เปิดขุมทรัพย์ 26 สนามบิน แจกสัมปทาน อบจ.- เอกชนลุยธุรกิจ

นายกฯสมัครเรียก 3 หน่วยงานการบินถกแผนพัฒนาสนามบินทั่วประเทศ "กรมการขนส่งทางอากาศ" เปิดขุมทรัพย์สนามบิน 26 แห่ง ชงรัฐบาลเลือก 5 แนวทาง แจกสัมปทาน "อบจ.-เอกชน-ตั้งองค์กรมหาชน-โอนให้ ทอท." หรือให้กรมบริหารเอง ขอปลดล็อกนำที่ดินไปหารายได้ในเชิงพาณิชย์ ขณะที่ "หมอเสริฐ" ยืนยันพร้อมอ้าแขนรับบริหารทุกสนามบิน ส่วน "ทอท." ใส่พานขยายสุวรรณภูมิเฟส 2

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการพัฒนาระบบขนส่งทางอากาศและท่าอากาศยานไทย (กทภ.) เตรียมนัดประชุมนัดแรกวันที่ 21 เมษายนนี้

โดยจะเรียกหน่วยงานเกี่ยวข้องหลัก กรมการขนส่งทางอากาศ (ขอ.) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ "ทอท." บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หารือร่วมกับคณะกรรมการเพื่อกำหนดทิศทางเชิงนโยบายการจัดการสนามบินภูมิภาคภายในประเทศ 26 แห่ง และสนามบินนานาชาติของ ทอท. 6 แห่ง ซึ่งกำลังเป็นแกนหลักที่รัฐบาลเล็งเห็นว่าสนามบินจะเป็นตัวขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจเชื่อมโยงขับรายได้ระดับประเทศและนานาชาติกระจายสู่ท้องถิ่นทั้ง 75 จังหวัด

นายชัยศักดิ์ อังค์สุวรรณ อธิบดีกรมการขนส่งทางอากาศ เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า พร้อมจะเสนอแผนพัฒนาสนามบินภูมิภาคที่อยู่ในความดูแล 26 แห่ง ให้นายกรัฐมนตรี ประธาน กทภ. พิจารณาแนวทางคลี่คลายปัญหาขณะนี้รัฐต้องแบกภาระค่าใช้จ่ายบริหารและปรับปรุงสนามบินทั่วประเทศแต่ละปีรวมกว่า 4,500 ล้านบาท ตามที่กรมการขนส่งทางอากาศศึกษาข้อมูลเปรียบเทียบรูปแบบการดำเนินงานสนามบินตามแนวทางใหม่บนทางเลือก 5 วิธี ประกอบด้วย

1)โอนสนามบินให้องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) รับไปบริหารจัดการเอง

2)โอนสนามบินให้ ทอท.ในลักษณะต่อเนื่อง แบบเดียวกันกับสนามบินนานาชาติเชียงราย

3)จัดตั้งเป็นองค์กรมหาชนการบินเข้าไปบริหารจัดการโดยยังคงใช้งบประมาณรัฐบาลสนับสนุนปกติเป็นรายปี เพียงแต่เปลี่ยนโครงสร้างจากระบบราชการเป็นมหาชนเพิ่มความคล่องตัวในการทำงาน

4)กรมการขนส่งทางอากาศยังคงบริหารจัดการเหมือนเดิม แต่ขอให้รัฐบาลปลดล็อกเงื่อนไขการใช้ประโยชน์จากที่ดินบริเวณสนามบินแต่ละจังหวัด เพื่อนำไปพัฒนาเป็นพื้นที่สร้างรายได้ในเชิงพาณิชย์ (non-aero)

5)เปิดสัมปทานหรือให้ผู้ประกอบธุรกิจเช่าทำเป็นซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านอาหาร สินค้าที่ระลึก หรือธุรกิจอื่นๆ ที่ให้บริการแก่นักท่องเที่ยว นักเดินทาง

