ReadyPlanet.com


ข้อมูลก๊าซ NGV - LPG


  (1)

ก๊าซ NGV-LPG

ได้มีการรวบรวมข้อมูลและประมวลสถานะการ์ณต่างๆ

ที่อาจจะเกิดขึ้น ดังนี้

เรื่องของราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศไทย ไม่ว่าเป็น ดีเซล เบนซิน แก๊สโซฮอล NGV หรือ LPG ต่างก็ยังไม่ได้ลอยตัวครับ ถ้าให้ลอยตัวเหมือนกันหมดราคาเชื้อเพลิงที่ กล่าวถึงก็คงจะขึ้นราคา แต่คงไม่เกิน 3 บาทต่อลิตรครับ แต่ที่ ปตท. ซึ่งไม่ใช่หน่วย งานของรัฐ เป็นบริษัทเอกชน เช่น เอสโซ เชลล์ มาออกข่าวว่าต้องขึ้นราคาแก๊ส LPG อีก 11 บาทนั้น เขาอ้างอิงจากราคาตลาดโลก แต่ประเทศไทยผลิตได้เองส่วนหนึ่งจาก แหล่งผลิตในประเทศ และจากการกลั่นน้ำมันดิบ

ประเทศในยุโรป ไต้หวัน เกาหลี อินเดีย และอีกหลายประเทศ รัฐบาลเขามีนโยบาย สนันสนุนผู้ใช้แก๊ส ทั้ง NGV และ LPG ไม่ว่าจะเป็นภาคอุตสาหกรรม ในครัวเรือน หรือในการขนส่ง ด้วยสาเหตุที่ว่า แก๊ส LPG และ NGV เป็นเชื้อเพลิงสะอาด (clean fuel) หรือพลังงานสะอาด (clean energy) ลดมลภาวะในอากาศที่เกิดจากการใช้ เชื้อเพลิงประเภทเบนซินหรือดีเซล ประโยชน์ที่ได้รับจากการสนับสนุนตรงนี้คุ้มกว่าผลเสียที่ก่อให้เกิดทางสังคม เช่นโรคทางเดินหายใจ หรือโรคอื่นๆ มาก หลายประเทศ รัฐบาลเขาออกมาประกันราคา NGV และ LPG ว่าจะไม่ขึ้นภายในเวลาหนึ่ง เพื่อส่ง เสริมให้ประชาชนเขาลงทุนติดตั้งระบบแก๊สในรถยนต์

ในประเทศไทย การใช้แก๊ส LPG ในรถยนต์มีมามากกว่า 20 ปีเท่าทีผมจำความได้ หรือมากกว่านั้น ถ้าจำไม่ผิดรัฐบาลเองในยุคก่อนมีนโยบายส่งเสริมการใช้ LPG เหมือนกับประเทศอื่นๆ ด้วยซ้ำ แต่มาในยุค ปตท. แปรสภาพจากรัฐวิสาหกิจที่เป็นสมบัติของคนทั้งประเทศ ไปเป็นบริษัท
เอกชนที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ (ด้วยการขายหุ้นราคาถูกกว่าราคาจริงเบื้องต้น เปรียบเสมือนเอาสมบัติของประเทศมาขายในราคาต่ำกว่าราคาจริง ให้กับพวกพ้องคนรวยไม่กี่ตระกูล) รัฐบาลกับมีนโยบายสนับสนุนการใช้ NGV ในรถยนต์ โดยให้คำมั่นว่าจะคงราคา NGV ไว้ที่ กก. ละ 8.50 บาท ส่วน LPG ที่เคยส่งเสริมนั้นไม่พูดถึง แต่มา เร็วๆ นี้ ปตท. และ รัฐบาล ออกมาอ้างว่าต้องขึ้นราคา LPG เพราะอุ้มสุดตัว และบีบ ผ่านทาง ปตท. ไม่ให้เกิดปั้มแก๊ส LPG หรือด้วยวิธีการอื่นๆ และจะขึ้นราคา NGV อีก

/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*

พันตรีศิริชัย  ทรัพย์ศิริ

สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

www.waddeeja.com

Tel. 02-990-0331

0507511535



ผู้ตั้งกระทู้ พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com) :: วันที่ลงประกาศ 2008-07-05 15:36:07 IP : 124.121.137.50


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (2870888)

(2)

... ทีนี้มาตอบข้อสงสัยว่าทำไม ปตท. หรือรัฐบาล ผ่านกระทรวงพลังงาน สนับสนุนการใช้ NGV สุดตัว และพยายามบีบให้เลิกใช้ LPG มีดังนี้
1.
ปตท. เป็นผู้ผูกขาดธุรกิจ NGV แต่ผู้เดียวในประเทศไทย ไม่มีการแข่งขัน
2.
ปตท. รับซื้อแก๊สธรรมชาติ (natural gas) จากพม่าผ่านทางท่อส่งมายังราชบุรี ซึ่งการวางท่อส่งแก๊สนี้ทำให้เกิดปัญหากระทบกระเทือนสภาพแวดล้อม ซึ่งเป็นการลงทุนของคนไทยทั้งประเทศ ไม่ใช่ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ ปตท. ที่เรารู้กันอยู่ ปตท. จำเป็น ต้องขาย NGV ให้มากที่สุดเพื่อคุ้มกับเงินที่ต้องจ่ายให้พม่าเป็นค่าแก๊ส
3.
ปตท. ต้องแสดงผลประกอบการเป็นกำไร เพื่อให้ผู้ถือหุ้น (ใหญ่) พอใจ เพื่อให้ผู้บริหาร ปตท. ได้อยู่ในตำแหน่ง ได้รับผลประโยชน์เป็นเงินเดือนค่าจ้าง สวัสดิการที่สูงลิ่ว
4.
นักการเมืองที่ดูแลกระทรวงพลังงาน เป็นอดีตพนักงานระดับสูงของ ปตท.
5.
ปตท. สนับสนุนการใช้ NGV ด้วยการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ และการสนับสนุนราคาถังแก๊ส NGV จำนวนหนึ่ง แต่ไม่ยอมลงทุนสร้างปั้มแก๊ส NGV ให้ทั่วประเทศ และระบบส่งแก๊ส NGV ไม่สามารถหาผู้ร่วมลงทุนจากเอกชนรายอื่นๆ ได้ เพราะเขารู้ว่าไม่คุ้มค่าทางเศรษฐกิจ เป็นเหตุผลทางการเมืองและผลประโยชน์ของ ปตท. เอง (ขอย้ำว่าไม่ใช่ผลประโยชน์ต่อสังคม) อีกทั้งข้อจำกัดทางเทคนิค ไม่เป็นที่นิยมของผู้ใช้รถยนต์เท่า LPG ปตท. จึงต้องหามาตรการอื่นมาบีบ

การที่ ปตท. ทำอย่างนี้ เป็นเรื่องที่เข้าใจเพราะเป็นบริษัทเอกชน ย่อมหาหนทางใดๆ ก็ได้เพื่อให้ได้กำไรสูงสุดเป็นประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้น (ขอย้ำอีกครั้งว่า ไม่ใช่ผลประโยชน์ของสังคม) แต่การที่ภาครัฐผ่านทางกระทรวงพลังงานเลือกปฏิบัติโดยสนับสนุนการใช้ NGV ในรถยนต์สุดตัว โดยไม่สร้างโครงสร้างพื้นฐานให้ เช่น ระบบการส่งแก้ส NGV ปั้มแก๊ส NGV และบีบการใช้ LPG ในรถยนต์ ถือว่าไม่เหมาะสม รัฐบาลควรให้ข้อมูลกับประชาชนอย่างถูกต้องถึงผลได้ผลเสียต่อสังคมของการใช้พลังงานทางเลือก และควรกำกับดูแลไม่ให้บริษัทเอกชนบริษัทใดบริษัทหนึ่งเอาเปรียบสังคม

เรื่อง ปตท. บีบไม่ให้ตั้งปั้มแก๊ส LPG เป็นเรื่องจริงครับ เมื่อ 26 ธ.ค. 48 ผมคุยกับ เจ้าของกิจการโรงบรรจุแก๊สแห่งหนึ่งในภาคเหนือ เขาบอกว่าค่าการตลาดจากการขายแก๊ส LPG สูงคุ้มค่ากับการลงทุนเปิดปั้มแก๊สเติมรถยนต์มากกว่าการเปิดปั้มเบนซิน ดีเซล แต่ ปตท. บีบไม่ให้ตั้ง มิฉะนั้นจะไม่ส่งแก๊ส LPG ให้ และแก๊สที่มาส่งก็มาจากแหล่งผลิตในประเทศที่ลานกระบือนี่เอง ส่วนการตั้งปั้มแก๊ส NGV เขาไม่กล้าลงทุน เพราะแพงมาก มีรถยนต์ใช้น้อยไม่คุ้ม และมีอุปสรรคเรื่องระบบขนส่งแก๊ส NGV

/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*

พันตรีศิริชัย  ทรัพย์ศิริ

สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

www.waddeeja.com

Tel. 02-990-0331

0607510833

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2008-07-06 08:32:46 IP : 124.121.136.253


ความคิดเห็นที่ 2 (2875055)

(3)

อ้างอิงข้อมูลของกระทรวงพลังงานที่เป็นข้อมูลราชการ ที่ ... ทีนี้มาตอบข้อสงสัยว่าทำไม ปตท. หรือรัฐบาล ผ่านกระทรวงพลังงาน สนับสนุนการใช้ NGV สุดตัว และพยายามบีบให้เลิกใช้ LPG
LPG
สามารถกลั่นจาก น้ำมัน(ซึ่งมีต้นทุนสูงนำเข้า) และก๊าซธรรมชาติ(ซึ่งมาจากอ่าวไทยของเราเอง) NGV (ก๊าซมีเทน)ได้จากการแยกก๊าซธรรมชาติซึ่งมีอยู่ประมาณ 66 mol% LPG(c3+c4) 6 mol% แล้วทำไมจะไม่ควรสนับสนุนการใช้ NGV จะซื้อน้ำมันต่างชาติมากลั่นทำไม
http://www.eppo.go.th/info/T25.html

เรานำเข้า natural gas ปี 2005 156,733 bbl/day จากปริมาณการใช้ 568,742 bbl/day หรือ 27.55 % ของการใช้ในประเทศไทย ซึ่งก็คือนำเข้าจาก พม่า เสียเงินตราต่างประเทศให้พม่า

ข้อมูลการส่งออก LPG ครับ จากกระทรวงพลังงาน ตาราง 34 ที่ http://www.eppo.go.th/info/T34.html

ไทยส่งออก LPG ปี 2005 เฉลี่ยเดือนละ 150 ล้านลิตร เป็นอัตราที่เพิ่มขึ้น 8.5 % จากปี 2004 (นั่นคือส่งออก LPG มากขึ้น) ขณะที่ปริมาณแก้ส LPG ที่ใช้ในรถยนต์ของไทยประมาณปีละ 100 ล้านลิตร หรือแค่ 10% ของแก้ส LPG ที่ส่งออกทั้งปี ยังมีเหลือ อีกมากสำหรับสนองความต้องการในประเทศซึ่งส่วนใหญ่ใช้ในครัวเรือนและอุตสาหกรรม

LPG
ได้มาจากสามแหล่งครับ คือ หนึ่ง เป็นผลพลอยได้จากการกลั่นน้ำมันดิบทำเบนซิน ดีเซล ถ้าไม่ใช้ก็ต้องเผาทิ้ง สอง ปนมากับน้ำมันดิบที่ขุดได้จากบ่อน้ำมันหรือแก้ส ถ้าไม่ใช้ก็ต้องเผาทิ้ง สาม กลั่นจากแก้สธรรมชาติ (natural gas) ส่วน NGV ได้มาจากการกลั่นจากแก้สธรรมชาติ

NGV
เหมาะสำหรับรถสาธารณะขนาดใหญ่เนื่องจากอุปกรณ์ยุ่งยากราคาสูงและต้องใช้ถังแก๊สความดันสูงจำนวนมาก

จากการศึกษารายงานนโยบายการใช้พลังงานของ APEC ที่ไทยเป็นสมาชิกหนึ่งในยี่สิบเอ็ดประเทศ ไทยเป็นประเทศเดียวที่จำกัดการใช้ LPG และส่งเสริม NGV ในรถยนต์ทั้งๆ ที่ผลิต LPG ได้เกินความต้องการต้องส่งออกไปขาย และยังต้องสั่งแก้สธรรมชาติ จากพม่าเป็นปริมาณประมาณหนึ่งในสี่ของการใช้ในประเทศ

ฮ่องกง เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ไต้หวัน ออสเตรเลีย ต่างส่งเสริมและสนับสนุนการใช้แก๊ส LPG ในรถยนต์ ด้วยมาตรการทางภาษีและสนับสนุนราคา LPG ให้ต่ำกว่าเบนซิน ดีเซล ประมาณครึ่งหนึ่ง ประเทศที่กล่าวมายกเว้นออสเตรเลียต่างต้องนำเข้า LPG ไม่มีแหล่งเองเหมือนประเทศไทย

/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*

พันตรีศิริชัย  ทรัพย์ศิริ

สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

www.waddeeja.com

Tel. 02-990-0331

1307511953

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2008-07-13 19:53:23 IP : 124.121.138.239


ความคิดเห็นที่ 3 (2875513)

(4)

ฮ่องกงเอง ได้เปลี่ยนให้รถแทกซี 90 เปอร์เซ็นต์มาใช้แก้ส LPG ด้วยการให้เงินสนับสนุน และกำลังมีโปรแกรมใหม่ที่จะเปลี่ยนรถบัสเล็ก 5,000 คันมาใช้แก๊ส LPG(ย้ำ LPG) ด้วยเงินสนับสนุนและมาตรการส่งเสริมของรัฐบาล

เราผลิต LPG ได้ปีละประมาณ 3,200 ล้านลิตร ส่งออกประมาณ 800 ล้าน (25%) ใช้กับยานยนต์ (แบบเว่อร์ๆ 2 เท่าเลย) 200 ล้านลิตร ที่เหลืออีก 2,200 ล้านลิตร หายไปไหนครับ??? ไปอยู่ภาคครัวเรือน ให้ประชาชนใช้หุงต้ม 1,000 ล้านอยู่ภาคอุตสาหกรรม ทำอาหาร ทำแก้ว หลอมโลหะ ฯลฯ อีก 1,200 ล้าน
แล้วไอ้ที่มาโกหกปาวๆๆๆ ว่า รถยนต์ใช้แกส ทำให้โครงสร้างพลังงานเสียหาย เพราะรัฐฯ ต้องชดเชยถึงกิโลละ 11 บาท .. หรือลิตรละ 6 บาท (มาได้งัยก็ไม่รู้) .. ชดเชยให้ใครกัน?

