ช่วงนี้อากาศค่อนข้างแปรปรวน กลางวันร้อนตับแลบ เผลอแผล็บเดียวเมฆครึ้มตั้งเค้าทะมึนมาเสียแล้ว เพราะฉะนั้น ถึงจะเป็นฤดูร้อนก็อย่านอนใจว่าฝนจะไม่ตก และไม่แน่ว่าอาจเจอกับพายุฤดูร้อน ลูกเห็บถล่มเอาได้ง่ายๆ
กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : ดร.บัญชา ธนบุญสมบัติ นักวิจัยศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) ได้เขียนเล่าเรื่องราวน่าสนใจเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ และปรากฏการณ์รอบตัวให้อ่านกันง่ายๆ แต่ได้ความรู้มากมายไว้ใน***บล็อก http://gotoknow.org/blog/science/ รวมทั้งเรื่องราวเกี่ยวกับฝนตก ฟ้าผ่า และพายุฤดูร้อนที่กำลังถล่มหลายจังหวัดในภาคอีสานอยู่ระหว่างนี้
เจ้าของบล็อก อธิบายความหมายให้ฟังว่า ในขณะที่อากาศบ้านเรากำลังร้อนอบอ้าวอยู่นั้น ถ้าบังเอิญอากาศเย็น หรือตามที่กรมอุตุนิยมวิทยา เรียกว่า ความกดอากาศสูง หรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทย ก็จะมีลมซึ่งแห้งและเย็นพัดจากจีนเข้าสู่ไทย ทำให้ภาคเหนือและภาคอีสานตอนบนที่อยู่ใกล้กับจีนมากกว่าภาคอื่นๆ รับเอาลมแห้งและเย็นนี้ไปก่อน
แต่เนื่องจาก "อากาศผู้รุกราน" (ซึ่งแห้งและเย็น) มีลักษณะต่างจาก "อากาศเจ้าบ้าน" (ซึ่งร้อนและชื้น) อย่างมาก จึงทำให้อากาศในบริเวณที่ปะทะกันแปรปรวนอย่างรุนแรงและฉับพลัน โดยอากาศเย็น (ผู้รุกราน) ซึ่งหนักกว่าอากาศร้อนและชื้น (เจ้าบ้าน) จะจมลงต่ำและผลักดันให้อากาศร้อนและชื้นพุ่งขึ้นสูงอย่างรวดเร็ว
ไอความชื้นที่พุ่งสูงขึ้นไปจะกลั่นตัวเป็นหยดน้ำ และเมื่อหยดน้ำรวมตัวกันมากเรื่อยๆ ก็จะกลายเป็นเมฆก้อนมหึมาที่เรียกว่า เมฆฝนฟ้าคะนอง
เมื่อเกิดเมฆฝนฟ้าคะนองก็มั่นใจได้เลยว่า จะเกิดทั้งพายุ ฝนตกหนัก ฟ้าร้อง ฟ้าผ่ากระหน่ำบริเวณนั้นอย่างพร้อมเพรียง และเผลอๆ อาจมีลูกเห็บแถมมาด้วย เพราะเมฆชนิดนี้เป็นเมฆชนิดเดียวที่ทำให้เกิดลูกเห็บได้
ส่วนบริเวณใกล้พื้นดินนั้น เนื่องจากอากาศลอยตัวขึ้นอย่างรุนแรง จึงมีอากาศไหลเข้ามาแทนที่อย่างรวดเร็วเกิดเป็นพายุ สภาพลมฟ้าอากาศทั้งหมดนี้ คือ อาการของ พายุฤดูร้อน
เรื่องที่มักพูดกันอยู่บ่อยๆ อีกเรื่องหนึ่งเวลาเกิดฝนตกฟ้าร้อง ก็คือ ฟ้าผ่า และเชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินว่า ถ้าฟ้าร้องฟ้าผ่าอย่าได้ไปยืนกลางแจ้ง กลางทุ่ง เพราะจะกลายเป็นสายล่อฟ้า
ดร.บัญชา ได้เล่าถึงเรื่องนี้ไว้ในบล็อกของเขาว่า "...ฟ้าผ่าเกิดจากการที่ประจุไฟฟ้าวิ่งจากก้อนเมฆลงมาที่พื้นดิน (หรือกลับกันก็ได้) ประจุไฟฟ้าอาจจะวิ่งอยู่ในก้อนเมฆ หรือวิ่งจากเมฆก้อนหนึ่งไปยังเมฆอีกก้อนหนึ่ง ที่เรียกว่า ฟ้าแลบ..."
กรณีฟ้าผ่าจากเมฆสู่พื้นนั้นมีหลักการสำคัญอยู่ว่า สายฟ้ามักจะฟาดเปรี้ยงลงมายังจุดที่สูงที่สุดในบริเวณหนึ่งๆ ความจริงสายฟ้ามีโอกาสที่จะฟาดลงไปยังจุดอื่นๆ ที่ไม่ใช่จุดที่สูงที่สุดด้วยเช่นกัน แต่ยิ่งสูง โอกาสถูกถูกฟ้าผ่ายิ่งมาก
ประเด็นที่น่าสนใจอีกอย่าง ก็คือ จุดที่สายฟ้าฟาดนั้น ไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นโลหะ หรือตัวนำไฟฟ้าชั้นดีก็ได้ ฟ้าผ่ายอดต้นไม้สูงก็มีถมไป ในกลางทุ่งโล่งซึ่งมีต้นไม้ใหญ่ไม่กี่ต้น สายฟ้ามักจะผ่าลงไปที่ต้นไม้ใหญ่ที่สูงที่สุด หรือในที่ที่มีบ้านเรือนอยู่ ฟ้าก็มักจะผ่าจุดที่สูงที่สุดของบ้าน ด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้วิศวกรติดตั้งสายล่อฟ้าในส่วนที่สูงที่สุดของอาคาร
ยังมีเรื่องราวน่ารู้เชิงวิทยาศาสตร์อีกมาก สามารถติดตามอ่าน หรือร่วมแสดงความเห็นอย่างสร้างสรรค์ ได้ที่ http://gotoknow.org/blog/science/
http://www.apdi2002.com/
พันตรีศิริชัย ทรัพย์ศิริ
สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล |