ReadyPlanet.com


หญ้าแฝก - ตามแนวพระราชดำริ


หญ้าแฝกหยั่งราก รักษ์ดิน-รักษ์น้ำตามแนวทางพระราชดำริ

 

จากการที่กรมพัฒนาที่ดิน ได้ติดตามและประเมินการชะล้างพังทลายของดินในประเทศไทยพบว่า มีพื้นที่ที่มีปัญหาชะล้างพังทลายของดินทั่วประเทศ ประมาณ 108 ล้านไร่ เป็นพื้นที่ที่มีการสูญเสียดินปานกลาง(2-5 ตัน/ไร่/ปี) 68 ล้านไร่ ระดับการสูญสียดินรุนแรง (5-15 ตัน/ไร่/ปี) 24 ล้านไร่ ระดับรุนแรงมาก (15-20 ตัน/ไร่/ปี) 3.2 ล้านไร่ และระดับการสูญเสียดินรุนแรงมากที่สุด จำนวน 12.8 ล้านไร่ นอกจากนี้ยังพบว่าดินขาดอินทรียวัตถุ กว่า 98.7 ล้านไร่ด้วย

นายธวัชชัย สำโรงวัฒนา อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มอบหมายให้กรมพัฒนาที่ดินดำเนินการป้องกันการเสื่อมโทรมและการชะล้างพังทลายของดิน โดยใช้หญ้าแฝกตามพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เพื่อการอนุรักษ์ดินและน้ำอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรอบปีที่ผ่านมาได้มีการรณรงค์และส่งเสริมการปลูกหญ้าแฝกพร้อมอบรมถ่ายทอดองค์ความรู้ให้แก่ หมอดิน เกษตรกรและประชาชนทั่วไปให้ปลูกหญ้าแฝก เพื่อการอนุรักษ์ดินและน้ำ การฟื้นฟูทรัพยากรดินและการรักษาสภาพแวดล้อมในพื้นที่สูง พื้นที่ลาดชัน ที่ดอน และที่ลุ่ม รวมทั้งพื้นที่ที่ผ่านการเลี้ยงกุ้งกุลาดำ และพื้นที่โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริต่างๆ

อย่างไรก็ตาม ปี 2553 นี้ กรมพัฒนาที่ดินได้เน้นแผนเร่งขยายผลการส่งเสริมให้เกษตรกร ชุมชนและท้องถิ่นปลูกหญ้าแฝกเพื่ออนุรักษ์ดินและน้ำเพิ่มเติม ซึ่งจะช่วยฟื้นฟูและป้องกันการชะล้างพังทลายของดินในพื้นที่ทำการเกษตร พร้อมสนับสนุนให้เกษตรกรใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการเกษตรอย่างถูกต้อง ตามสมบัติของดิน

เบื้องต้นกรมฯได้มอบหมายให้สำนักงานพัฒนาที่ดินเขตที่ 1-12 และสถานีพัฒนาที่ดินทุกจังหวัด เร่งผลิตต้นกล้าหญ้าแฝกเพื่อปลูก ไม่น้อยกว่า 90 ล้านกล้า ซึ่งขณะนี้มีการผลิตต้นกล้าหญ้าแฝกได้แล้วกว่า 75 % ทั้งยังสนับสนุนให้ชุมชนและท้องถิ่นปลูกแฝกควบคู่ไปด้วย โดยมีการปลูกไปแล้วกว่า 25 ล้านกล้า นอกจากนั้นกรมฯยังได้ผลิตกล้าหญ้าแฝกเพื่อแจกจ่ายให้เกษตรกร ประชาชน และชุมชนที่มีความต้องการนำไปปลูกเพื่อป้องกันการชะล้างพังทะลายของดินและฟื้นฟูทรัพยากรดิน เป้าหมาย 184 ล้านกล้า ซึ่งสามารถผลิตได้แล้วกว่า 100 ล้านกล้า ขณะที่มีการแจกจ่ายกล้าหญ้าแฝกแล้วกว่า 35 ล้านกล้า กล้าหญ้าแฝกดังกล่าวทางกรมพัฒนาที่ดินให้บริการแก่เกษตรกรและผู้สนใจ โดยติดต่อขอรับกล้าหญ้าแฝกได้ตามสถานีพัฒนาที่ดินในจังหวัดของท่าน

อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน กล่าวอีกว่า หญ้าแฝกนี้สามารถเจริญเติบโตได้เกือบทุกสภาพพื้นที่ในเขตร้อน ตั้งแต่ที่ราบไปจนถึงภูเขาสูงระดับ 2,000 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง มีลักษณะเด่น คือ ระบบรากยาว ขึ้นเป็นกอหนาแน่น มีการแตกหน่อและใบใหม่อยู่เสมอ ทั้งยังสามารถปรับตัวเข้ากับสภาพต่างๆ ได้ดีและใช้ประโยชน์ในด้านการอนุรักษ์ดินและน้ำได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะปลูกเพื่อป้องกันการกัดเซาะของทางน้ำ ปลูกเพื่อรักษาความชุ่มชื้นของดินในสวนผลไม้ ปลูกเพื่อฟื้นฟูทรัพยากรดินที่เสื่อมโทรมและปลูกเพื่อป้องกันการพังทลายของคันคูน้ำ ขอบสระ และไหล่ถนน เป็นต้น นอกจากนั้นหญ้าแฝกยังสามารถช่วยเพิ่มปริมาณอินทรียวัตถุในดิน เพิ่มกิจกรรมของจุลินทรีย์ในดินและช่วยดูดซับโลหะหนักในดินและรักษาสภาพแวดล้อมได้อีกด้วย

สำหรับพันธุ์หญ้าแฝกที่เหมาะสมกับพื้นที่ภาคเหนือ คือ พันธุ์ศรีลังกา, พันธุ์นครสวรรค์ และพันธุ์กำแพงเพชร1 ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ พันธุ์ร้อยเอ็ด และพันธุ์สงขลา3 พันธุ์ที่เหมาะสมกับภาคกลางและภาคตะวันออก คือ พันธุ์ประจวบคีรีขันธ์, พันธุ์ราชบุรี, พันธุ์สุราษฎร์ธานี และพันธุ์สงขลา 3 พันธุ์หญ้าแฝกที่เหมาะสมกับพื้นที่ภาคใต้ คือ พันธุ์สุราษฎร์ธานี และพันธุ์สงขลา3

สำหรับเกษตรกรหรือผู้สนใจที่จะปลูกหญ้าแฝกหรือต้องการต้นกล้าหญ้าแฝก สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สถานีพัฒนาที่ดินจังหวัดทุกจังหวัด และหมอดินอาสาในพื้นที่ของท่าน...

- - - - - - - - - - - - - - - - - -  

พันตรีศิริชัย   ทรัพย์ศิริ

นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล (ส.พ.ค.)

โทร. 02-990-0331

http://www.apdi2002.com

http://www.youtube.com พิมพ์ apdi. หรือ

สมาคมคนพิการ

0606531728

*********************

 



ผู้ตั้งกระทู้ พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ (apdmajor1-at-yahoo-dot-com ) :: วันที่ลงประกาศ 2010-06-06 17:28:23 IP : 124.121.140.187


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล 802/410 หมู่12 หมู่บ้านวังทองริเวอร์ปาร์ค ซอย10/4 ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี 12130 โทร : 02-990-0331 Copyright © 2010 All Rights Reserved.