ชดเชยให้คนใช้รถ .. 200x6 = 1,200 ล้าน
ชดเชยให้คนทำกับข้าวกิน .. 1,000x6 = 6,000 ล้าน (สาธุ)
ชดเชยให้พ่อค้านายทุน ผลิตสินค้า = 1,200x6 = 7,200 ล้าน (ก็ .. ยังดี .. ของจะได้ไม่แพง)
ชดเชย ((Embedded image moved to file: pic06840.gif)Huh******?? ชดเชยทำไม) ให้กับการส่งออก 800x6 = 4,800 ล้าน******!
บ.น้ำมัน ไม่รวยพุงปลิ้นวันนี้ ก็ไม่รู้จะพูดงัยแล้ว...
เบนซิน91 หรือเบนซิน95 ต้องนำเข้าน้ำมันดิบ 100 %
แก๊สโซฮอล นำเข้าเป็นน้ำมันดิบเพื่อกลั่นเป็นเบนซิน 90 % และยังเป็นเอธานอลส่วนหนึ่งที่เราผลิตไม่พอ ดังนั้นเท่ากับนำเข้ามากกว่า 90 % แต่รัฐบาลโปรโมตสุดลิ่มทิ่มกบาล

LPG
ไม่ต้องนำเข้าเพิ่มเติม ได้จากกระบวนการกลั่นน้ำมันดิบส่วนหนึ่ง กับแยกจากแก๊สธรรมชาติของไทยหรือพม่าอีกส่วนหนึ่ง มีเหลือขายต่างประเทศ ลองใช้หัวแม่เท้าคิดดูก็แล้วกันครับ ใช้เบนซิน 100 ล้านลิตร หรือแก๊สโซฮอล 90ล้านลิตร ก็ต้องนำเข้าน้ำมันดิบในจำนวนที่มากกว่า

ใช้ LPG 100 ล้านลิตร ไม่ต้องนำเข้าน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นเพราะจากกระบวนการกลั่นเหลือ ใช้จนต้องขายต่างประเทศ การนำLPG 100 ล้านลิตรมาใช้แทนน้ำมัน เมื่อเทียบกับการใช้เบนซิน 90ล้านลิตร หรือ เบนซินในแก๊สโซฮอล 80กว่าลิตรแบบไหนจะเสียเงินตราของชาติมากกว่ากัน(ให้อัตราสิ้นเปลืองLPGมากกว่าประมาณ 10 %)แบบไหนประหยัดเงินตราของชาติมากกว่ากัน ต่อให้คิดโดยเสมอภาคนั่นคือหากชดเชยก็ชดเชยเท่ากัน หรือไม่ชดเชยก็ต้อง ไม่ชดเชยเหมือนกัน ค่าการตลาดต่อลิตรเท่ากัน

***
จุดที่จะประหยัดเงินตราต่างประเทศมากที่สุดคือ จุดที่มีจำนวนผู้ใช้ LPG มากขึ้นจนแทบไม่มีเหลือส่งออก เพราะเราก็ไม่ต้องนำเข้าน้ำมันดิบมากกว่าเดิม หากจำนวนคนที่ใช้ LPG เพิ่มขึ้นจากเดิมจนถึงจุดที่เราแทบไม่เหลือ LPG ส่งออกนอกนั้น ใช้เบนซินหรือโซล่า หรือแม้แต่แก๊สโซฮอลก็ตาม จะต้องนำเข้าน้ำมันดิบอีกเท่าไหร่

/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*

พันตรีศิริชัย  ทรัพย์ศิริ

สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

www.waddeeja.com

Tel. 02-990-0331

1407511516

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2008-07-14 15:17:07 IP : 124.121.138.247


ความคิดเห็นที่ 4 (2875933)

(5)

 

 

อย่าเพิ่งไปกลัวเลยครับ ผมว่าที่ปตท ออกมาขู่เรื่องราคาแก๊ส lpg ว่าราคาจะลอยตัว ราคาที่แท้จริงต้องบวกเพิ่มอีก 9บาท ต่อลิตร ตกลิตรละ18บาท สงสัยจะเป็นอุบาย ของปตท ที่จะทำให้คนที่คิดจะติดlpg ลังเลใจแล้วมาติด ngvแทน เพราะปัจจุบัน ngv ขายไม่ออก ที่เขาบอกว่าlpg ราคาขึ้นเป็น600ดอลล่า/ตัน ถ้าวิเคราะห์ดูดีๆ ตันหนึ่งมี 1000 กก 1กกมี1.8ลิตร 1ตันเท่ากับ 1800ลิตร 600ดอลล่าเท่ากับ 24000บาท คิดแล้วลิตรหนึ่งตก 13บาทกว่าเท่านั้นเอง นี่ยังไม่รวมถึงแหล่งที่มาของราคาที่เขาใช้เป็นราคากลางด้วยว่า600ดอลล่า/ตัน มาจากที่ไหน ที่อื่นที่ถูกกว่านี้ก็มี เช่นซื้อมะม่วงแถว ต่างจังหวัด ราคาย่อมถูกกว่าที่ไปซื้อที่สีลมอยู่ดี อีกอย่างlpg เราก็ผลิตได้เองบางส่วน จะมาอ้างราคาตลาดโลกได้อย่างไร ทำไมไม่ตั้งราคาขาย มะม่วงทุเรียน และผลผลิต ทางการเกษต ที่เราผลิตได้ในประเทศ ให้มีราคาสูงเหมือนที่ขายในญี่ปุน ในอเมริกาละ โดยอ้างราคาตลาดโลกบ้าง ขายทุเรียนลูกละซัก2000บาทไปเลยซิ คิดว่าประชาชนโง่ เหมือนควายเหรอครับ รัฐบาลอย่ามาขูดรีดขูดเนื้อประชาชนเลยครับ

นี้คือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบันนี้ ขอให้ทุกท่านร่วมหาทางแก้ไขอีกทั้ง รัฐบาลเราคงหวัง เพิ่งพาอาศัยไม่ได้แล้ว

/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*

พันตรีศิริชัย  ทรัพย์ศิริ

สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

www.waddeeja.com

Tel. 02-990-0331 - 1507510808

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2008-07-15 08:09:17 IP : 124.121.139.231


ความคิดเห็นที่ 5 (2875936)

 

ปลัดพลังงานยันเคาะราคา LPG ต้น ส.ค.นี้14 กรกฎาคม 2551

                                                            

นายพรชัย รุจิประภา ปลัดกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธานคณะทำงานแก้ไขปัญหาการขาดแคลนก๊าซปิโตรเลียมเหลว หรือ LPG กล่าวถึงความคืบหน้าการปรับโครงสร้างราคา LPG เป็น 2 ราคา ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการกำหนดมาตรการดูแลการแยกตลาด LPG ในภาคครัวเรือน กับภาคขนส่งและอุตสาหกรรม เพื่อป้องกันการลักลอบเปลี่ยนถ่าย LPG จากภาคครัวเรือนไปยังภาคขนส่ง โดยจะต้องนำพระราชบัญญัติน้ำมันเชื้อเพลิงและประกาศคำสั่งนายกรัฐมนตรี เรื่องการป้องกันและขาดแคลนเชื้อเพลิงที่มีการกำหนด โทษจำคุก 10 ปี ปรับ 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ มาบังคับใช้อย่างจริงจังเพราะเป็นโทษที่รุนแรง โดยคาดว่าการปรับโครงสร้าง LPG เป็น 2 ราคาจะได้ข้อสรุปภายในต้นเดือนสิงหาคมนี้ ซึ่งเป็นไปตามกรอบการตรึงราคา LPG ไว้ที่ 18.13 บาทต่อกิโลกรัมที่จะสิ้นสุดลง
        ส่วนความช่วยเหลือกลุ่มผู้ประกอบการรถแท็กซี่หลังปรับราคา LPG ในภาคขนส่งนั้น ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า กระทรวงพลังงานจะดูแลให้ใช้ในราคาเดียวกับภาคครัวเรือนไปจนถึงสิ้นปีนี้ แต่จะต้องเป็นกลุ่มรถแท็กซี่ที่เข้าร่วมโครงการปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์ไปใช้ NGV ของบริษัท ปตท. ซึ่งขณะนี้มีอยู่จำนวน 50,000 คันนายพรชัย รุจิประภา ปลัดกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธานคณะทำงานแก้ไขปัญหาการขาดแคลนก๊าซปิโตรเลียมเหลว หรือ LPG กล่าวถึงความคืบหน้าการปรับโครงสร้างราคา LPG เป็น 2 ราคา ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการกำหนดมาตรการดูแลการแยกตลาด LPG ในภาคครัวเรือน กับภาคขนส่งและอุตสาหกรรม เพื่อป้องกันการลักลอบเปลี่ยนถ่าย LPG จากภาคครัวเรือนไปยังภาคขนส่ง โดยจะต้องนำพระราชบัญญัติน้ำมันเชื้อเพลิงและประกาศคำสั่งนายกรัฐมนตรี เรื่องการป้องกันและขาดแคลนเชื้อเพลิงที่มีการกำหนด โทษจำคุก 10 ปี ปรับ 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ มาบังคับใช้อย่างจริงจังเพราะเป็นโทษที่รุนแรง โดยคาดว่าการปรับโครงสร้าง LPG เป็น 2 ราคาจะได้ข้อสรุปภายในต้นเดือนสิงหาคมนี้ ซึ่งเป็นไปตามกรอบการตรึงราคา LPG ไว้ที่ 18.13 บาทต่อกิโลกรัมที่จะสิ้นสุดลง
        ส่วนความช่วยเหลือกลุ่มผู้ประกอบการรถแท็กซี่หลังปรับราคา LPG ในภาคขนส่งนั้น ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า กระทรวงพลังงานจะดูแลให้ใช้ในราคาเดียวกับภาคครัวเรือนไปจนถึงสิ้นปีนี้ แต่จะต้องเป็นกลุ่มรถแท็กซี่ที่เข้าร่วมโครงการปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์ไปใช้ NGV ของบริษัท ปตท. ซึ่งขณะนี้มีอยู่จำนวน 50,000 คัน

 

                                                    

* * * * * * * * * * * * *

 

พันตรีศิริชัย  ทรัพย์ศิริ

สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

www.waddeeja.com

Tel. 02-990-0331

1407511514

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2008-07-15 08:11:53 IP : 124.121.139.231


ความคิดเห็นที่ 6 (2877988)

 

ปตท.เร่งยุติความสับสนก๊าซเติมรถยนต์-ลั่นเดินหน้า "เอ็นจีวี" เต็มรูปแบบ

ปตท.ผวาโดนเสียงก่นด่าทั่วประเทศ ทำประชาชนสับสนทิศทางเชื้อเพลิงเติมรถยนต์ ยันชัด ขอเดินหน้าโครงการ "เอ็นจีวี" แน่นอน เพื่อยุติความสับสนของตลาด ระบุ ยอมขาดทุนไปแล้ว 3 พันล. เร่งสร้างสถานีบริการก๊าซ "เอ็นจีวี" ทั่วประเทศ คาดใช้เงินลงทุนกว่า 4.3 หมื่นล. ขณะที่ รมว.พลังงานแย้ม ก.ค.นี้ ดันใช้เอ็นจีวีเต็มรูปแบบ หลังประกาศลอยตัวก๊าซแอลพีจี โดยแยกราคาเป็น 2 ตลาดแน่นอน
       

       
นายณัฐชาติ จารุจินดา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจก๊าซสำหรับยานยนต์ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) หรือ PTT กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาความชัดจนในการกำหนดนโยบายเชื้อเพลิงสำหรับรถยนต์ โดยระบุว่า ปตท.ซึ่งรับหน้าที่ในการจัดหาและผลิตพลังงานรายใหญ่ของไทย คงต้องเร่งดำเนินการก่อสร้างสถานีบริการก๊าซเอ็นจีวี และคงต้องลงทุนด้านเอ็นจีวีเพิ่มมากขึ้น เพื่อให้ประชาชนเกิดความมั่นใจ และหันมาใช้ก๊าซเอ็นจีวีแทนก๊าซแอลพีจี
       
       
ทั้งนี้ในช่วงปี 2544-2546 ปตท.ใช้เงินลงทุนไปแล้วกว่า 9,000 ล้านบาท ในส่วนของโครงการที่เกี่ยวข้องกับเอ็นจีวีทั้งหมด และในบางปีการลงทุนอาจจะใช้เงินลงทุนสูงถึง 12,000-13,000 ล้านบาท แต่โดยเฉลี่ยแล้ว ปตท.ต้องใช้เงินลงทุนราว 10,000 ล้านบาทต่อปี เนื่องจาก ปตท.ต้องโตแบบก้าวกระโดด ทำให้ ปตท.ต้องใช้เงินลงทุนสูงมากในแต่ละปี รวมแล้ว ปตท.ใช้เงินลงทุนประมาณ 43,000 ล้านบาท
       
       
อย่างไรก็ตาม ด้วยเม็ดเงินที่สูงมาก แต่การใช้เอ็นจีวียังมีข้อจำกัดในเรื่องของผู้ใช้ และจำนวนของสถานีบริการที่ยังไม่มากพอ จึงทำให้ ปตท.มีภาวะขาดทุนสะสม โดยในปี 2549 ขาดทุนสะสม 1,200 ล้านบาท ปี 2550 ขาดทุนสะสมประมาณ 1,900 ล้านบาท ส่วนปี 2551 ตั้งเป้าขาดทุนสะสมไว้ที่ 3,000 ล้านบาท ซึ่งโครงการต่างๆ จะเริ่มเห็นผลและคืนทุนได้ในช่วงปี 2554 เป็นต้นไป
* * * * * * * * * * * * *

พันตรีศิริชัย  ทรัพย์ศิริ

สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

www.waddeeja.com

Tel. 02-990-0331

1707510921


 

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2008-07-17 09:22:27 IP : 124.121.141.138


ความคิดเห็นที่ 7 (2878898)

 

จับเท็จ ปตท. กรณีนำเข้าก๊าซหุงต้ม 18 กรกฎาคม 2551

 

       1. ประเด็นปัญหา
       
       ขณะนี้ บริษัท ปตท. ได้บอกกับประชาชนว่าก๊าซหุงต้มหรือที่เรียกกันในวงการว่าก๊าซแอลพีจี (Liquefied petroleum gas) ในประเทศไทยกำลังขาดแคลน และได้แนะนำให้รัฐบาลขึ้นราคาก๊าซชนิดนี้ โดยเฉพาะที่ใช้กับรถยนต์ส่วนบุคคลและรถยนต์แท็กซี่ (นายณัฐชาติ จารุจินดา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ บมจ. ปตท. ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ Hard Topic ทาง Money Channel , 7 กรกฎาคม 2551)
       
        นอกจากนี้นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.กล่าวว่า ความต้องการใช้ก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ที่เพิ่มขึ้น ทำให้ปีนี้ต้องนำเข้าแอลพีจี 4 แสนตัน” (ไทยรัฐ 11 กรกฎาคม 2551)
       
       ประเด็นสำคัญนอกเหนือจากการแนะให้ขึ้นราคาแล้วยังมี
       อีก 2 ประเด็น คือ
       
        (1) นายณัฐชาติบอกว่า จากความต้องการใช้ก๊าซ LPG ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ไทยต้องเปลี่ยนสถานะจากการเป็นประเทศผู้ส่งออกก๊าซแอลพีจี เปลี่ยนเป็นผู้นำเข้าแทน โดยในเดือน เม.ย. 2551 ไทยนำเข้าก๊าซแอลพีจี กว่า 2 หมื่นตัน ขณะที่เดือน ก.ค. 2551 ไทยนำเข้าก๊าซแอลพีจี แล้ว 2.2 หมื่นตัน และในช่วงปลายเดือนนี้ ไทยอาจจะต้องนำเข้าอีก 2.2 หมื่นตัน
       
        (2) นายณัฐชาติกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า หากราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นถึง 200 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ก็จะมีผลให้ราคาก๊าซแอลพีจี ในตลาดโลกพุ่งขึ้นถึง 1 พันดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อตัน ซึ่งหากไทยยังนำเข้าก๊าซแอลพีจี ในระดับสูง ก็จะทำให้ภาครัฐต้องแบกรับภาระมากขึ้น จึงเห็นว่า รัฐควรจะปรับขึ้นราคาก๊าซแอลพีจี หน้าโรงกลั่นใหม่ เพื่อลดภาระในการชดเชยราคาก๊าซแอลพีจี
       
       ทั้งนี้ ในกรณีที่ภาครัฐลอยตัวราคาก๊าซ LPG จะมีผลราคาก๊าซแอลพีจี ในภาคครัวเรือนปรับขึ้นจาก 18.13 บาทต่อกิโลกรัม มาอยู่ที่ 25 - 30 บาทต่อกิโลกรัม
       
        บทความนี้ได้ทำการตรวจสอบเนื้อหาสำคัญใน 2 ประเด็นดังกล่าว พบว่า ในประเด็นแรกไม่เป็นความจริง สำหรับประเด็นที่สองพบว่าทาง ปตท. ให้ข้อมูลไม่ครบทำให้ประชาชนเข้าใจผิดได้ แต่ก่อนจะตรวจสอบ ขอทำความเข้าใจในความรู้พื้นฐานของปัญหานี้ก่อนครับ

* * * * * * * * * * * * *

 

พันตรีศิริชัย  ทรัพย์ศิริ

สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

www.waddeeja.com

Tel. 02-990-0331

1907511009

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2008-07-19 10:10:50 IP : 124.121.136.23


ความคิดเห็นที่ 8 (2879189)

 

เปลือย ปตท. กระชากหน้ากาก พลังงาน เพื่อใคร?

