (Taj Mahal) ในอินเดีย ที่ติดอันดับ
       
       การโหวตให้คะแนนออนไลน์ทางอินเทอร์เน็ต ทางโทรศัพท์ กระทั่งโดยทางอีเมล์ ในรอบสุดท้ายที่ดำเนินมาตั้งแต่เดือน ม.ค. 2549 ปรากฏว่า "สิ่งมหัศจรรย์ใหม่" อีก 2 แห่งอยู่ในยุโรปและตะวันออกลาง คือ สนามประลองโคลอสเซียม (Colosseum) แห่งกรุงโรม ประเทศอิตาลี วิหารเพตรา (Petra) ในจอร์แดน
       
       อีก 3 แห่งอยู่ในอเมริกาใต้ ได้แก่รูปปั้นพระคริสต์ (Christ the Redeemer) ที่ชายฝั่งทะเลนครริโอ เด จาไนโร (Rio de Janeiro) ซากปิรามิดมาชูพิคชู (Machu Picchu) ประเทศเปรู กับซากเมืองโบราณชิเชน อิตซา (Chichen Itza) ของชนเผ่ามายา ในประเทศเม็กซิโก
       
       การประกาศผลการโหวตจัดขึ้นอย่างหรูหราในคืนวันเสาร์ (7 ก.ค.) ที่ผ่านมา ในกรุงลิสบอน ประเทศโปรตุเกส มีการถ่ายทดสดทางโทรทัศน์อย่างตระการตา มีนักร้องนักแสดงกับบุคคลที่มีชื่อเสียงเข้าร่วมอย่างมากมาย
       
       ผู้โหวตจากทั่วโลกได้ให้คะแนนโบราณสถานและสิ่งปลูกสร้างสวยงามทั้งจากสมัยโบราณและที่สร้างขึ้นในโลกในยุคใหม่ รวม 21 แห่ง ทั้งหมดคัดเลือกจากรอบรองสุดท้ายที่มีจำนวน 77 แห่งทั่วโลก ผู้จัดกล่าวว่ามีผู้ร่วมโหวตเกือบ 100 ล้านคน
       
       เจ้าหน้าที่กัมพูชากล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า การโหวตด้วยวิธีนี้นครวัดไม่มีทางจะติดอันดับ 1 ใน 7 "สิ่งมหัศจรรย์ใหม่" ได้ เนื่องจากมีชาวเขมรจำนวนไม่มากนักที่ใช้อินเทอร์เน็ต และ ถึงแม้ประชากรทั้ง 14 ล้านคนในประเทศนี้จะร่วมกันโหวตให้กับนครวัดทั้งหมด คะแนนก็จะยังไม่พออยู่ดี
       
       "มีประชาชนกัมพูชาจำนวนไม่มากที่ใช้อินเทอร์เน็ต และ ถึงแม้ว่าชาวกัมพูชาทั้งมวลจะช่วยกันโหวต นครวัดก็จะยังไม่มีทางติดอันดับอยู่ดี" นายสิม วิรักษ์ (Sim Virak) เจ้าหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรมกัมพูชากล่าว
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วในกัมพูชาได้มีการประชุมสัมมนาเพื่อหาทางอนุรักษ์ปราสาทหินอายุ 800 ปี ที่กำลังผุกร่อนลงทุกวัน โดยนักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยวชมปีละกว่าล้านคน
       
       บรรดา "ตัวเก็ง" ที่หลุดโผ ยังรวมทั้งเทพีแห่งเสรีภาพ (Statue of Liberty) นครนิวยอร์ก สหรัฐฯ วิหารอะโครโพลิส (Acropolis) ในกรีซ หอคอยไอเฟล (Eiffel) กรุงปารีส รูปสลักโบราณหมู่เกาะอีสเตอร์ แนวหินสโตเฮ้นจ์ (Stonehenge) ในอังกฤษ และ โอเปราเฮ้าส์ (Opera House) นครซิดนีย์ ออสเตรเลียด้วย
       
       การโหวตเพื่อคัดเลือก "7 สิ่งมหัศจรรย์ใหม่" นี้ เกิดจากความคิดของ นายแบร์นาร์ด เวเบอร์ (Bernard Weber) ภัณฑารักษ์และนักสร้างภาพยนตร์ชาวสวิส โดยถือโอกาสที่พระพุทธรูปบามิยาน ซึ่งเป็นรูปสลักบนหน้าผาในอัฟกานิสถาน ถูกพวกกลุ่มอิสลามหัวรุนแรงตอลิบาน (Taliban) ทำลายลง เมื่อปี 2544
       
