หน้าหลัก | สมาคมคนพิการ ฯ (ส.พ.ค.) | โครงการ ปี2567 | รวมภาพกิจกรรม | คุณถาม-เราตอบ | ติดต่อเรา |
สภาวะโลก...อันตราย | |
ปรากฏการณ์น้ำท่วม (โลก)
พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล Tel. 0-2990-0331 | |
ผู้ตั้งกระทู้ พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ :: วันที่ลงประกาศ 2007-03-20 20:48:52 IP : 124.121.137.7 |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (871274) | |
เอเอฟพี - น้ำจืดกำลังจะเป็นสิ่งมีค่ามากขึ้น เนื่องจากภาวะโลกร้อนเริ่มคุกคาม บรรดาผู้เชี่ยวชาญเตือน โดยที่วันที่ 22 มี.ค.ของทุกปีถือเป็น "วันน้ำโลก" ด้วย ความคิดหลักของการรำลึกถึง "วันน้ำโลก" (World Water Day) ประจำปีนี้ก็คือ "เผชิญกับการขาดแคลนน้ำ" (Coping with Water Scarcity) ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดจากประชากรเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว การใช้น้ำอย่างสิ้นเปลือง และมลภาวะ องค์การสหประชาชาติประมาณไว้ว่า ภายในปี 2025 ประชากรโลกถึง 2 ใน 3 จะต้องอยู่ในภาวะขาดน้ำ โดยแอฟริกาเหนือ ตะวันออกกลาง และเอเชียตะวันตก จะเป็นภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบสาหัสที่สุด ทั้งนี้ ภาวะโลกร้อนก็มีส่วนทำให้ปัญหาขาดแคลนน้ำย่ำแย่ลงอีก ผู้เชี่ยวชาญระบุ ในหลายๆ ภูมิภาค ความแห้งแล้งที่รุนแรงขึ้น รูปแบบปริมาณฝนตกที่เปลี่ยนแปลงไป และปริมาณหิมะและน้ำแข็งบนภูเขาที่ลดลง อาจทำให้น้ำในแม่น้ำ ทะเลสาบ และชั้นหิน แห้งเหือดไปได้ บางภูมิภาคจะมีปริมาณน้ำฝนมากขึ้น แต่อาจจะเกิดจากพายุฝนรุนแรงที่จะก่อให้เกิดน้ำท่วมเฉียบพลัน มากกว่าที่จะเป็นฝนโปรยที่จะซึมซับลงสู่พื้นดินได้ หรือฝนอาจตกในพื้นที่มีประชากรเบาบาง หรือพื้นที่ซึ่งไม่มีโครงสร้างพื้นฐานที่จะรองรับหรือเก็บกักไว้ใช้ยามแห้งแล้ง นักวิทยาศาสตร์จากคณะกรรมาธิการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยความเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ (IPCC) ของยูเอ็น มีกำหนดจะเน้นย้ำถึงปรากฏการณ์ดังกล่าวในรายงานที่จะเผยแพร่ในวันที่ 6 เมษายนนี้ ซึ่งรายงานฉบับนี้เป็นรายงานประเมินภาวะโลกร้อนล่าสุดฉบับที่ 2 ทั้งนี้ เอเอฟพีระบุว่า ตามร่างรายงานของ IPCC ที่ได้มา มีเนื้อหาระบุว่า ในอาณาบริเวณตำแหน่งเส้นละติจูดสูงๆ และเขตเส้นศูนย์สูตรที่มีฝนตกมากบางพื้นที่ ซึ่งรวมถึงบริเวณที่มีประชากรหนาแน่นในเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ "เป็นไปได้อย่างมากว่า" ปริมาณน้ำน่าจะเพิ่มขึ้นในศตวรรษนี้ ร่างรายงานที่เอเอฟพีได้มาระบุ แต่ประเทศในตำแหน่งละติจูดกลางๆ และเขตเส้นศูนย์สูตรที่มีฝนน้อย ซึ่งประสบกับภาวะขาดน้ำไปแล้ว จะยิ่งมีน้ำน้อยลงไปอีก "พื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบจากภาวะแห้งแล้งน่าจะมีมากขึ้น และสภาพการณ์รุนแรงจากหยาดน้ำฟ้า (น้ำฝน,หิมะ,ลูกเห็บ) ซึ่งน่าจะเกิดถี่ขึ้นและรุนแรงขึ้น จะเพิ่มความเสี่ยงเกิดน้ำท่วมมากยิ่งขึ้น" นอกจากนี้ รายงานยังเผยด้วยว่า "เป็นไปได้อย่างมากที่ปริมาณน้ำซึ่งสะสมในธารน้ำแข็งและหิมะปกคลุมจะลดลง ซึ่งจะทำให้ปริมาณกระแสน้ำในฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วงในภูมิภาคต่างๆ ซึ่งมีประชากรกว่า 1 ใน 6 ของโลกอาศัยอยู่ ลดลงตามไปด้วย" ในระดับโลก ถ้าอุณหภูมิเพิ่มขึ้น 2 องศาเซลเซียสภายในปี 2100 เมื่อเทียบกับระดับเมื่อปี 1990 จะทำให้ประชากรมากถึง 2,000 ล้านคนอยู่ใน "ภาวะขาดแคลนน้ำมากขึ้น" ถ้าอุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้น 4 องศา ก็จะทำให้ตัวเลขเพิ่มขึ้นไปถึง 3,200 ล้านคน โดยแอฟริกาและเอเชียจะเป็นทวีปที่ได้รับผลกระทบรุนแรงมากที่สุด ร่างรายงานประมาณไว้ แม้แต่ประเทศร่ำรวย ซึ่งมีเงิน ทรัพยากรและความรู้ความเชี่ยวชาญทางเทคโนโลยีมากกว่า ก็จะประสบปัญหาขาดน้ำด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ดี ในเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา องค์การสิ่งแวดล้อมแห่งสหภาพยุโรป เตือนให้รัฐบาลในยุโรป เริ่มวางแผนรับมือกับภาวะขาดแคลนน้ำที่เกิดจากภูมิอากาศเปลี่ยน และระบุชัดว่า ทางตอนใต้ของสเปน ทางตอนใต้ของอิตาลี กรีซ และตุรกี กำลังได้รับผลกระทบอย่างหนัก พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล www.waddeeja.com Tel.0-2990-0331 | |
ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ วันที่ตอบ 2007-03-24 06:35:32 IP : 124.121.136.79 |
ความคิดเห็นที่ 2 (871279) | ||||||
พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ
| ||||||
ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ วันที่ตอบ 2007-03-24 07:12:15 IP : 124.121.136.79 |
ความคิดเห็นที่ 3 (871281) | |
หลังการปฏิวัติอุตสาหกรรม...พลังงานจากใต้พิภพที่ไม่สามารถทดแทนได้ถูกนำใช้ปีแล้วปีเล่า ก่อให้เกิดฝุ่นควัน โดยเฉพาะก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซพิษอื่นๆ ลอยสู่ชั้นบรรยากาศที่สูงจากพื้นโลกไปเพียง 13-15 กิโลเมตร ก่อนยุคอุตสาหกรรมช่วงปี พ.ศ.1543 ถึง พ.ศ.2343 พบก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพิ่มสูงขึ้นในชั้นบรรยากาศ 278 ส่วนในล้านส่วน ต่อมาในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมเฟื่องฟูปี พ.ศ. 2501 เพิ่มขึ้นเป็น 315 ส่วนในล้านส่วน และในปี พ.ศ.2548 เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เป็น 379 ส่วนในล้านส่วน อันเป็นผลพวงมาจากกิจกรรมการบริโภคของมนุษย์ที่ก่อให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ มีเทน และไนตรัสออกไซด์ เรียกโดยรวมว่า "ก๊าซเรือนกระจก" ในอดีตก๊าซกลุ่มนี้มีประโยชน์ต่อโลก เพราะช่วยดูดซับรังสีอินฟาเรด ซึ่งเกิดจากแสงอัลตราไวโอเลตจากดวงอาทิตย์ตกกระทบมายังพื้นโลก ทำให้โลกอบอุ่น แต่ปัจจุบันชั้นบรรยากาศโลกมีการสะสมก๊าซกลุ่มนี้มากเกินไป ส่งผลให้โลกมีอุณหภูมิสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตบนโลก แถมยังทำให้สภาพอากาศแปรปรวนผิดฤดูกาลอีกด้วย "น้ำแข็งขนาดมหึมาหลายล้านลูกบาศก์กิโลเมตรจากขั้วโลกเหนือ กำลังจะละลายจากสภาวะโลกร้อน ถ้าน้ำแข็งขั้วโลกใต้ซีกตะวันตกละลาย น้ำทะเลจะสูง 5 เมตร ก้อนน้ำแข็งที่กรีนแลนด์ละลายน้ำจะสูง 5.5 เมตร ขณะที่ ถ้าน้ำแข็งจากขั้วโลกใต้ฝั่งตะวันออกละลายจะทำให้น้ำสูง 70 เมตร เราก็จะไม่มีที่อยู่แล้วนะ กรุงเทพฯ คงจมอยู่ใต้น้ำ" นักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อม ชี้ไปยังภาพน้ำแข็งขนาดมหึมาที่กำลังละลาย การเผาผลาญวัสดุพลังงานชนิดต่างๆ เช่น ถ่านหิน น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ ที่มีการตรึงคาร์บอนไว้เป็นล้านๆ ปี บวกกับการตัดต้นไม้ แผ้วถางป่า ทำให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ปริมาณมากอย่างไม่เคยมีมาก่อน จนพืชพันธุ์ไม้ที่มีอยู่ไม่สามารถดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ได้ทันท่วงที ประกอบกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากภาคเกษตรกรรม เช่น ก๊าซมีเทน หรือการสูญเสียก๊าซมีเทนจากพื้นที่ที่ปกคลุมด้วยน้ำแข็ง ไม่ได้ส่งผลกระทบต่ออุณหภูมิโลกที่สูงขึ้นเท่านั้น ยังกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นพลวัตต่ออากาศที่แปรปรวน เช่น การเกิดปรากฏการณ์เอลนีโญ่และลานีญ่า ที่ซ้ำเติมความป่วยไข้ของโลกสีน้ำเงินใบนี้ ฤดูร้อนปีนี้...เราอาจสัมผัสถึงคลื่นความร้อนและความแห้งแล้งทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ เพราะประเทศไทยกำลังตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของเอลนีโญ่นั่นเอง ***! เอลนีโญ่ เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เป็นปฏิสัมพันธ์ระหว่างการหมุนเวียนของกระแสอากาศและกระแสน้ำในมหาสมุทร ทั้งบนพื้นผิวและใต้มหาสมุทร ถ้าปีใดเกิดปรากฏการณ์เอลนีโญ่ ทำให้เกิดฝนตกหนักทางตอนเหนือของทวีปอเมริกาใต้เมื่อไร เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ออสเตรเลียตอนเหนือก็จะเกิดความแห้งแล้ง และนำไปสู่การเกิดไฟไหม้ป่าอย่างรุนแรงในประเทศอินโดนีเซีย ส่วนปรากฏการณ์ ลานีญ่า จะมีลักษณะตรงข้ามกับเอลนีโญ่ คือ การทำให้ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วม อย่างที่เคยเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของประเทศไทย โดยเฉพาะจังหวัดทางตอนเหนือของประเทศ ภาพเหตุการณ์น้ำท่วมและโคลนถล่มที่ อ.สูงเม่น จ.แพร่ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน และ อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ ถูกนำมาวิเคราะห์ถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจากสภาวะโลกร้อนและผลกระทบจากการตัดไม้ทำลายป่า แถมท้ายปลายชั่วโมงมีการพูดถึงเรื่อง ชั้นโอโซน หรือชั้นบรรยากาศที่ช่วยป้องกันรังสีอัลตราไวโอเลตจากดวงอาทิตย์ ไม่ให้ตกกระทบมายังพื้นโลกมากเกินไป กำลังจะหมดพลังต้านทานรังสีก่อมะเร็งผิวหนังได้อีกต่อไป "โอโซนบริเวณขั้วโลกใต้ กำลังเกิดบาดแผลหรือรูโหว่ขนาดเท่าประเทศแคนาดา ออสเตรเลีย และอเมริการวมกัน ทำให้รังสีอัลตราไวโอเลตอันร้อนแรงเล็ดลอดเข้ามาทำอันตรายต่อสิ่งมีชีวิต โดยเฉพาะการเกิดมะเร็งที่ผิวหนัง สาวไทยต้องตื่นเช้ากว่าเดิม เพื่อปั้นผมทรงกระบังป้องกันรังสียูวี และสารพัดไวท์เทนนิ่งจะขายดี" ดร.จิรพล แทรกมุกตลก ส่วนที่มาของการทำลายโอโซนนั้น นักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อม ยกตัวอย่างง่ายๆ และใกล้ตัวว่า แค่การขับรถยนต์ผ่านลูกระนาดก็อาจทำให้ท่อน้ำยาแอร์รั่วโดยไม่รู้ตัว รถคันนี้ก็จะกลายเป็นแหล่งปลดปล่อยสารซีเอฟซีเคลื่อนที่ ซึ่งในเมืองไทยมีรถยนต์ลักษณะนี้อยู่เป็นแสนคัน และการขับรถประมาทจนเกิดอุบัติเหตุ แล้วตำรวจนำสีสเปรย์มาพ่นลงบนถนน ก็มีส่วนในการปล่อยสารซีเอฟซีเช่นกัน "ซีเอฟซี" หรือสารคลอโรฟลูออโรคาร์บอนเป็นสารสังเคราะห์ที่ใช้ในอุตสาหกรรมทำความเย็น อุตสาหกรรมผลิตเม็ดโฟม โดยสารซีเอฟซีใช้เวลาเดินทาง 15 ปี สู่ชั้นบรรยากาศที่สูงจากพื้นโลก 45 กิโลเมตร ระหว่างเดินทางสารซีเอฟซีจะไม่แตกตัวง่าย แต่ถ้าเจอแสงอัลตราไวโอเลตที่มีอำนาจทะลุทะลวงสูง จะทำให้สารซีเอฟซีแตกตัวเป็นสารคลอรีน ศัตรูตัวฉกาจของโอโซนนั่นเอง ***! หมดชั่วโมงเรียนภาคทฤษฎีเรื่องโลกร้อนแล้ว...การเรียนรู้ภาคปฏิบัติเริ่มต้นขึ้นในช่วงบ่ายแก่ๆ ณ หน่วยพิทักษ์ป่าห้วยสะด่อง เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ ฝั่งตรงข้ามศูนย์รวมตะวัน ด้วยการติดตามดูร่องรอยความสัมพันธ์ระหว่างการบริโภคในเมืองส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตในป่าอย่างไรบ้าง ? - คนเมืองต้องการใช้ไฟฟ้ามากเท่าที่ต้องการ พื้นที่ป่ารอบๆ สายส่งกระแสไฟฟ้าจะถูกทำลายมากขึ้น - คนเมืองอยากกินผักหวานป่า เกิดไฟป่ามากขึ้น - คนเมืองอยากกินเนื้อสัตว์ป่า หรืออยากเลี้ยงลูกสัตว์ป่า ต้องฆ่าสัตว์ที่ถือเป็นนักปลูกป่าฝีมือดีมากขึ้น - คนเมืองอยากได้พรรณไม้สวยงามและแปลกตาจากพงไพร ทำให้มีการลักลอบนำพรรณไม้ออกจากป่ามากขึ้น ทั้งที่พืชพรรณเหล่านั้นอาจมีความสำคัญในแง่อาหารและยารักษาโรคของสัตว์ป่า นั่นเป็นเพียงบทสรุปคร่าวๆ ของการเดินป่าเขาสลักพระเพียง 1 กิโลเมตร ซึ่งพบร่องรอยการบริโภคของสังคมเมือง ที่ส่งผลกระทบต่อสังคมในป่าได้ไม่ยากนัก เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูงยืนตระหง่านอยู่ตรงหน้าไล่เรียงเป็นแนวยาวสุดลูกหูลูกตา แล้วถ้านับรวมผืนป่าอนุรักษ์ทั่วประเทศไทย กำลังถูกลัทธิบริโภคนิยมจากสังคมเมืองรุมโทรมผืนป่าบริสุทธิ์อยู่ทุกวี่วัน ผลกระทบจากความบอบช้ำของธรรมชาติจะตกอยู่กับใคร ? พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล www.waddeeja.com Tel.0-2990-0331 | |
ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ วันที่ตอบ 2007-03-24 07:19:09 IP : 124.121.136.79 |
ความคิดเห็นที่ 4 (874409) | |
นิตยสาร "สารคดี" ฉบับเดือนเม.ย.นำเสนอเรื่องภาวะโลกร้อน ให้ข้อมูลน่าสนใจหลายด้าน พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล www.waddeeja.com Tel.0-2990-0331 | |
ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ วันที่ตอบ 2007-03-26 21:45:00 IP : 124.121.142.240 |
ความคิดเห็นที่ 5 (880827) | |
ภาวะเรือนกระจก...... นักวิชาการคาดอากาศหนาวเกิดจากการเคลื่อนตัวผิดปกติของบรรยากาศโลก ชี้กระบวนการเผาไหม้ในโรงงานอุตสาหกรรมก่อให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศโลกทำให้สภาพภูมิอากาศแปรปรวน พร้อมเรียกร้องรัฐต้องจัดการเรื่องพลังงานให้ดีก่อนมีการลงทุนด้านอุตสาหกรรมเพิ่ม หวั่นซ้ำเติมอากาศทรุดหนัก พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ วันที่ตอบ 2007-03-31 23:12:14 IP : 124.121.138.233 |
ความคิดเห็นที่ 6 (881093) | |||||
| |||||
ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ วันที่ตอบ 2007-04-01 06:33:26 IP : 124.121.135.45 |
ความคิดเห็นที่ 7 (886286) | |
ช่วงต้นปี 2550 ทุกภูมิภาคทั่วโลกส่อเค้าสัญญาณอันตรายจากปัญหาโลกร้อนแบบสาหัสสากรรจ์ จนต้องระดมแนวคิดหาทางรับมือภาวะเช่นนี้จ้าละหวั่น
พันตรีศิริ ทรัพย์ศิริ สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล Tel.0-2990-0331 | |
ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ วันที่ตอบ 2007-04-04 21:53:48 IP : 124.121.140.158 |
ความคิดเห็นที่ 8 (894091) | ||||||||
พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล Tel. 0-2990-0331
| ||||||||
ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ วันที่ตอบ 2007-04-07 10:59:07 IP : 124.121.135.25 |
ความคิดเห็นที่ 9 (930533) | |
พูดถึงเรื่องโลกร้อน ซึ่งเป็นปรากฏ การณ์ที่กำลังเกิดขึ้นและเริ่มที่จะ เห็นผลกระทบได้ชัดเจนขึ้นในช่วงศตวรรษต่อจากนี้ไปตอนนี้เราต้องเริ่มตระหนักกันแล้วว่าปรากฏการณ์ดังกล่าวไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไปและคงต้องร่วมมือร่วมใจกันมากขึ้นเพื่อโลกใบนี้ของเรา พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล www.waddeeja.com Tel. 0-2990-0331 | |
ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ วันที่ตอบ 2007-04-28 17:40:09 IP : 124.121.140.48 |
ความคิดเห็นที่ 10 (1018365) | |
อังกฤษออกกฎคุมสร้างบ้านลด "โลกร้อน" แล้วไทยล่ะ? อังกฤษออกกฎหมายควบคุมการสร้างบ้าน โดยกำหนดให้สร้างสร้างบานกระจก 2 ชั้นเพื่อกักเก็บความอบอุ่นไว้ในตัวบ้าน ซึ่งจะช่วยลดการมใช้พลังงาน อันเป็นปัจจัยหนึ่งของปัญหาโลกร้อน ลำพังคนๆ เดียวปั่นจักรยานไปทำงาน ปิดน้ำ-ปิดไฟ ลดใช้พลังงาน จะช่วยลดต้นตอของปัญหา "โลกร้อน" ได้มากแค่ไหน แม้จะรู้ทั้งรู้ว่าวิถีชีวิตของเรานี่แหละที่เป็นปัจจัยหลักของปัญหาสิ่งแวดล้อม คงมีหลายคนตั้งคำถามทำนองนี้ แต่สำหรับ "ทิม ฟอร์ซิธ" อาจารย์สิ่งแวดล้อมจากอังกฤษแจงว่าแนวทางหนึ่งที่จะช่วยได้คือต้องเริ่มจากนโยบาย พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล | |
ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ วันที่ตอบ 2007-06-24 23:00:56 IP : 124.121.135.108 |
ความคิดเห็นที่ 11 (1025760) | |
โลกร้อนกับโรคร้าย : มหันตภัยของคนกรุงเทพฯ เดี๋ยวนี้ไปไหนมาไหนก็จะมักจะได้ยินบทสนทนาที่เกี่ยวกับปัญหาโลกร้อนอยู่บ่อยๆจากที่เมื่อก่อนเป็นเรื่องไกลตัว เอ่ยถึงกันแต่ในแวดวงนักวิชาการ แต่เดี๋ยวนี้ไม่เว้นแม้แต่แม่ค้าในตลาดสดก็ยังพูดถึง ปัญหาโลกร้อนได้ถูกหยิบยกเป็นประเด็นสำคัญจนเกิดคำขวัญรณรงค์ MELTING ICE- A HOT TOPIC ? ขณะที่เมืองไทยให้ประโยคที่เข้ากับกระแสเพื่อปลุกจิตสำนึกแก่สังคมว่า หยุดโลกร้อนด้วยชีวิตพอเพียง นี่เป็นเครื่องมือสะท้อนให้เห็นว่าปัญหาโลกร้อนกำลังขยายอาณาเขตลุกลามไปทั่วโลก หนองจอก ลาดกระบัง คงไม่ลำบากแต่จะประสบปัญหาโรคที่เกิดกับพืชผลทางการเกษตรจนส่งผลให้เป็นเหยื่อของบริษัทขายยาฆ่าแมลง รวมทั้งกทม.จะต้องบอกให้ประชาชนรู้ว่าสภาพอากาศในกทม.จะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน รวมทั้งจะเผชิญกับพายุที่รุนแรงมากขึ้น บ้านเรือนที่มุงด้วยสังกะสีควรระวังให้ดี **วิกฤตการณ์โลกร้อนสู่มหันตภัยโรคร้าย สถานการณ์โรคที่มากับหน้าร้อนว่า สาเหตุที่ทำให้อุณหภูมิร้อนขึ้นทุกวันนี้ เกิดจากความศิวิไลซ์อันทำให้มนุษย์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สุขสบายมากขึ้น แต่กระบวนการที่มนุษย์ก่อขึ้นมีผลข้างเคียงต่อสภาพแวดล้อม แล้วก็ย้อนกลับมาสู่ตัวมนุษย์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่น ปรากฏการณ์เรือนกระจก พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล | |
ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ วันที่ตอบ 2007-06-29 08:03:12 IP : 124.121.138.98 |
ความคิดเห็นที่ 12 (1028448) | |
วันที่ 01 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 ปีที่ 17 ฉบับที่ 6058
สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ วันที่ตอบ 2007-07-01 11:16:49 IP : 124.121.139.25 |
ความคิดเห็นที่ 13 (1043913) | |
เฝ้าระวังโลกร้อนกระทบ "พันธุกรรมเชื้อโรค" เปลี่ยน สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ วันที่ตอบ 2007-07-10 13:00:58 IP : 124.121.138.26 |
ความคิดเห็นที่ 14 (1047223) | |
ผวจ.เมืองกรุงเก่าเข้ม 2 มาตรการลดโลกร้อน
สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ วันที่ตอบ 2007-07-12 23:03:47 IP : 124.121.138.91 |
ความคิดเห็นที่ 15 (1053556) | |
ภาวะโลกร้อน - ภาวะโลกร้อนภายในช่วง 10 ปีนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2533 มานี้ ได้มีการบันทึกถึงปีที่มีอากาศร้อนที่สุดถึง 3 ปีคือ ปี พ.ศ. 2533, พ.ศ.2538 และปี พ.ศ. 2540 แม้ว่าพยากรณ์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ยังมีความไม่แน่นอนหลายประการ แต่การถกเถียงวิพากษ์วิจารณ์ได้เปลี่ยนหัวข้อจากคำถามที่ว่า "โลกกำลังร้อนขึ้นจริงหรือ" เป็น "ผลกระทบจากการที่โลกร้อนขึ้นจะส่งผลร้ายแรง และต่อเนื่องต่อสิ่งที่มีชีวิตในโลกอย่างไร" ดังนั้น ยิ่งเราประวิงเวลาลงมือกระทำการแก้ไขออกไปเพียงใด ผลกระทบที่เกิดขึ้นก็จะยิ่งร้ายแรงมากขึ้นเท่านั้น และบุคคลที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุดก็คือ ลูกหลานของพวกเราเอง จากการทำงานของคณะกรรมการของรัฐบาลนานาชาติ ว่าด้วยเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีองค์การวิทยาศาสตร์ ได้ร่วมมือกับองค์การสหประชาชาติ เฝ้าสังเกตผลกระทบต่างๆ และได้พบหลักฐานใหม่ที่แน่ชัดว่า จากการที่ภาวะโลกร้อนขึ้นในช่วง 50 กว่าปีมานี้ ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการกระทำของมนุษย์ ซึ่งส่งผลกระทบอย่างต่อเนื่องให้อุณหภูมิของโลกเพิ่มขึ้นในทุกหนทุกแห่ง ประมาณ 1.4-5.8 องศาเซลเซียส. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปทีละเล็กทีละน้อย แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงซึ่งเกิดขึ้นบ่อยครั้ง และมีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดได้แก่ ความแห้งแล้งอย่างรุนแรง วาตภัย อุทกภัย พายุฝนฟ้าคะนอง พายุทอร์นาโด แผ่นดินถล่ม และการเกิดพายุรุนแรงฉับพลัน จากภาวะอันตรายเหล่านี้พบว่า ผู้ที่อาศัยอยู่ในเขตพื้นที่ที่เสี่ยงกับการเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งได้รับผลกระทบมากกว่าพื้นที่ส่วนอื่นๆ ยังไม่ได้รับการเอาใจใส่และช่วยเหลือเท่าที่ควร นอกจากนี้ ยังมีการคาดการณ์ว่า การที่อุณหภูมิของโลกสูงขึ้น เป็นเหตุให้ปริมาณผลผลิตเพื่อการบริโภคโดยรวมลดลง ซึ่งทำให้จำนวนผู้อดอยากหิวโหยเพิ่มขึ้นอีก 60-350 ล้านคน ในประเทศไทยและฟิลิปปินส์ มีโครงการพลังงานต่างๆ ที่จัดตั้งขึ้น และการดำเนินงานของโครงการเหล่านี้ ได้ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศน์วิทยาอย่างเห็นได้ชัด ตัวอย่างเช่น การเปลี่ยนแปลงของฝนที่ไม่ตกตามฤดูกาล และปริมาณน้ำฝนที่ตกในแต่ละช่วงได้เปลี่ยนแปลงไป การบุกรุกและทำลายป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ การสูงขึ้นของระดับน้ำทะเลและอุณหภูมิของน้ำทะเล ซึ่งส่งผลกระทบอย่างมากต่อระบบนิเวศน์วิทยาตามแนวชายฝั่ง และจากการที่อุณหภูมิของน้ำทะเลสูงขึ้นนี้ ได้ส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนสีของน้ำทะเล ดังนั้น แนวปะการังต่างๆ จึงได้รับผลกระทบและถูกทำลายเช่นกัน ประเทศไทยเป็นตัวอย่างของประเทศที่มีชายฝั่งทะเล ที่มีความยาวประมาณ 2,490 กิโลเมตร และเป็นแหล่งที่มีความสำคัญอย่างมากต่อเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การประมง การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ และความไม่แน่นอนของฤดูการที่ส่งผลกระทบต่อการทำเกษตรกรรม มีการคาดการณ์ว่า หากระดับน้ำทะเลสูงขึ้นอีกอย่างน้อย 1 เมตรภายในทศวรรษหน้า หาดทรายและพื้นที่ชายฝั่งในประเทศไทยจะลดน้อยลง สถานที่ตากอากาศชายทะเล รวมถึงอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เช่น พัทยา และ ระยองจะได้รับผลกระทบโดยตรง แม้แต่กรุงเทพมหานคร ก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงจากผลกระทบของระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นนี้เช่นกัน ปัญหาด้านสุขภาพ ก็เป็นเรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่งที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง จากสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงนี้ด้วย เนื่องจากอุณหภูมิและความชื้นที่สูงขึ้น ส่งผลให้มีการเพิ่มขึ้นของยุ่งมากขึ้น ซึ่งนำมาสู่การแพร่ระบาดของไข้มาเลเรียและไข้ส่า นอกจากนี้โรคที่เกี่ยวข้องกับน้ำ เช่น อหิวาห์ตกโรค ซึ่งจัดว่าเป็นโรคที่แพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็วโรคหนึ่งในภูมิภาคนี้ คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง จากอุณหภูมิและความชื้นที่สูงขึ้น คนยากจนเป็นกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงสูงต่อผลกระทบ จากการเปลี่ยนแปลงนี้ ประกอบกับการให้ความรู้ในด้านการดูแลรักษาสุขภาพที่ดี ยังมีไม่เพียงพอ ปัจจุบันนี้สัญญาณเบื้องต้นของสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป ได้ปรากฏขึ้นอย่างแจ้งชัด ดังนั้น สมควรหรือไม่ที่จะรอจนกว่าจะค้นพบข้อมูลมากขึ้น หรือ มีความรู้ในการแก้ไขมากขึ้น ซึ่ง ณ เวลานั้นก็อาจสายเกินไปแล้วที่จะแก้ไขได้ พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล | |
ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ วันที่ตอบ 2007-07-16 19:18:23 IP : 124.121.141.130 |
ความคิดเห็นที่ 16 (1069294) | |
ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ วันที่ตอบ 2007-07-20 12:21:29 IP : 124.121.138.170 |
ความคิดเห็นที่ 17 (1182105) | |
ผู้แสดงความคิดเห็น _ำ^๖ฝขถ
จ วันที่ตอบ 2007-09-26 12:51:33 IP : 203.146.127.172 |
ความคิดเห็นที่ 18 (1182410) | |
นายกฯเรียกร้องเวทียูเอ็น ร่วมต่อจิ๊กซอว์แก้โลกร้อน พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล | |
ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย วันที่ตอบ 2007-09-26 17:09:55 IP : 124.121.138.233 |
ความคิดเห็นที่ 19 (1187356) | |
เอแบคโพลล์ เผยคนไทยตื่นตัวต่อสภาวะโลกร้อน
ชี้สาเหตุสำคัญมาจากการตัดไม้ทำลายป่า
นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเอแบค นวัตกรรมทางสังคม การจัดการและธุรกิจ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลสำรวจเรื่อง สำรวจความตื่นตัวของประชาชนต่อสภาวะโลกร้อน และผลกระทบต่อประเทศไทย กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไปทุกระดับชั้นของสังคม ในเขตกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และหัวเมืองใหญ่ 4 จังหวัด จำนวน 2,191 ตัวอย่าง เก็บข้อมูลระหว่างวันที่ 21-29 กันยายน พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ตื่นตัวกับภาวะโลกร้อน โดยร้อยละ 97.1 เคยได้ยินหรือรับทราบเกี่ยวกับปัญหาโลกร้อนในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมา เป็นการรับทราบผ่านสื่อโทรทัศน์มากที่สุด
เมื่อพิจารณาถึงสาเหตุของปัญหาโลกร้อน พบว่าอันดับแรก คือ การตัดไม้ทำลายป่า คิดเป็นร้อยละ 98.4 รองลงมา ไอควันเสียจากโรงไฟฟ้าถ่านหิน คิดเป็นร้อยละ 97.6 ไอควันเสียจากโรงงานอุตสาหกรรม คิดเป็นร้อยละ 96.5 ท่อไอเสียจากรถยนต์ คิดเป็นร้อยละ 91.0 และการใช้ไฟฟ้าอย่างสิ้นเปลือง คิดเป็นร้อยละ 89.9 ตามลำดับ
ส่วนผลกระทบที่เกิดจากปัญหาโลกร้อน และส่งผลต่อประเทศไทยในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ คือ ร้อยละ 97.8 ระบุว่า ส่งผลกระทบต่อสภาพอากาศที่แปรปรวนและรุนแรง รองลงมาคือ มีผลกระทบต่อระบบสาธารณูปโภคได้รับความเสียหาย เช่น ไฟฟ้า เส้นทางคมนาคม สุขภาพประชาชน สัตว์และพืชตามป่าชายเลนล้มตาย รวมทั้งกระทบต่อการทำมาหากินของประชาชนลำบากขึ้น กลุ่มตัวอย่าง 2 ใน 3 รู้สึกวิตกกังวลต่อสภาพอากาศที่แปรปรวนและรุนแรงจนที่อยู่อาศัยได้รับความเสียหาย และผลผลิต คุณภาพทางการเกษตรลดลง นอกจากนี้ อยากได้ข้อมูลเกี่ยวกับการลดภาวะโลกร้อนเพิ่มเติม
พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล www.waddeeja.com | |
ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย วันที่ตอบ 2007-09-30 20:57:09 IP : 124.121.136.105 |
ความคิดเห็นที่ 20 (1205608) | |||
ภาวะโลกร้อน
| |||
ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย วันที่ตอบ 2007-10-15 19:40:59 IP : 124.121.138.81 |
ความคิดเห็นที่ 21 (1249549) | |
ชาวกทม.ผู้สร้างภาวะโลกร้อนอันดับต้นของโลก ทุกวันนี้ประเทศไทยปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศปีละ 172 ล้านตัน ซึ่งถือว่าสูงกว่าประเทศในแถบเอเชียอาคเนย์ด้วยกัน พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล www.waddeeja.com | |
ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย วันที่ตอบ 2007-11-11 18:18:01 IP : 124.121.142.210 |
ความคิดเห็นที่ 22 (1304259) | |
การประชุมภายใต้กรอบอนุสัญญาแม่บทของยูเอ็นว่าด้วยความเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ เริ่มขึ้นแล้วที่บาหลี และหวังว่าเสร็จสิ้นการประชุมในวันที่ 14 ธ.ค.จะมีอะไรดีๆ ออกมาเพื่อช่วยพิทักษ์โลกเราไว้ เอเอฟพี / เอพี เหล่าผู้แทนและนักวิทยาศาสตร์จากทั่วโลกร่วมการประชุมโลกร้อนครั้งใหญ่ที่สุด โดยยูเอ็นโต้โผใหญ่หวังเกิดกระบวนการแก้ปัญหาอย่างรวดเร็ว และสร้างสนธิสัญญาสากลใหม่เพื่อต่อสู้กับภัยสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจ อันเป็นผลจากภาวการณ์เปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศให้ได้ภายในปี 2552 สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย วันที่ตอบ 2007-12-07 12:16:23 IP : 124.121.137.147 |
ความคิดเห็นที่ 23 (1822404) | |
WGMS เผยธารน้ำแข็งละลายเร็วขึ้น 2 เท่า 16 มีนาคม 2551 ผลการศึกษาโดยสำนักงานติดตามธารน้ำแข็งโลก (WGMS) ซึ่งสนับสนุนโดยโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UNEP) ระบุว่า จากการสำรวจธารน้ำแข็งกว่า 30 แห่งระหว่างปี 2547-2548 และ 2548-2546 พบว่า อัตราการละลายของธารน้ำแข็งโดยเฉลี่ยสูงขึ้นมากกว่า 2 เท่าจากสถิติประวัติการณ์ในรอบหลายสิบปีเมื่อปี 2541 * * * * * * * * * * * * * * * * * พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล โทร. 02-990-0331 http://www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ สมาคมคนพิการ 1603511617 | |
ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ วันที่ตอบ 2008-03-16 16:06:01 IP : 124.121.137.171 |
ความคิดเห็นที่ 24 (2042678) | |
แงงงงงงงงงงงงงงง | |
ผู้แสดงความคิดเห็น poppy วันที่ตอบ 2008-04-05 20:04:47 IP : 222.123.225.167 |
ความคิดเห็นที่ 25 (2375277) | |
เจจีซีตั้งหอคอยตรวจก๊าซดูศักยภาพผืนป่าดูดซับก๊าซ........โลกร้อน บัณฑิตพลังงานตั้งหอตรวจวัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เหนือป่าราชบุรีวัดความสามารถของผืนป่าในการกักเก็บก๊าซเรือนกระจก รวมทั้งพยากรณ์ความเสี่ยงสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิต เมื่ออุณหภูมิโลกเพิ่ม 1 องศาเซลเซียส ผศ.ดร.อำนาจชิดไธสง หัวหน้าโครงการศึกษาการตั้งหอคอย เพื่อวัดธรรมชาติการแลกเปลี่ยนก๊าซเรือนกระจก เหนือระบบนิเวศป่าไม้ บัณฑิตวิทยาลัยร่วมด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม (เจจีซี) กล่าวว่า โครงการต้องการศึกษาวงจรการปลดปล่อยและดูดกลับของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจก สำหรับการติดตามเฝ้าระวังภาวะโลกร้อน และหาวิธีการรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ หอคอยที่ตั้งขึ้นนี้มีลักษณะเป็นเสาสูงขึ้นไปจากพื้นดิน10 เมตร ยอดหอคอยติดตั้งอุปกรณ์วัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งจะเก็บข้อมูลการแลกเปลี่ยนก๊าซวินาทีละ 10 ครั้ง ครอบคลุมตั้งแต่การสังเคราะห์แสงของต้นไม้ (การดูดกลับคาร์บอนไดออกไซด์จากอากาศ) การหายใจของต้นไม้ (การปลดปล่อยก๊าซสู่บรรยากาศ) รวมไปถึงการดึงก๊าซไปใช้สำหรับการหายใจของจุลินทรีย์และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ โครงการหอคอยฯรับการสนับสนุนจาก 3 หน่วยงานคือ เจจีซี สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) และโครงการเสริมสร้างความรู้ระบบโลก มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) โดยศึกษาในพื้นที่ป่าเต็งรังประมาณ 4 ตารางกิโลเมตร ภายใน มจธ. วิทยาเขตราชบุรี ข้อมูลที่ได้สามารถนำมาคำนวณเพื่อให้ทราบถึงศักยภาพของป่าไม้ในการดูดซับก๊าซเรือนกระจกหากต้นไม้สังเคราะห์แสงมากและกักเก็บก๊าซไว้ในรูปของเนื้อไม้มาก แสดงว่าต้นไม้ในป่าช่วยลดความเข้มข้นของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มาก นอกจากนี้ยังทำให้ทราบถึงความอ่อนไหวของระบบนิเวศเมื่อสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง "ยกตัวอย่างเมื่อภูมิอากาศหรือความชื้นเปลี่ยนไป สิ่งมีชีวิตจะหายใจดูดคาร์บอนไดออกไซด์มาใช้มากเพิ่มขึ้นหรือลดลงอย่างไร ข้อมูลที่ได้ยังนำไปใช้ทำนายความเข้มข้นของก๊าซเรือนกระจก รวมทั้งใช้ในแบบจำลองพยากรณ์ ซึ่งจะทำให้ทราบได้ทันทีว่าอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นเพียง 1 องศาเซลเซียส ป่าไม้จะดูด/ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากขึ้นหรือน้อยลงอย่างไร" ผศ.ดร.อำนาจกล่าว ทางโครงการเปิดกว้างรับความร่วมมือจากนักวิจัยที่ต้องการติดตั้งเครื่องมือตรวจวัดอื่นๆไว้บนหอคอย เช่น เครื่องวัดการสะสมของซัลเฟอร์ ซึ่งข้อมูลที่ได้อาจนำไปใช้เชื่อมโยงกับเรื่องอื่นๆ และเป็นการเติมเต็มข้อมูลด้านวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมไทยให้ครบถ้วน * * * * * * * * * * * * * * * * * พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล โทร. 02-990-0331 http://www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ สมาคมคนพิการ 0305512026 | |
ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ วันที่ตอบ 2008-05-03 20:14:54 IP : 124.121.141.63 |
ความคิดเห็นที่ 26 (2679241) | |
"คาร์บอน" จับเปลี่ยนเป็น "คาร์บอเนต" ไซน์เดลี-นักวิทย์อังกฤษพบเทคโนโลยีใหม่สู้ "โลกร้อน" เปลี่ยนก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็น "คาร์บอเนต" สารเคมีที่มีความต้องการสูงในอุตสาหกรรม โดยสามารถพัฒนากระบวนการที่ใช้พลังงาน ความร้อนและความดันน้อยกว่ากระบวนการที่เคยใช้ 1705511042
* * * * * * * * * * * * * * * * * พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล โทร. 02-990-0331 http://www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ สมาคมคนพิการ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ วันที่ตอบ 2008-05-17 10:30:58 IP : 124.121.135.203 |
ความคิดเห็นที่ 27 (2904288) | |
UN ชวน ลดบริโภคเนื้อเพื่อลดโลกร้อน เอเอฟพี - ประชาชนควรลดการบริโภคเนื้อสัตว์ เพื่อช่วยต่อสู้ภาวะโลกร้อน ผู้เชี่ยวชาญระดับอาวุโสของยูเอ็นให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์อังกฤษในฉบับวันอาทิตย์ (7) * * * * * * * * * * * * * * * * * พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล โทร. 02-990-0331 http://www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ สมาคมคนพิการ 0809510949 | |
ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2008-09-08 09:49:56 IP : 124.121.139.117 |
ความคิดเห็นที่ 28 (3205830) | |
fake handbag for sale in addition composition the collection in retail how is the choice of hope you are charming handbag design and durability men"s gucci hats designer handbag replica louis vuitton ensure material | |