 

นิตยสาร POSITIONING ฉบับนี้ กำลังทำสิ่งที่ท้าทายอีกครั้ง กับการขุดคุ้ยเบื้องลึก เบื้องหลังว่า อะไรคือ ชนวนปัญหาราคาน้ำมัน ที่ทำคนไทยต้องเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส

ขณะที่ปัญหาราคาน้ำมันแพงกระฉูดแบบฉุดไม่อยู่ ส่งผลกระทบกันถ้วนหน้า แต่ ปตท. องค์กรที่รับผิดชอบด้านพลังงานของชาติ ซึ่งใช้สโลแกนว่า "พลังงานไทยเพื่อไทย" กลับมีรายได้ และผลกำไรเติบโตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หุ้นของ ปตท. นั้นอยู่ระดับ "บลูชิป" ยิ่งผู้ถือหุ้นและผู้บริหารด้วยแล้ว ได้รับผลตอบแทนร่ำรวยกันถ้วนหน้า

ปัญหาราคาน้ำมันยังไม่จบ คนไทยกลับต้องเจอปัญหาขาดแคลนก๊าซ LPG ไม่ต่างจากที่เกิดกับก๊าซ NGV อะไรคือเบื้องหลังการประกาศลอยตัวก๊าซ LPG พลังงานทางเลือกที่ทำให้คนไทยต้องอยู่ในภาวะ "หนีเสือปะจระเข้"

POSITIONING ฉบับนี้ จะถอดรหัส เปิดสูตรลับ การคิดราคาน้ำมัน ปตท. จำเป็นหรือไม่ที่ ปตท. ต้องอิงราคาน้ำมันกับตลาดในสิงคโปร์ อะไรคือเบื้องหลังของปัญหาเหล่านี้

ใครคือเจ้าของตัวจริงของ ปตท. และเป็นผู้ที่ได้รับประโยชน์สูงสุดจาก ปตท.

ยิ่งไปกว่านั้น ชนวนสำคัญของเรื่องนี้ยังเกี่ยวกับกรณีเขาพระวิหารขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ที่ทำให้ "นพดล ปัทมะ" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ต้องยอมยื่นใบลาออก หลังจากที่โดนกระแสสังคมกดดัน และศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัย ว่า การลงนามของนพดลนั้นขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 180

แม้นพดลจะไขก๊อกลาออกไปแล้ว แต่ปัญหาใช่ว่าจะสิ้นสุด ประเทศไทยยังคงต้องเผชิญกับผลกระทบที่กำลังตามมา จากการที่ไทยต้องสุ่มเสี่ยงต่อการสูญเสียดินแดนและอธิปไตย

เบื้องหลังที่ทำให้ไทยต้องสูญเสียถึงเพียงนี้ เป็นเพราะอะไร ?

ทำไม ทักษิณ - ปตท. - เขาพระวิหาร - กัมพูชา - เกาะกง จึงมาเกี่ยวข้องกันได้

ทั้งหมดนี้ เรามีคำตอบ...

* * * * * * * * * * * * *

 

พันตรีศิริชัย  ทรัพย์ศิริ

สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

www.waddeeja.com

Tel. 02-990-0331

1907512303

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2008-07-19 23:03:18 IP : 124.121.140.41


ความคิดเห็นที่ 9 (2880843)

 

ปตท.ยันไม่สตอเบอร์รี่ นำเข้า LPG แล้ว 5 ครั้งจริงๆ

ปตท. ยืนยันนำเข้าก๊าซแอลพีจีแล้ว ครั้งที่ 5 นับตั้งแต่เดือน เม.ย. ที่ผ่านมา และต้องนำเข้าอีก 22,000 ตัน สิ้นเดือน ก.ค.นี้ เพื่อสำรองใช้ในประเทศ ป้องกันขาดแคลน
       
       
วันนี้ (22 ก.ค.) นายชัยวัฒน์ ชูฤทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) หรือ PTT เปิดเผยว่า จากตัวเลขแนวโน้มการใช้ก๊าซแอลพีจีในประเทศ ที่มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว จากเดิมในปีที่ผ่านมา ประมาณ 3 ล้านตัน เพิ่มเป็น 3.5 ล้านตันในปีนี้ หรือเพิ่มขึ้นถึง 14.2% ซึ่งส่วนใหญ่เพิ่มขึ้นจากการใช้ในรถยนต์ ถึง 22.7% ปตท. จึงได้รับมอบหมายจากกระทรวงพลังงานให้ดำเนินการนำเข้าก๊าซแอลพีจีอีกทางหนึ่งเพื่อสำรองใช้ประเทศ
       
       
โดยที่ผ่านมา ปตท.ได้นำเข้าก๊าซแอลพีจีจากต่างประเทศแล้ว รวมจำนวนทั้งสิ้น 5 เที่ยว คือเที่ยวแรก (29 เม.ย.2551) ปริมาณ 22,000 ตัน เที่ยวที่ 2 (2 ก.ค. 51) ปริมาณ 23,000 ตัน เที่ยวที่ 3 และเที่ยวที่ 4 (14 ก.ค. 51) ปริมาณ 40,000 ตัน และ 23,000 ตัน เที่ยวที่ 5 (16 ก.ค. 51) ปริมาณ 1,800 ตัน โดย ปตท. จะนำเข้าก๊าซแอลพีจีอีกครั้ง ในวันที่ 27 ก.ค. ศกนี้ ในปริมาณ 22,000 ตัน ซึ่งคาดว่า ปตท. ยังคงต้องนำเข้าก๊าซแอลพีจีอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่เดือน ส.ค.51 เป็นต้นไปจนถึงสิ้นปีนี้ ประมาณเดือนละ 88,000 ตัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับกรมธุรกิจพลังงานจะเป็นผู้กำหนดตัวเลขการนำเข้าฯ
       
       
ทั้งนี้ การนำเข้าก๊าซแอลพีจีแต่ละครั้ง ปตท. ต้องนำเข้าในราคาตลาดโลก คือ ประมาณกว่า 950 เหรียญสหรัฐต่อตัน ขณะที่รัฐกำหนดให้ราคาขายในประเทศอยู่ที่ประมาณ 332 เหรียญสหรัฐต่อตัน ซึ่งรัฐจะสนับสนุนส่วนต่างประมาณกว่า 600 เหรียญสหรัฐต่อตัน โดยให้ปตท. เป็นผู้รับภาระไปก่อนในช่วงแรก และชำระคืนให้ ปตท. ในภายหลัง
       
       
นายชัยวัฒน์ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันปริมาณก๊าซแอลพีจียังมีเพียงพอต่อความต้องการใช้ในประเทศ โดยตัวเลขความต้องการใช้แอลพีจีของทั้งประเทศที่ใช้เป็นเชื้อเพลิงในเดือน มิ.ย.2551 มีปริมาณ 285,000 ตัน แบ่งเป็นเป็นการจ่ายก๊าซฯ โดยโรงกลั่น 71,000 ตัน และจ่ายจากโรงแยกก๊าซ ปตท. ประมาณ 214,000 ตัน ซึ่ง ปตท. เป็นผู้รับผิดชอบจัดส่งให้ภาคอุตสาหกรรม ภาคครัวเรือน และรถยนต์ปริมาณรวม 105,000 ตัน และได้ส่งให้กับผู้ค้ามาตรา 7 ในปริมาณ 109,000 ตัน ครบถ้วนตามที่กรมธุรกิจพลังงานเป็นผู้กำหนด

พันตรีศิริชัย  ทรัพย์ศิริ

สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

www.waddeeja.com

Tel. 02-990-0331

2307510944


 

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2008-07-23 09:45:23 IP : 124.121.138.167


ความคิดเห็นที่ 10 (2880845)

(ต่อ)

 

โดยหากปริมาณการใช้เติบโตขึ้นสูงอย่างต่อเนื่องเช่นนี้ต่อไปคาดว่าในปีหน้าไทยอาจต้องนำเข้าก๊าซแอลพีจีในปริมาณถึงกว่า 1,000,000 ตัน สำหรับกรณีที่มีนักวิชาการอ้างว่าไม่พบข้อมูลการนำเข้าแอลพีจีในเว็บไซต์ของกรมศุลกากรมีเพียงการส่งออก นอกจากนี้ขอยืนยันว่า ปตท. มีการนำเข้าก๊าซแอลพีจีจริง โดยนำเข้ามาในรูปของก๊าซโพรเพน (C3) และก๊าซบิวเทน (C4) ทั้งนี้ คำว่า แอลพีจีเป็นชื่อสามัญที่ใช้เรียกก๊าซโพรเพนหรือก๊าซบิวเทนหรือส่วนผสมระหว่างก๊าซโพรเพนและก๊าซบิวเทน
       
       
สำหรับส่วนผสมจะเป็นสัดส่วนเท่าใดขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของการใช้งานในประเทศนั้นๆ สำหรับการขนส่งก๊าซแอลพีจีมี 2 รูปแบบ คือ ขนส่งโดยเรือ Pressurized Tank ซึ่งเหมาะสำหรับการขนส่งก๊าซแอลพีจีในปริมาณไม่มาก (ต่ำกว่า 2,500 ตัน) หากขนส่งก๊าซแอลพีจีในปริมาณเกินกว่า 2,500 ตัน ในทางปฏิบัติต้องขนส่งโดยใช้เรือRefrigerated ในลักษณะแยกถังบรรจุก๊าซโพรเพนและก๊าซบิวเทน ซึ่งตามมาตรฐานความปลอดภัยไม่อนุญาตให้บรรจุก๊าซทั้งสองชนิดในถังเดียวกัน เนื่องจากต้องมีการควบคุมอุณหภูมิในระดับที่ต่ำและก๊าซทั้งสองมีจุดเดือดที่ต่างกัน ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยในการขนส่งและสูบถ่าย
       
       
นอกจากนี้ ยังเป็นการช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการขนส่งอีกด้วยในส่วนการอ้างถึงตัวเลขการส่งออกก๊าซแอลพีจีไปต่างประเทศช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ปริมาณ 20,000 ตัน นั้น ข้อมูลดังกล่าวเป็นตัวเลขการส่งออกรวมของประเทศ โดย ปตท. ได้ส่งออกนับตั้งแต่เดือนม.ค. พ.ค.51 รวมปริมาณเพียง 14,945 ตัน ให้กับประเทศมาเลเซีย กัมพูชา ลาว และพม่า (ในเดือน มี.ค.51 ปตท.ได้งดการส่งออกเพราะเกรงปริมาณก๊าซแอลพีจีไม่เพียงพอต่อความต้องการในประเทศ) ซึ่งการส่งออกดังกล่าว ทุกครั้ง ได้รับอนุญาตจากกรมธุรกิจพลังงานเพื่อความสัมพันธ์อันดีกับประเทศเพื่อนบ้านและเป็นการส่งออกในราคาตลาดโลกบวกค่าดำเนินการ
       
       
อนึ่งในการนำเข้าก๊าซแอลพีจี นั้น ทางภาครัฐได้อนุญาตผู้ค้ามาตรา 7 ทุกรายมีสิทธิ์นำเข้าได้เช่นเดียวกับ ปตท. ซึ่งหากผู้ค้ามาตรา 7 ช่วยกันนำเข้าก๊าซแอลพีจีด้วย ก็จะป้องกันไม่ให้เกิดการขาดแคลนก๊าซแอลพีจีจากปริมาณการใช้ในประเทศที่สูงขึ้นนี้ได้อีกทางหนึ่ง

พันตรีศิริชัย  ทรัพย์ศิริ

สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

www.waddeeja.com

Tel. 02-990-0331

2307510947

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2008-07-23 09:47:40 IP : 124.121.138.167


ความคิดเห็นที่ 11 (2886638)

 

LPG

ขึ้นราคาแอลพีจี ; เพิ่มทุกข์คนจน

ก๊าซแอลพีจี หรือที่เรียกในภาษาชาวบ้านว่าก๊าซหุงต้ม ได้เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของผู้คนในสังคมไทยอย่างกว้างขวาง นับตั้งแต่ประเทศไทยได้มีโครงการพัฒนาแหล่งก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทย โดยนำก๊าซธรรมชาติมาผ่านกระบวนการแยกเป็นผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมประเภทต่างๆ และในจำนวนนั้นมีก๊าซแอลพีจีที่จะนำมาทดแทนเชื้อเพลิงในการหุงต้ม คือค่าที่ได้จากการนำไม้มาเผาและใช้แทนน้ำมันเบนซินในเครื่องยนต์ก๊าซโซลีนรวมอยู่ด้วย

ก่อนหน้าที่ประเทศไทยจะมีการพัฒนาแหล่งก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยขึ้นมาใช้ ก๊าซแอลพีจีได้มาจากการกลั่นน้ำมันเป็นผลพลอยได้ และมีการนำเข้าจากต่างประเทศในส่วนที่ขาด

แต่เมื่อมีการนำก๊าซแอลพีจีจากโรงแยกที่มาบตาพุดมาใช้ได้แล้ว การนำเข้าก๊าซก็ลดลง และราคาขายในประเทศก็ลดลงตามราคาต้นทุนที่ลดลงด้วย

มาวันนี้ ปตท.ในฐานะผู้รับผิดชอบในการผลิตและนำเข้าก๊าซและน้ำมัน ทั้งในส่วนที่ผลิตในประเทศและนำเข้าจากต่างประเทศ ได้ออกมาพูดในทำนองว่าต้องชดเชยราคาก๊าซแอลพีจีมากขึ้นเรื่อยๆ และถึงจุดหนึ่งแบกรับการชดเชยไม่ไหวจึงขอปรับราคา และมีนโยบายลอยตัวราคาก๊าซแอลพีจีในประเทศให้เป็นไปตามกลไกราคาของตลาดโลก จึงทำให้เกิดคำถามในประเด็นต่างๆ ดังต่อไปนี้

ในปัจจุบันก๊าซแอลพีจีที่ใช้อยู่ในประเทศไทย ส่วนใหญ่ได้มาจากการนำก๊าซธรรมชาติจากอ่าวไทยมาแยกมากกว่าการนำเข้า เหตุใดจึงใช้ราคาขายในตลาดโลกมาเป็นข้ออ้างในการปรับราคา ในเมื่อแอลพีจีที่ได้จากโรงแยกก๊าซมีต้นทุนต่ำกว่าการนำเข้า และน่าจะต่ำกว่าก๊าซแอลพีจีที่ได้จากการกลั่นน้ำมันด้วยซ้ำ เพราะราคาก๊าซธรรมชาติต่ำกว่าราคาน้ำมันดิบ ตามที่ระบุไว้ในสัญญาการซื้อขายก๊าซจากผู้รับสัมปทาน จึงเป็นไปไม่ได้ที่ ปตท.จะกำหนดราคาก๊าซแอลพีจีที่ได้จากโรงแยกก๊าซเท่ากับก๊าซแอลพีจีได้จากโรงกลั่น เพราะต้นทุนของราคาน้ำมันและราคาก๊าซธรรมชาติ ณ ปากหลุมไม่เท่ากัน

ส่วนจะต่างกันเท่าใด ปตท.น่าจะได้นำรายละเอียดส่วนนี้ชี้แจงประชาชนให้ทราบตามความเป็นจริง มิใช่จู่ๆ อ้างราคาตลาดโลก และขอปรับราคาโดยไม่คำนึงถึงต้นทุนที่แท้จริง และไม่รักษาผลประโยชน์ของประชาชนผู้เสียภาษีให้แก่รัฐ และเงินส่วนนี้ได้มีส่วนในการนำมาลงทุนเบื้องต้นให้กับ ปตท.ในระยะแรกๆ รวมไปถึงการที่รัฐบาลต้องค้ำประกันเงินกู้ให้แก่ ปตท.และทำให้ ปตท.เกิดได้ในวงการธุรกิจ และเติบโตในวงการพลังงานจนมีกำไรเป็นหมื่นเป็นแสนล้านเช่นทุกวันนี้

ถ้ามีการลอยตัวราคาแอลพีจีโดยยึดราคาตลาดโลกเหมือนที่เกิดขึ้นกับราคาน้ำมันในขณะนี้ จะเกิดอะไรขึ้นกับ ปตท.และประชาชนผู้เสียภาษี ซึ่งมีส่วนในการเป็นเจ้าของรัฐวิสาหกิจที่มีชื่อว่า ปตท.จะได้อะไร?

* * * * * * * * * * * * *

พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ

สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

www.waddeeja.com

Tel. 02-990-0331

408510909

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2008-08-04 09:09:30 IP : 124.121.139.253


ความคิดเห็นที่ 12 (2886811)

 

คนใช้ก๊าซ "แอลพีจี" ยังเคว้ง! ปตท.-รัฐปัดสวะ ไร้แผนฉุกเฉิน โบ้ยคนใช้รถ-ผู้ค้ามาตรา 7 4 สิงหาคม 2551

บิ๊กพลังงาน แหยงประกาศลอยตัวก๊าซ "แอลพีจี" ผวาดีมานด์พุ่งจนฉุดไม่อยู่ บ่งชี้ภาครัฐอ่อนหัด-ไร้แผนฉุกเฉินรับมือวิกฤตพลังงาน โทษราคาตลาดโลก และรถยนต์ที่แห่ติดก๊าซพุ่ง เป็นตัวต้นเหตุ ล่าสุด เตรียมใช้อำนาจบีบคอผู้ค้ามาตรา 7 แบกภาระนำเข้าร่วมกับ ปตท. "พูนภิรมย์" คาดได้ข้อสรุปเบื้อต้น สัปดาห์นี้
       
       
วันนี้ ( 4 ส.ค.) นายพรชัย รุจิประภา ปลัดกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธานคณะทำงานการปรับโครงสร้างราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (แอลพีจี) กล่าวถึงความคืบหน้าในการประกาศลอยตัวราคาก๊าซภายในประเทศ ซึ่งขณะนี้ ยังไม่สามารถสรุปราคาแอลพีจีได้ เนื่องจากยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน โดยเฉพาะเกี่ยวกับมาตรการนำเข้าแอลพีจี ในกรณีที่ปริมาณความต้องการใช้แอลพีจีเพิ่มขึ้นมาก จากปัจจุบันที่มีบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) หรือ PTT นำเข้าพียงรายเดียว ส่วนตัวมองว่าควรที่จะให้ผู้ค้ามาตร 7 รายอื่น สามารถนำเข้าแอลพีจีได้ด้วย
       
       
นายพรชัย ยอมรับว่า ภาวะตลาดในปัจจุบัน ปตท.มีความสามารถในการรองรับการนำเข้าแอลพีจีเพียง 60,000 ตันเท่านั้น อย่างไรก็ตามผู้ค้ามาตรา 7 บางรายอาจกังวลเกี่ยวกับเงินชดเชยส่วนต่างราคาแอลพีจี ดังนั้นคณะทำงานฯจึงต้องเร่งเพื่อหาข้อสรุปด้านตัวเลขดังกล่าวให้ชัดเจนด้วย
       
       
นอกจากนี้ สิ่งที่คณะทำงานจะต้องเร่งดำเนินการ ได้แก่ มาตรการป้องกับการรั่วไหลหรือการใช้ผิดประเภท รวมทั้งข้อสรุปด้านการปรับราคาแอลพีจีด้วย"ตอนนี้ยังไม่มีข้อสรุปเรื่องแอลพีจี เพราะหากดีมานด์แอลพีจีเพิ่มขึ้น ใครจะเป็นผู้นำเข้าให้ผู้ค้ามาตรา 7 สามารถนำเข้าได้ด้วยหรือไม่ ส่วนสัปดาห์หน้ายังไม่ทราบว่าจะเสร็จหรือไม่ การประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นอกจากนี้ รัฐบาลคงไม่บังคับให้เพิ่มปริมาณสำรองแอลพีจี แน่นอน
       
       
ด้านข้อมูลเบื้องต้นสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) น่าจะเสนอตัวเลขการปรับขึ้นราคาแอลพีจีภาคขนส่งและอุตสาหกรรมขึ้นอีก 5 บาทต่อลิตร โดยเชื่อว่า เป็นระดับที่เหมาะสมที่สุด เพื่อให้ประชาชนสามารถรับได้ และทยอยปรับตัวไปใช้พลังงานทางเลือกอื่น อาทิ ก๊าซเอ็นจีวี
       
       
สำหรับแผนเบื้องต้น เชื่อว่าจะยังคงยึดสูตรโครงสร้างการปรับราคาแอลพีจีแบบขั้นบันได คือ อิงราคาในตลาดโลก โดยงวดนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 10% จากปัจจุบันอยู่ที่เพียง 5% เท่านั้น และหลังจากนั้นก็จะขยับขึ้นเรื่อยๆ ในแต่ละไตรมาส
       
       
อย่างไรก็ตาม ภาครัฐบาลมองว่า แม้จะมีการปรับขึ้นราคาแอลพีจีระดับดังกล่าวแล้ว ก็คงไม่สามารถชะลอการใช้ภาคขนส่งได้มากนัก เนื่องจากตัวเลขดังกล่าวค่อนข้างน้อย เมื่อเทียบกับราคาน้ำมันขณะนี้ หากปรับราคาขึ้น 5 บาทจริง ราคาขายแอลพีจีก็จะอยู่ที่ 16-17 บาทต่อลิตรเท่านั้น
       
       
ส่วนกระแสข่าวที่ออกมาว่า 10-11 บาทต่อลิตรนั้น เชื่อว่าเป็นการโยนหินถามทางของรัฐบาล และเป็นระดับราคาที่สูงเกินไป แต่รัฐบาลก็เชื่อว่า ตัวเลข 10-11 บาทนี้ คงเป็นระดับที่ชะลอการใช้ในภาคขนส่งได้
       
       
พล.ท. (หญิง) พูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า การปรับราคาแอลพีจี ขอระยะเวลาพิจารณาตัวเลขการปรับขึ้นราคา ปริมาณการใช้และการป้องกันการรั่วไหลแอลพีจีจากภาคครัวเรือน ไปใช้ในภาคขนส่งและอุตสาหกรรมอย่างรอบคอบอีกครั้ง โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในสัปดาห์นี้
   
* * * * * * * * * * * * * * * * *

พันตรีศิริชัย   ทรัพย์ศิริ

นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล 

โทร. 02-990-0331

http://www.apdi2002.com

http://www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ สมาคมคนพิการ

408511445

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2008-08-04 14:46:25 IP : 124.121.135.201


ความคิดเห็นที่ 13 (2886815)

(ต่อ.........)

 

**ปตท.ไร้แผนรับมือวิกฤตพลังงาน โทษคนใช้รถแห่ติดก๊าซ
       
       
นายสุรวงค์ บูลกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจการค้าระหว่างประเทศบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีความต้องการใช้ก๊าซแอลพีจีเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะเดิมเคยใช้เพียง 3 ล้านตัน แต่เพิ่มขึ้นเป็น 3.5 ล้านตันในปีนี้ ถือว่าเป็นการเพิ่มขึ้นถึง 14.2 เปอร์เซนต์ และส่วนใหญ่เป็นการใช้ที่เพิ่มขึ้นจากการใช้ในรถยนต์ สูงถึง 22.7 เปอร์เซนต์ และถ้ายังคงใช้ในปริมาณที่มากเช่นนี้ต่อไปอีก คาดว่าปีหน้าอาจจะต้องนำเข้าก๊าซแอลพีจีเพิ่มขึ้นจากที่เคยใช้ในปัจจุบัน อีก 1 ล้านตัน
       
       “
เมื่อแก้ปัญหาเรื่องการนำเข้าเพื่อให้เพียงพอความต้องการใช้ในขณะนี้ได้แล้ว ปัญหาที่น่าหนักใจสำหรับ ปตท.คือที่ผ่านปตท.ต้องแบกรับภาระความต่างในเรื่องของราคาก๊าซแอลพีจีที่ขายอยู่ในเมืองไทย ที่ขายอยู่ที่ 332 ดอลลาร์ต่อตัน ในขณะที่ราคานำเข้าอยู่ที่ 950 ดอลลาร์ต่อตัน ต้องแบกรับความต่างไว้กว่า 600 ดอลลาร์ต่อตัน และแม้ความต่างที่ว่านี้รัฐบาลจะช่วย แต่ที่ผ่านมาติดในเรื่องเงื่อนไขของเวลา และอีกหลายอย่าง ทำให้ไม่มั่นใจว่าจะสามารถแบกรับภาระไว้ได้นาน และคิดว่าคงแบกรับภาระนี้ได้แค่เพียงสิ้นปีนี้เท่านั้น เพราะถ้าให้ยาวนานไปถึงปีหน้าด้วยคงไม่ไหว
       
       **
บางจากฯ แนะใช้พลังงานทดแทนล้อมคอก
       
       
นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกขณะนี้ แม้ราคาจะปรับลดลงอยู่ที่ 124 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แต่เชื่อว่าไม่มีทางจะเห็นราคาลดต่ำมาที่ 70-80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แน่นอน โดยวงการน้ำมันคาดว่าราคาน้ำมันจะไม่ต่ำกว่า 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และเมื่อไทยจำเป็นต้องนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศ 80% ดังนั้นนโยบายพลังงานทดแทนเช่น แก๊สโซฮอล์ ไบโอดีเซล และก๊าซธรรมชาติ ต้องมีทิศทางที่ชัดเจน ซึ่งเห็นว่าภาครัฐต้องมีหน่วยงานเป็นเจ้าภาพหลักที่ชัดเจนเช่น คณะกรรมการพัฒนาเชื้อเพลิงชีวภาพ

* * * * * * * * * * * * * * * * *

พันตรีศิริชัย   ทรัพย์ศิริ

นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล 

โทร. 02-990-0331

http://www.apdi2002.com

http://www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ สมาคมคนพิการ

408511449

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2008-08-04 14:48:35 IP : 124.121.135.201


ความคิดเห็นที่ 14 (2888188)

 

เสี่ยงทั้งคู่*** ติดถังเอ็นจีวี-แอลพีจี ไม่ได้มาตรฐาน เหมือนนั่งอยู่กับระเบิด6 สิงหาคม 2551

 

แพทย์เตือนคนแห่ติดแก๊สเอ็นจีวี-แอลพีจี ภัยใกล้ตัว หากติดตั้ง-ถังแก๊ส ไม่ได้มาตรฐาน ไม่ผ่านการตรวจคุณภาพ เสี่ยงอันตรายเหมือนนั่งอยู่กับระเบิด ชี้ตูมเดียว 95% ตาย แก้วหูทะลุ ปอด ไส้แตก นักวิชาการแนะถ้าตัดสินใจติดแก๊สอย่าขี้เหนียว อาจถูกหลอกติดอุปกรณ์ถังแก๊สไม่มีคุณภาพ ทางที่ดีรถยนต์ส่วนตัวอย่าติดแก๊ส เชื่อแนวโน้มอนาคตทั้งเอ็นจีวี แอลพีจีราคาสูงขึ้น ใช้พลังงานไม่คุ้มค่า เน้นประหยัดพลังงาน ใช้ระบบขนส่งมวลชน

 

วันนี้ (6 ส.ค.) ที่โรงพยาบาลราชวิถี ในการประชุมวิชาการกรมแพทย์ ประจำปี 2551 มีการเสวนาเรื่อง เปลี่ยนรถไปใช้แก๊ส : ภยันตรายใกล้ตัว?” นพ.ประวิทย์ ลิ้มควรสุวรรณ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเลิดสิน กล่าวว่า เนื่องจากภาวะน้ำมันแพงทำให้คนที่ใช้รถยนต์ส่วนตัวหันมาใช้เชื้อเพลิงธรรมชาติ โดยการติดตั้งแก๊สแอลพีจี หรือเอ็นจีวี ซึ่งหากวิธีการติดตั้ง ถังก๊าซไม่ได้มาตรฐานความปลอดภัย ทางการแพทย์ถือว่ามีความเสี่ยงอันตราย ขณะที่การติดแอลพีจีซึ่งเป็นแก๊สหุงต้มที่ใช้ในการครัวเรือน ถือเป็นการใช้พลังงานไม่คุ้มค่า และอาจทำให้โครงสร้างพลังงานในประเทศเกิดการเปลี่ยนแปลง ทำให้แก๊สมีราคาแพงขึ้น ส่วนการติดตั้งเอ็นจีวีซึ่งรัฐบาลให้การสนับสนุนให้เป็นพลังงานทางเลือกแต่เนื่องจากโครงสร้างพื้นฐานไม่มีความพร้อมในการรองรับ เช่น สถานีเติมแก๊สต้องต่อคิวนาน เหล่านี้ก็เป็นปัญหาอาจเสี่ยงอันตรายเช่นกัน

 

จากเหตุการณ์รถแก๊สระเบิดที่ถนนเพชรบุรีเมื่อหลายปีที่แล้ว ซึ่งผู้ได้รับบาดเจ็บที่โรงพยาบาลราชวิถีรับไว้รักษาตัว พบว่าในเวลาต่อมาเสียชีวิตทั้งหมด เนื่องจากผลของการระเบิดส่งผลรุนแรงมาก ดังนั้น การที่รถมีการติดแก๊ส เปรียบได้กับนั่งอยู่กับระเบิด ซึ่งหากติดเอ็นจีวีก็เท่ากับมีลูกระเบิดที่มีความดันถึง 3,000 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว หากระเบิดขึ้นมาก็อาจสร้างความสูญเสียแก่ชีวิตและทรัพย์สินได้ ผู้ที่จะติดเอ็นจีวีจะต้องระมัดระวัง มีการตรวจสอบคุณภาพทุกปีอย่างสม่ำเสมอ แต่ก็พบว่าในประเทศไทยมีศูนย์ตรวจสภาพตัวถังที่มีประสิทธิภาพน้อยมาก ดังนั้น แม้รถยนต์บางส่วนได้รับการตรวจแต่ก็อาจไม่สามารถรับรองความปลอดภัยได้นพ.ประวิทย์ กล่าว
       
       
นพ.ประวิทย์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ อุบัติเหตุที่เกิดจากการติดตั้งแก๊ส เกิดขึ้นได้ 3 ประเภท คือ 1.แก๊สรั่วโดยไม่ระเบิด ซึ่งหากมีการรั่วของแก๊สเกิดขึ้นก็จะได้กลิ่น แม้แก๊สไม่มีพิษทำลายประสาท แต่จะเกิดการสะสมเป็นอันตราย และยังแย่งอากาศในการหายใจขณะที่อยู่ในรถด้วย 2.การติดไฟ ซึ่งแอลพีจี มีขีดจำกัดในการติดไฟได้ 2-9% ขณะที่เอ็นจีวี อยู่ที่ 5-15% ส่วนอุณหภูมิการติดไฟ แอลพีจี 480 องศาเซลเซียส เอ็นจีวี 650 องศาเซลเซียส ในแง่ความปลอดภัยการติดไฟของแอลพีจีง่ายกว่า และ3.การระเบิด ซึ่งเกิดจากสภาพการเปลี่ยนแปลงทางเคมีที่มีความร้อนจนเกิดประกายไฟ ทำให้มีพลังงานดันออกมามหาศาล

* * * * * * * * * * * * * * * * *

พันตรีศิริชัย   ทรัพย์ศิริ

นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล 

โทร. 02-990-0331

http://www.apdi2002.com

http://www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ สมาคมคนพิการ

608512028

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2008-08-06 20:27:36 IP : 124.121.135.121


ความคิดเห็นที่ 15 (2888191)

 

       (ต่อ................... )
       
อยากเตือนให้สังคมเกิดความตระหนักของความไม่ปลอดภัยใกล้ตัว เนื่องจากความไม่ใส่ใจ หรือความมักง่ายเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวของผู้ประกอบการบางราย เพราะหากเกิดการระเบิดขึ้น ทางการแพทย์แค่เพียงมีความดันที่ 58-80 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว พบว่า 95% ทำให้เสียชีวิต ซึ่งหากเกิดการระเบิดของแก๊สแน่นอนว่าแรงดัน3,000 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว ย่อมส่งผลเสียหายมาก โดยแรงระเบิด ช็อกเวฟ จะทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกายในส่วนที่เป็นลม คือ ซึ่งจะทำให้เยื่อแก้วหูทะลุ ปอด ลำไส้แตก ส่วนแรงประทะโดยตรงจากเศษวัสดุจากตัวรถที่มากระแทก ก็จะทำให้เกิดการฉีกขาดของร่างกายภายนอก เหมือนโดนยิงทะลุทะลวง ซึ่งเอ็นจีวีจะมีความรุนแรงมากกว่า เนื่องจากแอลพีจี มีความดันอยู่ที่ 120 ปอนด์ต่อตารางนิ้วนพ.ประวิทย์ กล่าว
       