       อย่างไรก็ตามองค์การการศึกษาและวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก (UNESCO) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่จัดทำบัญชีมรดกโลก (World Heritage) ไม่ให้การสนับสนุนหรือร่วมรับรู้การลงมติคัดเลือก "7 สิ่งมหัศจรรย์ใหม่" ในครั้งนี้
       
       "สิ่งที่ปรากฏในบัญชีรายชื่อสิ่งมหัศจรรย์ใหม่ทั้งเจ็ด จะเป็นผลจากการริเริ่มที่เป็นการส่วนตัว ซึ่งจะไม่มีผลมากมายใดๆ และ ไม่ใช่วิถีที่ยั่งยืนในการอนุรักษ์แหล่งที่ได้รับการคัดเลือกเหล่านั้น" ยูเนสโกระบุในคำแถลงชิ้นหนึ่งที่ออกเมื่อเดือนที่แล้ว
       
       สำหรับ 7 สิ่งมหัศจรรย์โลกยุคโบราณที่ยังคงอยู่มาจนทุกวันนี้ มีเหลืออยู่เพียงแค่มหาปีรามิดแห่งกิซา (Great Pyramid of Giza) ในอียิปต์เท่านั้น
       
       แรกเริ่มเดิมทีผู้จัดการลงคะแนนได้รวมเอามหาปีรามิดแห่งกิซาเข้าร่วมในบัญชีโหวตออนไลน์ครั้งนี้ด้วย แต่ภัณฑารักษ์ที่มีชื่อเสียงของอียิปต์ได้ออกประณามการกระทำดังกล่าว โดยระบุว่าการทำเช่นนั้น "เป็นการหยามกันเกินไป"
เจ้าหน้าที่ดังกล่าวระบุว่า ไม่จำเป็นต้องมาพิสูจน์อะไรอีก ในปัจจุบันยังไม่มีสิ่งปลูกสร้างใดๆ ในโลกนี้ ที่จะมีความเกรียงไกรเท่ากับมหาปีรามิด แปละ การจัดอันดับใหม่ดังกล่าวก็เป็นเพียง “การประชาสัมพันธ์ครั้งใหญ่” ของผู้จัดเท่านั้น
       
       ในที่สุดคณะผู้จัดก็ได้ถอดปีรามิดของอียิปต์ออกจากบัญชีการให้คะแนน ซ้ำยังมอบตำแหน่งโบราณสถานกิตติมศักดิ์ของโลกให้อีกด้วย
       
       นอกจากมหาปีรามิดแล้ว แหล่งอื่นๆ ที่เคยเป็น “7 สิ่งมหัศจรรย์โลกยุคโบราณ” ที่จัดอันดับขึ้นเมื่อประมาณ 2,000 ปีก่อน เหลือให้เห็นเป็นเพียงซากหักพัง
       
       นอกจากสวนลอยแห่งบาบิลอน (Hanging Garden of Babylon) ที่อยู่ใกล้กับกรุงแบกแดด ประเทศอิรักในปัจจุบัน กับ กรีซ ประภาคารเกาะฟาโรส (Pharos) นอกชายฝั่งเมืองอเล็กซานเดรีย (Pharos of Alexandria) ในอียิปต์ ที่เหลือล้วนอยู่ในดินแดนเอเชียไมเนอร์ (Asia Minor) เมื่อก่อน ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศกรีซกับตุรกีในปัจจุบัน
       
       สถานที่เหล่านั้นได้แก่ วิหารเทพซีอุซ (Zeus) แห่งโอลิมเปีย วิหารจันทรเทพอาร์เทมิส (Artemis) กับ สุสานสถานฮาลิคาร์นัสซุส (Halicarnassus) กับ รูปสลักโคลอสซุส แห่งเกาะโรดส์ (Colossus of Rhodes)
       
       นครวัดไม่ได้หมายถึงเพียงแค่องค์ปราสาทใหญ่ แต่หากหมายถึงอาณาบริเวณที่ครอบคลุมพื้นที่ราว 3 ตารางกิโลเมตร ในนั้นประกอบไปด้วยสิ่งปลูกสร้างต่างๆ อายุ 500-900 ปี จากฝีมือมนุษย์ล้วนๆ
ที่ตั้งองค์ปราสาทเพียงอย่างเดียวก็มีความใหญ่โต สามารถมองเห็นได้จากชั้นบรรยากาศ ที่อยู่สูงขึ้นไปหลายสิบกิโลเมตร
       
       แต่นครวัดมีฐานะเป็น “สิ่งมหัศจรรย์ที่โลกลืม” มาตลอด อยู่ในกลุ่มเดียวกันกับโบราณสถานอีก 19 แห่ง กำแพงเมืองจีน ทัจมาฮาล เมืองโบราญมาชูพิคชู วิหารเพตรา และ สโตนเฮนจ์ ก็เคยถูกจัดรวมอยู่ในกลุ่มนี้ด้วย
       
       สิ่งปลูกสร้างมัศจรรย์ที่มีอายุกว่า 800 ปีนี้ ถูกจัดเข้าเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก เมื่อปี 2537
       
       การรณรงค์จัดอันดับ “7 สิ่งมหัศจรรย์ใหม่” นี้เริ่มมาตั้งแต่ปี 2542 โดยนำเอาโบราณสถาน สิ่งปลูกสร้างทุกยุคทุกสมัยเกือบ 200 แห่ง คละกันเข้าเป็นตัวเลือก มีการโหวตติดต่อกันมาเรื่อยๆ จนกระทั่งคณะผู้เชี่ยวชาญคัดเลือกให้เหลือเพียง 21 ตัวเลือกเมื่อปีที่แล้ว
       
       อย่างไรก็ตาม ผู้จัดยอมรับว่าไม่มีทางพิสูจน์ได้ว่าคนๆ หนึ่งจะโหวตกี่ครั้ง เพราะไม่มีข้อจำกัดการให้คะแนนสิ่งที่ทุกคนชื่นชอบ
       
       มีผู้เข้าร่วมรับฟังการประกาศผลหลายหมื่นคน ที่สนามกีฬากรุงลิสบอนในคืนวันเสาร์ ผู้คนจำนวนมากส่งเสียงฮือ แสดงความไม่พอใจเมื่อกรรมการอ่านชื่อ เทพีเสรีภาพในบัญชี “ตัวเก็ง” ทั้ง 21 แห่งในรอบสุดท้ายด้วย
       
       การหยั่งประชามติเมื่อหลายปีก่อนได้พบว่า เสียงส่วนใหญ่ของชาวโปรตุเกสคัดค้านการรุกรานอิรักของทางการสหรัฐฯ.
       
       

ชมภาพอื่นๆ ของนครวัด กับ "7 สิ่งมหัศจรรย์ใหม่" ได้ที่:

http://www.new7wonders.com/index.php?id=426

 

www.waddeeja.com

สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

พันตรีศิริชัย  ทรัพย์ศิริ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ วันที่ตอบ 2007-07-10 07:13:47 IP : 124.121.136.55


ความคิดเห็นที่ 3 (1045030)

"สุวิทย์ " เตรียมดัน "อัมพวา" เสนอยูเนสโก้ ตั้งเป็นเมืองมรดกโลกแห่งที่ 6

   ของประเทศไทย  คาดใช้เวลา 1 ปีรู้ผล
       
       
(6 ก.ค.50) ในการตรวจเยี่ยมพื้นที่ และพบปะประชาชน ส่วนราชการ และเอกชน ที่อำเภออัมพวา จ.สมุทรสงคราม เพื่อรับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ ปัญหาและความต้องการด้านการท่องเที่ยวของประชาชนใน จ.สมุทรสงคราม นายสุวิทย์ ยอดมณี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า มีแนวคิดที่จะเสนอต่อองค์การศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโก้ แต่งตั้งให้อำเภออัมพวา เป็นเมืองมรดกโลก ซึ่งในรูปแบบน่าจะคล้ายกับเมืองหลวงพระบาง ประเทศลาวโดยจะนำเรื่องนี้เข้าหารือกับ ดร.อดุลย์ วิเชียรเจริญ ซึ่งดำรงค์ตำแหน่งเป็น กรรมการในองค์กรยูเนสโก้ ก่อนที่จะทำเรื่องไปยังองค์กรยูเนสโก้อย่างเป็นทางการ ซึ่งน่าจะภายหลังเดือนพฤศจิกายนศกนี้ เพราะต้องรอให้แผนแม่บทพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยังยื่นจัดทำเสร็จก่อน เพื่อจะได้กำหนดแผนการทำงานให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน
       
       
ทั้งนี้ปัจจัย หรือจุดขายที่ อ.อัมพวา เหมาะสมที่จะเป็นเมืองมรดกโลก หรือ เวิลด์เฮอริเทจ คือเรื่องของวิถีชีวิตทางน้ำ ที่แม้เวลาจะล่วงเลยมาจนปัจจุบัน คนในพื้นที่นี้ก็ยังรักษาวิถีชีวิดเดิมๆเหมือนในอดีตไว้ได้ ซึ่ง ความเหมาะสมของอัมพวา ถ้าจะชูให้เป็น"เวนิชตะวันออก"ก็น่าจะสามารถทำได้ ทั้งนี้ระยะเวลาการเดินเรื่องขอเป็นเมืองมรดกโลก ตั้งแต่ยื่นหนังสือจนถึงอนุมัติ และประกาศต่อสาธารณะชน ต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่า 1 ปี
       
       
อย่างไรก็ตามการดำเนินการครั้งนี้ ก็ต้องได้รับความเห็นชอบและยินยอมจากประชาชนที่อาศัยอยู่ฝในพื้นที่ด้วย ซึ่งคาดว่าน่าจะได้รับการสนับสนุน เพราะคนย่านนี้เขาชื่นชอบที่จะรักษาวิถีชีวิต และสภาพแวดล้อมให้คงอยู่อย่างนี้ตลอดไป แต่ที่สำคัญต้องคอยกันป้องกันไม่ให้มีกลุ่มนายทุนเข้ามาปลูกสิ่งก่อสร้างที่จะก่อให้เกิดทัศนียภาพที่ผิดเพี้ยนไป และ ก่อให้เกิดการท่องเที่ยวในเชิงพาณิชย์มากเกินไป จนทำให้พื้นที่นี้สูญเสียเอกลักษณ์ของตัวเอง เสียความเป็นชุมชนของเมืองตัวเอง
       
       
ส่วนเรื่องการปรับปรุงสถานที่ หรือการพัฒนาระบบสาธารณูประโภค ทางจังหวัด และนายกเทศมนตรี อำเภออัมพวา พร้อมที่จะให้ความร่วมมือ ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาอัมพวาจำนวนมากขึ้น ทำให้รายได้ต่อหัวของประชากรเพิ่มขึ้นมาก หรืออยู่ที่ประมาณ 5 พันบาทต่อคนต่อปี
       
       
ทั้งนี้หาก อัมพวา ได้เป็นเมืองมรดกโลก จะทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเที่ยวมากขึ้น ซึ่งตรงนี้ก็จะเป็นหน้าที่ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) และ คนในพื้นที่ ที่จะเจาะตลาดในกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพ และ การพัฒนาบุคคลากรให้เป็นเจ้าบ้านที่ดี ซึ่งขณะนี้ สำนักพัฒนาการท่องเที่ยว(สพท.)ก็เร่งดำเนินการฝึกอบรม เช่น การอบรมมัคคุเทศก์ท้องถิ่น ปัจจุบัน ประเทศไทยมีเมืองที่ยูเนสโก้ประกาศให้เป็นเมืองมรดกโลกแล้ว 5 แห่ง ได้แก่ ห้วยขาแข้ง เขาใหญ่ อยุธยา สุโขทัย และ บ้านเชียง

 

www.waddeeja.com

สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

พันตรีศิริชัย  ทรัพย์ศิริ

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ วันที่ตอบ 2007-07-11 08:05:47 IP : 124.121.135.46


ความคิดเห็นที่ 4 (3250177)

น่าสนใจอ่ะ อยากได้รูป........่่เอ่..........่่า้ืิ่าาาา

ผู้แสดงความคิดเห็น เด็กไท วันที่ตอบ 2011-07-06 21:10:52 IP : 110.49.232.119


ความคิดเห็นที่ 5 (3275821)

 ดีมาก

ผู้แสดงความคิดเห็น แป้ง (ben_ben-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2012-02-06 18:32:51 IP : 103.1.164.23



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล 802/410 หมู่12 หมู่บ้านวังทองริเวอร์ปาร์ค ซอย10/4 ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี 12130 โทร : 02-990-0331 Copyright © 2010 All Rights Reserved.