6)เปิดให้เอกชนเข้ามาดำเนินการ 2 แนวทางคือ แนวทางแรก จัดทำสัมปทานสนามบินให้ผู้ประกอบการที่มีความพร้อมเข้ามาดำเนินงาน โดยจ่ายค่าธรรมเนียมระยะยาวให้กรมการขนส่งทางอากาศ และแนวทางที่ 2 จ้างเอกชนบริหารเพียงอย่างเดียวโดยไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมระยะยาว แต่จะตกลงแบ่งรายได้กันตามสัดส่วนรายปี

"ข้อดีของการกระจายสนามบินภูมิภาค 26 แห่งไปให้องค์กรท้องถิ่นหรือเอกชนบริหาร ก็เพื่อลดภาระต้นทุนและงบประมาณที่รัฐต้องจัดสรรให้กรมการขนส่งทางอากาศทุกปี เนื่องจากเป้าหมายเดิม คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติให้สร้างสนามบินตามจังหวัดต่างๆ เพื่อเป็นบริการสาธารณะแก่ประชาชน ต่างจากปัจจุบันมุมมองของหลายฝ่ายเสนอให้เปลี่ยนสนามบินทุกแห่งไปทำในเชิงธุรกิจแทน แต่โครงสร้างกรมการขนส่งทางอากาศยังไม่มีความคล่องตัวมากขนาดที่จะทำเช่นนั้นได้"

"ยกเว้นถ้ารัฐบาลใหม่จะเปิดทางเลือกผ่าทางตันตั้งเป็นองค์กรมหาชน รัฐบาลให้งบประมาณสนับสนุนต่อไป มีระบบที่คล่องตัวสามารถหารายได้ในเชิงพาณิชย์ เพราะทุกวันนี้ที่ดินสนามบินเกือบทุกจังหวัดเช่าจากกรมธนารักษ์เกิน 80% มีรายได้จำกัดอยู่เฉพาะการให้บริการการบิน (aero) จากการเก็บค่าธรรมเนียมเครื่องบินขึ้น-ลง (landing fee) ค่าบริการอุปกรณ์ภาคพื้นดิน ส่วนรายได้เชิงพาณิชย์ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการบิน (non-aero) ซึ่งสนามบินนานาชาติทั่วไปสามารถทำเงินเป็นกอบเป็นกำตามสัดส่วนได้ถึง 60% ของรายได้ทั้งหมดในแต่ละปี ขณะที่กรมการขนส่งทางอากาศกลับทำได้เพียงเปิดให้เอกชนในจังหวัดเช่าพื้นที่ในอาคารผู้โดยสารแต่ละสนามบิน นำสินค้าท้องถิ่นมาขายหรือเช่าทำร้านอาหารขนาดไม่ใหญ่มาก มีรายได้เพียงเล็กน้อย" นายชัยศักดิ์กล่าวและว่า

ขณะนี้ภาระหนักของการบริหารจัดการสนามบินภูมิภาคของกรมการขนส่งทางอากาศทั้ง 26 แห่ง มีอยู่ 2 เรื่องใหญ่ เรื่องที่ 1 ต้องใช้เงินลงทุนอุปกรณ์ควบคุมการบินให้ได้มาตรฐานความปลอดภัยตามข้อกำหนดของสมาคมการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization : ICAO) ไม่ว่าสนามบินใดจะมีเที่ยวบินมากน้อยขนาดไหนก็จะต้องดูแลรักษาไว้เป็นอย่างดี จึงต้องใช้งบประมาณดูแลรักษาแต่ละปีหลายพันล้านบาท เรื่องที่ 2 ข้อจำกัดด้านการหารายได้จากพื้นที่เชิงพาณิชย์ทั้งในอาคารผู้โดยสารและการใช้ประโยชน์จากที่ดินภายในสนามบินที่เช่าจากกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง

นายแพทย์ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด เจ้าของสายการบินบางกอก แอร์เวย์ส และเจ้าของสนามบินนานาชาติเกาะสมุย สุโขทัย เกาะช้าง เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า หลังจัดตั้งรัฐบาลชุดนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี ทางกรมการขนส่งทางอากาศทำหนังสือสอบถามมายังการบินกรุงเทพถึงความสนใจที่จะเข้าไปบริหารสนามบินภูมิภาคหรือไม่ เมื่อกลางเมษายนที่ผ่านมาได้ตอบกรมและกระทรวงคมนาคมไปเรียบร้อยแล้ว

โดยยืนยันความต้องการจะช่วยรัฐแบ่งเบาภาระการบินกรุงเทพพร้อมจะเข้าไปบริหารจัดการสนามบินทุกแห่งของกรมการขนส่งทางอากาศ ภายใต้เงื่อนไขจะต้องให้สัมปทานบริหารทั้งแพ็กเกจ 26 แห่ง รวมทั้งจะต้องจัดทำข้อตกลงอย่างเป็นธรรม แบ่งสนามบินตามการใช้งานและสร้างธุรกิจได้จริงออกเป็น 2 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่ม 1 สนามบินภูมิภาคที่มีธุรกิจจริง มีสายการบินบินประจำต่อเนื่องมาตลอด กลุ่ม 2 สนามบินภูมิภาคที่ไม่มีสายการบินใช้งาน ปัจจุบันมีประมาณ 6 แห่ง ได้แก่ เพชรบูรณ์ บุรีรัมย์ นครราชสีมา ชุมพร เลย และตาก

หากรัฐบาลตัดสินใจเลือกการบินกรุงเทพเข้าไปบริหารจัดการสนามบินทั้ง 26 แห่งจะได้ประโยชน์สูงกว่ารายอื่น ตรงบริษัทมีประสบการณ์บริหารสนามบินนานา ชาติซึ่งสร้างด้วยเงินลงทุนของตนเอง ทั้งที่เกาะสมุย สุโขทัย และเกาะช้าง ขณะเดียวกันสายการบินบางกอก แอร์เวย์ส มีฝูงบินอยู่เกือบ 30 ลำ ทันทีที่รัฐบาลประกาศความชัดเจนให้เข้าไปบริหาร ก็จะนำเที่ยวบินไปบริการตามเส้นทางจังหวัดต่างๆ ทันที สนามบินที่มีศักยภาพทำได้เลย คือ อุบลราชธานี อุดรธานี ขอนแก่น พิษณุโลก

พล.อ.ท.ชนะ อยู่สถาพร กรรมการ ผู้อำนวยการใหญ่ ทอท.กล่าวว่า เตรียมรายละเอียดเสนอที่ประชุม กทภ. เรื่องแผนเดินหน้าโครงการขยายสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิเฟส 2 หรือ Midfield Concord มูลค่า 7.5 หมื่นล้านบาท สร้างอาคาร ผู้โดยสารเพิ่มขีดความสามารถการรองรับอีก 15 ล้านคน เพิ่มทางวิ่งที่ 3, 4 (runway 3-4) เพิ่มพื้นที่เชิงพาณิชย์ และบริการอื่นๆ ให้แล้วเสร็จภายใน 5 ปี แต่ในการจะโอนรับสนามบินภูมิภาคจากกรมการขนส่งทางอากาศมาบริหารเองคงจะยาก เพราะเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมารับโอนสนามบินเชียงรายมา บริหาร ผลปรากฏว่ายังขาดทุนอยู่จนถึงทุกวันนี้ เนื่องจากมีเที่ยวบินไปใช้บริการน้อยมากจะต้องรอการลงทุนตามแนวตะเข็บชายแดนลาว จีน รุ่งเรืองอีก 2-3 ปีข้างหน้า แนวโน้มเศรษฐกิจเชียงรายจึงจะเริ่มดีขึ้น

* * * * * * * * * * * * * * * * *

พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ

นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

โทร. 02-990-0331

http://www.apdi2002.com

http://www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ สมาคมคนพิการ

 1904510629