       
ดร.อธิคม บางวิวัฒน์ บัณฑิตวิทยาลัยร่วมด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี กล่าวว่า จริงๆ แล้ว แก๊สทั้ง 2 ประเภทมีความน่ากลัว หรือมีอันตรายหรือไม่ขึ้นอยู่กับมาตรฐานความปลอดภัยของอุปกรณ์ที่นำมาติดตั้ง ซึ่งทั้งแอลพีจีและเอ็นจีวีต่างก็มีอุปกรณ์ที่ผ่านการทดสอบด้านความปลอดภัย ได้รับมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) ซึ่งอิงมาตรฐานสากลอยู่แล้ว ต้องผ่านการตรวจสอบคุณภาพเป็นประจำทุก 5 ปี ขณะที่เอ็นจีวีก็เช่นกัน อุปกรณ์ที่ปลอดภัยได้มาตรฐาน มีการผ่านมอก.มีกระบวนการติดตั้งและถังที่ใช้วัสดุปลอดภัยได้มาตรฐาน ซึ่งผ่านการทดสอบโดยการเผาไฟ ใช้แรงกระแทกโดยยิงกระสุน พบว่าถังไม่ระเบิด
       
       
ดังนั้น สิ่งสำคัญ คือ ควรจะติดตั้งถังแก๊สในศูนย์ที่ได้รับการรับรองจากกรมขนส่งทางบก ซึ่งมี138 แห่ง และมีศูนย์ติดตั้งยอดเยี่ยม 22 แห่ง การตรวจคุณภาพทุก 1 ปี แต่ที่น่าเป็นห่วงคือ ปัจจุบันมีผู้ตรวจสอบด้านคุณภาพความปลอดภัยน้อย เอ็นจีวีมีเพียง 49 แห่ง มีศูนย์ตรวจสอบตัวถังเพียง 7 แห่ง เท่านั้น
       
       
หากตัดสินใจจะติดตั้งแก๊สที่สำคัญคืออย่าขี้เหนียว หรืออยากได้ของถูก อุปกรณ์หรือถังทั้งแอลพีจีและเอ็นจีวี ต้องนำเข้าจากต่างประเทศทั้งหมด มีราคาแพงอยู่แล้ว ดังนั้น ของที่มีราคาถูกจึงไม่มีและอาจถูกหลอกได้อุปกรณ์ ติดตั้ง และถังแก๊สที่ไม่มีคุณภาพ และเด็กปัญหาเสี่ยงอันตรายถึงชีวิตได้ อย่างไรก็ตาม มองว่า รถยนต์ส่วนตัวอาจไม่จำเป็นต้องติดแก๊สเหล่านี้เมื่อเทียบกับรถบรรทุก ซึ่งมีเวลาและระยะการเดินทางที่แน่นอน ทั้งนี้ในอนาคตหากรัฐบาลเลิกให้การสนับสนุน ราคาของแก๊สก็มีแนวโน้มสูงขึ้น ดังนั้นการมีจิตสำนึกในหารประหยัดพลังงานและรัฐบาลพัฒนาระบบการขนส่งมวลชนให้ดีขึ้น จึงน่าจะเป็นทางออกที่ดีกว่าดร.อธิคม กล่าว

* * * * * * * * * * * * * * * * *

พันตรีศิริชัย   ทรัพย์ศิริ

นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล 

โทร. 02-990-0331

http://www.apdi2002.com

http://www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ สมาคมคนพิการ

608512030

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2008-08-06 20:30:13 IP : 124.121.135.121


ความคิดเห็นที่ 16 (2890481)

รมช.ทรงศักดิ์ เตรียมบังคับให้ผู้ใช้รถติดตั้งก๊าซ NGV ต้องแสดงบัตรก่อนเติมแก๊ส หลังเกิดเหตุระเบิดเมื่อวันศุกร์ ส่วนรถที่ติดตั้ง LPG เตรียมใช้มาตรฐานเดียวกัน ส่วนกรณีถังเอ็นจีวีในรถเมล์ระเบิด เมื่อวันที่ 8 ส.ค.ที่ผ่านมา คาดรู้ผลภายใน 2 สัปดาห์
       

       วันนี้ (11 ส.ค.) นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงผลการหารือกับกระทรวงพลังงาน และบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) กรณีเกิดเหตุระเบิดถัง NGV ขณะเติมแก๊สเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เพื่อหามาตรการป้องกันรถที่ไม่ได้จดทะเบียนมาเติมก๊าซ NGV โดยจะใช้วิธีการแสดงบัตรประจำตัวในการเติม NGV ทุกครั้งเพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการเติม NGV ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการแล้ว ส่วน LPG ขณะนี้กำลังดำเนินการอยู่เช่นกันเพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน
       
       ส่วนการจดทะเบียนติดตั้ง NGV และ LPG ที่กำหนดระยะเวลาเพียง 15 วันนั้น รัฐบาลคงจะไม่ขยายเวลาอีก ซึ่งขณะนี้ขึ้นทะเบียนไปแล้วกว่า 4 หมื่นคัน
       
       ด้าน นายณอคุณ สิทธิพงศ์ รองปลัดกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการเร่งรัดและติดตามการใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงในรถยนต์ กล่าวว่า การตรวจสอบสาเหตุการระเบิดของถังเอ็นจีวีในรถเมล์เมื่อวันศุกร์ที่ 8 ส.ค.ที่ผ่านมา เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเกิดจากหลายสาเหตุ คือ ถังไม่ได้คุณภาพ การติดตั้งถังไม่ได้มาตรฐาน วัตถุดิบที่ใช้ในกระบวนการผลิตถัง และการใช้งานของถังเกิดการกระแทก เนื่องจากถังมีการนำเข้าที่ถูกต้องตามกฎหมายและผ่านการทดสอบคุณภาพแรงดันก๊าซ จึงได้เตรียมนำชิ้นส่วนถังที่ระเบิดไปตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงอย่างละเอียด โดยผู้เชี่ยวชาญจากกรมธุรกิจพลังงานและภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จะเป็นผู้ตรวจสอบ คาดได้ข้อสรุปภายใน 2 สัปดาห์
       
       ทั้งนี้ ผลการตรวจสอบยังพบว่าถังดังกล่าวเป็นของบริษัทไฟน์เทคจากเกาหลี ที่ใช้วัตถุดิบเหล็กจากจีนผลิตออกจำหน่ายจำนวน 1,000 ใบ ขนาดบรรจุ 145 ลิตร น้ำที่ใช้ในรถยนต์ขนาดใหญ่ ซึ่งไทยนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศจำนวน 376 ถังโดยบริษัท สยามราชธานี มีการเรียกเก็บถังคืนทั้งหมด และให้ลูกค้าที่ติดตั้งถังเอ็นจีวีรุ่นดังกล่าวกลับมาเปลี่ยนถังที่ได้มาตรฐานใหม่โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งขณะนี้เริ่มมีการเรียกเก็บถังคืนแล้วบางส่วน หมายเลขถังตั้งแต่เบอร์ 545187-545562
       
       รองปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวอีกว่า ประชาชนที่ติดตั้งถังเอ็นจีวีรุ่นดังกล่าวของสยามราชธานีจะไม่ได้รับอนุญาตให้เติมก๊าซเอ็นจีวีในสถานีบริการจนกว่าจะทราบสาเหตุที่ชัดเจนออกมาก่อน เพราะเกรงเกิดอันตรายซ้ำสอง พร้อมทั้งขอให้ประชาชนที่ใช้เอ็นจีวีมั่นใจในความปลอดภัยและมาตรฐานของถังได้ หากติดตั้งในอู่ที่มีมาตรฐานและผ่านการตรวจสอบคุณภาพ
 

* * * * * * * * * * * * * * * * *

พันตรีศิริชัย   ทรัพย์ศิริ

นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล 

โทร. 02-990-0331

http://www.apdi2002.com

http://www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ สมาคมคนพิการ

1008511930

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2008-08-11 19:29:37 IP : 124.121.144.25


ความคิดเห็นที่ 17 (2890507)

 

ก.พลังงาน เรียกเก็บถัง NGV นำเข้าจากเกาหลี - คค.ล้อมคอกปั๊มเติมก๊าซ 11 สิงหาคม 2551

นายณอคุณ สิทธิพงศ์ รองปลัดกระทรวงพลังงาน สั่งให้บริษัท ไฟล์เทค ผู้ผลิตถังก๊าซเอ็นจีวีของเกาหลี และบริษัท สยามราชธานี ผู้จำหน่าย เรียกคืนถังเอ็นจีวีที่ติดตั้งไปแล้ว จำนวน 375 ใบ และเปลี่ยนถังใบใหม่ให้กับลูกค้า ภายใน 2 สัปดาห์ หลังตรวจพบว่า ถังก๊าซเอ็นจีวีที่ระเบิดเมื่อสัปดาห์ก่อน เกาหลีนำเข้าวัตถุดิบจากจีน ซึ่งไม่ได้มาตรฐาน กรมการขนส่งทางบก ระบุว่า ถังก๊าซดังกล่าวมีน้ำหนักน้อยกว่าถังขนาดเดียวกัน 4 กิโลกรัม เป็นไปได้ว่ามีความผิดพลาดในขั้นตอนการผลิต ซึ่งหากผิดพลาดจริงอาจต้องระงับการนำเข้า
       
ด้านกระทรวงคมนาคม ออกระเบียบเข้มให้รถที่ติดถังก๊าซเอ็นจีวี ต้องนำรถมาตรวจสภาพและจดทะเบียนรับรองที่กรมการขนส่งทางบก ก่อนจะนำเอกสารไปขอรับคูปองเพื่อนำไปเติมก๊าซเอ็นจีวีที่ปั๊มของ ปตท. หากพบว่าปั๊มน้ำมันรายใดแอบเติมก๊าซให้รถที่ไม่มีคูปองถือว่าผิดวินัยทางการค้า และต้องรับผิดชอบหากรถคันนั้นเกิดเหตุระเบิด

* * * * * * * * * * * * * * * * *

พันตรีศิริชัย   ทรัพย์ศิริ

นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล 

โทร. 02-990-0331

http://www.apdi2002.com

http://www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ สมาคมคนพิการ

1008512042

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2008-08-11 20:42:08 IP : 124.121.144.25


ความคิดเห็นที่ 18 (2891276)

 

คนใช้รถติด LPG จ๊ากแน่! คาดราคาขายปลีกพุ่งถึง 22 บ./ลิตร13 สิงหาคม 2551

 

สนพ.แจงแผนปรับขึ้นราคา LPG พร้อมชง 4 แนวทางให้ รมว.พลังงาน ตัดสินใจ แนะจุดเหมาะสมต้องปรับขึ้น 15-20 บาท/ก.ก. หรือคิดเป็น 7.5-10 บาท/ลิตร ซึ่งจะทำให้ราคาขายที่ปั๊มซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 11-12 บาท/ลิตร เพิ่มขึ้นเป็น 18-22 บาท/ลิตร ในทันที
       
       
วันนี้ (13 ส.ค.51) รายงานข่าวจากกระทรวงพลังงาน แจ้งว่า คณะทำงานศึกษาปรับโครงสร้างราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) จัดทำรายละเอียดต่างๆ ไว้พร้อมแล้ว ในเบื้องต้นราคาแอลพีจีในภาคขนส่งจะต้องปรับขึ้น 5-25 บาท/ก.ก. แบ่งเป็น 4 ขั้นตอน คือ

 

1.ถ้าปรับราคาขึ้น 5 บาท/ก.ก. จะช่วยลดอัตราการเติบโตของการใช้แอลพีจีในประเทศบ้าง แต่ไม่ช่วยชะลอการนำเข้า

2.ปรับขึ้น 10 บาท/ก.ก. ช่วยชะลอการใช้แอลพีจีลง 20%

3.ปรับขึ้น 15 บาท/ก.ก. การใช้ลดลง 40% และช่วยลดการนำเข้า 50% และ

4.ปรับขึ้นราคา 25 บาท/ก.ก. จะช่วยหยุดอัตราการเติบโตการใช้แอลพีจีและไม่ต้องนำเข้าแอลพีจีทันที
       
       
ทั้งนี้ ทางผู้ที่เกี่ยวข้องเห็นว่าน่าจะต้องปรับขึ้นแอลพีจี 15-20 บาท/ก.ก. หรือ 7.5-10 บาท/ลิตร จะทำให้ราคาขายที่ปั๊มซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 11-12 บาท/ลิตรจะเพิ่มขึ้นเป็น 18-22 บาท/ลิตร ซึ่งจะทำให้หยุดการใช้แอลพีจีในรถยนต์ โดยเรื่องดังกล่าวต้องรอให้ พล.ท.หญิงพูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ รมว.พลังงาน ในฐานะประ ธานคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เรียกประชุมเพื่อพิจารณาโครงสร้างราคาแอลพีจีต่อไป
       
       
ทั้งนี้ การปรับขึ้นแอลพีจีควรจะปรับขึ้นราคาทุกเดือน และครั้งละมากๆ เพื่อที่จะลดปริมาณการใช้และการนำเข้า เพราะหากปรับขึ้นเพียงครั้งละ 5 บาท/ก.ก. ถือเป็นเงินเพียงเล็กน้อยไม่น่าจะช่วยลดการใช้แอลพีจีมากนัก ถ้าปรับราคาตั้งแต่ 10-20 บาท/ ก.ก. จะทำให้ผู้ใช้แอลพีจีหันไปปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์ก๊าซธรรม ชาติ (เอ็นจีวี) แทน

* * * * * * * * * * * * * * * * *

พันตรีศิริชัย   ทรัพย์ศิริ

นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล 

โทร. 02-990-0331

http://www.apdi2002.com

http://www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ สมาคมคนพิการ

1308511416

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2008-08-13 14:15:41 IP : 124.121.141.143


ความคิดเห็นที่ 19 (2891631)

 

พอกันทั้ง LPG และ NGV

LPG
ก็ไฟไหม้ ส่วน NGV ก็ระเบิด อันตรายพอๆ กัน ผมก็ยังติด NGV ในช่วงเบนซิน ราคาสูงถึงเกือบ 40 บ. แต่ตอนนี้ราคาตกแล้ว แต่ก็ติดไปแล้วไม่รู้จะทำอย่างไงเหมือนกัน ทางรัฐบาลต้องทำอะไรซักอย่างแล้วเกี่ยวกับ LPG และ NGV ไม่หยั่งงั้นจะเป็นข่าวรายวัน ถ้าไม่ทำอะไรเลย ก็เอา ปตท. คืนมาเพื่อใช้น้ำมันราคาถูกกว่านี้

ภายใน 1 สัปดาห์...มีข่าวรถแก้ส 3 ข่าว...รถบัส NGV ระเบิดขณะเติมแก้ส...รถเก๋ง LPG ไฟไหม้ทั้งที่เพิ่งติดตั้งและได้รับใบรับรองจากวิศวกรเกิดไฟลุกไหม้ขณะขับไปจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงที่ขนส่ง...วันนี้รถ LPG ถูกชนท้ายไฟลุกไหม้...เป็นเรื่องที่เหนือความควบคุมของเจ้าของรถและผู้ขับขี่...พอสรุปได้ว่าเป็นจริงอย่างที่เขาว่า...NGV ปลอดภัยกว่าเพราะติดไฟยากแต่ระเบิด...LPG ไฟไหม้ทุกครั้งที่เกิดเหตุ...เอาไงดี...นี่ข่าวเมื่อวาน LPG จะขึ้นราคาอีกนะอีก 15-20 บาท บวกกับราคาเดิม ร่วม 30 บาท...เฮ้อ***!...กระต่ายตื่นตูม...ตอนนี้ราคาน้ำมันก็ลงเอาลงเอา...ทำไงได้เปลี่ยนไปใช้แก้สแล้วนี่...เวลาเติมแก้สที่ก็ต้องเอาชีวิตตนและครอบครัวไปฝากไว้กับ...มาตรฐานของถังแก้สและเซฟตี้วาวล์...บวกกับความรับผิดชอบของเด็กปั้ม

- กรมการขนส่งรับไปเต็มๆ งานนี้ได้ดูวัวหายล้อมคอกของจริง
ปล่อยให้เปิดร้านติดแก๊สกันเกลื่อนเมืองเหมือน 7-11 ได้ยังไง
จะมาควบคุมตอนนี้ยากมากครับ เนื่องจากรถติดแก๊สที่ไม่ได้มาตรฐานวิ่งกันเกลื่อนเมืองแล้วครับ

 

- ควรออกกฎกระทรวงภายใต้พรบ.จราจรทางบก บังคับให้รถที่ติดแก็สทุกคันต้องติดสติ๊กเกอร์ที่เห็นได้ชัด เพื่อให้รถอื่นไม่ตามหลังชิดเกินไป เกิดอุบัติเหตุจะได้เบนออกได้ไม่ยากนัก

* * * * * * * * * * * * *

 