ผู้แสดงความคิดเห็น 1 (qaelav-at-ovi-dot-com)วันที่ตอบ 2010-08-25 00:13:43 IP : 125.121.215.19 |
ความคิดเห็นที่ 29 (3221150) | |
GHD MK4 curly hair straightener Permit your head of hair to angle for fifteen accounts and once more attain abiding your head of hair is absolutely dry You can dry your curly hair by itself or with curly hair dryer Accomplish abiding the hairdryer pointing straight down which can accept the aftereffect on hair follicles that would acquiesce them to point down and complete abiding your hair shine Research is an absolution or even a curse Of advance it is definitely an alloyed absolution on this break too for people with affection for look aided by the accession of ghd MK4 GHD MK4 hair adamant is absorbing and no agnosticism may be the absolution of research With the entire added role that has been an absolution to acclimatized the asparagus waves It truly is artlessly absurd and can"t be carried out unless of course you get one for you With numerous advantageous appearances has develop into the aboriginal very best for appearance aficionados The brand new larger technology is suggested to align your locks afterwards damage What is GHD MK4 curly hair adamant is success Able-bodied looking at the chump critiques which could admeasurements the acceptance of it What could be the affidavit for this kind of reputation In accordance to chump acknowledgment showed that humans achieved acclaim on your DVD MK4 ghd ghd straighteners be acutely advantageous to customers who"re accomplished together with the actual approach to attain an precise model Too the votes of barter for above superior articles or blog posts that motion GHD Hair Straighteners affliction head of hair additional safely afore and afterwards software the straightener All that is precise advantageous for those who carry out your head of hair extra commonly or you are able to say frequently | |
ผู้แสดงความคิดเห็น 1 (baxvos-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2010-11-01 16:28:24 IP : 125.122.102.4 |
ความคิดเห็นที่ 30 (3221161) | |
A history of GHD locks straighteners Do you would like the accomplished journey abaft ghd The grownup secrets of how an all-around super brand name was born Nicely aboriginal issues aboriginal afore we get agitated away let"s get a handful of details straight GHD is really a British corporation as well as additional as that itกฏs a Yorkshire corporation "Flippin" eck" we apprehend you say and you"d be correct Becoming a correct Yorkshire company the journey of ghd (or Jemella Ltd are they"re accepted on a Sunday) is according to harder strategy at t"forefront of all-around curly hair care All of it began if the blow of us were just accepting around our millennium celebrations Because the aggregate hangovers cleared several people have been acquainted that a anarchy was just demography place an insurgence inside the head of hair affliction apple that was to banish bad hair canicule for suitable and actualize a movement that will go on to become in time a new adoration for head of hair! When the aboriginal bowl locks straightening adamant was accustomed inside UK cipher obtained anytime obvious annihilation like ghd ghd straighteners it Being an ex-hairdresser to get a prime salon Robert Powls the guy who happened up this expense possession knew a lot if it came to head of hair Convinced he was assimilating a winner he and two business enterprise ally acquired the rights to your item alleged it the appropriate hair day locks straightener ("GHD") and started trading To activate with loads of hairdressers anticipation they had been badinage if they reply the GHD curly hair straightener with a retail amount of about $100! It really is genuinely could have an attempt! | |
ผู้แสดงความคิดเห็น 1 (nyntrs-at-163-dot-com)วันที่ตอบ 2010-11-01 16:35:22 IP : 125.122.102.4 |
[1] |