พันตรีศิริชัย  ทรัพย์ศิริ

สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

www.waddeeja.com

Tel. 02-990-0331

1408510934

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2008-08-14 09:34:11 IP : 124.121.138.164


ความคิดเห็นที่ 20 (2905655)

 

 ขนส่งฯ คุมกำเนิดรถติดก๊าซ LPG เพิ่มกฎเหล็ก-บีบกลไกตลาดฯ ดีเดย์ 21 ต.ค.นี้

ขนส่งฯ กำหนดให้รถที่จะติดตั้งก๊าซ LPG ต้องได้รับความเห็นชอบจากกรมการขนส่งทางบกก่อน มีผล 21 ต.ค.นี้ พร้อมล็อกสเป็กอุปกรณ์ติดตั้ง โดยอ้างเพื่อความปลอดภัย
       
       
วันนี้ ( 10 ก.ย.) นายชัยรัตน์ สงวนชื่อ รักษาการอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า กรมการขนส่งทางบก ได้ออกมาตรการเพิ่มความปลอดภัยสำหรับรถใช้ก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) เป็นเชื้อเพลิง โดยออกกฎกระทรวงกำหนดให้ผู้ติดตั้งเครื่องอุปกรณ์และส่วนควบสำหรับรถที่ใช้ก๊าซ LPG จะต้องได้รับความเห็นชอบจากกรมการขนส่งทางบกก่อนจึงจะได้รับการติดตั้ง ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 21 ต.ค.นี้ เป็นต้นไป
       
       
ทั้งนี้ ระหว่างที่ยังไม่ได้รับความเห็นชอบ ผู้ติดตั้งสามารถติดตั้งต่อไปได้จนถึงวันที่ 18 เม.ย. 52 และตั้งแต่วันที่ 19 เม.ย. 52 เป็นต้นไป ผู้ที่จะติดตั้งก๊าซ LPG ในรถยนต์ได้ จะต้องเป็นผู้ได้รับความเห็นชอบจาก กรมการขนส่งทางบกเท่านั้น
       
       
รักษาการอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า จากมาตรการดังกล่าวส่งผลให้ ตั้งแต่วันที่ 19 เม.ย. 52 เจ้าของรถที่ประสงค์ติดตั้งเครื่องอุปกรณ์สำหรับใช้ก๊าซ LPG เป็นเชื้อเพลิง จะต้องนำรถไปติดตั้งกับผู้ติดตั้ง ที่ได้รับความเห็นชอบจากกรมการขนส่งทางบกเท่านั้น และอุปกรณ์จะต้องเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ด้วย โดยผู้ที่ประสงค์จะเป็นผู้ติดตั้งก๊าซ LPG ที่ถูกต้องตามกฎหมาย สามารถยื่นขอรับความเห็นชอบจากกรมการขนส่งทางบกได้ ตั้งแต่วันที่ 21 ต.ค.นี้ เป็นต้นไป

- - - - - - - - - - - - - - - - - -

 

พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ

นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

โทร. 02-990-0331

www.waddeeja.com

www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ สมาคมคนพิการ

 1009511740

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2008-09-10 17:36:49 IP : 124.121.137.194


ความคิดเห็นที่ 21 (2906946)

 

แผนแยกราคาก๊าซ LPG ลอยเคว้ง! โยนนายกฯ ใหม่ชี้ชะตา

แผนแยกราคาก๊าซแอลพีจี 2 ตลาด สะดุด! รักษาการ รมว.พลังงาน ยอมรับ สภาเลือกนายกฯ คนใหม่ ยังไม่ได้ กระทบนโยบายพลังงานล่าช้า ทั้งการขึ้นกราคาก๊าซแอลพีจี และการส่งเสริมแก๊สโซฮอล์อี 85 เป็นนโยบายพลังงานแห่งชาติ
       
       
วันนี้ (12 ก.ย.51) พล.ท.(หญิง) พูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า นโยบายพลังงานเรื่องการปรับขึ้นราคาแอลพีจีภาคขนส่ง-อุตสาหกรรม และภาคครัวเรือน หลังประกาศแยกราคาเป็น 2 ตลาด รวมทั้งเรื่องการส่งเสริม อี 85 นั้น ต้องรอคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เป็นผู้ตัดสินใจว่าจะปรับราคาอย่างไร จากการที่ในขณะนี้สภาผู้แทนราษฎร ยังไม่สามารถเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ได้ นโยบายดังกล่าวก็จะต้องรอความชัดเจนต่อไป
       
       
ดังนั้น คาดว่า การประกาศราคาก๊าซ LPG คงจะต้องชะลอออกไป เพราะสถานการณ์บ้านเมืองยังไม่เรียบร้อย แต่เชื่อว่า จะเป็นข่าวดี เพราะราคาก๊าซแอลพีจีจะปรับลดลงตามราคาน้ำมันในตลาดโลก นอกจากนี้ หากมีการประชุม กพช.แล้ว กระทรวงพลังงานจะเสนอให้เอทานอล เป็นวาระแห่งชาติด้วย ส่วนเรื่องค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) งวดใหม่ คงจะต้องรอที่ประชุมคณะอนุกรรมพิจารณาว่าจะปรับเพิ่มขึ้นหรือไม่
       
       
อย่างไรก็ตาม ในเรื่อง อี 85 ยังมีความคืบหน้าในเรื่องที่ ปตท.เปิดสถานีบริการนำร่องขายอี 85 แล้ว ขณะที่บริษัท มิตรผล ผู้ผลิตน้ำตาล เอทานอล ได้นำร่องนำเข้ารถยนต์อี 85 ประมาณ 20-30 คัน มาทดลองใช้อี 85 ด้วย
       
       
พล.ท.หญิง พูนภิรมย์ กล่าวว่า ในเรื่องการส่งเสริมประหยัดพลังงาน กระทรวงพลังงานได้เดินหน้าต่อเนื่อง โดยวันนี้ (12 ก.ย.51) ร่วมกับสำนักงานตลาด กทม.และ กฟผ.เดินหน้าตามโครงการตลาดสีเขียว เริ่มที่ตลาดประชานิเวศน์ 1 โดยกระทรวงมอบถังหมักก๊าซชีวภาพจากขยะอินทรีย์ หลอดตะเกียบเบอร์ 5 และเตามหา***แก่ชุมชนในตลาด ซึ่งในส่วนของถังผลิตก๊าซชีวภาพ จะใช้หมักขยะอินทรีย์ 40 กิโลกรัม/วัน ผลิตก๊าซชีวภาพได้ไม่น้อยกว่า 2.5 ลูกบาศก์เมตร/วัน ซึ่งทางตลาดจะนำก๊าซชีวภาพมาใช้ต้มน้ำร้อน สำหรับใช้ล้างพื้นภายในตลาดไล่สิ่งสกปรกร่วม 12 จุด ทั่วทั้งตลาด นับเป็นตลาดแห่งแรกและเป็นต้นแบบที่จะนำพลังงานทดแทนมาใช้

* * * * * * * * * * * * *

 

พันตรีศิริชัย  ทรัพย์ศิริ

สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

www.waddeeja.com

Tel. 02-990-0331

1309510859

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2008-09-13 08:57:24 IP : 124.121.140.213


ความคิดเห็นที่ 22 (2910543)

ขอบคุณข้อมูลเป็นประโยชน์มากครับ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น siripong (udkorat99-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2008-09-20 12:47:02 IP : 124.120.166.56


ความคิดเห็นที่ 23 (2913998)

 

* * * * * * * * * * * * *

 

พันตรีศิริชัย  ทรัพย์ศิริ

สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

www.waddeeja.com

Tel. 02-990-0331

2709511211

 

รมว.พลังงาน เร่งขึ้นราคา LPG ภาคขนส่ง-อุตสาหกรรม

นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า จะสานต่อนโยบายการปรับโครงสร้างราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว หรือแอลพีจี ตามแนวทางที่รัฐบาลชุดก่อนวางไว้ ที่มีการปรับโครงสร้างราคาก๊าซแอลพีจีตามแผนบันได 5 ขั้น โดยยืนยันว่า รัฐบาลชุดนี้จะปรับขึ้นราคาก๊าซแอลพีจีในภาคขนส่งและอุตสาหกรรมแน่นอน แต่จะปรับขึ้นเมื่อใดนั้นเป็นหน้าที่คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน หรือ กบง. ส่วนภาคครัวเรือนจะขยายเวลาตรึงราคาก๊าซแอลพีจี ไว้ที่ 18.13 บาทต่อกิโลกรัม ตามมาตรการ 6 เดือนของรัฐบาล ต่อไปหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่ที่การพิจารณาของรัฐบาล หลังจากมาตรการดังกล่าวสิ้นสุดลง
       
นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า จะเดินหน้านโยบายส่งเสริมแก๊สโซฮอล์ อี85 ที่รัฐบาลชุดที่ผ่านมาวางแผนไว้เป็นอย่างดี เนื่องจากเห็นว่า สามารถช่วยลดการพึ่งพาการนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศได้

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2008-09-27 12:10:52 IP : 124.121.140.2


ความคิดเห็นที่ 24 (2915612)

 

เพลิงไหม้*** รถทัวร์ติด LPG สาย กทม.-อุบลฯ คนหนีตายวุ่น

 เกิดเหตุรถทัวร์ปรับอากาศติดแก๊ส LPG ได้เกิดเพลิงไหม้ เหตุเกิดบนถนนมิตรภาพขาขึ้น จ.นครราชสีมา ระหว่างกิโลเมตรที่ 136-137 หมู่ที่ 6 ต.มิตรภาพ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี นายมงคล ศรีวงราช อายุ 51 ปี โชเฟอร์คนขับรถทัวร์ปรับอากาศคันดังกล่าว เล่าว่า วิ่งจากกรุงเทพมหานคร ไป จ.อุบลราชธานี ได้รับผู้โดยสารออกจากกรุงเทพฯ เมื่อเวลา 10.00 น.ของวันนี้ 30 ก.ย.51  จำนวน 38 คน เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้เกิดมีควันพวยพุ่งออกมาจากท้ายรถและเกิดเพลิงไหม้ จึงได้จอดรถและให้ผู้โดยสารลงจากรถ พร้อมทั้งเรียกหน่วยดับเพลิงของ อบต.มิตรภาพ มาช่วยดับเพลิง โดยที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด
       
สำหรับรถทัวร์คันนี้ได้ติดแก๊ส LPG ไปเมื่อ 12 วันก่อนหน้านี้ ส่วนสาเหตุนั้นกำลังรอสอบสวน และจุดเกิดเหตุนี้ก็ห่างจากจุดที่รถทัวร์ปรับอากาศ 2 ชั้น เกิดเพลิงไหม้ เมื่อ 2 วันก่อน ประมาณ 200 กว่าเมตรเท่านั้น

* * * * * * * * * * * * *

 

พันตรีศิริชัย  ทรัพย์ศิริ

สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

www.waddeeja.com

Tel. 02-990-0331

3009511551

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2008-09-30 15:51:11 IP : 124.121.140.158


ความคิดเห็นที่ 25 (2926088)

 

ครม.มือเปื้อนเลือดเร่งอนุมัติสารพัดโครงการ เล็งปรับขึ้นก๊าซ LPG

ครม.มือเปื้อนเลือดยังด้านทำงานต่อ เร่งอนุมัติโครงการเพียบ ทั้งไฟเขียวให้ กระทรวงพลังงาน จัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเพิ่ม พร้อมจี้ให้เร่งปรับขึ้นราคาก๊าซแอลพีจีนอกจากนี้ และยังได้อนุมัติโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ราคา 1.2 หมื่นบาท/ตัน ตามที่คาดกันไว้ นอกจากนี้ ยังมีการแต่งตั้ง ขรก.การเมืองอีกเพียบ
       
       
วันนี้ (21 ต.ค.51) นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ มีมติเห็นสมควรให้กระทรวงพลังงานเพิ่มการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งจะต้องเป็นอัตราที่ไม่ต่ำกว่าการลดการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมัน ในนโยบาย 6 มาตรการ 6 เดือน เนื่องจากขณะนี้ราคาน้ำมันได้ลดลงไปมากแล้ว ซึ่งเมื่อในวันที่ 17 ต.ค.กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง มีเงินอยู่ประมาณ 3.1 พันล้านบาท
       
       
นอกจากนี้ ครม.ยังต้องการให้กระทรวงพลังงาน เร่งปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม (LPG) ในภาคการขนส่ง เพื่อให้เป็นไปตามกลไกตลาด ซึ่งในตอนนี้ ยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของกระทรวงพลังงาน ในการนำเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (คพช.)

- - - - - - - - - - - - - - - - - -

พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ

นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

โทร. 02-990-0331

http://www.apdi2002.com

http://www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ สมาคมคนพิการ

2110512224

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2008-10-21 22:24:43 IP : 124.121.78.16


ความคิดเห็นที่ 26 (2928137)

 

ปตท.อ้างมติ ครม.บีบกลไกตลาด-จี้ขึ้นราคาก๊าซ NGV-LPG

ปตท.ฉวยจังหวะราคาพลังงานอ่อนตัว ทวงสัญญา ครม. อนุมัติปรับขึ้นราคาก๊าซ "เอ็นจีวี-แอลพีจี" อ้างต้องการให้กลไกตลาดสะท้อนต้นทุนจริง โวยแบกภาระขาดทุนจากการขายก๊าซเอ็นจีวี 1.50 บาท/ลิตร ขู่ยกเลิกแผนการขยายปั๊มเพิ่ม พร้อมทวงหนี้เงินชดเชยนำเข้าก๊าซแอลพีจี 1 หมื่นล้าน หากไม่รีบปรับขึ้นราคาก๊าซเติมรถยนต์
       

       
นายสรัญ รังคสิริ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่สื่อสารองค์กรและกิจการเพื่อสังคม บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงกระแสข่าวที่กระทรวงพลังงานอาจพิจารณาไม่ปรับขึ้นราคาก๊าซธรรมชาติ (NGV) ในปีหน้า ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดก่อน ที่อนุมัติให้ปรับขึ้นราคาก๊าซ NGV ในปีหน้าได้ไม่เกิน 12 บาทต่อลิตร โดยมองว่าจะส่งผลกระทบต่อแผนการขยายสถานีบริการก๊าซ NGV ของ ปตท.อย่างแน่นอน เนื่องจากไม่สามารถนำเงินมาหมุนเวียนในการขยายตลาดดังกล่าว เพราะปัจจุบัน ปตท.ต้องรับภาระขาดทุนจากการจำหน่ายก๊าซ NGV ด้วยต้นทุนการผลิตที่ 10 บาทต่อลิตร ขณะที่ราคาขายอยู่ที่ 8.50 บาทต่อลิตร
       
       
นายสรัญ กล่าวยืนยันว่า แผนการก่อสร้างท่อก๊าซ NGV จะยังคงเป็นไปตามแผนเดิม โดยคาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 51,650 ล้านบาท ในการก่อสร้างท่อก๊าซ 3 สาย เพื่อกระจายการใช้ก๊าซ NGV ให้เป็นไปตามความต้องการใช้ภายในประเทศ
       
       
สำหรับประเด็นก๊าซหุงต้ม (LPG) นายสรัญ กล่าวยืนยันว่า ปตท.จะไม่มีการขยายวงเงินนำเข้าก๊าซแอลพีจีจากต่างประเทศเพิ่มขึ้นอีก หลังจากที่ได้มีการเพิ่มวงเงินการนำเข้าก๊าซแอลพีจีเป็น 10,000 ล้านบาท จากเดิมที่ตั้งไว้ที่ 5,000 ล้านบาท เนื่องจากการเพิ่มวงเงินในระดับดังกล่าวถือว่ามากแล้ว โดยถือว่ากระทรวงพลังงานจะรับปากว่า จะเร่งนำเงินจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมาจ่ายชดเชยภาระส่วนต่างก๊าซแอลพีจีให้กับ ปตท.ก็ตาม แต่ปัจจุบันก็ยังไม่ทราบว่า จะได้เงินคืนเมื่อไร
       
       
ทั้งนี้ ถึงแม้ว่าราคาก๊าซแอลพีจีในตลาดโลกปัจจุบันจะปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 785 เหรียญต่อตัน จากที่ก่อนหน้านี้ขึ้นไปแตะที่ระดับ 950 - 1,000 เหรียญต่อตัน แต่ก็เชื่อว่าจะมียอดการนำเข้าก๊าซแอลพีจีจะยังเพิ่มขึ้น จากราคาที่ต่ำกว่าความเป็นจริง ดังนั้นกระทรวงพลังงานต้องเร่งสนับสนุนให้ผู้ค้ารายอื่นหันมาช่วยนำเข้าก๊าซแอลพีจีบ้าง ขณะเดียวกันก็ควรเร่งปรับก๊าซแอลพีจีให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง

- - - - - - - - - - - - - - - - - -

พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ

นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

โทร. 02-990-0331

http://www.apdi2002.com

http://www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ สมาคมคนพิการ

2610511912

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2008-10-26 19:12:50 IP : 124.121.143.177


ความคิดเห็นที่ 27 (2936215)

 

คนติดก๊าซ LPG หลังแอ่นแน่!

รบ.ชายมัดมือชกขึ้นลิตรละ 1 บาท

คนใช้รถติดก๊าซ LPG กระอักแน่! รัฐบาลชาย สบช่องราคาน้ำมันลง ประกาศแยกราคาก๊าซ LPG ออกเป็น 2 ตลาด เคาะปรับขึ้นพรวดเดียว 6 บาทต่อกิโลกรัม หรือในอัตราลิตรละ 1 บาท คาดสรุปราคาอีกครั้ง สัปดาห์หน้า
       
       
วันนี้ (13 พ.ย.) นานแพทย์ วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เผยที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) มีมติเห็นชอบปรับโครงสร้างราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ออกเป็น 2 ตลาด ได้แก่ 1.ภาคครัวเรือน-ปิโตรเคมี และ 2.ภาคขนส่ง-อุตสาหกรรม โดยส่วนแรกจะไม่มีการปรับราคาขึ้นแต่อย่างใดจนถึงวันที่ 31 ม.ค.2552
       
       
ส่วนกลุ่ม 2 ในภาคขนส่งฯ ซึ่งจะรวมไปถึงรถยนต์ที่ติดตั้งเชื้อเพลิงก๊าซแอลพีจี รัฐบาลมีมติให้ปรับขึ้น 6 บาทต่อกิโลกรัม แต่เป็นการทยอยปรับเดือนละ 2 บาท หรือประมาณ 1 บาทต่อลิตร ซึ่งจะปรับขึ้นเมื่อใดแล้ว แต่ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายบริหารพลังงาน (กบง.) จะพิจารณา โดยจะมีการประชุมภายในสัปดาห์หน้า
       
       
โดยการปรับขึ้นดังกล่าวจะรวมถึงผู้ขับแท็กซี่ด้วย แต่เพื่อลดผลกระทบแก่กลุ่มแท็กซี่ทางภาครัฐจะเข้าไปช่วยเหลือด้วยการปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์จากแอลพีจี เป็นเอ็นจีวี ฟรี ประมาณ 20,000 คัน จากปัจจุบันรถที่ใช้แอลพีจี มี 40,000 คัน สาเหตุที่ปรับเปลี่ยนให้ไม่หมด เนื่องจากการหารือกับสมาคมผู้ขับแท็กซี่ คาดว่า จะมีรถแท็กซี่ปรับเปลี่ยนเพียงประมาณ 20,000 คันเท่านั้น
       
       
ส่วนภาระนำเข้าที่บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับภาระไปก่อน ซึ่งมีการนำเข้าแอลพีจี ล็อตแรกตั้งแต่เดือน เม.ย.2551 วงเงินรวมประมาณ 7,200 ล้านบาท คาดว่า จะเริ่มทยอยใช้คืน ปตท.ตั้งแต่เดือน พ.ค.2552 เป็นต้นไป และจะใช้หนี้หมดภายในเดือน พ.ย.2553 เพราะคาดว่า จะมีเงินจากการเก็บส่วนต่างแอลพีจี เก็บเพิ่มจากภาคขนส่งและอุตสาหกรรม เริ่มจากเดือนละ 260 ล้านบาท ไปเต็มเพดานประมาณเดือนละ 720 ล้านบาท ในเดือนที่ 3 ของการจัดเก็บ จึงคาดว่าจะใช้หนี้เสร็จสิ้นตามระยะเวลาดังกล่าว
       
       
สวนราคาแอลพีจี ภาคครัวเรือนหลังเดือน ก.พ.2552 จะมีการปรับขึ้นหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีในช่วงนั้น ซึ่งการกำหนดราคาที่ปรับขึ้น 6 บาทต่อ กก.มาจากฐานประเมินว่า ราคาแอลพีจี ปีหน้าจะอยู่ที่ประมาณ 700 ดอลลาร์ต่อตัน และราคาสมมติฐานน้ำมันดิบประมาณ 70-80 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน
       
       
ทั้งนี้ ในส่วนของมาตรการจูงใจให้กลุ่มรถแท็กซี่ที่ใช้แอลพีจีมาใช้เอ็นจีวี 20,000 คัน เวลา 4 เดือน รถแท็กซี่จะได้ร้บการสนับสนุนเป็นวงเงินค่าปรับเปลี่ยนประมาณ 40,000 บาทต่อคัน และจะให้แท็กซี่นำอุปกรณ์เก่าแอลพีจี มาขายคืนชุดละ 3,000 บาท เพื่อป้องกันการนำอุปกรณ์เก่าไปใช้สำหรับภาคขนส่งประเภทอื่น
       
       
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีการแต่งตั้งคณะกรรมการอีก 5 คณะ ได้แก่ คณะกรรมการติดตามการลักลอบนำแอลพีจีไปจำหน่ายประเทศเพื่อนบ้าน การตรวจสอบการใช้แอลพีจีผิดประเภทและความปลอดภัย การตรวจสอบปริมาณแอลพีจี ได้รับการยกเว้นไม่ต้องส่งเงินเข้ากองทุนน้ำมัน การประชาสัมพันธ์ปรับเปลี่ยนโครงสร้างราคาแอลพีจี และคณะกรรมการติดตามความก้าวหน้าการปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์ของรถแท็กซี่จากการใช้แอลพีจีมาเป็นเอ็นจีวี
       
       
นายเมตตา บันเทิงสุข อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน กล่าวว่า กรณีการใช้แอลพีจีผิดประเภท คือ ลักลอบนำก๊าซครัวเรือนไปใช้ในขนส่ง หรืออุตสาหกรรม ในปัจจุบันถือเป็นการดำเนินที่ผิดกฎหมายว่าด้วยคำสั่งนายกรัฐมนตรี ฉบับที่ 4/2547 เรื่องการแก้ไขและป้องกันภาวะการขาดแคลนปิโตรเลียมที่มีโทษจำคุก 10 ปี หรือปรับ 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่ปัจจุบันไม่ได้มีการเข้มงวดการดำเนินการดังกล่าว แต่หลังจากเกิดโครงสร้าง 2 ราคา เพื่อป้องกันการลักลอบทางเจ้าหน้าที่จะดำเนินการตามกฎหมาย เริ่มแรกจะประชาสัมพันธ์และตักเตือน หากพบทำผิดจะมีการจับกุม กรอบระยะเวลาจะเป็นเมื่อใดทาง กบง.จะเป็นผู้กำหนด
       
       
ขณะเดียวกัน ภายใน 6 เดือนข้างหน้าจะให้บรรดาโรงบรรจุติดตั้งมิเตอร์ เพื่อดูแลตรวจสอบให้ชัดเจนป้องกันการลักลอบถ่ายเทใช้ผิดประเภท ระหว่างยังไม่มีมิเตอร์ก็จะใช้สถิติการจำหน่ายปี 2550 เป็นตัวกำหนด โดยปัจจุบันไทยมีการผลิตแอลพีจีประมาณ 350,000 ตันต่อเดือน แต่มีความต้องการใช้ประมาณ 379,000 ตันต่อเดือน แบ่งออกเป็นการใช้ภาคครัวเรือนร้อยละ 46 อุตสาหกรรมร้อยละ 15 ปิโตรเคมีร้อยละ 20 และภาคขนส่งร้อยละ 19
       
       
ดังนั้น การปรับขึ้นราคาแอลพีจี ประมาณ 6 บาทต่อกิโลกรัม จึงจะมีปริมาณก๊าซที่ต้องปรับขึ้นราคาเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 34 โดยที่ผ่านมาก๊าซนำเข้านี้ทาง ปตท.เป็นผู้นำเข้ามาก่อนตั้งแต่เดือน เม.ย.เป็นต้นมา ซึ่งมีการนำเข้าสูงสุดต่อเดือนเมื่อเดือน ต.ค.ประมาณ 113,000 ตันต่อดือน แต่ยอดนำเข้าได้เริ่มลดลงหลังจากเกิดภาวะวิกฤตโลก โดยเดือน พ.ย.2551 นำเข้าประมาณ 100,000 ตัน คาดว่าเดือนธันวาคมจะนำเข้า 62,000 ตัน และ ม.ค.จะนำเข้าเพียง 45,000 ตัน สาเหตุนำเข้าลดลง เนื่องจากการใช้ภาคอุตสาหกรรมและปิโตรเคมีลดลงมากประมาณร้อยละ 30 เพราะผลพวงของภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว

 

                                                                                           

- - - - - - - - - - - - - - - - - -

พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ

นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

โทร. 02-990-0331

http://www.apdi2002.com

http://www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ สมาคมคนพิการ

1311512139

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2008-11-13 21:39:30 IP : 124.121.142.130


ความคิดเห็นที่ 28 (2936742)

 

แท็กซี่แนะ รบ.ขึ้นราคา LPG ให้สอดคล้องราคาน้ำมันโลก

นายวิฑูรย์ แนวพาณิช ประธานสหกรณ์แท็กซี่สยาม ในฐานะรองประธานคณะทำงาน 40 องค์กรแท็กซี่ เปิดเผยว่า ไม่เห็นด้วยกับมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ หรือ กพช.ที่จะขึ้นราคาก๊าซแอลพีจีสำหรับภาคขนส่งแบบขั้นบันไดใน 3 เดือน รวม 6 บาทต่อกิโลกรัม เพราะเห็นว่ารัฐบาลควรปรับแผนการขึ้นราคาให้สอดคล้องกับราคาน้ำมันในตลาดโลก ที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง หากยืนยันจะขึ้นราคาเป็นการส่งเสริมให้เกิดการลับลอบถ่ายเทก๊าซแอลพีจีจากครัวเรือนไปสู้รถยนต์ และหากเพิ่มจำนวนแท็กซี่ใช้แก๊สเอ็นจีวีอีก 20,000 คันภายใน 4 เดือน ตามที่รัฐบาลกำหนดไว้ จะเกิดปัญหามาตรฐานอู่รับติดตั้งแก๊ส รวมทั้งสถานีบริการมีไม่เพียงพอ ส่วนการปรับมิเตอร์ค่าโดยสารที่ผ่านมา ช่วยให้ผู้ขับแท็กซี่มีรายได้เพิ่มขึ้นวันละ 100-120 บาท แต่หากขึ้นราคาแก๊สแอลพีจีจะทำให้รายจ่ายเฉลี่ยเพิ่มขึ้นวันละ 280 บาท
       
นายณอคุณ สิทธิพงศ์ รองปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า จะหารือกับสมาคมผู้ประกอบการแท็กซี่ ก่อนจะปรับราคาแก๊สแอลพีจี โดยเฉพาะกรณีกระทรวงพลังงานเตรียมจัดสรรจำนวนรถแท็กซี่ที่ต้องการจะเปลี่ยนมาใช้แก๊สเอ็นจีวีประมาณ 5,000 คันต่อเดือน
       
ทั้งนี้กระทรวงพลังงานจะเร่งส่งเสริม การใช้แก๊สทดแทนน้ำมันเบนซินและน้ำมันดีเซลร้อยละ 20 ภายในปี 2555 โดยปัจจุบันมีรถยนต์ใช้แก๊สเอ็นจีวี 118,300 คัน และ ปตท.มีสถานีให้บริการเอ็นจีวี 254 แห่ง โดยในสิ้นปี 2555 จำนวนรถยนต์ที่ใช้แก๊สเอ็นจีวีจะเพิ่มเป็น 332,000 คัน และมีจำนวนสถานีบริการเพิ่มเป็น 740 แห่งทั่วประเทศ

- - - - - - - - - - - - - - - - - -

พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ

นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

โทร. 02-990-0331     

http://www.apdi2002.com

http://www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ สมาคมคนพิการ

1411512316

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2008-11-14 23:16:06 IP : 124.121.143.134


ความคิดเห็นที่ 29 (2937393)

 

พาณิชย์ผวากักตุนก๊าซ LPG หลังรัฐบาลมัดมือชกขึ้นราคา

6 บาท

พาณิชย์ ลุยตรวจปั๊มก๊าซโชว์หลัง กพช.ไฟเขียวขึ้นราคากิโลกรัมละ 6 บาท ลั่นคุมเข้มร้านขายก๊าซ ห้ามกักตุน-ปฏิเสธการขาย พร้อมขู่หากปรับราคาก่อนได้รับอนุญาต โดนโทษอ่วมทั้งจำทั้งปรับ สั่งติดป้ายราคาให้ชัดเจน เพราะเป็นสินค้าควบคุม
       
       
วันนี้ (16 พ.ย.) นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมค้าภายใน กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ เตรียมกำชับผู้ค้าก๊าซหุงต้ม (LPG) ห้ามจำหน่ายเกินราคา แม้คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ได้ประกาศให้ทะยอยปรับขึ้นราคาก๊าซแอลจีพีในภาคอุตสาหกรรมและขนส่ง 2 บาทต่อกิโลกรัม เป็นเวลา 3 เดือนก็ตาม เพราะขณะนี้ ยังไม่มีการกำหนดช่วงเวลาชัดเจนว่าจะเริ่มปรับขึ้นได้เมื่อใด ดังนั้นสถานีบริการก๊าซแอลพีจีต้องจำหน่ายในราคาเดิม และห้ามกักตุนหรือปฏิเสธการขาย เพราะจะทำให้ผู้บริโภคได้รับความเดือดร้อน
       
       
นายยรรยง กล่าวว่า ช่วงนี้สถานีบริการจะต้องเข้มงวดติดป้ายแสดงราคาและจำหน่ายก๊าซให้กับประชาชนตามปกติ โดยเพดานราคาปัจจุบันอยู่ที่ 11.35 บาทต่อกิโลกรัม แต่โดยเฉลี่ยทั่วประเทศจะจำหน่ายอยู่ที่ 11.20-11.30 บาทต่อลิตร ซึ่งยังไม่เกินเพดานที่กำหนด ซึ่งหากผู้ประกอบการรายใดกระทำผิดกฎหมายมีโทษจำคุก 7 ปี ปรับ 140,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ
       
       
อธิบดีกรมการค้าภายใน เชื่อว่า การปรับเพิ่มราคาก๊าซแอลพีจีในภาคขนส่งและอุตสาหกรรมคงไม่กระทบต่อราคาสินค้าอุปโภคบริโภคมากนัก เพราะอุตสาหกรรมที่ใช้ก๊าซแอลพีจีเป็นพลังงานหลักมีเพียงไม่กี่ประเภท เช่น เซรามิก สิ่งทอ ลำไยอบแห้ง จึงไม่ทำให้สินค้าโดยรวมได้รับผลกระทบ
       
       
สำหรับราคาอาหารสำเร็จรูปที่จำหน่ายตามศูนย์อาหารของห้างสรรพสินค้าส่วนใหญ่ได้ปรับลดราคาให้สะท้อนต้นทุนจริงแล้ว ดังนั้นจึงน่าจะทำให้ร้านอาหารทั่วไปปรับลดราคาลงตามไปด้วย เพราะไม่เช่นนั้นผู้บริโภคอาจจะไปซื้อสินค้าตามห้างสรรพสินค้าแทน
       
       
โดยวันนี้ อธิบดีกรมการค้าภายใน ได้เดินทางออกตรวจสอบการจำหน่ายก๊าซแอลพีจีในรถยนต์ที่สถานีบริการน้ำมัน ปตท. สาขาบางใหญ่ แก๊สเซอร์วิส หลังคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ( กพช.) อนุมัติปรับขึ้นราคาแอลพีจีภาคการขนส่งและอุตสาหกรรม 6 บาทต่อกิโลกรัม เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยพบว่า ยังมีการจำหน่ายก๊าซตามปกติ โดยมีประชาชนมาเติมก๊าซเป็นจำนวนมาก
       
       
ทั่งนี้ ช่วงที่อยู่ระหว่างการรอ กบง. พิจารณาอย่างเป็นทางการในการปรับขึ้นราคาแอลพีจี 2 ภาคดังกล่าว กระทรวงพาณิชย์ ประกาศว่าจะเข้าดูแลตรวจสอบราคาจำหน่ายแก๊สแอลพีจีตามปั๊มต่างๆ ทั่วประเทศ ไม่ให้มีการกักตุนก๊าซแอลพีจี , ปฏิเสธการจำหน่าย , ฉวยโอกาสปรับขึ้นราคา โดยเฉพาะการจำหน่ายก๊าซแอลพีจีที่ใช้ในครัวเรือน ไม่ให้มีการถ่ายเทไปใช้ในรถยนต์ เนื่องจาก ก๊าซหุงต้มเป็นสินค้าควบคุมของกระทรวงพาณิชย์ พร้อมสั่งการให้ผู้ประกอบการปั๊มก๊าซแอลพีจีติดราคาจำหน่ายให้ผู้บริโภคเห็นอย่างชัดเจน และเข้มงวดการจำหน่ายก๊าซแอลพีจีหน้าปั๊มและโรงแยกก๊าซ ด้วยการแยกประเภทของก๊าซในส่วนที่ใช้ในภาคอุตสาหกรรมและขนส่ง และส่วนที่ใช้ในภาคครัวเรือน

- - - - - - - - - - - - - - - - - -

พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ

นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

โทร. 02-990-0331

http://www.apdi2002.com

http://www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ สมาคมคนพิการ

1611512153

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2008-11-16 21:53:45 IP : 124.121.144.214


ความคิดเห็นที่ 30 (2937895)

น้ำมันลด-ขึ้นราคา LPG 6 บาท ยอดติดก๊าซหายวับ 50% ปชช.สับสนหนัก

อู่ติดตั้งก๊าซในรถยนต์ ครวญน้ำมันลดราคา ทำยอดติดตั้งก๊าซในรถยนต์วูบทันที 50% โวยรัฐบาลมัดมือชกซ้ำ ประกาศขึ้นราคา LPG กิโลกรัมละ 6 บาท ฉุดยอดหายอีก 90% ถังก๊าซเหลือค้างสต๊อกจำนวนมาก รมต.พลังงาน ลงดาบเชือดอีกรอบ ออกกฎเหล็กฟันเกณฑ์มาตรฐาน ขณะที่ประชาชนสับสนหนัก รัฐบาลหลงทางใช้นโยบายพลังงานทางเลือก หวั่นรายใหญ่ทิ้งลงทุน NGV โกยส่วนต่างราคา LPG ภาคครัวเรือน
       
       
วันนี้ ( 17 พ.ย.) นายแสงเจริญ ธนาดำรงศักดิ์ ประธาน บริษัท ซุปเปอร์เซ็นทรัลแก๊ส จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้ยอดการติดตั้งก๊าซแอลพีจีในรถยนต์ของบริษัทลดลงกว่า 50% จากเดิมทีมีสูงถึง 800 คันต่อเดือน ตอนนี้เหลือเพียง 400 คัน เนื่องจากราคาน้ำมันโลกที่ปรับตัวลดลง และประชาชนสับสนกับพลังงานทางเลือกที่มีมาก โดยจากการที่กระทรวงพลังงานเตรียมปรับขึ้นราคาก๊าซ LPG อีก 6 บาทต่อกิโลกรัม ทำให้ยอดรถยนต์ติดตั้งก๊าซ LPG ลดลงกว่า 90% ถังก๊าซเหลือค้างสต๊อกกว่า 300 ใบ
       
       
ทั้งนี้ กระทรวงพลังงานควรคุมส่วนต่างราคาก๊าซ NGV และ LPG ให้ห่างกัน 3 บาทต่อลิตร เพราะหากปีหน้าก๊าซ NGV ปรับขึ้นเป็น 12 บาทต่อลิตร LPG ปรับเป็น 14.75 บาทต่อลิตร ส่วนต่างจะน้อยลง ซึ่งเพื่อเป็นการจูงใจ สำหรับรถยนต์ในการติดตั้งถังก๊าซ NGV ต่อไป แต่
       
       
อย่างไรก็ตาม สถานีบริการก็ต้องมีการขยายปั๊มก๊าซ NGV ให้ได้เดือนละ 4 ปั๊มด้วย เพื่อรองรับความต้องการใช้ที่มากขึ้น นายแสงเจริญยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ขณะนี้ค่าตั้งถังก๊าซ NGV ให้แท็กซี่ตกคันละ 3.5 หมื่นบาท รถยนต์ส่วนบุคคล 5 หมื่นบาท ส่วน LPG ระบบหัวฉีดอยู่ที่ราคา 4 หมื่นบาท และแบบมิกเซอร์ ราคาเพียง 2 หมื่นบาท
       
       
นายวรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวหลังการตรวจเยี่ยมอู่ของบริษัท ซูเปอร์เซ็นทรัลแก๊ส ถนนวิภาวดี 36 เพื่อดูขั้นตอนการติดตั้งถังก๊าซในรถยนต์ โดยระบุว่า กระทรวงพลังงานจะเข้าไปคุมเข้มในกระบวนการติดตั้งเ NGV และ LPG ให้มีความปลอดภัยมากขึ้น ถังที่นำเข้ามาต้องได้มาตรฐาน
       
       
รมว.พลังงาน ระบุอีกว่า ผู้ที่ติดตั้งก๊าซทั้ง 2 ชนิด ต้องแจ้งขึ้นทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบก เพื่อติดสติ๊กเกอร์ที่จะระบุวันออกบัตร และวันหมดอายุ 1 ปี จะมีการต่ออายุสติ๊กเกอร์ 1 ครั้ง เพื่อตรวจเช็กสภาพถังก๊าซ การออกมาตรการควบคุมการติดตั้งถัง NGV และ LPG ดังกล่าว จะช่วยป้องกันการนำถังก๊าซไม่ได้มาตรฐานมาใช้ เนื่องจากหลังจากกระทรวงพลังงานมีการประกาศปรับขึ้น LPG เป็น 2 ราคา อาจจะทำให้มีการลักลอบติดตั้ง หรือถ่ายเทก๊าซจากภาคครัวเรือนมาใช้ในรถยนต์ ที่จะเป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน

- - - - - - - - - - - - - - - - - -

พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ

นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

โทร. 02-990-0331

http://www.apdi2002.com

http://www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ สมาคมคนพิการ

1711512149

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2008-11-17 21:49:27 IP : 124.121.143.235


ความคิดเห็นที่ 31 (2939965)

 

มีเนื้อหาดี หาง่ายด้วย

ผู้แสดงความคิดเห็น มิว วันที่ตอบ 2008-11-21 09:14:17 IP : 118.172.203.235


ความคิดเห็นที่ 32 (2942664)

รบ.ไข่แม้วบีบขึ้นราคา LPG กบง.เคาะพรุ่งนี้ รีดเงินอุ้มกองทุนน้ำมัน

 

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์26 พฤศจิกายน 2551 14:51 น.

 

 

รมว.พลังงาน ดิ้นหาเงินอุ้ม ปตท. เตรียมใช้เวทีประชุม กบง. บังหน้า กำหนดวันขึ้นราคา LPG พรุ่งนี้ เล็งรีดเงินผู้บริโภค ส่งเข้ากองทุนน้ำเชื้อเพลิงเพิ่ม หลังเงินกองทุนติดลบ เพราะต้องเอาไปล้างหนี้ ปตท. ผู้ผลิตและส่งออกก๊าซธรรมชาติรายใหญ่ แต่ต้องนำเข้าก๊าซเพื่อมาขายในประเทศ
       
       
วันนี้ ( 26 พ.ย.) นายแพทย์ (น.พ.) วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานพลังงาน กล่าวว่า การประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ในวันพรุ่งนี้จะมีการพิจารณาถึงการกำหนดวันในการปรับขึ้นราคาก๊าซแอลพีจี (LPG) ในภาคภาคขนส่งและบริการ หลังจากที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) อนุมัติในหลักการให้มีการปรับขึ้นราคา 6 บาทต่อกิโลกรัม จากปัจจุบันราคาอยู่ที่ 18.13 บาทต่อกิโลกรัม โดยให้ทยอยปรับขึ้นติดต่อกัน 3 เดือน
       
       
นอกจากนี้ รัฐบาลจะมีการพิจารณาขยายเพดานการจัดเก็บเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในส่วนของน้ำมันทุกชนิด จากปัจจุบันที่มีการเก็บน้ำมันเบนซิน 95 และ 91 เป็นเพดานที่ 4 บาทต่อลิตร
       
       
ทั้งนี้ รัฐบาลได้อ้างว่า การเรียกเก็บเงินเพิ่มจากราคาขายปลีกน้ำมันภายในประเทศ โดยผลักภาระไปที่ผู้บริโภค รัฐบาลอ้างว่าเป็นการรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันในระยะยาว
       
       
อย่างไรก็ตาม กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ในปัจจุบันมีเงินสดสุทธิ 5 พันล้านบาท แต่มีหนี้ที่ต้องชำระคืนส่วนต่างการนำเข้าก๊าซ LPG จำนวน 7,442 ล้านบาท ให้กับบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT ส่งผลให้ฐานะกองทุนยังคงติดลบ

* * * * * * * * * * * *

 

พันตรีศิริชัย  ทรัพย์ศิริ

สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

www.waddeeja.com

Tel. 02-990-0331

2611512126

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2008-11-26 21:26:53 IP : 124.121.137.208


ความคิดเห็นที่ 33 (2946017)

ชะลอขึ้นก๊าซแอลพีจี แยกเป็น 2 ราคา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(3ธ.ค.) นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดการสัมมนาแผนพลังงานทดแทน 15 ปี ว่า การพิจารณาปรับโครงสร้างก๊าซหุงต้ม(แอลพีจี)ที่จะแยกเป็น 2 ราคา ช่วงนี้คงต้องชะลอไปก่อน และจะยังไม่มีการพิจารณาจนกว่าจะมีคณะรัฐมนตรีใหม่ เพราะต้องรอนายกรัฐมนตรีคนใหม่เป็นผู้ลงนามประกาศ เช่นเดียวกับการพิจารณาเพื่อหาแนวทางกำหนดราคาขายปลีกขั้นต่ำให้อยู่ในระดับเหมาะสม โดยจะใช้วิธีขยายอัตราการเรียกเก็บเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อเก็บไว้ใช้ในยามฉุกเฉินนั้นก็ยังไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะเป็นเรื่องของนโยบาย

ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าจะมีการปรับราคาก๊าซหุงต้มได้เมื่อใด แต่คาดว่าคงจะต้องเร็วที่สุดหลังจากมีคณะรัฐมนตรีใหม่  โดยขั้นตอนของสภาผู้แทนราษฎรจะมีการประชุมวันที่ 8-9  ธ.ค.นี้ เพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี ถวายสัตย์และแถลงนโยบายต่อสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งยังไม่สามารถระบุระยะเวลาได้ โดยส่วนที่เป็นนโยบายก็ไม่ควรพิจารณาตอนนี้เพราะต้องรอรัฐบาลใหม่ แต่งานที่เป็นรูทีนก็คงเดินต่อไปเพื่อไม่ให้ติดขัดนายแพทย์วรรณรัตน์ กล่าว

ส่วนกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรคการเมืองนั้น ในส่วนของพรรครวมใจไทยชาติพัฒนาไม่ได้ถูกตัดสินยุบพรรคด้วย ดังนั้นหากมีคณะรัฐมนตรีใหม่และร่วมรัฐบาลอยู่ ก็เชื่อว่าจะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานต่อไป.

- - - - - - - - - - - - - - - - - -

พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ               

นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

โทร. 02-990-0331

http://www.apdi2002.com

http://www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ สมาคมคนพิการ

0312511949

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2008-12-03 19:49:23 IP : 124.121.139.178


ความคิดเห็นที่ 34 (2946961)

ปตท.ดิ้นขายเบนซิน 95 หลังแผนขึ้นราคาก๊าซ LPG สะดุดยาว  โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    5 ธันวาคม 2551 15:58 น.

 

น้ำมันขาลง ปตท.พับแผนลงทุน เอ็นจีวีเตรียมกลับลำขายน้ำมันเบนซิน 95 อีกครั้ง หลังพบว่ามีผู้ใช้พุ่งขึ้น 4.7% เฉลียวันละ 5-6 แสนลิตร ขณะที่ยอดขายเบนซิน 91 หดตัวลง 1% สำหรับแผนการปรับขึ้นราคาก๊าซ แอลพีจีต้องรอรัฐบาลใหม่ตัดสิน ดีเซลราคาต่ำสุดรอบ 3 ปี
       
       
วันนี้ (05 ธันวาคม 2551) นายแพทย์ (นพ.) วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวยอมรับว่า บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) กำลังพิจารณาเพื่อกลับมาจำหน่ายเบนซิน 95 อีกครั้ง หลังจากหยุดขายไปในปี 2551 ไปแล้ว และส่งผลให้เสียส่วนแบ่งการตลาดไป โดยพบว่ามีผู้ใช้น้ำมันเบนซิน 95 เฉลี่ยสูงถึงวันละ 5-6 แสนลิตร และมีค่าการตลาดสูงถึง 7-8 บาทต่อลิตร
       
       
ขณะที่น้ำมันประเภทอื่น ได้แก่ เบนซิน 91 ค่าการตลาดอยู่ที่ 3.34 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ 3.22 บาท ต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ 3.26 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์อี 20 อยู่ที่ 2.83 บาทต่อลิตร ดีเซลอยู่ที่ 3.16 บาทต่อลิตร และไบโอดีเซลบี 5 อยู่ที่ 3.84 บาทต่อลิตร
       
       
นอกจากนี้ ยังพบว่า ยอดการใช้น้ำมันเบนซิน 95 ล่าสุดเฉลี่ยอยู่ที่ 5-6 แสนลิตรต่อวัน เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 4.7% จากที่ 5.34 แสนลิตรต่อวัน น้ำมันเบนซิน 91 อยู่ที่ 9 ล้านลิตรต่อวัน ลดลง 1% จากที่ 8.127 ล้านลิตรต่อวัน
       
       
น้ำมันดีเซล 31.027 ล้านลิตรต่อวัน สวนทางกับการใช้แก๊สโซฮอล์อยู่ที่ 10.861 ล้านลิตรต่อวัน เพิ่ม 1.6% จาก 10.689 ล้านลิตรต่อวัน สำหรับยอดใช้ไบโอดีเซล บี5 หลังจากขยายส่วนต่างราคาระหว่างดีเซลและไบโอดีเซล บี5 เพิ่มเป็น 1.50 บาทต่อลิตร ทำให้ยอดการใช้ เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 14.349 ล้านลิตรต่อวัน จาก 12 ล้านลิตรต่อวัน
       
       
โดยเช้าวันนี้ ผู้ค้าน้ำมันทุกรายได้ประกาศปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินและแก๊สโซฮอลล์ 40 สตางค์ต่อลิตร และนำมันดีเซล 60 สตางค์ต่อลิตร ส่งผลให้ดีเซลทำสถิติราคาต่ำสุดรอบ 3 ปี อยู่ที่ 20.44 บาทต่อลิตร นับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2548
       
       
ส่วนการพิจารณาปรับโครงสร้างราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ที่จะแยกเป็น 2 ราคาระหว่างภาคขนส่งและครัวเรือนนั้น ต้องยกเลิกออกไปก่อน จนกว่าจะมีคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่มาพิจารณา เพราะต้องให้นายกรัฐมนตรีเป็นผู้ลงนามประกาศในเรื่องการลอยตัวแบบ 2 ราคา ซึ่งไม่สามารถกำหนดเวลาที่แน่นอนได้ในเรื่องนี้ เพราะคงต้องใช้เวลานาน เนื่องจาก ครม.ชุดใหม่ ต้องมีการแถลงนโยบายการทำงานต่อรัฐสภาให้เรียบร้อยก่อน และไม่มั่นใจในการจัดตั้งรัฐบาลใหม่

 

- - - - - - - - - - - - - - - - - -

พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ

นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล

โทร. 02-990-0331

http://www.apdi2002.com

http://www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ สมาคมคนพิการ

0612512112

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2008-12-06 21:12:16 IP : 124.121.140.182



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล 802/410 หมู่12 หมู่บ้านวังทองริเวอร์ปาร์ค ซอย10/4 ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี 12130 โทร : 02-990-0331 Copyright © 2010 All Rights Reserved.